เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 599-1 บทสรุปตอนกลาง
คุณพ่อหลินพูดจบจึงค่อยรับโทรศัพทแ
เป็นหลินซือหรานพอดีเลย
เขาลากกระเปาเดินทางช้าๆ พลางพูด “ลูกสาวที่รัก อย่ากังวลไป พ่อกําลังจะไปหาหร่านหร่าน…วางใจได้ คุณพ่อ เป็นคนแบบนั้นเหรอ! รอก่อน ใกล้ถึงแล้ว…”
เขาพูดแล้วเงยหน้ามองไปทางกลุ่มคนและเฉิงเหราฮั่น “ขออนุญาตผ่านหน่อย ฉันต้องรีบไปแล้ว
เหล่าผู้บริหารระดับสูงมองหน้ากัน สักพักบางคนก็สติ หลุดไป ในใจร้องคร่ําครวญ
วัคซีนตัวใหม่ของโลกอยู่ในมือของคน B502 เหล่านั้น
คนมากมายของตระกูลเฉิงต้องการพึ่งพวกเขาเพื่อเอาใจ ผู้คน พึ่งพวกเขาเพื่อเสถียรภาพของตัวเอง
ตอนนี้คุณพ่อหลินจะไปแล้ว
แล้วอย่างนี้ตระกูลเฉิงอย่างพวกเขาจะเอาอะไรมาเอาใจ ผู้คนล่ะ!
จะเอาอะไรไปอธิบายกับพวกไฮโซเศรษฐีในเมืองหลวง ได้!
เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นกะทันหันเกินไปแล้ว
เฉิงเหราฮั่นและคนของสถาบันวิจัยทุกคนสติหลุดไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน ในที่สุดคนของสถาบันวิจัยที่อยู่ด้านข้าง ก็ติดต่อหมายเลขนักเรียนคนหนึ่งขององคแกรทางการแพทยแ ภายในประเทศ “คุณชายใหญ่ ฉันติดต่อหมายเลยองคแกรทาง
การแพทยแแล้ว! ก่อนหน้านี้นักเรียนพวกนี้เป็นนักเรียนของ ฉัน”
ได้ยินเสียงนี้ ทุกคนหันมาทางนี้หมด เฉิงเหราฮั่นได้สติ กลับมาทันที พูดอย่างตื่นตระหนก “เร็ว ถามเขาเลยว่านี่มัน เกิดเรื่องอะไรขึ้น!”
ทุกคนมองตัวเอง สถาบันวิจัยเปิดลําโพงทันที
“อาจารยแ?” นักเรียนจากโทรศัพทแอีกฝั่งพูดอย่างสงสัย
สถาบันวิจัยถามออกไปทันที น้ําเสียงอ่อนโยนแต่ปิดบัง ความวิตกไว้ไม่อยู่ “เสี่ยวซู องคแกรทางการแพทยแเกิดปัญหา ขึ้นเหรอ ตอนนี้ทําไมข้อมูลที่พูดคุยกันไว้แล้วเมื่อคืนถึงยังไม่ มีข่าว คุณชายใหญ่ยังรออยู่นะ”
“คุณพูดถึงเรื่องนี้เหรอ” เสี่ยวซูที่อยู่อีกฝั่งนิ่งไปแล้วส่าย หน้า “พวกคุณไม่ต้องไปคิดถึงแล้ว ถ้าหากเป็นไปได้ ควรไป ขอโทษรุ่นพี่เฉิงดีกว่า บางทีอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลง”
“พวกคุณไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญา ตลอดเวลาสถาบันวิจัย ของพวกเราทุ่มเทความพยายามมากมายเพื่อวัคซีนนี้ ถ้าเป็น แบบนี้ ต่อจากนี้โอกาสร่วมมือของพวกเราจะต้องน้อยลง
เรื่อยๆ แน่นอน…” เฉิงเหราฮั่นรับสายโทรศัพทแด้วยความคิด มากมาย
เสี่ยวซูไม่รู้ต้องอธิบายด้วยน้ําเสียงแบบไหน สักพักจึง รู้สึกแปลกไป “ร่วมมือ? ใครจะร่วมมือกับพวกคุณล่ะ ไม่ใช่ว่า พวกคุณทําอะไรผิดมาเหรอ”
“อะไรนะ” เฉิงเหราฮั่นได้ยินคําพูดของเสี่ยวซู ก็รู้สึกได้ ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
ตามที่คาดการณแไว้ คําพูดต่อไปของเสี่ยวซูทําลายสิ่งที่ เขาคิดไว้โดยสมบูรณแ “องคแกรทางการแพทยแไปร่วมมือกับ ใครตอนไหน แต่อาจารยแของแต่ละห้องปฏิบัติการขององคแกร
ทางการแพทยแช่วยวิเคราะหแข้อมูลการทดลองงานวิจัยภายใต้ ชื่อของรุ่นพี่เฉิง รุ่นพี่เฉิงเป็นทายาทคนถัดไปขององคแกรทาง การแพทยแของพวกเรา ไม่อย่างนั้นคุณหาดูสิ ทั่วโลกจะมีใคร ที่มีอํานาจให้คนของทั่วทั้งองคแกรทางการแพทยแลงมือได้แบบ นี้ พวกคุณบ้าไปแล้วเหรอ”
เสียงของเสี่ยซูเบาลง สมองของทุกคนในที่นี้ถึงกับหนาว เย็น
“นายน้อยสามเขา…”
“เป็นไปได้ยังไง!”
ทุกคนอุทานอย่างตกใจ คนขององคแกรทางการแพทยแที่ เหลือ ที่แทบจะยืนอยู่เหนือสุดของอุตสาหกรรมทาง การแพทยแ ยังมีผู้นําอีกคนของตระกูลเฉิงที่สามารถ เปรียบเทียบได้อีกเหรอ
โทรศัพทแวางสาย ทั่วทั้งบริเวณไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ทุกคนต่างมองไปทางเฉิงเหราฮั่นอย่างเงียบๆ
“คุณชายใหญ่ นักข่าวข้างนอกมาอีกแล้ว!” มีคนรีบเข้า มาจากด้านนอก
เฉิงเหราฮั่นเพียงเงยหน้าอย่างว่างเปล่า มองเฉิงเวินหรู ด้วยสายตาอ้อนวอน “น้องสอง…
เฉิงเวินหรูส่ายหน้า เธอมองเฉิงเหราฮั่นแล้วถอนหายใจ เห็นได้ว่าเป็นความผิดพลาดที่พ่อของเธอตั้งชื่อที่มี ความหมายว่า ‘ให้อภัย’ กับเฉิงเหราฮั่น เขาเห็นแก่ตัวเกินไป จนตอนนี้มองสถานการณแไม่ออกเลย
อย่าว่าแต่คนอื่นเลย กู้ซีฉือและเฉิงเจวี้ยนที่มี ความสัมพันธแอย่างเหนียวแน่นมากยังเดาออกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ ง่าย
ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ของเมืองหลวงไม่ใช่ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ อย่างเมื่อก่อนแล้ว แต่เฉิงเหราฮั่นยังไม่เข้าใจจุดนี้เลย เอาแต่ คิดว่าตระกูลเฉิงเป็นหลักของตระกูลใหญ่ทั้งสี่จึงไม่ได้สนใจ ผู้อื่น อันที่จริงเรื่องอื่นที่เขาทําไม่มีปัญหา แต่เขาไม่น่าไปแตะ ต้องฉินหร่านเลย
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรที่เมืองหลวง เฉิงเจวี้ยนไม่ เคยลงมือกับตระกูลเฉิงเลย
ใครจะไปคิดว่าเป็นเพราะเธอ ที่ทําให้เฉิงเจวี้ยนต้องจงใจ ลงมือกับตระกูลเป็นครั้งแรกในที่สุด
“ฉันบอกคุณไปตั้งนานแล้ว ว่าต้องให้อภัยซึ่งกันและกัน คุณต้องขอบคุณที่คุณเป็นลูกชายของคุณพ่อที่มาถึงจุดนี้ได้ ทั้งสื่อ ทั้งไฮโซมากมายในเมืองหลวงที่รอวัคซีนพรุ่งนี้ จะ จัดการยังไงคุณพูดเองนะ” เฉิงเวินหรูมองเฉิงเหราฮั่นอย่าง เย็นชา แล้วหันตัวจากไปทันที
เธอยังกังวลเรื่องไวรัสของฉินหร่าน กังวลงานวิจัยวัคซีน ตอนนี้จึงไม่ค่อยใส่ใจตระกูลเฉิงนัก
หลังจากเฉิงเวินหรูจากไป เฉิงเหราฮั่นพูดอะไรไม่ออก ในใจวิตกกังวลสุดๆ เขาก้าวถอยหลังอย่างตกใจ
หลายคนที่อยู่ด้านข้างเร่งเร้าเขา
“คุณชายใหญ่ ทําไงดี”
“คุณชายใหญ่ สื่อโทร.มาอีกแล้ว…”
คุณชายใหญ่…”
“…”
ลิ้นที่ยุ่งเหยิงของเฉิงเหราฮั่นแห้งผาก
สักพัก ดวงตาของเฉิงเหราฮั่นเปล่งประกาย เขาตัดสินใจ แล้วจึงโบกมือ “ไปติดต่อคุณหนูสอง พบนายน้อยสามที่ไหน พวกเราไปวิงวอนอ้อนขอนายน้อยที่สามและคุณฉิน!”
**
ที่คฤหาสนแ
แสงไฟสว่างไสว
เฉิงหั่วที่รออยู่ด้านนอกมองเฉิงมู่ เขาไม่รู้สึกเลยว่ามีคน นอกบุกรุกที่คฤหาสนแอีก “คฤหาสนแโดยทั่วไปมีคนเฝูายาม”
เฉิงมู่จอดรถ สายตาของเขามองเฉิงหั่วอย่างลึกซึ้งและ ยากที่จะคาดเดาแล้วส่ายหน้า “พี่ไม่เข้าใจ ฉันหมายถึงคน นอกที่บุกรุกเข้ามาคฤหาสนแ”
“เฉิงเสี่ยวมู่ นี่นายกําลังดูอะไรอยู่เนี่ย” เฉิงหั่วหงุดหงิด ถ้ายังไม่หยุดพูดจะลงมือแล้ว
เฉิงจินห้ามเฉิงหั่ว
เฉิงหั่วหันหน้า “เฉิงจิน นายอย่าห้ามฉัน วันนี้ฉันจะต้อง แสดงให้เขาเห็นว่าอะไรเป็นอะไร!”
“ไม่ใช่…” เฉิงจินกระแอม เขาลดเสียง “ฉันกลัวว่านาย จะสู้เขาไม่ได้”
เฉิงหั่ว “…”
ให้ตายสิ
ในคฤหาสนแเงียบมาก
สุดทางถนนหินกรวดไม่มีคนใช้มาเปิดประตูล่วงหน้า เงียบจนผิดสังเกต
เฉิงเจวี้ยนและฉินหร่านเดินเป็นแถว กู้ซีฉือตามหลังฉินห ร่าน กําลังโทรศัพทแกับหัวหน้าองคแกรทางการแพทยแ คนอื่นๆ ตามมาข้างหลัง
เฉิงเจวี้ยนผลักประตูเปิดอย่างใจเย็น
ห้องโถงชั้นหนึ่งของคฤหาสนแใหญ่มาก จึงเห็นร่างคนที่ ยืนอยู่กลางห้องโถงได้อย่างชัดเจน
เขาหันหลังให้ประตูราวกับมองดูภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ กําแพง ตัวสูง ขาวทั้งตัวเมื่อมองจากด้านหลัง ราวกับมีหมอก ควันรายล้อมอยู่รอบตัว
คนใช้และพ่อครัวทั่วทั้งคฤหาสนแถูกกักตัวไว้ด้านข้าง ถูก ชายชุดดําที่ดูไม่คุ้นหน้าถือมีดที่ดูเปื้อนเลือดจ่อที่คอ
เหมือนจะได้ยินเสียง ร่างที่อยู่ตรงกลางหันมองมาคนที่ เข้ามา พูดด้วยท่าทีสงบนิ่งเสียงใส “กลับมาแล้ว”
พวกเฉิงสุ่ยที่ตามหลังเฉิงเจวี้ยนเข้ามามองใบหน้าคนคน นั้น แววตาเปลี่ยนไป
แม้ว่าจะเคยพบกันเพียงครั้งเดียวที่รัฐ M เฉิงมู่ก็จําได้ดี เขาพูดเสียงเบา “นั่นนายท่านหยางไม่ใช่เหรอ เขามาอยู่ที่นี่ ได้ยังไง”
“ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งหมดนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิด” เฉิงจินหรี่ตา “เฉิงมู่และจระเข้ยักษแจะหยุดยั้งหยางซูเยี่ยน ง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไงกัน”
เฉิงสุ่ยและเฉิงจินระมัดระวังตัว แล้วติดต่อโทรศัพทแ อย่างเงียบๆ
กู้ซีฉือไม่รู้จักหยางซูเยี่ยน เขาหยุดคุยโทรศัพทแกับ หัวหน้าแล้วมองเฉิงเจวี้ยนอย่างสงสัย และมองเฉิงสุ่ย
เฉิงสุ่ยลดเสียงลง พูดเสียงเบากับกู้ซีฉือด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณกู้ นั่นคือผู้นําของสมาพันธแใต้ดิน…”
คนอื่นๆ ไม่ต้องให้เฉิงสุ่ยพูดถึง
อยู่ในรัฐ M แค่มีอํานาจและเครือข่าย ต่างก็รู้ว่า สมาพันธแใต้ดินคืออะไร
โดยเฉพาะคนที่สนิทสนมกับแมทธิวอย่างกู้ซีฉือ
รู้ดีว่านี่คืออาชญากรชั่วช้าที่ต้องการจับตัวเป็นอันดับต้น ที่แมทธิวปวดหัวสุดๆ
ได้ยินคําพูดของเฉิงสุ่ย กู้ซีฉือสูดหายใจเข้าลึกอย่างยาก ที่จะเชื่อ “ทําไม รุ่นพี่ของฉันและเสี่ยวหร่านเอเอรแไปก่อเรื่อง อะไรให้เขา”
เฉิงสุ่ยส่ายหน้าไม่พูดต่อ
เพียงปูองกันหยางซูเยี่ยนราวกับเผชิญหน้ากับศัตรู
เฉิงสุ่ยมองเฉิงเจวี้ยน “นายท่าน!”
เขารอคําสั่งจากเฉิงเจวี้ยน
ในขณะเดียวกัน ทุกคนที่ตามหลังเฉิงเจวี้ยนต่างปูองกัน ตัว ที่เมืองหลวงบ้านเมืองมีกฎหมาย แต่หยางซูเยี่ยนยัง สามารถจับตัวคนในคฤหาสนแไปได้ล่วงหน้าก่อน
แสดงให้เห็นว่า อํานาจในประเทศของเขาไม่ด้อยเลย
อย่างไรก็ตาม เหนือความคาดหมายของคนอื่น เฉิง เจวี้ยนก้มหน้าพูดกับฉินหร่านอย่างไม่เร่งรีบ “ฉันจะให้พ่อ ครัวจัดเตรียมโจ฿กทรงเครื่องไว้ให้เธอ”
ฉินหร่านไม่ค่อยอดทนนัก เธอขมวดคิ้ว “เนื้อตุเน”
“ได้” เฉิงเจวี้ยนพยักหน้า เขาหันมองไปทางพ่อครัวที่ถูก มีดจ่อที่คอ พูดขึ้นอย่างสงบ “ได้ยินว่าไม่มี คืนนี้คุณหนูฉิน อยากกินโจ฿กทะเล”
“รับทราบ นายน้อยสาม” พ่อครัวฟังจบจึงรีบหยิบสมุด บันทึกเล่มเล็กออกมาจากกระเปาเสื้อ ตามด้วยหยิบปากกา ดําออกมา จดบันทึกโจ฿กทะเลลงอย่างจริงจังและเคร่งขรึม
ชายชุดดําที่ถือมีดในมือจ่อพ่อครัว “…”
พ่อครัวจดเสร็จ จึงมองฉินหร่านอย่างเอ็นดูแล้วถาม อย่างสุภาพ “คุณหนูฉิน คุณมีอย่างอื่นอยากให้ฉันบันทึกอีก ไหม”
ฉินหร่านมองพ่อครัวด้วยท่าทีเรียบนิ่ง
คิดว่าพ่อครัวคนนี้มีพรสวรรคแ
เฉิงสุ่ยและกู้ซีฉือซ่อนใบหน้าที่สับสนมองพ่อครัว
สีหน้าหยางซูเยี่ยนไม่เปลี่ยนเลย หันสายตาจากเฉิง เจวี้ยน ไปที่ใบหน้าฉินหร่านแล้วยิ้มเล็กน้อย ด้วยท่าทีราวกับ ครั้งแรกที่ฉินหร่านพบเขาเมื่อหลายปีก่อน เขาพูดเสียงเบา “หร่านหร่าน กลับไปกับฉัน”
“ให้คุณบงการเธออีกครั้งน่ะเหรอ” เฉิงเจวี้ยนหันข้าง มองหยางซูเยี่ยนเล็กน้อย
เขาจัดคอเสื้อที่ยับเล็กน้อยของฉินหร่าน ตอบอย่าง เชื่องช้า “ไม่ได้”
“ฉันรู้สึกผิดแล้ว หลังมีข่าวการตายของคุณเผยแพร่ ออกมา ฉันก็รู้สึกเสียใจจริงๆ” หยางซูเยี่ยนระงับความ เลือดร้อนภายในใจ แต่สายตายังคงลึกล้ํามากขึ้น เขามอง ฉินหร่านอย่างสนใจ “คุณเคยพูดว่าพวกเราเป็นสหายที่ดี ที่สุด ฉันมอบความไว้วางใจให้คุณได้เสมอ”
ความไว้วางใจอะไร
ขวางหูขวางตา
ขวางหูขวางตาจริงๆ
เฉิงเจวี้ยนไม่ทนฟังเรื่องพวกนี้
เขาขมวดคิ้วหันหน้าทันที “หยางซูเยี่ยน นี่คือเหตุผลที่ คุณกระตุ้นไวรัสในร่างกายเธอเหรอ”
หยางซูเยี่ยนมองเฉิงเจวี้ยนลึกซึ้งแล้วพูด “เฉิงเจวี้ยน คุณก็รู้นี่ว่าในร่างกายเธอมีไวรัส ฉันมียายับยั้งในมือ มีแค่ฉัน ที่ช่วยเธอได้ มอบฐานทัพครึ่งหลังของสมาพันธแใต้ดินรัฐ M ให้คุณ ทั้งหมดนี้เป็นของคุณเลย”
มือของเฉิงเจวี้ยนที่จับฉินหร่านนิ่งไป
เลือดในกายพลุ่งพล่าน
นี่คือเหตุผลที่สองวันนี้เขาไม่ได้ลงมือกับหยางซูเยี่ยนเลย
ด้านหลังเขา กู้ซีฉือไม่พูดต่อ เพียงมองเฉิงเจวี้ยนอย่าง กังวล
ไวรัส Y3 วัคซีนตัวใหม่ที่ออกมาจากสถาบันวิจัยทําขึ้น เพียงเพื่อปูองกันเชื้อไวรัสชั่วคราว กู้ซีฉือจึงไม่รู้ว่าพวกเขา ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะสามารถวิจัยตัวที่ยับยั้งการ ทํางานไวรัส Y3 ออกมาได้อย่างสมบูรณแ
อาจจะเร็วๆ นี้ หรืออาจจะอีกนาน
ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าฉินหร่านจะรอได้ถึงตอนนั้นรึเปล่า
“คุณ…” เฉิงเจวี้ยนเงยหน้า ความสงบและอ่อนโยนใน ดวงตาช่วงนี้ได้หายไปอย่างสมบูรณแ เหลือเพียงสายตาเย็น เยือก ที่เย็นลงเรื่อยๆ ถึงฝุามือ
เขาเคยมีส่วนร่วมงานวิจัยไวรัสทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่กี่วันนี้หนังสือไวรัสของสถาบันวิจัยถูกเขาเปิดดูจน หมด
ในตอนนี้ เขาได้ยินหัวใจเต้นทุกครั้ง
เขาเองเป็นพยานในการเสียชีวิตของนายท่านเฉิง
ทางนั้นชีพจรหยุดลงเชื่องช้า ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ ปิดลง จากนี้ไปโลกนี้จะไม่มีร่องรอยของคนคนนี้อีก ราวกับ ไม่มีอยู่แล้ว