เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 41 ซูเย่ชี้จุดที่เรืออับปาง
บทที่ 41 ซูเย่ชี้จุดที่เรืออับปาง
ที่นี่มีเรือโบราณอับปางอยู่
ยุคโบราณการคมนาคมยังล้าหลัง
แม่น้ำจึงกลายเป็นการคมนาคมหลัก
ลำธารแห่งนี้นอกจากจะมีคนขับเรือแล้วยังมีเรือที่มาจากเมืองต่าง ๆ ไปยังเมืองต่าง ๆ
หนึ่งในนั้นก็มีเรือที่ขนเงินภาษีจำนวนมากเจอพายุที่นี่ และอับปาง
หลังจากผ่านพ้นช่วงพายุฝนไปแล้ว ไม่มีใครรู้ตำแหน่งของเรืออับปางที่แน่ชัด ลองค้นหาหลายครั้งแล้วก็ไม่เจอ ท้ายที่สุดก็ต้องล้มเลิกไป
และซูเย่จำได้ว่าก่อนเขาทะลุมิติมาก็ไม่ได้ค้นหา
ด้วยเหตุนี้ ตอนเขายังไม่มีเงินก็จะมาเอาเงินที่นี่ไปใช้
ยังไงซะทำแบบนี้ก็ไม่กระทบต่อการดำเนินของประวัติศาสตร์
แน่นอน
นี่เป็นเรื่องก่อนหน้านี้ เขาเอาไปน้อยมากเพื่อไม่ให้เกิดการแทรกแซงต่อประวัติศาสตร์และไม่ต้องเสียเงินเยอะ
ทว่าตอนนี้เขามาแอบเอาเงินในเรืออับปางไม่ได้แล้ว ยังไงซะเงินในเรืออับปางพวกนี้ก็เป็นสมบัติชาติ เป็นของประเทศ
ตอนนี้เขาเป็นประชาชนที่รักษากฎหมาย
“ช่วยเตือนทุกคนด้วย”
รอจนทุกคนลงรถมาและรวมตัวเขาด้วยกันแล้ว ผู้กำกับถึงบอกกับทุกคน “ที่นี่คือพื้นที่ขุดหาซากโบราณสำคัญของประเทศ ถึงแม้พวกเราได้รับอนุญาตให้เข้าชมได้ แต่หลังจากเข้าไปแล้วทุกคนต้องระมัดระวังให้มาก ห้ามสร้างผลกระทบใด ๆ ต่อสถานที่ขุดค้นนี้เด็ดขาด”
ทุกคนพยักหน้าด้วยสีหน้าขึงขัง
“หลังจากนี้ ขอเชิญสมาชิกหน่วยขุดค้นจากกรมโบราณคดีแห่งเมืองจี้หยางของเรา คุณหยางคายปิง”
พูดไป สมาชิกหน่วยขุดค้นคนหนึ่งก็เดินเข้ามา
“คุณหยางคายปิงเป็นหัวหน้าหน่วยคนสำคัญคนหนึ่งของหน่วยขุดค้นในคราวนี้ วันนี้พวกเราต้องรบกวนเขานำทางพวกเราเข้าชมและเรียนรู้กระบวนการขุดหาซากโบราณ รวมถึงเรื่องที่ต้องระวังระหว่างขุดหาซากโบราณ”
ผู้กำกับพูดจบ
แขกเหรื่อพากันปรบมือ
หยางคายปิงทักทายทุกคน และพาทุกคนเดินเข้าไปในพื้นที่ขุดค้น
“เราเพิ่งค้นพบที่นี่ได้ไม่นานครับ ตอนนี้หน่วยขุดค้นของเราได้เล็งตำแหน่งได้คร่าว ๆ แล้ว ยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่ ตอนนี้ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการตรวจสอบ”
หยางคายปิงเดินนำทางทุกคนไปพลาง แนะนำไปพลาง
“ที่นี่คือซากโบราณสถานเหรอครับ สุสานโบราณเหรอครับ”
แขกคนหนึ่งถาม
“ไม่ใช่ครับ”
หยางคายปิงรีบส่ายหัวและตอบ “ดูจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์แล้ว ที่นี่เคยมีเรืออับปางลำหนึ่งครับ ภายในเรือลำนั้นมีเงินทางการจำนวนมาก ช่วงก่อนมีนักว่ายน้ำมาดำที่นี่และคลำเจอตำลึงเงิน ที่นี่เลยกลายเป็นที่จับตามองครับ”
ทุกคนได้ฟังก็มองไปทางผืนน้ำรอบ ๆ ด้วยความตะลึง
ใต้ดินนี้เต็มไปด้วยตำลึงเงินหรือนี่?
ทั้งหมดนี้เป็นเงินเท่าไหร่กันเนี่ย?
แต่ละคนระมัดระวังมากขึ้น กลัวว่าจะทำลายพื้นที่
“พวกคุณไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้นหรอกครับ”
หยางคายปิงพูดกลั้วหัวเราะ “นี่เป็นเพียงพื้นที่รอบนอก เดินกล้า ๆ ได้เลยครับ”
ได้ฟังดังนั้น ทุกคนก็โล่งอก พวกเขากลัวจริง ๆ ว่าจะไปทำลายพื้นที่หรือของสำคัญเข้า
ไม่อย่างนั้นหลังจากออนแอร์แล้วได้โดนด่าตายแน่!
ขณะที่คุยกันอยู่ ทั้งหมดก็มาอยู่ด้านหลังนักโบราณคดีกลุ่มหนึ่ง
กลุ่มนักโบราณคดีเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สวมหมวกป้องกันที่หัวกันทุกคน ภายใต้พระอาทิตย์เจิดจ้า พวกเขาจึงต่างร้อนจนเหงื่อชุ่มหลัง บางคนถึงขั้นมีเหงื่อไหลลงมาตามคางไม่หยุด
ทุกคนเห็นแล้วสะเทือนใจกันหมด
ช่างดูเหนื่อยยากลำบากกันเหลือเกิน
นักโบราณคดีนี่ไม่ง่ายเลยนะ
แต่ละคนต่างเกิดความเคารพขึ้นในใจ
“ทำไมไม่กางหลังคาร่มล่ะคะ ตอนฉันดูทีวีก็เห็นสถานที่ขุดค้นบางจุดมีหลังคาร่มกางนะคะ” หลานเข่อยีถามอย่างแปลกใจ
“นั่นเป็นพวกซากโบราณสถานขนาดใหญ่ครับ” เว้นช่วงสักระยะ หยางคายปิงก็ได้อธิบายต่อว่า “อีกอย่าง ต่อให้เป็นซากโบราณขนาดใหญ่ก็ต้องใช้วิทยาการต่าง ๆ ให้มั่นใจขอบเขตของซากโบราณสถานก่อนถึงจะกางหลังคาร่มได้ ส่วนเป้าหมายก็ไม่ใช่เพื่อให้เราได้มีสิ่งแวดล้อมการทำงานที่ดี แต่เพื่อไม่ให้ของที่ขุดออกมาเจอแสงแดดแรง ๆ ส่องจนเกิดการเปลี่ยนแปลงครับ หรืออาจจะเจอฝนด้วย”
“แต่พื้นที่ของเราไม่จำเป็นต้องใช้ครับ แล้วพวกเราก็ชินกับการทำงานกลางแดดแบบนี้แล้ว”
พูดไป ใบหน้าดำคล้ำก็เผยรอยยิ้มซื่อ ๆ
เมื่อเขาเอื้อนเอ่ยเช่นนี้
บรรดาแขกรับเชิญก็อดสงสารไม่ได้
“พวกคุณต้องเหนื่อยมากเลยนะครับ”
“ขอบคุณพวกคุณที่ขุดสมบัติชาติให้ประเทศได้มากมายขนาดนี้นะคะ พวกคุณคือวีรบุรุษที่แท้จริง”
พูดขนาดนี้… หยางคายปิงชักจะเขินแล้ว
ผู้กำกับมองภาพนี้อย่างพอใจ
เขาต้องการฉากแบบนี้แหละ
แกนหลักของรายการอีพีนี้ก็เพื่อสดุดีนักโบราณคดี
ซูเย่กลับขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาพบว่าหน่วยขุดค้นเหมือนจะพยายามผิดทิศ
จุดที่เรืออับปางอยู่ตอนเหนือของแหล่งน้ำ หากขุดขึ้นข้างบนคงเจอไปนานแล้ว แต่หน่วยขุดค้นดันมัวเวิ่นเว้ออยู่กับตอนใต้ของแหล่งน้ำ ไม่ยอมไปตอนเหนือสักที
ตอนใต้มีเพียงเศษตำลึงเงินที่โดนน้ำพัดพาลงมาตามกาลเวลาเท่านั้น
“คุณคิดว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงจะเจอตำแหน่งของเรืออับปางครับ?” แขกรับเชิญคนหนึ่งถาม
“อย่างน้อยก็ต้องอีกสองสามวันครับ” หยางคายปิงตอบ
“ถ้าหาเจอวันนี้ก็ดีสิคะ ทุกคนจะได้ไม่ต้องเหนื่อย” หลานเข่อยีพูดอย่างสะท้อนใจ
“งานขุดค้นซากโบราณซับซ้อนมาก ไม่เร็วขนาดนั้นหรอกครับ” หยางคายปิงอธิบายยิ้ม ๆ
ขณะนั้นเอง…
“ตำแหน่งเรืออับปางน่าจะอยู่ตอนเหนือนะครับ” จู่ ๆ ซูเย่ก็เอ่ยขึ้น
ทุกคนผงะ
“ตอนเหนือ?” หยางคายปิงมองซูเย่ด้วยสีหน้างุนงง เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “พวกเราขุดแต่ตอนใต้จริง ๆ ครับ ทว่าจากข้อมูลที่พวกเราทราบ และวิเคราะห์จากร่องรอยเปลือกโลกที่เคลื่อนไหวในหลายร้อยปีมานี้ ความเป็นไปได้ที่เรืออับปางอยู่ที่ตอนใต้มีมากกว่าครับ”
“ผมเป็นคนจี้หยาง มีบุญเคยอ่านหนังสือเก่ายุคโบราณที่เกี่ยวกับจี้หยางมาบ้างครับ” ซูเย่กล่าว “และถ้าผมเดาไม่ผิด ตำแหน่งที่เรืออับปางอยู่น่าจะเป็นตรงนั้นครับ”
พูดไป เขาก็ชี้ตำแหน่งขอบ ๆ หลุมของทีมขุดค้นตอนเหนือ และเสนอ “ผมแนะนำให้พวกคุณส่งคนไปตรวจดูตรงนั้นหน่อย”
“คุณรู้ได้ยังไงครับว่าอยู่ตรงนั้น” หยางคายปิงจ้องซูเย่ด้วยความไม่เชื่อใจและถาม
นี่เป็นอาชีพของพวกเขา จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่ค่อยชอบใจที่มีคนอื่นมาชี้นิ้วสั่ง
“ผมอ่านหนังสือเก่าเกี่ยวกับเมืองจี้หยางและบันทึกโบราณของแคว้นต่าง ๆ มาเยอะครับ ผมจำได้ว่าในบันทึกแคว้นเล่มหนึ่งเคยบันทึกไว้ว่าใกล้ ๆ นี้มีชาวบ้านจากหมู่บ้านที่ชื่อชิ่งหวาชุน พบตำลึงเงินตำลึงทองในแม่น้ำครับ”
“และไม่ใช่แค่ที่เดียว ในบันทึกแคว้นมีบันทึกไว้สิบกว่าครั้งเลยครับ”
“หากนำตำแหน่งเหล่านี้ออกมาคำนวณคร่าว ๆ ก็น่าจะเป็นตำแหน่งที่เรืออับปางอยู่ครับ” ซูเย่กล่าว
หืม?
บันทึกแคว้น?
“เล่มไหนครับ?” หยางคายปิงเห็นซูเย่พูดถึงบันทึกแคว้นก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที ดูท่าอีกฝ่ายไม่ได้แค่พูดไปอย่างนั้น
“บันทึกแคว้นเกาผิง” ซูเย่บอก
เมื่อได้ฟัง หยางคายปิงก็พลันชะงักไป ก่อนจะรีบเรียกทีมงานหน่วยขุดค้นมาคนหนึ่งให้ไปหาบันทึกแคว้นเกาผิง
เนื่องจากบันทึกแคว้นหนามาก ทุกรายการบันทึกที่คนจากหมู่บ้านข้างเคียงเก็บเงินเก็บทองได้ก็ห่างกันค่อนข้างนาน ส่งผลให้พวกเขาละเลยรายละเอียดเหล่านี้ตอนตรวจสอบบันทึกโบราณ
“คุณรู้จริง ๆ เหรอคะว่าอยู่ที่ไหน?”
ในขณะที่หยางคายปิงเปิดอ่านบันทึกแคว้น หลานเข่อยีก็ได้ถามอึ้ง ๆ อย่างอดไม่ได้
ทุกคนพากันหันไปมองซูเย่
ผู้กำกับก็มองซูเย่
เขารู้สึกว่าหนนี้ซูเย่เล่นใหญ่ไปหน่อย
“บันทึกแคว้นกล่าวไว้แบบนี้ ผมเลยลองคำนวณด้วยความอยากรู้ครับ” ซูเย่บอก
ขณะนั้น
หยางคายปิงเดินฉับไปยังแผนที่ใบหนึ่งของพื้นที่นั้น และทำเครื่องหมายไว้สามสี่ตำแหน่ง ก่อนจะคำนวณตามทิศทางของน้ำได้หนึ่งตำแหน่งอย่างรวดเร็ว
ตำแหน่งนั้นก็คือจุดที่ซูเย่ชี้!!
“ไปตรวจสอบตรงนี้ดูหน่อย!” หยางคายปิงพูดอย่างตื่นเต้น
สมาชิกหน่วยขุดค้นรีบเคลื่อนพล หยางคายปิงก็รุดหน้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาสนใจกองถ่าย
พอเห็นภาพนี้ แขกรับเชิญเจ็ดคนของรายการอึ้งกันหมด แม้แต่ผู้กำกับที่ตามเข้ามาก็มองซูเย่อย่างตกตะลึง เขาถาม “คงไม่ได้อยู่ตรงที่คุณบอกจริง ๆ หรอกนะ?”
“80%”
ซูเย่ตอบยิ้ม ๆ
อีกฟากหนึ่ง
เวลานั้น ทีมงานหน่วยขุดค้นรีบเคลื่อนย้ายไปทางตอนเหนือของแม่น้ำ และเริ่มตรวจสอบว่าตอนเหนือมีปฏิกิริยาต่อวัตถุโลหะหรือไม่
ไม่นานนัก
“มีแล้ว มีแล้ว”
“ปฏิกิริยาจากวัตถุโลหะรุนแรงมากครับ”
จู่ ๆ ทีมงานหน่วยขุดค้นก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
จากนั้นก็รีบขนเครื่องมือต่าง ๆ มาตรวจสอบต่อเนื่อง
ผลสรุป
มีการค้นพบเรืออับปางในจุดที่ซูเย่ชี้จริง ๆ!
คราวนี้ทุกคนในกองถ่ายรวมถึงแขกรับเชิญประจำรายการเจ็ดคนและผู้กำกับ ต่างตัวแข็งทื่อกันหมด
ประโยคเดียวของซูเย่กลับคลี่คลายโจทย์ยากของเรืออับปางได้ และช่วยให้หน่วยขุดค้นได้เจอตำแหน่งของเรืออับปาง
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?!
“ซูเย่ ผมขอขอบคุณในนามตัวแทนสมาชิกทุกคนจากหน่วยขุดค้นนะครับ”
หยางคายปิงเดินเข้ามาจับมือกับซูเย่อย่างตื้นตันและกล่าว “จากการตรวจสอบของเรา พบว่าเรืออับปางติดอยู่ในโคลนตมหนึ่ง และใต้โคลนตมนั้นคือหินจำนวนมากที่ทำให้เรืออับปางติดกับ เนื่องจากไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เรือจึงยังอยู่ตำแหน่งเดิมที่จมลงไป”
“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณ ถ้าไม่ได้คำแนะนำของคุณ หลายวันนี้พวกเราจะไม่ใช่แค่ทำงานไปอย่างสูญเปล่า คงต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดด้วยซ้ำไป”
“ขอบคุณคุณมากจริง ๆ นะครับ” สมาชิกหน่วยขุดค้นที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมดต่างพากันขอบคุณและมองซูเย่ด้วยสีหน้าตื้นตัน
พวกเขาไม่ได้ดีใจเพราะได้ทำงานน้อยลง แต่เพราะในที่สุดก็หาตำแหน่งของเรืออับปางเจอ เพราะในที่สุดก็เริ่มการขุดหาซากโบราณได้จริง ๆ เสียที
หลี่เว่ยกั๋วในฐานะผู้กำกับรายการดีใจกว่าปกติ
ผู้กำกับจ้าวพูดถูก!
หนึ่งล้านนี้ไม่ได้เสียฟรี ซูเย่คุ้มค่าหนึ่งล้านนี้
เริ่มจากหนึ่งร้อยหยวนแลกสามแสนหยวน
บัดนี้เจอตำแหน่งเรืออับปางได้ด้วยประโยคเดียวอีก
รายการอีพีนี้ของพวกเขาไม่ดังเป็นพลุระเบิดคงผิดปกติแล้ว!!
“เชิญซูเย่มาได้คุ้มจริง ๆ สมกับเป็นตัวพาดังเดินได้”
เพื่อเป็นการไม่รบกวนงานขุดโบราณสถานของหน่วยขุดค้น รายการจึงถ่ายฟุตเทจไว้จำนวนหนึ่งอย่างรวดเร็ว แล้วก็จบการถ่ายทำรายการของอีพีนี้อย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณนะซูเย่” หลังจากถ่ายทำเสร็จ หลี่เว่ยกั๋วจับมือกับซูเย่ยิ้ม ๆ และกล่าว “ตอนนี้พวกเราจะเดินทางกลับเมืองตี้ตูแล้ว วันหน้ามาตี้ตูเมื่อไหร่โทรหาผมได้เลยนะ ไว้เราไปเที่ยวกันบ่อย ๆ เลย”
“เกรงใจไปแล้วครับ”
ซูเย่พูดยิ้ม ๆ
หลานเข่อยีก็ได้เดินเข้าไปบอกลาซูเย่ ซึ่งชายหนุ่มก็ตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม และเมื่อส่งกองถ่ายกลับไปแล้ว เขาถึงโบกแท็กซี่กลับเอง
จากนั้น
ในขณะที่ซูเย่กำลังจะถึงที่หมาย
ก็มีข่าวหนึ่งแพร่สะพัดในโลกออนไลน์
‘ซูเย่ชี้ตำแหน่งเรืออับปางที่เต็มไปด้วยตำลึงเงินในพื้นที่ขุดค้นได้อย่างแม่นยำ ทั้งที่หน่วยขุดค้นยังบอกตำแหน่งไม่ได้ระหว่างถ่ายทำรายการ’
เมื่อเห็นข่าวนี้ ชาวเน็ตก็อึ้งกิมกี่กันหมด
พวกเขารู้จากไลฟ์สดว่าซูเย่กำลังถ่ายทำรายการ ‘ท้าทายขีดจำกัด’
และรู้จากโซเชียลของดาราคนอื่น ๆ ว่าพวกเขาไปที่จุดขุดค้นซากโบราณสถาน
แต่การชี้ตำแหน่งเรืออับปางได้นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เก่งขนาดนั้นเชียว?!
‘เรืออับปางที่บรรทุกตำลึงเงินหลวงจำนวนมาก? ต้องเท่าไหร่กันนะ’
‘ให้ตายสิ ซูเย่ นายพลาดเงินเป็นร้อยล้านเลยนะ ไม่สิ พลาดไปหลายร้อยล้านเลยล่ะ’
‘ฉันสงสัยว่าซูเย่เคยแอบไปขุดมาแล้ว ไม่อย่างนั้นจะแม่นยำขนาดนี้ได้ยังไง’
‘ถ้าซูเย่เคยไปขุด แล้วเขาจะบอกตำแหน่งให้หน่วยขุดค้นรู้ทำไม วันหลังไม่มีเงินค่อยไปขุดเอาสิ’
‘น่าเสียดายมากจริง ๆ ท่านเทพซูเย่ ท่านน่าจะบอกตำแหน่งกับผมนะครับ ผมเป็นแรงงานให้ ขุดขึ้นมาได้เราแบ่งกันครึ่งครึ่ง ถ้าไม่ได้จริง ๆ สี่หกก็ยังได้ สามเจ็ด สองแปด หนึ่งเก้า ท่านเอาเก้าก็ได้นะครับ’
ชั่วขณะนั้น
คำวิจารณ์ต่าง ๆ นานาพวยพุ่งออกมา
ทุกคนพากันติดตามรายการ ‘ท้าทายขีดจำกัด’ และเฝ้ารออีพีต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ …‘ถนนวัตถุโบราณ’ !
“วิจารณ์กันเข้าไป ยิ่งดุเดือดยิ่งดี”
ณ สนามบิน หลี่เว่ยกั๋วดูการค้นหาที่ติดเทรนด์แล้วยิ้มบาง ๆ
นี่แหละสิ่งที่เขาเฝ้ารอ
การเปิดเผยนี้เขาเป็นฝ่ายจ้างคนไปเปิดเผยเอง เพื่อเพิ่มกระแสให้รายการ
ตอนนี้ดูแล้วผลลัพธ์ดีเป็นพิเศษ
อีกด้าน
หลานเข่อยีที่นั่งไถเวยป๋ออยู่ในรถพี่เลี้ยงพลันเห็นว่าซูเย่ติดเทรนด์การค้นหาอีกแล้ว
เธอรีบหันไปบอกกับผู้ช่วยข้างๆ “ติดต่อบริษัทประชาสัมพันธ์ ปล่อยรูปตัวอย่างของรายการอีพีนี้ออกไป พยายามปั่นกระแสไปทางคู่จิ้น”
“ได้ค่ะ” ผู้ช่วยรีบติดต่อบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ร่วมงานกันอยู่ทันที