เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 74 ซูเย่ ลูกรักสวรรค์ขั้นสี่อันดับหนึ่ง!
บทที่ 74 ซูเย่ ลูกรักสวรรค์ขั้นสี่อันดับหนึ่ง!
เมื่อเห็นฉากที่ปรากฏเบื้องหน้า สายตาของทุกคนพลันหรี่ตามอง
ซ่งชิวอวี่ผู้ครองอันดับหนึ่งคิ้วขมวด
“คนนี้หนีออกไปแถบชานเมือง โดยปลอมตัวเป็นพนักงานทำความสะอาดในร้าน แต่ถูกผมจับได้”
เมื่อเห็นผู้บัญชาการทั้งหก ซูเย่ไม่แปลกใจเลย เขาเดินไปและโยนคนที่ถูกทำให้หมดสติไปทางผู้บัญชาการทั้งหก
“ทำได้ดีมาก”
เจียงซานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ข้อมูลของพวกคุณไม่ถูกต้อง”
ซูเย่เอ่ยเสริมทันที “คนนี้ฝึกสองอย่าง ทั้งเป็นผู้ใช้พลัง และผู้ฝึกยุทธ์ และความแข็งแกร่งของเขาไม่ใช่ขั้นห้าระดับสาม แต่เป็นขั้นห้าระดับสี่!”
หืม?
ทุกคนที่ได้ยินต่างแสดงสีหน้าตกใจ!
ลูกรักสวรรค์คนอื่น ๆ มองไปทางซูเย่อย่างไม่เชื่อสายตา พวกเขารู้สึกว่าภาพตรงหน้าดูไร้สาระและเกินจริงไปหน่อย!
ขั้นห้าระดับสี่? แถมยังฝึกฝนสองอย่าง ทั้งเป็นผู้ใช้พลังและเป็นผู้ฝึกยุทธ์?
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ระดับหนึ่งคนหนึ่ง สามารถจับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าระดับสี่งั้นเหรอ?
“เขาอยู่ขั้นห้าระดับสี่?”
เจียงซานและผู้บัญชาการอีกห้าคนก็ตกตะลึงกับรายงานของซูเย่ มองซูเย่ด้วยสายตาที่ต่างกันไป
แค่ตอนนั้นที่เขาเอาชนะยอดฝีมือขั้นห้าระดับหนึ่งที่สำนักเมฆาครามก็น่าตกใจมากพอแล้ว เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเอาชนะยอดฝีมือขั้นห้าระดับสี่ได้ เท่าที่พวกเขารู้ มีเพียงผู้อ อาวุโสคนนั้น ที่สามารถทำแบบนี้ได้ตอนขั้นสี่
ถึงแม้จะเป็นพวกเขา ลดระดับลงไปอยู่ที่ขั้นสี่ระดับหนึ่ง ก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้แน่
ขีดจำกัดของหมอนี่อยู่ที่ระดับไหนกัน?
“เป็นไปไม่ได้!”
ท่ามกลางกลุ่มคน มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ซ่งชิวอวี่!
เขาเดินตรงออกไปต่อหน้าทุกคน จ้องไปที่ซูเย่และพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
“นายอยู่แค่ขั้นสี่ระดับหนึ่ง จะจับยอดฝีมือขั้นห้าระดับสี่ได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ที่จะข้ามระดับเยอะขนาดนี้ แล้วอีกฝ่ายยังเป็นผู้ใช้พลังและผู้ฝึกยุทธ์อีก สถานการณ์แบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนมาช่วย ก็ต้องเป็นเพราะนายไปชุบมือเปิบมา!”
ทันทีที่อีกฝ่ายว่าจบ ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกว่ามีเพียงสถานการณ์แบบนี้เท่านั้นที่สมเหตุสมผล!
ทุกสายตาในที่เกิดเหตุจับจ้องไปที่ซูเย่และซ่งชิวอวี่ในทันที
“คุณไม่เชื่อก็เรื่องของคุณสิ”
ซูเย่กล่าวอย่างสบาย ๆ
“เชื่อหรือไม่ หลังการต่อสู้ก็รู้!”
ซ่งชิวอวี่มองไปที่ซูเย่ จากนั้นหันไปบอกผู้บัญชาการทั้งหกทันที “ผมขอท้าประลองกับซูเย่!”
ผู้บัญชาการทั้งหกมองหน้ากันทันที นัยน์ตายิ้มแย้ม และเข้าใจโดยปริยาย รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร พวกเขาต้องการดูว่าขีดจำกัดของขั้นสี่ระดับหนึ่งอย่างซูเย่อยู่ที่ไหนกันแน่ แ และซ่งชิวอวี่เป็นตัวเลือกในการทดสอบที่ดี!
“เธอว่ายังไง?”
เจียงซานหันไปถามซูเย่
ซูเย่เอ่ยอย่างขอไปที “ไม่สู้ได้ไหมครับ?”
ทุกคนผงะไป มีคนมาท้าประลองขนาดนี้แล้ว กลัวหรือยังไง
“ไม่ได้”
เจียงซานเค้นเสียงตอบ ไอ้เด็กนี่มันจริง ๆ เลย!
เจียงซานเอ่ยเสียงเย็น “เธอเป็นคนเดียวจากมหานครตะวันออก ห้ามทำขายหน้า”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดเหล่านั้น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และพวกเขาก็แยกย้ายกันไปทันที ผู้คนรอบ ๆ ได้แยกย้ายกันไปหมดแล้วและยกพื้นที่ให้เป็นสนามประลอง
“งั้นก็ลองดู”
เยี่ยนตี้ผู้บัญชาการมหานครเหนือของจีน ยืนขึ้นและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ซ่งชิวอวี่เป็นสมาชิกเขตมหานครเหนือ
“การท้าครั้งนี้ก็นับเป็นการจัดอันดับด้วย”
เจียงซานเอ่ยขึ้น
“ไม่มีปัญหา”
เยี่ยนตี้เอ่ยตอบรับ
เมื่อเห็นว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซูเย่จึงตกลงอย่างไร้หนทาง “งั้นก็มาเถอะ”
“ฉันยอมให้หนึ่งกระบวนท่า”
ซ่งชิวอวี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่เกรงใจนะครับ”
ซูเย่ก้าวไปข้างหน้าแล้วพุ่งตัวเข้าไปที่ด้านข้างของซ่งชิวอวี่
ซัดมือขวาออกไปเต็มแรง
ความเร็วนั้นรวดเร็วถึงขนาดที่ไปถึงเบื้องหน้าของคู่ต่อสู้ในทันที
สีหน้าของซ่งชิวอวี่เปลี่ยนไป แล้วเขาก็หลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
”หืม?”
ซูเย่มองไปทางซ่งชิวอวี่อย่างสนุกสนาน
ซ่งชิวอวี่เอ่ยหน้าตาย “การศึกไม่หน่ายกลอุบาย บอกว่าจะยอมให้หนึ่งกระบวนท่าก็เชื่อจริงเหรอ?”
“หึหึ”
ซูเย่ยิ้มเยาะ
“เหอะ”
คนอื่น ๆ ที่ดูอยู่ก็มองออกเช่นกัน เห็นได้ชัดว่ารับไม่ไหว เลยต้องหลบต่างหาก
“การแสดงจบแล้ว”
ซ่งชิวอวี่เอ่ยอย่างเย็นชา แล้วพุ่งตัวไปโจมตีในระยะประชิด ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดในทันที
ในตอนแรก การปะทะกันระหว่างทั้งสองค่อนข้างสงบ ราวกับเสมอกัน แต่เมื่อความเร็วในการปะทะกันเร็วขึ้นเรื่อย ๆ สถานการณ์เริ่มพลิกกลับ
ซ่งชิวอวี่มีฐานะเป็นอันดับหนึ่งอันดับรายชื่อ เขากลับถูกกดดันเล็กน้อย!
และเมื่อมาถึงระดับนี้ เมื่อถูกกดดันก็ยากที่จะชิงจุดได้เปรียบคืน!
ทว่า ทุกคนที่ดูอยู่ไม่แปลกใจ เยียนตี้ผู้บัญชาการมหานครเหนือก็ดูไม่ร้อนอกร้อนใจเลยแม้แต่น้อย แต่มองไปที่ฉากตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม
“ก็มีฝีมือดี แต่ก็แค่นั้นแหละ”
คำพูดของซ่งชิวอวี่ดังขึ้น
ทันใดนั้น เขาก็ดึงตัวออกจากการต่อสู้อันดุเดือด หลังจากห่างออกไปสักระยะหนึ่ง
โบกมือขวาของเขา ดาบพลังปราณสีรุ้งใสปรากฏขึ้นในมือของเขาทันที
“ดาบพลังปราณ!”
“พลังปราณแข็งแกร่งมาก”
“มันแข็งแกร่งกว่ากระแสปราณจากดาบที่ซูเย่เอาชนะเฝิงเจิ้งเสียอีก”
“หมอนี่ฝึกวิชาดาบโดยเฉพาะ เพื่อที่จะฝึกฝนวิชาดาบ เขาชอบปลีกตัวอยู่คนเดียว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เย็นชาขนาดนั้นหรอก”
“ฉันได้ยินมาว่าพลังต่อสู้ของซ่งชิวอวี่สามารถแสดงได้เต็มที่เมื่อเขาใช้ดาบเท่านั้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาถูกซูเย่กดดันในการต่อสู้ระยะประชิด ในที่สุดเขาก็จะแสดงพลังของเข ขาออกมาแล้วใช่ไหม?”
“ต่อไปซูเย่จะรับมือยังไง”
ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์การประลองครั้งนี้
ในสนาม
“ปราณดาบงั้นเหรอ”
ซูเย่มองดาบยาวในมือของซ่งชิวอวี่ แล้วยิ้มเยาะ “พอดีเลย ผมก็เป็นเหมือนกัน”
ซูเย่สะบัดมือขวา กระแสปราณไหลออกมาจากฝ่ามือ และพลังปราณจำนวนมากได้ไหล่บ่ามาจากทั่วบริเวณ รวมตัวกันเพื่อสร้างดาบปราณที่เฉียบคมอย่างหาที่เปรียบมิได้!
ดูแข็งแกร่งกว่าดาบพลังปราณของซ่งชิวอวี่! ทุกคนที่เห็นต่างตะลึงงัน พลังจากกระแสปราณของซูเย่ที่อยู่ขั้นสี่ระดับหนึ่งแกร่งกว่าซ่งชิวอวี่ขั้นสี่ระดับหกงั้นเหรอ!
ในร่างของเขามีพลังปราณมากมายเท่าไหร่กันแน่?
เกาหรงกวงที่ยืนอยู่กลางฝูงชนเผยรอยยิ้มออกมา
นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเห็นซูเย่ใช้ดาบพลังปราณ
ครั้งแรกคือตอนที่ต่อสู้กับจินซานไห่ ตอนนั้นซูเย่เพิ่งจะขั้นสามระดับห้า ยังไม่ถึงขั้นสี่เลยด้วยซ้ำ แต่สามารถใช้พลังปราณแปรรูปลักษณ์เป็นคมดาบได้แล้ว!
ผู้ที่สามารถใช้ดาบพลังปราณเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ระดับห้าได้ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอยู่แค่ระดับสามขั้นห้าจะพ่ายแพ้ในการต่อสู้ด้วยดาบงั้นเหรอ?
เขาเชื่อในตัวซูเย่
“ดาบพลังปราณ กระบวนท่าที่สาม!”
ซ่งชิวอวี่ยังตกใจกับดาบพลังปราณของซูเย่ เขาเปล่งเสียงตะโกนออกมา และเลือกใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาทันที
การต่อสู้ระยะประชิดทำให้เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งของซูเย่ ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะประมาท
การไหลเวียนของพลังปราณในร่างกายของเขา และความหนาวเย็นที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งที่ปะทุออกมาจากดาบยาวในมือ ทำให้แม้แต่พื้นดินใต้ฝ่าเท้าก็ถูกแช่แข็งในทันที
“อานม้าสีเงินส่องประกายบนม้าขาว พร่างพราวราว.. เห้อ ช่างมันเถอะ!”
ซูเย่สะบัดดาบในมือตามใจชอบ
“ตายซะ!”
เสียงคำรามที่แผ่ไอสังหารดังลั่นไปทั่วบริเวณ
ซ่งชิวอวี่จับด้ามดาบด้วยมือทั้งสองแล้วโจมตีอย่างดุเดือด บนคมดาบเปี่ยมด้วยไอน้ำแข็งสีเงินที่ปะทุขึ้นทันที เหมือนกับชั้นน้ำแข็ง แต่ก็บางเบาราวกับปีกของจักจั่น ทว่ามีแ แรงโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
“สลายไป!”
ซูเย่ตะโกนออกมา มือขวาสะบัดดาบออกไปรับการปะทะ
วินาทีที่ดาบปราณปะทะกัน ปราณดาบซ่งชิวอวี่กลับแยกออกเป็นสองท่อน แล้วสลายไปกลางอากาศ
สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือ ปราณดาบของซูเย่ยังไม่สลายไปแต่พุ่งไปโจมตีถึงเบื้องหน้าซ่งชิวอวี่ จนอีกฝ่ายกระเด็นออกไป
ฉากที่ปรากฏเข้าสู่สายตา ทำให้ทุกคนรวมถึงผู้บัญชาการทั้งหกต่างอึ้งค้าง
ซ่งชิวอวี่แพ้แล้ว และยังแพ้ด้วยวิชาดาบที่เขาถนัดมากที่สุด?
ทุกคนที่กำลังชมการประลองต่างเงียบงัน ลูกรักสวรรค์คนอื่น ๆ มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง พวกเขาไม่มีใครคิดว่าซ่งชิวอวี่จะเป็นฝ่ายแพ้ให้แก่ซูเย่!
คนที่เพิ่งขั้นสี่ระดับหนึ่ง สามารถไปชิงอันดับหนึ่งมาได้??
“นี่มันเกินไปแล้ว”
“นายเชื่อไหมว่า ที่หนึ่งจากขั้นสาม ขึ้นมาขั้นสี่ได้ไม่นานก็กลายเป็นที่อันดับหนึ่งของขั้นสี่?”
“ฮ่าฮ่า……”
เจียงซานหัวเราะเสียงดังลั่น แล้วก้าวขึ้นไปข้างหน้า “ดูเหมือนว่าคนจากเขตมหานครตะวันออกของเราจะแข็งแกร่งกว่า แจกจ่ายทรัพยากรครั้งหน้า เขตมหานครตะวันออกของเราก็ควรได้เยอะ กว่า”
ขณะที่พูด เขาก็จงใจเหลือบมองไปที่ผู้บัญชาการอีกห้าคนและเอ่ยเสริมพร้อมรอยยิ้มประดับหน้า “ก่อนหน้านี้เขตของฉันอ่อนแอ และไม่สามารถได้รับทรัพยากรได้มากนัก แต่สถานการณ์นี้ มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต”
ผู้บัญชาการอีกห้าคนหัวเราะ และมองไปที่ซูเย่ด้วยแววตาที่แปลกใจ จนตอนนี้แล้วพวกเขายังไม่สามารถทดสอบความสามารถที่แท้จริงของซูเย่ได้
ในการประลองเมื่อครู่เขาเปลี่ยนกระบวนท่าอย่างกะทันหัน ดูเหมือนว่าท่านี้ไม่ใช่กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่?
“การท้าทายจบลงแล้ว!”
เกาหรงกวงยืนขึ้นในเวลาที่เหมาะสม มองไปทางซ่งชิวอวี่ที่เพิ่งยืนขึ้นแล้วเอ่ยถาม “ซูเย่ได้รับการเลื่อนอันดับให้เป็นอันดับที่หนึ่ง ส่วนซ่งชิวอวี่ตกลงไปอันดับที่สอง มีข้อ อโต้แย้งอะไรไหม”
“ไม่มีครับ”
ซ่งชิวอวี่สลายกระแสปราณในมือ พลางจ้องไปทางซูเย่ สีหน้าของเขาดูหดหู่ใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความเย็นชาเอาไว้ แล้วหันหลังกลับเข้าแถว
เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึก
ซ่งชิวอวี่พ่ายแพ้!
ความสามารถของซูเย่น่ากลัวกว่าที่พวกเขาคิดไว้! ไม่อย่างนั้น ซ่งชิวอวี่คงไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงอันดับด้วยความเต็มใจเช่นนี้แน่
“แยกย้าย”
เกาหรงกวงเอ่ยสั่ง
……
สิบนาทีต่อมา
อันดับรายชื่อมีการอัพเดตใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตารางจัดอันดับลูกรักสวรรค์ขั้นสี่ตลอดสองวันที่ผ่านมาได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน
พวกเขาต่างอยากรู้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรใน 50 อันดับแรกของคนที่ขึ้นชื่อว่าเก่งที่สุด
ในขณะนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนที่เห็นการอัพเดตล่าสุดของลูกรักสวรรค์ขั้นสี่ต่างตกตะลึง
‘ผู้ฝึกยุทธ์ขึ้นสี่ระดับหนึ่ง ซูเย่เป็นอันดับแรก?’
‘ซูเย่กลายเป็นที่ 1 แล้ว? หากไม่ใช่เพราะเกิดความผิดพลาดในการจัดอันดับนี้ คนที่ชื่อซูเย่นั้นคงแข็งแกร่งมาก ขั้นสี่ ระดับหนึ่ง ก็สามารถทะยานไปอยู่ในอันดับที่หนึ่งได้? เข ขาเอาชนะซ่งชิวอวี่ได้? ใครสามารถบอกฉันได้บ้าง สองคนนี้ไปประลองกันตอนไหน???’
มีคนโพสต์ภาพหน้าจออันดับของลูกรักสวรรค์ขั้นสี่ลงในบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม
‘ซูเย่ได้เป็นอันดับหนึ่งของลูกรักสวรรค์ขั้นสี่!!’
การแชร์ข่าวด่วนนี้ทำให้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามทุกคนตะลึงค้าง
‘นี่มันยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว ซูเย่เพิ่งเลื่อนขึ้นไปนานแค่ไหนเอง ตอนนี้กลายเป็นอันดับหนึ่งของขั้นสี่ไปแล้ว?’
‘ขั้นสี่ระดับหนึ่งได้ครองอันดับหนึ่ง พลังต่อสู้ของหมอนี่ช่างน่ากลัวจริง ๆ!’
‘บ้าจริง พวกเราก็ฝึกเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมคนอื่นเขาเจ๋งได้ขนาดนี้ รู้สึกว่าแตกต่างไปจากพวกเรามากเกินไป’
‘ตอนที่เขาเป็นอันดับหนึ่งในตารางอันดับขั้นสาม ฉันก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ คิดไม่ถึงว่าเขาจะชิงที่หนึ่งของขั้นสี่มาได้อีกภายในเวลาไม่นาน”
พี่น้องหลายคนในแชตกลุ่มของซูเย่ได้ติดตามข่าวสารบนเว็บบอร์ดเสมอ พวกเขาได้ส่งต่อภาพหน้าจอไปยังกลุ่มแชททันทีที่พวกเขาเห็นโพสต์
เมื่อทุกคนเห็นข้อความ และเห็นชื่อของซูเย่ที่ด้านบนสุดของตารางอันดับขั้นสี่ ทุกคนก็ส่งข้อความคุยกันอย่างตื่นเต้นทันที
‘เจ๋งเป้ง ลูกพี่ซูสุดยอด!’
‘แข็งแกร่งเกินไปแล้ว’
‘สมแล้วที่เป็นลูกพี่ซูของพวกเรา’
ระหว่างที่คนอื่น ๆ กำลังชมเชยซูเย่ ซูชือและจินฟานเข้ามาอ่านพอดี จึงพิมพ์ข้อความพร้อมแท็กชื่อซูเย่
‘@ซูเย่ ผิดมนุษย์มนา!’
จินฟานเองก็กดคัดลอกข้อความของซูชือแล้วส่งไป
‘@ซูเย่ ผิดมนุษย์มนา!’
เมื่อพี่น้องคนอื่น ๆ เห็นแล้ว ทุกคนก็คัดลอกข้อความเดียวกันแล้วส่งไป
ในหัวใจของพวกเขา ไม่มีคำอื่นใดที่จะบรรยายถึงลูกพี่ซูได้ดีเท่านี้อีกแล้ว ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจผิดมนุษย์มนาเกินไปแล้ว!
ซูเย่ที่กำลังนั่งอยู่ในรถบัส ได้ยินข้อความแจ้งเตือนวีแชทจากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขา เมื่อหยิบออกมาก็เห็นข้อความในแชทกลุ่ม เขาอ่านไปแล้วแย้มยิ้มเล็กน้อย
จากนั้นแชร์ตำแหน่งไปในกลุ่มแชททันที
‘อย่าลืมมาให้ตรงเวลา!’
หลังจากนั้นผู้จัดการของกลุ่มแชทก็กดห้ามส่งข้อความ ก่อนศึกใหญ่ ต้องเงียบไว้!
……
เวลาสี่ทุ่มครึ่ง
36 อันดับแรกในการจัดอันดับล่าสุด มาถึงด้านนอกแดนลับโดยการนำของผู้บัญชาการหกคนและเกาหรงกวง