เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 87 เกลี้ยกล่อมให้ตัวท็อปการสอบระดับประเทศเรียนแพทย์
บทที่ 87 เกลี้ยกล่อมให้ตัวท็อปการสอบระดับประเทศเรียนแพทย์
“ขั้นแรก เป็นหมอรู้แจ้ง”
“ขั้นสอง นำกระแสด้วยการค้นหาติดเทรนด์ กระตุ้นให้ทุกคนอยากรู้อยากติดตามแพทย์แผนจีน โดยเฉพาะตอนนี้เพิ่งสอบเสร็จ”
“เดินไปทีละก้าว เยี่ยมยอดใช้ได้นี่”
เจียงซานชี้เอกสารบนโต๊ะที่ซูเย่วางไว้ และถามด้วยความฉงน
“แต่เมื่อกี้บอกว่าขั้นที่สี่เหรอ?”
“แล้วขั้นที่สามล่ะ”
ซูเย่ยิ้มด้วยท่าทีลึกลับ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ขั้นที่สาม รอให้คะแนนสอบออกมาก่อน ที่บอกล่วงหน้าเพราะต้องการให้คุณร่วมมือด้วย”
“ลึกลับซะด้วย”
เจียงซานไม่ได้จี้ถามว่าขั้นที่สามคืออะไร เพียงแต่พลิกดูเอกสารขั้นที่สี่ที่ซูเย่ยื่นมาให้ด้วยความแปลกใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “แต่กลยุทธถือว่ารัดกุมมาก ฉันคาดหวังพอสมควร”
พอมองดูดี ๆ
[แผนอบรมทิศทางแพทย์แผนจีนรวมถึงแผนรับสมัครแพทย์แผนจีนในวงกว้าง]
หืม?
เจียงซานผงะ ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่ซูเย่ต้องการทำทันที
เขารีบอ่านต่อ
แผนอบรมทิศทางแพทย์แผนจีน… รับสมัครนักศึกษาแพทย์แผนจีนเรียนฟรีให้กับประเทศ เฟ้นหาจากชนบท คนที่เรียนสาขาแพทย์มาอยู่แล้วรับทันที ไม่เก็บค่าเล่าเรียน
ตอนที่แหล่งเฟ้นหามีจำนวนไม่พอ โควต้าที่ยังไม่ครบให้รับสมัครผ่านแผนอาสา โดยเริ่มรับจากคะแนนสูงไล่ไปยังคะแนนต่ำ จนกระทั่งครบโควต้า
ก่อนนักศึกษาแพทย์คะแนนสูงทุนเต็มจำนวนจะได้หนังสือแจ้งรับเข้าเซ็นสัญญา ‘ข้อตกลงทิศทางอบรมและการประกอบอาชีพ’ กับฝ่ายอนามัยที่ดูแลพื้นที่ตรงนั้นอยู่ และแผนกช่วยเหลือสังคมที่จ จัดหาทรัพยากรทำงาน
หลังจากนักศึกษาแพทย์ทุนเต็มจำนวนเข้าเรียนแล้ว ให้ขึ้นทะเบียนบ้านในพื้นที่เดิม หลังจากเรียนจบแล้วค่อยโยกทะเบียนไปยังที่ทำงานที่กำหนดไว้
เอกลักษณ์ : เรียนฟรี รับประกันที่ทำงาน!
อ่านมาถึงตรงนี้
ตาของเจียงซานเป็นประกายเจิดจรัส
แผนนี้สุดยอด!
นักเรียนในเมืองไม่ค่อยอยากเข้าเรียนสาขาแพทย์เพราะพวกเขาอยู่ในครอบครัวที่อำนวยความสะดวกสบาย สามารถเลือกสาขาที่ดีกว่าและลำบากน้อยกว่าได้ คนที่สมัครเข้าสาขาแพทย์แผนจีนจึงมี น้อยมาก
ส่วนนักเรียนในชนบทอยากเรียนหมอแต่ใช้เวลาเรียนนาน ค่าเทอมทั้งห้าปีนั้นสูง ต่อให้อยากเรียนก็ต้องคำนึงถึงค่าเทอมและปัญหาการทำงานในอนาคต คนที่สมัครเข้าเรียนแพทย์แผนจีนจริง ๆ จึงมีไม่มากเช่นกัน
ส่งผลให้การรับสมัครนักศึกษาแพทย์แผนจีนนั้นลำบากมาก
แต่แผนของซูเย่ในตอนนี้มีเป้าหมายที่แม่นยำ เข้าหานักเรียนชนบทโดยตรง
แก้ปัญหาค่าเล่าเรียนของนักเรียนชนบทและปัญหาการทำงานของเขาได้อย่างไร้ที่ติ ขณะเดียวกันก็แก้ปัญหาการพัฒนาแพทย์แผนจีนได้อีกด้วย!
เรียกได้ว่าล้ำเลิศ!
“เธอเป็นคนคิดเหรอ?” เจียงซานถามอึ้ง ๆ
“ใช่ครับ”
ซูเย่พยักหน้า
เจียงซานพลันนึกอะไรขึ้นได้ เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถาม “ตอนที่ฉันบอกนายว่าต้องฟื้นฟูแพทย์แผนจีน นายก็คิดได้แล้วใช่ไหม”
ซูเย่ยิ้มบาง ๆ
เจียงซานสะท้านไปทั้งตัว รอยยิ้มเจ้าหมอนี่มีเลศนัย คิดได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วจริง ๆ ด้วย!
เจ้านี่มันเป็นปีศาจมาจากไหนกัน ตอนนั้นเขาแค่พูดเพื่อให้กำลังใจ ให้ตั้งใจเรียนหมอ แต่อีกฝ่ายกลับมีแผนรับมือแล้วเหรอ!
ซูเย่บอก “แผนนี้ต้องการความร่วมมือ หลังจากแผนขั้นที่สามของฉันเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นที่สี่ต้องรีบตามขึ้นมาทันที มิฉะนั้นจะไม่สามารถรับสมัครคนให้มากขึ้นได้”
“ตอนนี้ตัวแปรไม่แน่นอนที่ใหญ่ที่สุดของเราคือไม่รู้ว่าทางการจะตกลงไหม?”
ซูเย่มองเจียงซานเพื่อรอคำตอบ
“วางใจได้!”
เจียงซานพยักหน้าอย่างรู้หน้าที่ และพูดด้วยสีหน้าขึงขัง “แผนนี้ฉันจะเป็นคนรายงานขึ้นไปเอง ส่วนอีกแผนที่ว่ารับสมัครเป็นวงกว้างในนักเรียนมัธยมปลายนั้นอยู่ในแผนอยู่แล้ว แต่ ถ้าประกาศรับสมัครนักเรียนมัธยมปลายในวงกว้างแล้วกลับไม่มีคนสมัคร ได้หน้าแตกแน่”
“นั่นแหละความสำคัญของขั้นที่สาม” ซูเย่ยิ้มลึกลับ
ที่จริงขั้นที่สามของเขาง่ายมาก
นั่นก็คือพลังของชื่อเสียง!!
ซูเย่เตรียมเรียกบรรดาตัวท็อปมาเรียนหมอ ตอนกรอกอาชีพที่ต้องการ หากเหล่าตัวท็อปที่สื่อมากมายให้ความสนใจประกาศว่าจะสอบเข้าสาขาแพทย์แผนจีน ต้องได้ผลลัพธ์พอ ๆ กับลูกระเบิดแ แน่
แต่จะชิงตัวท็อปจากมหาวิทยาลัยสองแห่งอย่างชิงหวาและจิงเป่ยยังไง ต้องมาวางแผนกันดี ๆ
“ได้!”
เจียงซานพยักหน้า พร้อมกล่าว “เรื่องนี้ลุยเต็มที่ได้เลย ส่วนด้านหวังห่าวก็ไม่ต้องกังวลแล้ว หยกปราณในการช่วยชีวิตเขาถูกจัดเตรียมไว้แล้ว
“ใจปล้ำนี่” ซูเย่พยักหน้า
หยกปราณวันละหนึ่งพันชิ้น
ยอมเอาออกมารักษาชีวิตของหวังห่าวโดยไม่อิดออด เป็นการพิสูจน์ในความเชื่อใจที่ทางการมีให้ตัวเอง
และเขา…ก็จะไม่ทำให้ความเชื่อใจนี้ต้องเสียเปล่า!!!
คืนนั้น
ข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับการสอบระดับประเทศดุเดือดมาก
ภายใต้อำนาจเงิน #สอบเข้าสาขาแพทย์แผนจีน ยังคงยืนหยัดอยู่บนอันดับสามของการค้นหาติดเทรนด์
แต่การค้นหาติดเทรนด์เกี่ยวกับ ‘ซูเย่ได้เป็นหมอรู้แจ้ง’ ระดับร่วงลงไปเยอะ กระเด็นออกจากสิบอันดับแรกไปแล้ว
ส่วนหัวข้อที่ติดเทรนด์การค้นหาอันดับหนึ่งก็กลายเป็น #ผลสอบสอบระดับประเทศออกพรุ่งนี้
ชั่วขณะนั้น
ตัวท็อปจากแต่ละมณฑลของปีนี้จะได้คะแนนเท่าไหร่กันนะ
พวกเขาจะเลือกชิงหวาหรือจิงเป่ย
แล้วสองมหาวิทยาลัยนี้จะใช้ลูกไม้อะไรบ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งตัวท็อป
หัวข้อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคะแนนสอบระดับประเทศท่วมท้นไปทั่วโลกออนไลน์
วันรุ่งขึ้น
คะแนนสอบระดับประเทศออกอย่างเป็นทางการ
คล้อยหลังจากประกาศคะแนนสอบระดับประเทศเรียบร้อย ตัวท็อปจากทุกพื้นที่ในประเทศพากันปรากฏตัว
ซูเย่รีบใช้เส้นสายในกองสืบสวนเพื่อขอข้อมูลของตัวท็อปประเทศในแต่ละพื้นที่
ก่อนจะพบว่าตัวท็อปสายวิทย์จากมณฑลฉีคือรุ่นน้องตัวเองตอนมัธยมปลาย!
“มีวาสนากันขนาดนี้เชียว ถ้าอย่างนั้นเธอนี่แหละคนแรก!”
“พอดีเลยได้กลับฉีหยวน จะได้เอาไขกระดูกหินไปให้พ่อด้วย ให้เขาได้เพิ่มพูนพลัง”
ซูเย่รีบจองตั๋วรถไฟกลับเมืองจี้หยวน
กลับมาถึงเมืองจี้หยวน
ซูเย่ไม่ได้รีบกลับบ้าน กลับมายังหน้าสำนักงานรับสมัครนักศึกษาของชิงหวาและจิงเป่ย
ทั้งสองที่อยู่ใกล้กันมาก ให้ความรู้สึกเหมือนจะประลองกันนิดหน่อย
ไม่นานนัก
ตัวท็อปสาวก็เดินออกจากสำนักงานรับสมัครนักศึกษาพอดี
“ไช่เสี่ยวฉี”
ซูเย่เดินเข้าไปหยุดอีกฝ่ายไว้
เธอเป็นเด็กสาวในชุดนักเรียน ไว้ผมยาวตรงดกดำ น่ารักแม้จะไม่แต่งหน้า
“หืม”
เมื่อได้ยินว่ามีคนเรียกตัวเอง ไช่เสี่ยวฉียืนนิ่งและมองซูเย่
“ซูเย่?”
พอเห็นซูเย่ ไช่เสี่ยวฉีก็พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “รุ่นพี่ ไอดอลนี่!”
ไอดอล?
ซูเย่ตาเป็นประกาย ไม่พูดพร่ำทำเพลง ยิงตรงเข้าประเด็น
“ยินดีด้วยเรื่องเป็นตัวท็อป มาสอบเข้าที่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางสิ”
ไช่เสี่ยวฉีผงะ รุ่นพี่มารับสมัครนักศึกษาเหรอเนี่ย?
“ไม่!”
ไช่เสี่ยวฉีส่ายหัวอย่างเด็ดขาดพร้อมกล่าวยิ้ม ๆ “ฉันมีมหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากเข้า เพราะฉะนั้นต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอรุ่นพี่อย่าถือสา”
“ฉันเป็นไอดอลของเธอไม่ใช่เหรอ”
“ใช่แล้ว ไอดอล”
ไช่เสี่ยวฉีพยักหน้าด้วยท่าทีจริงจังก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไอดอลก็คือไอดอล กินแทนข้าวไม่ได้สักหน่อย ฉันจะไปเรียนการเงินและเศรษฐศาสตร์ จะได้หาเงินเยอะ ๆ”
ซูเย่ “……”
พูดได้มีเหตุผลมากเลยนี่!
แต่รู้สึกแปลก ๆ ดูเหมือนเพิ่งจะเริ่มก็ท่าไม่ดีซะแล้ว
เด็กผู้หญิงคนนี้หน้าตาใสซื่อไม่มีพิษภัย แต่ดูจากสิ่งที่แสดงออกมาแล้วเป็นคนเยือกเย็นสุด ๆ เลยล่ะ
“เรียนแพทย์แผนจีนก็หาเงินเยอะ ๆ ได้ เหมือนฉันนี่ไง” ซูเย่ไม่ยอมล้มเลิก
“โอกาสน้อยเกินไป แทบจะมองข้ามไปได้เลยแหละ”
ไช่เสี่ยวฉีส่ายหัว พูดด้วยท่าทางรังเกียจเล็กน้อย “พี่ไม่เคยได้ยินเหรอ?”
“อะไร” ซูเย่ฉงน
“เกลี้ยกล่อมให้ผู้อื่นเรียนหมอต้องโดนฟ้าผ่าลงทัณฑ์”
ไช่เสี่ยวฉีมองซูเย่และพูดอย่างจริงจัง
ซูเย่ “……”
“แต่เรียนหมอช่วยชีวิตคนได้ เป็นการพิสูจน์ค่าของเรานะ” ซูเย่สู้ต่อ
“รุ่นพี่เป็นไอดอลของฉันนะคะ”
ไช่เสี่ยวฉีมองซูเย่อย่างดูถูกพร้อมเอ่ย “นี่มันยุคไหนกันแล้ว ยังจะใช้คำพูดดูดีแบบนี้มาบังคับหลอกเด็กด้วยคุณธรรมอีก”
“อีกอย่าง พ่อฉันความดันสูงมาสิบกว่าปีแล้ว หาแพทย์แผนจีนมาก็เยอะ หมอเก่าหมอแก่ หมอดัง และโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนดัง ๆ เราไปมาหมดแล้ว รักษาไม่ได้เลย แพทย์แผนตะวันตกก็ไม่ได ด้”
“แค่โรคเล็กน้อยแค่นี้หมอยังรักษาไม่ได้ ฉันจะเรียนแพทย์แผนจีนไปทำไม สู้หาเงินเยอะ ๆ แล้วให้พ่อฉันได้เข้ารับการรักษาในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ ใช่มั้ยคะไอดอล”
ซูเย่ยิ้ม
กลัวแค่อีกฝ่ายไม่มีสิ่งที่ต้องการนี่แหละ!
ถ้ามีสิ่งที่ต้องการก็ง่าย
“ถ้าฉันรักษาพ่อเธอจนหายล่ะ?”
ซูเย่ถามยิ้ม ๆ “เธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางไหม?”
ไช่เสี่ยวฉีปฏิเสธทันควัน “ไม่สอบ”
ซูเย่ผงะ “ทำไมล่ะ”
เจ้าเด็กนี่ทำไมผิดวิสัยขนาดนี้!
“เรื่องหาเงินสำคัญที่สุด ฉันจะหาเงินเยอะ ๆ ฉันจะเป็นเศรษฐี!”
ไช่เสี่ยวฉีกล่าว “อย่างมากถึงตอนนั้นฉันจะเสียเงินจ้างคนที่เก่งกว่าพี่มารักษา นอกจากจะรักษาหายแล้วยังมีเงินมากกว่าด้วย”
ยัยนี่
ตกลงไปในหลุมเงิน ๆ ทอง ๆ หรือไง!
“เธอมั่นใจเหรอว่าเธอจะหาเงินได้เยอะแยะในอนาคต”
ซูเย่พูดแทงใจดำอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยขึ้น “แต่ละปีล้วนมีตัวท็อป จนกระทั่งบัดนี้ถึงแม้พวกเขาจะมีชีวิตที่ไม่เลว แต่เธอเคยเห็นพวกเขาหาเงินได้มหาศาลรึยัง”
ไช่เสี่ยวฉีผงะ
“เธอลองคิดดูดี ๆ สิ คนที่หาเงินได้เยอะ ๆ จริง ๆ ไม่ใช่พวกตัวท็อปเลยใช่ไหม?” ซูเย่ค่อย ๆ ล่อลวงทีละก้าว
“เหอะ ๆ อย่ามาเกลี้ยกล่อมหลอกล่อฉันดีกว่า”
ไช่เสี่ยวฉีพยักหน้า “ต่อให้ฉันหาเงินเยอะ ๆ ไม่ได้ แต่ถ้าฉันจบจากมหาวิทยาลัยชิงหวาหรือจิงเป่ยก็หางานที่เงินเดือนสูงได้ แน่นอนว่าต้องสูงกว่าจบจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยา างอยู่แล้วค่ะ! เพราะฉะนั้น…..”
“เงินเดือน?”
ซูเย่กล่าวยิ้ม ๆ “หลังจากเธอเรียนจบแล้ว เงินเดือนที่ได้ต่อปีจะถึงห้าแสนไหม?”
ไช่เสี่ยวฉีขมวดคิ้ว
ห้าแสนสำหรับเธอถือว่าเยอะมาก
คงไม่ถึงหรอกมั้ง…
“ฉันให้เธอหนึ่งล้าน!”
ซูเย่พูดทันที “สอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง จบในอีกห้าปีแล้วเข้าบริษัทของฉันได้เลย ฉันให้เงินเดือนเธอรวมแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านต่อปี และเซ็นสัญญาสิบปีกับเธอ น นอกจากนั้นฉันจะรักษาพ่อเธอจนหายป่วยด้วย คิดว่ายังไง”
สิบปี?
ปีละล้าน???
ไช่เสี่ยวฉีชะงัก เธอมองซูเย่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือออกไปพลางกล่าว
“สัญญาล่ะคะ ถึงแม้ฉันจะเชื่อใจในตัวไอดอล แต่พูดปากเปล่าไม่มีหลักฐานยืนยันย่อมทำให้รู้สึกไม่สบายใจ”
ซูเย่เหนื่อยใจกับรุ่นน้องสาวที่มีสติเยือกเย็นอยู่ตลอดจริง ๆ
“รอก่อน”
เขาหยิบมือถือออกมาโทรหาข่งอวี้โจว
ไม่นานนักสัญญาก็ถูกแฟกซ์เข้ามา!
“ดูท่าเงื่อนไขดีมากจริง ๆ”
ไช่เสี่ยวฉี่อ่านจบแล้วถามด้วยรอยยิ้มพอใจ “แต่ฉันจะรู้ได้ยังไงคะว่าบริษัทของพี่จะไม่ล้มละลายปิดตัวในช่วงห้าปีที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัยอยู่”
“รุ่นน้อง นี่จงใจใช่ไหม?” ซูเย่ยิ้มเฝื่อน ๆ
“ฉันแค่คาดเดาตามหลักเหตุผลนะคะ” ไช่เสี่ยวฉีพูดอย่างได้ใจ
“แต่ฉันรู้ว่าเภสัชกรรมกู่เต๋อกับมหาวิทยาลัยภายใต้แพทย์แผนจีนจี้หยางมีข้อตกลงเรื่องซัพพลายเออร์กันค่ะ ดูแล้วบริษัทไม่เจ๊งหรอก”
“ไปกันเถอะค่ะ ขอดูก่อนว่าพี่รักษาพ่อฉันหายไหม แล้วค่อยคุยเรื่องสัญญากัน”
จู่ ๆ ซูเย่ก็รู้สึกว่าตัวเองต้องคอยตามฝีเท้าของรุ่นน้องคนนี้
และตัวเองก็เดินตามหมากที่เธอวางไว้โดยไม่รู้ตัว!
YOU MAY ALSO LIKE
