เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 89 พ่อซูพัฒนาแบบก้าวกระโดด
บทที่ 89 พ่อซูพัฒนาแบบก้าวกระโดด
“อะไรน่ะ?!” พ่อซูประหลาดใจ
ตอนเขาเพิ่งถึงก็เห็นซูเย่ยืนกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ข้างถังใบใหญ่ ยังนึกอยู่เลยว่าเจ้าเด็กนี่จะทำอะไรไม่ดีรึเปล่า คิดไม่ถึงว่าเขาเอาของดีมาให้ตัวเอง
“มาดูสิครับ” ซูเย่เปิดฝาถังให้พ่อซูดู
“ยางพารา?”
เมื่อเห็นของในถัง พ่อซูชะงักไป ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นมาและเอ่ย “จะทำหมอนยางพาราเหรอ หรือฟูกยางพารา บอกมาตามตรงนะ กลับมาครั้งนี้แกจะสร้างวีรกรรมอะไรอีก”
“นี่? ยางพารา?”
ซูเย่หมดคำจะพูด “พ่อครับ พ่อต้องหาความรู้เพิ่มหน่อยนะครับ! นี่คือของล้ำค่าที่ช่วยให้ผู้ฝึกปราณล้างกระดูก ล้างชีพจร ไขกระดูกหินครับ!”
“หา” พ่อซูสะท้านไปทั้งตัว ใบหน้าฉายแววตะลึงถึงขีดสุด เขาผลักซูเย่ออกอย่างแรง มองของสีขาวขุ่นในถังอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“นี่คือของเหลวจากไขกระดูกหินเหรอ”
“ของแบบนี้มีแค่ในตำนานไม่ใช่หรือไง?”
“แกไปเอามาจากไหน!”
พ่อซูเงยหน้ามองซูเย่ด้วยความทึ่งพร้อมเอ่ยถาม
“เฮ่ะ ๆ”
ซูเย่ยิ้มอย่างได้ใจ ก่อนจะตอบ “ผมขโมยมาจากกองสืบสวนครับ”
“อะไรนะ?”
พ่อซูตกใจมาก รีบหันมองรอบ ๆ กลัวใครจะเห็น พร้อมกล่าว “แกนี่เก่งกล้าสามารถเชียวนะ ของจากกองสืบสวนยังกล้าขโมย รีบเอาคืนไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าลูกเพื่อผดุงค คุณธรรมแล้วนะ”
“เดี๋ยวสิครับ ผมเป็นลูกพ่อนะ”
ซูเย่พูดอย่างเหนื่อยใจ “นี่พ่อจะขายผมแล้วเหรอครับ”
“ลูกชายไม่สำคัญ จะพาลพาเมียฉันลำบากไปด้วยไม่ได้!”
พ่อซูกล่าวอย่างอาจหาญ
“พ่อ ผมไม่ได้อัดเสียง พ่อไม่ต้องแสดงความภักดีหรอกครับ” ซูเย่ชูนิ้วโป้งให้พ่อซู
พ่อซูจริงจังขึ้นมา “บอกมาตามตรงนะ ไปเอาของแบบนี้มาจากไหน”
“วางใจเถอะครับ ผมได้มาด้วยความสามารถ ไม่ผิดกฎหมาย”
ซูเย่บอกยิ้ม ๆ
“ไม่ผิดกฎหมายจริงเหรอ?” พ่อซูยิ้ม
“ใช่” ซูเย่พยักหน้าอย่างแน่วแน่
พ่อซูถึงผ่อนคลายลงได้จริง ๆ เขามองของเหลวจากไขกระดูกหินที่อยู่เต็มถัง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำ “ของดีขนาดนี้ ต่อให้ผิดกฎหมายก็ต้องเอา!”
ซูเย่ “……”
พ่อซูถาม “ใช้ยังไงล่ะ?”
“กระโดดเข้าไปครับ”
ซูเย่ชี้ไปที่ถังใบใหญ่
พ่อซู “……”
ถึงแม้การมาแช่น้ำในป่าในเขาจะไม่ค่อยสุภาพจริง ๆ แต่ด้วยความเย้ายวนของไขกระดูกหิน พ่อซูก็ยังใจกล้าหน้าด้านกระโดดเข้าไปในถังต่อหน้าซูเย่ เหลือเพียงหัวอยู่ข้างนอก
“พ่อครับ ทนให้ไหวนะครับ” ซูเย่ตะโกนเสียงดัง
เขาเพิ่งจะพูด
พ่อซูก็อัดอั้นจนหน้าแดงก่ำ ความเจ็บปวดจากทั่วร่างกายส่งผลให้หยาดเหงื่อเม็ดใหญ่พรั่งพรูออกมาจากหัวของเขา
ราวกับรู้ว่าต้องปวด พ่อซูไม่พูดอะไรสักคำ กัดฟันทนไว้
ซูเย่จริงจังขึ้นมา เรียกพลังจิตอันแกร่งกล้ามาเพื่อตรวจดูสภาพร่างกายของพ่อ
กลับพบว่าแม้จะฝืนทนความเจ็บปวดอยู่ตลอด แต่ของเหลวจากไขกระดูกก็ยังไม่อาจแทรกซึมเข้าไป
“หืม” ซูเย่ขมวดคิ้ว
เกิดอะไรขึ้น?
เขารีบเอื้อมมือไปจับไหล่ของพ่อเพื่อตรวจดูอาการภายใน
เสี้ยววินาทีนั้น ซูเย่สั่นไปทั้งตัว สีหน้าอึมครึมลง
เขาพบว่าตันเถียนของพ่อมีร่องรอยของการซ่อมแซมจากการแตกร้าว!
หรือก็คือตันเถียนของพ่อเคยแหลกมาก่อน!
ต่อให้ตอนนั้นไม่ได้แหลกถึงขั้นละเอียด แต่ก็ร้ายแรงมาก
ทว่าหลังจากนั้นไม่รู้ทำไม ถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่ซ่อมได้ไม่สมบูรณ์
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พ่อยังอุตส่าห์ฝึกปราณได้ถึงขั้นสี่ระดับสอง
ซูเย่มองพ่อตัวเองอึ้ง ๆ เขาคิดไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายฝึกปราณด้วยตันเถียนแตกร้าวจนถึงขั้นนี้ได้ ต้องผ่านความเจ็บปวดมากมายขนาดไหน
“เกิดอะไรขึ้น” พ่อซูพบว่าสีหน้าซูเย่ไม่ค่อยดี เขากัดฟันกล้ำกลืนความเจ็บปวดแสนสาหัสและถาม
“ไม่มีอะไรครับ” ซูเย่คลี่ยิ้ม
พ่อผ่านอะไรมากันแน่?
ชายหนุ่มข่มความสงสัยไว้ และลงมืออย่างเด็ดขาด!
เขาแยกปฐมปราณกำเนิดที่ไม่ได้มากมายในกายตัวเองออกมาส่วนหนึ่ง และถ่ายทอดเข้าไปในร่างของพ่อ
เมื่อพบว่ามีพลังจากภายนอกแทรกซึมเข้ามา พ่อซูสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลังจากพบว่าเป็นซูเย่ ถึงหายระแวง
และพยายามให้เข้าคู่กับซูเย่
เขาอยากเห็นว่าลูกชายตัวเองคิดจะทำอะไร
ซูเย่ควบคุมให้ปฐมปราณกำเนิดแทรกซึมเข้าไปในตันเถียนของพ่อโดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น
ด้วยฤทธิ์อันแรงกล้าของไขกระดูกหิน ภายใต้การบำรุงเยียวยาจากปฐมปราณกำเนิด ตันเถียนที่แตกร้าวฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
เวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาที
ตันเถียนที่ไม่รู้ว่าแหลกมานานเท่าไหร่แล้วก็กลับมาเป็นปกติอย่างสมบูรณ์
คล้อยตามที่ตันเถียนถูกซ่อมแซม พลังแกร่งกล้าสายหนึ่งปะทุออกจากตันเถียนพ่อซูฉับพลัน
ในถัง ของเหลวจากไขกระดูกหินรอบ ๆ เริ่มเดือดพล่านขึ้นมา ซอกไซเข้าไปตามเลือดเนื้อของพ่อซูอย่างบ้าคลั่ง
ตู้ม!
ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น
ซูเย่ตะลึง
ขั้นสี่ระดับสาม?
เพิ่งซ่อมตันเถียนเสร็จพ่อก็บรรลุถึงขั้นสี่ระดับสามแล้วเหรอ?
หรือนี่คือการปะทุของรากฐานที่สั่งสมมานาน?
ตู้ม ๆๆ…..
ยังไม่จบอีกหรือนี่!
เสียงบรรลุดังขึ้นติดต่อกัน คลื่นจากพลังปราณแต่ละชั้นในอากาศระเบิดกระจายไปรอบ ๆ
ขั้นสี่ระดับสี่ ขั้นสี่ระดับห้า ขั้นสี่ระดับหก!
บรรลุจนถึงขั้นห้า!
ยังไม่หยุด!
ขั้นห้าระดับหนึ่ง ขั้นห้าระดับสอง!
จนกระทั่งขั้นห้าระดับสามถึงได้หยุดลง!
เวลานั้น ไขกระดูกหินในถังใหญ่ถูกดูดกลืนจนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
ฟู่ว!
เขาพ่นลมหายใจขุ่น ๆ ออกมา
พ่อซูลืมตาและลุกพรวดขึ้น
“แกไปเจอปฏิหาริย์อะไรมา?” พ่อซูจ้องซูเย่ และถามด้วยสีหน้าตะลึง
“ปฏิหาริย์ยิ่งใหญ่มากเลยล่ะครับ ใครฟังเป็นต้องอึ้งตายแน่” ซูเย่บอกยิ้ม ๆ สายตาฉายแววทึ่ง พ่อบรรลุเร็วมาก ดูท่าหลายปีมานี้ไม่ได้อยู่ว่างเลยนะ!
“เฮอะ”
พ่อซูแค่นเสียง พูดอย่างลำพองใจ “เจ้าเด็กเมื่อวานซืนขั้นสี่ระดับสาม ต่อให้เจอะเจอปฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่มาขนาดไหนแกก็ไล่ตามพ่อแกไม่ทันหรอก”
ซูเย่ยิ้มน้อย ๆ “ผมจะไม่ปิดบังนะครับ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันผมเพิ่งจะล้มยอดฝีมือที่มีทั้งพลังเหนือธรรมชาติและพลังปราณอยู่ที่ขั้นห้าระดับสี่มา!”
พ่อซู “…..”
สายตาฉายแววตะลึงอย่างมาก
ก่อนจะเบี่ยงประเด็น “ไปกันเถอะ กลับบ้านกินข้าว เดี๋ยวแม่แกจะรอนานจนร้อนใจ!”
ซูเย่หัวเราะเฮ่ะ ๆ
ทั้งสองคนวิ่งพรวดพราดกลับบ้านตาม ๆ กัน
พ่อซูพบว่าตัวเองไม่อาจไล่ตามความเร็วของเจ้าซูเย่ได้
หรือที่เจ้าลูกชายพูดเมื่อกี้คือความจริง?
……
กินข้าวเสร็จ
ติ๊ง
ซูเย่ได้รับข้อความ
ไช่เสี่ยวฉีเป็นคนส่งมา
พอเขาเปิดดูก็เห็นแค่สี่คำ ‘มาเอาสัญญา’
ซูเย่บอกลาพ่อซูแม่ซูและบอกว่าจะกลับมหาวิทยาลัยแล้ว ก่อนจะรีบมุ่งหน้าไป
“ขอบคุณพี่นะคะที่ช่วยแม่ฉันไว้”
เมื่อเจอกันที่หน้าโครงการ ไช่เสี่ยวฉีเดินเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉันตัดสินใจแล้วค่ะว่าจะเอาอย่างพี่”
“ไอดอลอย่างฉันไม่ได้เป็นง่าย ๆ นะ” ซูเย่บอกยิ้ม ๆ
“ไอดอล อีกห้าปีฉันจะมีวิชาแพทย์เก่งกาจได้เท่าพี่ไหมคะ?” ไช่เสี่ยวฉีถามด้วยสีหน้าเปี่ยมความหวัง
“ยาก” ซูเย่ส่ายหัว
“ก็ดี”
ไช่เสี่ยวฉีหัวเราะ และเอ่ยขึ้น “อีกสามปีพี่รอดูแล้วกัน”
เธอโยนสัญญาที่เซ็นชื่อเรียบร้อยให้ซูเย่ และหันหลังเดินจากไป
ซูเย่ผงะ
“รุ่นน้องคนนี้ กล้าหาญชาญชัยดีจริง ๆ”
แต่เขาเห็นความมุ่งมั่นที่จะพยายามเรียนแพทย์จากสายตาของไช่เสี่ยวฉีจริง ๆ
จะหาเงินเยอะ ๆ เพื่อพ่อแม่ และจะตั้งใจเรียนแพทย์เพื่อพ่อแม่ เป็นเด็กดีจัง!
“เอาล่ะ จัดการไปได้หนึ่งคนแล้ว”
เขาเก็บสัญญา
ซูเย่เปิดดูข้อมูลที่สืบมาได้ก่อนหน้านี้
ครั้งนี้ เขาตั้งใจจะขุดตัวท็อปที่ได้รับความสนใจสูงสุดสามคน
มีเพียงข่าวที่ทั้งสามคนนี้ล้วนสมัครสอบแพทย์แผนจีน ถึงจะปะทุไปทั่วประเทศประหนึ่งเป็นลูกระเบิดได้
“คนที่สอง เซ่หยั่น”
“ชอบเล่นเกมแฟนตาซีดรีม ตัวท็อปสอบระดับประเทศมณฑลซู บ้านอยู่ที่เมืองเจียงซี”
ซูเย่กำหนดเป้าหมายที่สองได้ทันที
เขาตรงไปที่เมืองเจียงซี
เพิ่งมาถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัย
ซูเย่ก็ได้พบเซ่หยั่นที่กำลังเดินออกจากโรงเรียน
เขาเป็นเด็กนักเรียนสายกีฬา หัวเกรียน รูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางดูทะมัดทะแมง
“เซ่หยั่น” ซูเย่เรียกจากที่ไกล ๆ
เซ่หยั่นมองซูเย่ด้วยสายตาฉงนแต่ไกล
เมื่อเห็นโฉมหน้าของซูเย่ ตาเขาก็เป็นประกายทันที
“ซูเย่?”
เขาพุ่งเข้ามา และพูดด้วยน้ำเสียงอึ้ง ๆ “ไม่ผิดแน่ เป็นคุณจริง ๆ ท่านเทพเจ้าเวรกรรม คุณเป็นไอดอลระดับเทพของผมในเกมแฟนตาซีดรีมนะครับ ผมคิดว่าผมตาฝาดไปซะอีก”
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อยและถาม “เรื่องมหาวิทยาลัย นายมาเรียนกับฉันเป็นไง?”
“ได้สิครับ!”
เซ่หยั่นดีใจจนกระโดดโลดเต้น พร้อมกล่าว “ผมอยากเกาะบารมีคุณมานานแล้วครับ แต่ไม่มีโอกาสเลย คุณพบว่าผมมีพรสวรรค์ด้านเกมแฟนตาซีดรีมถึงได้มาหาผมใช่ไหมครับ หลังจากนี้ผมจะเป็น นลิ่วล้อของเจ้าเวรกรรม!”
ซูเย่ชะงัก
รู้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจผิด
เขารีบบอก “นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันหมายถึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง เป็นศิษย์น้องของฉัน”
หน้าตาเซ่หยั่นนิ่งงันไป ก่อนจะถามอย่างสงสัย “มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางใช้เกณฑ์คะแนนไหนครับ”
“เกณฑ์ที่หนึ่ง 211”
ซูเย่ตอบ
“ไม่ใช่มั้ง พี่ซู”
เซ่หยั่นมองซูเย่ด้วยสีหน้าตะลึง “ผมเป็นตัวท็อปสายวิทย์ระดับมณฑลเลยนะครับ คุณจะให้ผมไปเรียนมหาวิทยาลัยเกณฑ์หนึ่งธรรมดาเหรอ”
“เอ่อ….” ซูเย่อึดอัด
“แต่จะเข้ามหาวิทยาลัยไหนผมก็ไม่เกี่ยง”
เซ่หยั่นยักไหล่ หัวเราะเฮ่ะ ๆ “ไอดอลมาหาถึงที่ขนาดนี้ ผมต้องให้เกียรติอยู่แล้วครับ แต่พ่อแม่ผมจะให้เกียรติคุณไหมผมก็ไม่รู้ คุณต้องทำให้พวกเขายอมตกลงก่อน”
ซูเย่ตอบทันควัน “พาฉันไปพบพวกเขา”
“ไปกันครับ” เซ่หยั่นพยักหน้าและพาซูเย่กลับบ้านด้วยกันทันที
…..
ภายในห้องรับแขกในบ้านธรรมดาของโครงการหมู่บ้านธรรมดา
“มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนธรรมดาเกณฑ์หนึ่ง? 211 แบบธรรมดาน่ะเหรอ”
พ่อแม่ของเซ่หยั่นนั่งอยู่บนโซฟา มองซูเย่ด้วยใบหน้างุนงง
“ใช่ครับ”
ซูเย่พยักหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้น “ผมหวังว่าพวกคุณจะยอมให้เซ่หยั่นสมัครสอบมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางครับ”
“ไม่ได้!”
พ่อเซ่ทั้งส่ายหัวทั้งโบกมือ “ลูกชายฉันคะแนนดีขนาดนี้ ไปเรียนมหาวิทยาลัยเกณฑ์หนึ่งธรรมดาเสียดายไปหน่อย ต้องไปเรียนชิงหวาหรือจิงเป่ยสิถึงจะถูก! ฉันไม่คัดค้านถ้าเขาจะเรียนแพทย์ แต่ต่อให้เรียนแพทย์ก็ต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยการแพทย์ที่ดีกว่านี้สิ จะไปเรียนมหาวิทยาลัยธรรมดา ๆ ได้ยังไง?”
“ใช่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด!” แม่เซ่ปฏิเสธซูเย่หัวชนฝา
“คุณอา คุณน้า”
ซูเย่กล่าว “มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางนี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้วครับ ‘รายการอนาคตแพทย์แผนจีน’ เป็นการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนชื่อดังที่แท้จริง การที่มหาวิทยาลัย ยแพทย์แผนจีนจี้หยางได้อันดับหนึ่ง ก็เป็นการพิสูจน์แล้วครับว่ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางเป็นมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนที่ดีที่สุดของประเทศ”
“ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้!”
ทั้งสองยังคงคัดค้านพร้อมกล่าว “เธอไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ยังไงลูกชายของฉันก็ต้องพัฒนาขึ้นที่สูง ไม่มีทางไปเรียนมหาวิทยาลัยธรรมดาแบบนั้นหรอก”
“นายอยากเรียนแพทย์แผนจีนไหม?” ซูเย่มองเซ่หยั่น
เซ่หยั่นพยักหน้า “สนใจอยู่บ้างครับ”
ซูเย่หันมองพ่อเซ่แม่เซ่อีกครั้ง “พวกท่านยินยอมให้เขาเรียนหมอไหมครับ?”
“จะว่ายอมก็ยอม ฉันเคารพความต้องการของเขา แต่ต้องไปมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนที่ดีที่สุด ให้เขาได้รับการศึกษาด้านแพทย์แผนจีนที่ดีที่สุด”
ทั้งสองกล่าว
“มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางให้การศึกษาด้านแพทย์แผนจีนที่ดีที่สุดกับเขาได้ครับ!” ซูเย่พูดทันควัน
เริ่มแผนการรุกได้
“ถ้าเขาจบจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางแล้วผมให้เงินเดือนเขารวมแล้วหนึ่งล้านต่อปีล่ะครับ?”
“หืม”
พ่อแม่ของเซ่หยั่นชะงัก
“หลังจากจบจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางแล้วไปทำงานที่บริษัทของผมครับ รายได้หนึ่งล้านต่อปี เซ็นสัญญาสิบปีครับ”
ซูเย่พูดพลางหยิบสัญญาที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา ก่อนจะวางบนโต๊ะให้พ่อแม่ของเซ่หยั่นดู
“เซ็นสัญญาตอนนี้ได้เลยครับ”
ซูเย่ยิ้มขณะที่พูดกับพ่อแม่ของเซ่หยั่น “บริษัทของผม พวกท่านลองเสิร์ชในเน็ตดูได้เลยครับ”
“นอกจากนั้น…..”
เมื่อเห็นพ่อแม่ของเซ่หยั่นยังลังเลอยู่ ซูเย่กล่าวต่อ “หลังจากเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแล้ว ผมรับประกันว่าเซ่หยั่นจะได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์จีน หลี่เคอ อหมิงครับ”
“หลี่เคอหมิงเป็นลูกศิษย์ดีเด่นของหนึ่งในสิบปรมาจารย์แพทย์แผนจีนระดับประเทศ ฮัวเหรินเชิงครับ หนึ่งในแพทย์แผนจีนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของประเทศ เขาจะสอนสั่งลูกชายของท่านด้ว วยความใส่ใจ มหาวิทยาลัยไหน ๆ ก็ทำข้อนี้ไม่ได้ครับ”