เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 53 ตกลงสำเร็จ ขาดแค่ผู้ช่วยมือฉมัง!
บทที่ 53 ตกลงสำเร็จ ขาดแค่ผู้ช่วยมือฉมัง!
“เจ็ดสิบเปอร์เซ็น ต่ำที่สุดแล้ว”
เจียงซานเอ่ย
“สิบเปอร์เซ็น” ซูเย่เอ่ยต่อรอง
“เธออยากพูดกันดี ๆ ไหม” เจียงซานเอ่ยถากถาง
“ผมก็กำลังคุยดี ๆ อยู่นะครับ”
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อย พลางกล่าวต่อ “ผมว่าคุณต่างหากที่ไม่คุยดี ๆ”
“หกสิบเปอร์เซ็น”
เจียงซานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“สิบเปอร์เซ็น” ซูเย่ยังคงยืนกราน
“เจ้าหนู ฉันให้โอกาสสุดท้าย ห้าสิบเปอร์เซ็น!”
เจียงซานเอ่ยด้วยสีหน้ากล้ำกลืน
ซูเย่เผยรอยยิ้มออกมา ได้เวลาลงมือแล้ว
“สมุนไพรให้ฟรีหรือเปล่าครับ?” ซูเย่เอ่ยถาม
“แน่นอนว่าไม่ฟรี เธอต้องจ่ายเงิน”
เจียงซานยกยิ้มเล็กน้อย พลางเอ่ย “ฉันสามารถให้ส่วนลดได้ 20% จากราคาตลาด”
“คุณจะไม่ลงทุนอะไรเลยเหรอครับ?”
ซูเย่ขมวดคิ้วและกล่าวต่อ “สมุนไพรในนั่นมีอยู่ทั่วไป ทุกคนสามารถเลือกพวกมันได้อย่างง่ายดาย ให้คนที่อยู่ขั้นสูงคอยฆ่ามอนสเตอร์ที่เฝ้าอยู่ แล้วให้คนระดับไม่สูงมากคอยตามเก็บอยู่ข้างหลังก็ได้”
“ทีมสืบสวนได้กำไรจากการขายสมุนไพรให้ผม ต่อไปถ้าผมได้กำไร ก็ยังจะเอาอีกห้าสิบเปอร์เซ็น นี่มันเกินไปแล้วนะครับ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงซานผงะไป… ก็เกินไปจริง ๆ นั่นแหละ
“แล้วคุณคิดว่าจะให้เงินทุนเท่าไหร่ครับ?” ซูเย่เอ่ยถามหยั่งเชิง
“ไม่ลงทุน” เจียงซานเอ่ยปฏิเสธทันที
“ผมให้สิบเปอร์เซ็น มากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ!”
ซูเย่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ผมยังคงต้องลงทุนสร้างโรงงาน ต้องขยายช่องทางการขาย ผมต้องทำงานหนักขนาดนี้ คุณจะเอากำไรไปหมดได้ยังไงกันครับ”
“งั้นก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว” เจียงซานกล่าวพร้อมกับยิ้มเยาะ
“ถ้าอย่างนั้นพูดอีกอย่างคือ 40% คุณต้องให้สมุนไพรฟรี และทุนส่วนหนึ่งของเงินทุนทั้งหมด” ซูเย่กล่าว
“ไม่ให้ฟรี และไม่ลงทุน เธอไปทำเอง”
เจียงซานรู้สึกว่าธุรกิจนี้เขาสามารถทำได้ เขาขายแต่สมุนไพร ไม่ต้องลงทุน ให้ซูเย่จัดการเอง เขาแค่รอกำไรเท่านั้น
“มากสุดสิบห้าเปอร์เซ็น!”
ซูเย่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางกัดฟันตอบ “นี่เป็นธุรกิจของมหานครตะวันออกเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งประเทศ”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็เสริมทันที “ถ้าผูกขาดการเก็บสมุนไพรในทั้งหกเขต เราสามารถซื้อสมุนไพรจากเขตสงครามอื่นแล้วให้พวกเขาเก็บไป เขตของเราก็ไม่ต้องทำอะไร คุณสามารถทำเงินได้มากในฐานะตัวแทนจำหน่าย”
ซูเย่ถอนหายใจและกล่าวต่อ
“แต่ว่าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของหุ้นนั้นค่อนข้างมาก”
“ไม่ทราบว่าผู้บัญชาการเขตอื่น ๆ มีความคิดที่จะทำอะไรแบบนี้หรือไม่ ถ้าผมใส่เงื่อนไขเพิ่มเติมพวกเขาคงจะเห็นด้วย ในเวลานั้นกำไรจะไม่ตกเป็นของเขตตะวันออกของเราอีกต่อไป”
ใบหน้าของเจียงซานเคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิม
“เจ้าเด็กคนนี้ เธอกล้าเหรอ!”
“ทะเบียนบ้านยังสามารถย้ายได้ แล้วทำไมผมถึงจะเข้าร่วมทีมสืบสวนในเขตอื่นไม่ได้ละครับ ในเมื่อเป็นทีมสืบสวนเหมือนกัน” ซูเย่กล่าวอย่างเฉยชา
เจียงซานยกยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า “เธอไม่กลัวว่าฉันจะไล่เธอออกไปและขโมยธุรกิจนี้เหรอ”
“ไม่กลัวหรอกครับ ถ้าคุณสามารถสร้างรายได้ 1 ล้านด้วยความพยายามของตัวเอง กับงอมืองอเท้าได้ 8 แสน แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าควรเลือกยังไง ถ้าคุณไม่เห็นด้วย ผมไปที่ตี้ตูและหาโอกาสพบกับผู้นำระดับสูงและร่วมมือกับทางรัฐบาลก็ได้” ซูเย่กล่าว
“เธอมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าพบผู้นำระดับสูงงั้นหรือ?” เจียงซานกล่าวเยาะเย้ย
“อาจารย์ของผมมี” ซูเย่เผยรอยยิ้มมุมปาก
เจียงซานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึม
เขาลืมไปว่าอาจารย์ของเด็กคนนี้ คือหนึ่งในปรมาจารย์แพทย์แผนจีน และสามารถเข้าถึงพวกระดับสูงได้!
อาจารย์ของเขาออกหน้ามาคุยให้ บางทีเขาอาจจะทำได้จริง ๆ ถึงตอนนั้นกำไรทั้งหมดจะถูกเอาเข้าส่วนรัฐบาล และกำไรในเขตมหานครตะวันออกของเขาจะหายไป
“สามสิบ!” เจียงซานเอ่ยทันควัน
“สิบห้าเปอร์เซ็น” ซูเย่ยังคงไม่ละความพยายาม
“ยี่สิบห้าเปอร์เซ็น น้อยกว่านี้ไม่ได้แล้ว!” เจียงซานเอ่ยขีดจำกัดของเขา
“ตกลง!”
ซูเย่เผยรอยยิ้มพลางกล่าวต่อ “ยินดีที่ได้ร่วมงานครับ”
เจียงซานผงะไป
ตกลงแล้ว?
หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็มืดมนลง
แล้วนึกขึ้นได้ว่าจากแปดสิบเปอร์เซ็นถูกต่อรองลงมาถึงยี่สิบห้าเปอร์เซ็น!
แต่ว่ายี่สิบห้าเปอร์เซ็นก็ถือว่าไม่น้อยแล้ว ไม่ต้องลงทุนสักบาทแต่ได้เงินถึงยี่สิบห้าเปอร์เซ็น ถือว่าไม่เลวมากนัก
เขาได้คิดไว้แล้ว ถ้าผลิตออกมาเสร็จแล้ว เขาจะสามารถซื้อมันจากซูเย่ในราคาถูกแล้วขายต่อไปยังมหานครอื่นเพื่อทำกำไรได้อีกครั้ง
“ฉันจะจัดการเรื่องต่อจากนี้เอง นายทำสิ่งที่ควรทำก่อน” เจียงซานเอ่ยเตือน
“ไม่ต้องห่วงครับ” ซูเย่ยิ้มและพยักหน้ารับ
จากนั้น เขาถูกไล่ออกจากห้องรับรอง เพราะเจียงซานไม่อยากเห็นหน้าเขาต่ออีกแม้นาทีเดียว
ซูเย่อมยิ้มเล็กน้อยและเดินออกไป
25% เป็นราคาที่ต่ำที่สุดในใจเขา
เขาได้คำนวณไว้แล้วว่าทีมสืบสวนเอาหุ้นไป 25% และพวกเขาจะเอากำไรสุดท้ายไปเกือบ 40% ซึ่งรวมถึงเงินที่พวกเขาหาได้จากการซื้อวัตถุดิบสมุนไพร และเขาเอา 60% ของกำไรสุดท้าย!
“เก่งคณิตก็มีข้อดีแบบนี้ละนะ”
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อย เขาคิดไว้ว่าอาจจะต้องเสียหนักกว่านี้… แต่กลับต่อรองได้มากกว่าที่คิด
เมื่อเดินออกมาด้านนอกก็พบกับเกาหรงกวงยืนอยู่ที่ประตู
“ไปกัน”
อีกฝ่ายพาซูเย่ออกไปโดยไม่ชักช้า และขับรถกลับไปที่เมือง
ระหว่างทาง
ซูเย่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอ่านข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนในโลกอินเทอร์เน็ต
เขาพบว่าเรื่องราวแย่ลงไปกว่าเดิมเสียอีก ตอนนี้กระแสของชาวเน็ตจำนวนมากกำลังรณรงค์ต่อต้านยาจีนและผู้ค้ายาสมุนไพร
ชาวเน็ตบางคนถึงกับเริ่มรณรงค์ต่อต้านการแพทย์แผนจีนและคว่ำบาตรมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีน
สถานการณ์นี้เกินความคาดหมายของซูเย่โดยสิ้นเชิง
“ต้องเร่งมือแล้ว!”
ซูเย่ขมวดคิ้วแน่น
แรงกดดันที่มองไม่เห็นกำลังจู่โจมเข้ามา และในตอนนี้เขามีทางเลือกสองทาง
ทางเลือกที่หนึ่งคือการร่วมมือกับผู้ค้าสมุนไพรบางราย โดยมีเขาเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบเอง เพื่อให้ผู้ค้ายาสมุนไพรสามารถนำวัตถุดิบไปผลิต
ทางเลือกที่สองคือการซื้อโรงงานเพื่อผลิตขึ้นมาเอง
ตอนนี้เขาบอกเจียงซานไปว่าสร้างโรงงานขึ้นมาเอง เพราะหลอกอีกฝ่ายไปก่อนเท่านั้น
แต่ทั้งสองตัวเลือกนี้ สำหรับซูเย่แล้วมันไม่ดีทั้งสองทาง
สำหรับทางเลือกที่หนึ่ง พลังของซูเย่มีจำกัด และเขาไม่รู้กฎเกณฑ์ทางธุรกิจมากนัก
“ดูเหมือนเราจะต้องหาผู้เชี่ยวชาญก่อน”
ซูเย่เอ่ยกับตัวเองอย่างครุ่นคิด
เขาต้องการคนที่เคยทำงานในบริษัทยาขนาดใหญ่ อย่างน้อยก็ในระดับผู้จัดการ และเข้าใจกระบวนการทั้งหมดของการผลิตยาแผนจีนที่ได้มาตรฐาน
“ว่าแต่จะไปหาจากที่ไหน?”
ซูเย่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็นึกถึงบริษัทตัวแทนจัดหางาน
เขาเสิร์ชหาบริษัทตัวแทนจัดหางานที่มีความเป็นมืออาชีพมากที่สุดในเมืองจี้หยาง มีหลายแห่งที่เป็นจัดหางานอันดับต้น ๆ ของประเทศ
ซูเย่กลับเข้ามาในเมืองจี้หยาง เขาเลือกบริษัทที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดแห่งหนึ่งและรีบไปที่นั่น
ผู้ที่รับหน้าที่มาเป็นที่ปรึกษาของซูเย่คือหญิงสาวผู้สวมชุดสูทสีดำ ดูมีความเป็นมืออาชีพในระดับหนึ่ง และอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทางดูถูกซูเย่เลยแม้ว่าเขาจะยังเป็นเพียงนักศึกษา
เธอเพียงรู้สึกว่าซูเย่ดูหน้าคุ้นเล็กน้อย
“ผมกำลังมองหาคนที่มีประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมยาจีน มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีประสบการณ์ในการบริหารบริษัท”
เมื่อทั้งสองฝ่ายนั่งลง และซูเย่ก็เอ่ยความต้องการของเขาทันที
“ค่าแรงประมาณเท่าไหร่คะ”
อีกฝ่ายเอ่ยถาม
“หนึ่งปี ค่าแรงหนึ่งล้านหยวน”
ซูเย่เอ่ยตอบ
อีกฝ่ายพยักหน้าและเปิดหากลุ่มบุคคลที่ตรงตามความต้องการของซูเย่อย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็เริ่มแนะนำซูเย่ให้อ่านประวัติของแต่ละคน รวมทั้งหมดกว่า 20 คนที่ตรงตามความต้องการ
หลังจากอ่านทั้งหมดแล้ว ซูเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขายังรู้สึกว่าไม่เหมาะสม
“คนเหล่านี้มีความเป็นมืออาชีพมาก และแต่ละคนก็สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณคิดว่าอย่างไรคะ”
ที่ปรึกษาสาวยิ้มพลางเอ่ยถาม มองไปที่ซูเย่อย่างรอคอยคำตอบ
“ผมไม่คิดว่าพวกเขาเหมาะสมนะครับ”
ซูเย่ส่ายหัวพลางกล่าวเสริม “สิ่งที่ผมต้องการคือคนที่มีความสามารถรอบด้าน คนที่สามารถทำงานในบริษัทอย่างมีระเบียบ ไม่ใช่แค่ข้อกำหนดที่ผมเสนอ แต่สิ่งที่ฉันต้องการคือทุกแง่มุมของการดำเนินงานในบริษัทยาจีนรวมถึงเข้าใจในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต คนเหล่านี้ส่วนมากจะอยู่ในด้านการบริหารมากกว่า คงไม่เข้าใจกระบวนการผลิตทั้งหมด”
“ขอโทษด้วยค่ะ”
ที่ปรึกษาหญิงยิ้มอย่างขมขื่นพลางกล่าวต่อ “คนแบบที่คุณต้องการก็มีอยู่ แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นระดับผู้บริหารแล้ว และคงไม่ยินยอมที่จะทำงานใต้คำสั่งของคนอื่น หรือไม่ก็เป็นบุคลากรด้านเทคนิค แต่ก็ไม่เข้าใจวิธีการบริหารจัดการ”
“ไม่มีเลยเหรอครับ?”
ซูเย่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
“ไม่มีค่ะ”
ที่ปรึกษาสาวตรวจสอบอีกครั้งและกล่าวอย่างเสียใจ “ทั้งคนที่กำลังหางานหรือคนที่ทำงานอยู่”
“ก็ได้ครับ”
ซูเย่ลุกขึ้นและกำลังจะจากไป
“รอก่อนค่ะ”
ที่ปรึกษาสาวรั้งซูเย่ไว้ทันทีด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อย และเอ่ยถาม “คุณคิดมากเกี่ยวกับเรื่องลักษณะนิสัยหรือไม่คะ?”
“อะไรนะครับ?”
ซูเย่เอ่ยถามอย่างงุนงง
“ถ้าคุณไม่สนใจเรื่องนั้นมาก และพิจารณาในด้านความสามารถเท่านั้น…”
ที่ปรึกษาหญิงมองไปที่ซูเย่ พลางเอ่ยต่อ “มีคนคนหนึ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้”
“ลองพูดมาก่อนครับ”
ซูเย่เริ่มให้ความสนใจอีกครั้ง
“คนนี้ค่ะ”
ที่ปรึกษาสาวหันแล็ปท็อปของเธอไปทางซูเย่ โดยเปิดหน้าข้อมูลของชายวัยกลางคนอายุ 34 ปี จากกลุ่มผู้มีความสามารถของบริษัท พลางกล่าวต่อ
“ชื่อของเขาคือข่งอวี้โจว เมื่อสามปีที่แล้วเขาถือได้ว่าเป็นดาวรุ่งหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ยาสมุนไพรจีน เขามีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีและการจัดการ ในเวลานั้นทุกคนคิดว่าอนาคตของเขาจะต้องไปได้ไกลอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่เขาถูกคุมขัง ตอนนี้เขายังคงอยู่ในคุก แต่เขาน่าจะได้รับการปล่อยตัวออกมาเร็ว ๆ นี้”
“ทำไมเขาถึงถูกจับล่ะครับ” ซูเย่เอ่ยถามอย่างสงสัย
“ฉันได้ยินมาว่าเขาได้รับสินบนจากเกษตรกรรายหนึ่งจากการซื้อวัตถุดิบสำหรับสมุนไพรจีน เขาถูกตัดสินจำคุก 3 ปี นับเวลาดูแล้ว เขาน่าจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำภายในสองถึงสามวันนี้ค่ะ”
ที่ปรึกษาสาวส่ายหัวพลางเอ่ยต่อ “คนนี้เขาน่าสงสารมาก ภรรยาและลูกก็แยกทางไปจากเขาแล้ว”
“เขารับสินบนจริงเหรอครับ?” ซูเย่เอ่ยถาม
“ยังมีจุดน่าสงสัย แต่ศาลพิพากษาแล้ว และเขาถูกตัดสินว่าผิด ส่วนที่ว่าเขารับสินบนหรือไม่ ยังจะมีใครจะสนใจอยู่อีก”
ที่ปรึกษาสาวกล่าวพลางถอนหายใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูเย่ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ดูจากประวัติของข่งอวี้โจวอย่างละเอียดถี่ถ้วนผ่านหน้าจอของแล็ปท็อป
จากนั้นเขาก็พูดต่อ “ผมจะเก็บไปพิจารณานะครับ ถ้าผมเลือกเขาจริง ๆ ค่าจ้างจะไม่ต่างจากที่คุยไว้ตอนแรก”
เมื่อพูดจบเขาก็จากไป
ที่ปรึกษาสาวมองแผ่นหลังของซูเย่ พลันนึกขึ้นได้ทันทีว่าเขาคือใคร
“ซูเย่?!”
“ซูเย่ แชมป์จากรายการอนาคตการแพทย์แผนจีน เขาต้องการทำธุรกิจงั้นเหรอ เขายังเป็นนักศึกษาอยู่เลยนี่ ความสามารถรอบด้านเสียจริง! เป็นชายหนุ่มที่มีอนาคตสดใส!
“รุ่นพี่ข่ง.. นี่อาจเป็นโอกาสสำหรับคุณ ฉันสามารถช่วยคุณได้เท่านี้แล้วละ”
……
หลังจากคุยธุระเสร็จ ซูเย่ได้ติดต่อทีมสืบสวนทันที และด้วยระดับขั้นของเขาในตอนนี้ ก็ทำให้เขาได้รับคำพิพากษาของข่งอวี้โจวมาได้อย่างรวดเร็ว
ต่อมาเขาไปที่สำนักงานนักสืบ
“ครั้งนี้คิดค่าบริการ”
เมื่อเห็นคนคุ้นเคย สวีหมินหมินก็โพล่งขึ้นมาทันที
“ไม่มีปัญหาครับ”
ซูเย่พยักหน้ารับ จากนั้นส่งประวัติย่อและคำพิพากษาของข่งอวี้โจวให้สวีหมินหมิน “ค้นหาข้อมูลทั้งหมดของบุคคลนี้ รวมทั้งรายละเอียดว่าเขาถูกตัดสินจำคุกสามปีได้อย่างไรในข้อหารับสินบนจากเกษตรกรเมื่อสามปีที่แล้ว”
“ได้”
สวีหมินหมินพยักหน้าเบา ๆ
“แล้วคุณต้องการอะไรตอบแทน”
ซูเย่เอ่ยถาม
“ฉันไม่สามารถทะลวงไปสู่ขั้นสามได้ ฉันต้องการให้คุณช่วย” สวีหมินหมินกล่าวอย่างราบเรียบ
ซูเย่ยืดมือออกไปเพื่อจับข้อมือของสวีหมินหมิน พลังปราณกระแสหนึ่งไหลเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย เพื่อตรวจสอบอย่างรวดเร็ว
“เป็นเพราะคุณมีพลังปราณไม่เพียงพอ นั่งลง” พูดเสร็จก็ชี้ไปที่พื้น
สวีหมินหมินตกตะลึงครู่หนึ่งจากนั้นก็นั่งลงที่จุดนั้น
ซูเย่วางมือลงบนศีรษะของเธอ
กระแสพลังปราณพุ่งออกมาจากฝ่ามือของซูเย่ จากนั้นพุ่งตรงลงไป นำพาพลังปราณในร่างกายของอีกฝ่ายให้ไหลเวียนในร่าง แล้วพุ่งตรงไปยังจุดลมปราณจุดสุดท้ายของขั้นสอง
ภายใต้การนำของซูเย่
จุดลมปราณจุดสุดท้ายของขั้นสองในร่างกายของสวีหมินหมินถูกบังคับให้เปิดออก ทะลวงผ่านไปยังขั้นสามอย่างเป็นทางการ!
“ต่อไป คุณต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อฝึกฝนให้อยู่ในสภาพที่มั่นคง แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการฝ่าฝืน แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อตัวคุณเอง” ซูเย่กล่าว
“ขอบคุณ นายไปได้แล้ว”
สวีหมินหมินยืนขึ้นทันที เธอนั่งลงที่หน้าจอคอมพิวเตอร์และเริ่มค้นหาข้อมูลของข่งอวี้โจว
ซูเย่ยกยิ้มเล็กน้อย หันหลังเดินจากไป และเดินทางกลับมหาวิทยาลัย
เมื่อกลับถึงหอพัก ซูเย่พลันเห็นว่าซูชือและจินฟานกำลังอารมณ์ไม่ดี