เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 601 ส่วนเสริมของเจวี้ยนหร่าน 1
ที่คฤหาสน์ตอนเช้าเฉิงมู่ถือพลั่วดีเยี่ยมไร้ที่ติยืนอยู่แปลงดอกไม้ด้านนอก มือไพล่หลังมองทัศนียภาพของตัวเองเฉิงเจวี้ยนมอบพื้นที่วงหนึ่งในคฤหาสน์ให้เขา ให้เขาใช้ ทดลองโดยเฉพาะตอนที่คนรับใช้พาเฉิงเวินหรูเข้าไป ทันใดนั้นก็เห็นท่าทีที่ น่าแปลกใจนี้ของเฉิงมู่“เขา…กำลังทำอะไรอยู่น่ะ” เฉิงเวินหรูนิ่งไปคนใช้ย่อตัวด้วยความเคารพ “คุณเฉิงมู่กำลังสังเกต วัตถุ”เฉิงเวินหรู “…??”บ้าบอสิ้นดี“คุณเฉิงมู่บอกว่าฉันไม่เข้าใจหรอก” คนใช้ก้มหน้าอีก ครั้งเฉิงเวินหรู “…”เฉิงเวินหรูเดินเข้าไปยังห้องโถง คนรับใช้รินชาร้อนให้ เธอ“พวกเฉิงจินล่ะ” เฉิงเวินหรูหันมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็น พวกเฉิงจินเลย“พวกคุณเฉิงจินยังต้อนรับแขกอยู่”ได้ยินคนใช้พูดเช่นนี้ เฉิงเวินหรูไม่กล้าถามต่อแล้วว่าไป รับแขกคนไหน นึกถึงงานวิวาห์ที่ผ่านมาเมื่อวานและหัวหน้า หน่วยกับหัวหน้าหน่วยที่สองที่นั่งพิจารณาชีวิตอยู่ที่ประตู ทางเข้าตระกูลเฉิงหลังจากที่ไปรัฐ M ครั้งล่าสุด เธอจึงรู้สึกได้ว่าพวกเฉิง เจวี้ยนและเฉิงจินไม่ธรรมดา…“น้องชายสามของฉันและหร่านหร่านยังไม่ตื่นเหรอ” เฉิงเวินหรูรับชามาแล้วหันมองไปที่ด้านบนคนรับใช้พยักหน้าเล็กน้อยไม่พูดจาเฉิงเวินหรูเอนพิงโซฟา ขมวดคิ้ว เฉิงเจวี้ยนที่มีวินัยกับ ตัวเองเป็นพิเศษ ทุกหกโมงเช้าต้องตื่นไปวิ่งอยู่เป็นประจำจน เคยทำให้เฉิงเวินหรูคิดว่าเขาเป็นเครื่องจักรเครื่องจักรมนุษย์ในที่สุดก็มีวันนี้จนได้ด้านบนแสงแดดสลัวบางเบา มีเพียงแสงสาดส่องเข้ามาจาก ช่องว่างเพียงเล็กน้อยมีอำนาจหลายแห่งในเมืองหลวง หลายตระกูลถูกแทนที่ ใหม่ ช่วงนี้ฉินหร่านยุ่งมากกับแผนงาน B ของสถาบันวิจัย ฟิสิกส์และต้องดูแลฟ่งเจิ้นป๋อ และลู่จือสิงที่รอเธออยู่ที่สกุล ฉินอย่างคับแค้นใจแต่งงานแล้วเธอต้องเจียดเวลาที่จะออกมาวันที่สองของการแต่งงาน เธอตื่นนอนตอนหกโมงด้วย ความงุนงงแต่ยังไม่ได้ลุกขึ้น แค่ปลุกคนที่อยู่ด้านข้าง ไฟในห้องยัง ดับอยู่ทั้งห้องจึงมืดสนิท ดูเหมือนว่าคนด้านข้างจะตื่นแล้ว จึงรวบตัวเธอจากด้านหลังมากอดไว้แน่น “ตื่นแล้ว…”“อืม…” ฉินหร่านพูดขึ้น “สถาบันวิจัย…”คนด้านข้างค่อยๆ ดึงผ้าห่มออกแล้วหัวเราะเสียงเบา “… ลาพักร้อนสักหน่อยจะเป็นอะไรไป”กระนั้น…ไม่นานนักก็ผ่านมาสิบเอ็ดโมงแล้วฉินหร่านคลุมเสื้อคลุม แล้วค่อยเดินตามหลังเฉิงเจวี้ยน ลงไปด้านล่าง ทันใดนั้นก็เห็นเฉิงเวินหรูที่นั่งดื่มชาหมดไป แล้วสองถ้วยอยู่บนโซฟาด้านล่างสิบเอ็ดโมง อันที่จริง น่าจะ…ไม่ถึงกับเวลาสายหรอกมั้งฉินหร่านกัดริมฝีปาก ครุ่นคิดอย่างจริงจังเฉิงเวินหรูดื่มชาไปแล้วสามถ้วย แทะเมล็ดแตงโมไปแล้ว ครึ่งจาน เข้าห้องน้ำไปแล้วสองรอบ กำลังถือโทรศัพท์ดูเว ยป๋อ งานวิวาห์อันยิ่งใหญ่และลึกลับของเมื่อวานยังคงได้รับ ความนิยมพุ่งสูงขึ้นในเวยป๋ออันที่จริงเธออยากแกล้งแซวเฉิงเจวี้ยนเมื่อเห็นทั้งสองคน ลงมา แต่เมื่อเห็นฉินหร่านที่อยู่ข้างเขา เฉิงเวินหรูจึงต้องสั่ง ห้ามตัวเองไว้ เธอพิงที่โซฟา สังเกตดูฉินหร่านอย่างละเอียดแล้วจึงก้ม หน้าดูความคิดเห็นยอดนิยมในหน้าของเวยป๋อ… [นางสนมปีศาจ นางสนมแห่งดินแดนล่มจม] ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นโทรศัพท์จากหัวหน้าหน่วย ทุกคนในห้องเป็นคนของตัวเอง เฉิงเวินหรูจึงไม่ได้ปิดบัง แล้วรับสายทันที “ว่ายังไง” “คุณหนูใหญ่ เพื่อนของนายAน้อยสามบอกว่าบุคคลผู้ เลื่องชื่อของเมืองหลวงอยากซื้ออาคารในเมืองหลวง อาคารถาวรของเมืองหลวง…” น้ำเสียงของหัวหน้าหน่วยแทบจะ ร้องไห้แล้วเฉิงเวินหรู “…คนไหน”“เหมือนจะเป็นคนของรัฐ F…” หัวหน้าหน่วยไม่แน่ชัด ว่าเป็นใครคนไหนเฉิงเวินหรูกดที่หน้าผาก เพื่อไม่ให้กระทบกับคนเหล่านี้ เมื่อวานเฉิงสุ่ยจึงพาเฉิงเวินหรูทำความรู้จักแต่ละคนแล้วเมื่อ วานนี้ บางคนก็พูดอย่างเป็นลางไม่ดีแต่เมื่อเห็นว่าคนเหล่านี้อยู่ในจุดเดียวกับจระเข้ยักษ์ ทั้ง ยังมีความสนิทชิดเชื้อกัน เฉิงเวินหรูจึงรู้ว่าไม่ง่ายดายแล้วในวันธรรมดาแค่จระเข้ยักษ์ก็ทำให้พวกเขาปวดหัว พอแล้ว โชคดีที่ช่วงนี้จระเข้ยักษ์ไม่มีความคิดเห็นอะไรกับ เมืองหลวงแต่ในโชคดีนี้ ก็ยังประจำการอยู่ที่เมืองหลวงอยู่สินะในใจของเฉิงเวินหรูเต็มไปด้วยความรู้สึกว่าแย่แล้ว แไป หมด เธอพูดอย่างเหนื่อยหน่าย “หาทางจัดการซะ”ท้ายที่สุด มีเฉิงเจวี้ยนและฉินหร่านอยู่ก็ไม่น่าจะมีใคร เข้ามายุ่งรบกวนได้เพื่อนพวกนั้นของเฉิงเจวี้ยนและฉินหร่านก็มีอยู่เป็นกี่สิบ คนเฉิงเวินหรูวางสาย หันไปมองเฉิงเจวี้ยน “น้องสาม คุณ กับหร่านหร่าน…เพื่อนพวกนั้นจะไปตอนไหน”“ไม่รู้ ฉันลาพักร้อน เฉิงสุ่ยรับผิดชอบ” โทรศัพท์ของเฉิง เจวี้ยนสั่นอย่างต่อเนื่อง พวกสุนัขรับใช้ลู่จ้าวอิ่งและเจียง ตงเยี่ยส่งวีแชทให้เขา เขามองเฉิงเวินหรูเล็กน้อยแล้วตอบ กลับอย่างมั่นใจวันหยุดพักร้อนที่น่าทึ่ง พักผ่อนจนน่าใจหายเฉิงเวินหรูถือโทรศัพท์ คิดว่าเฉิงมู่พูดถูก ช่วงไม่กี่วันนี้ น้องชายที่สามของเธอน่าจะสมองไม่ดี เธอคิดว่าเจรจาเรื่อง แบบนี้กับเฉิงสุ่ยจะดีกว่าฉินหร่านก็กำลังดูโทรศัพท์นอกจากคำอวยพรของเพื่อนร่วมชั้นเรียนมัธยมปลาย และมหาวิทยาลัยแล้วเธอยังเห็นข้อความภารกิจของฉังหนิงด้วยฉินหร่านตอบกลับแค่ ‘ลาพักร้อน’ แล้วปิดโทรศัพท์ กิน ข้าวคำสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยเฉิงเจวี้ยนวางโทรศัพท์แล้วเงยหน้ามองเธอ “ยังอยากไป สถาบันวิจัยไหม”“อือ” ฉินหร่านค่อยๆ ดื่มชา ครุ่นคิดเล็กน้อย “วันนี้เปิด ประชุมหลายแห่ง ฉันวางใจไม่ได้”ตอนนี้สถาบันวิจัยเปลี่ยนแทนอำนาจ ในส่วนการ ควบคุมดูแลของฉินหร่านได้ชำระล้างสถาบันวิจัยตั้งแต่ต้นจน จบและได้เปลี่ยนแทนคนมากมาย ไม่ได้ไปห้องปฏิบัติการไม่ เป็นไร แต่การประชุมใหญ่ครั้งแรกในวันนี้ เธอไม่ค่อยวางใจ หากไม่ไปเฉิงเจวี้ยนชั่งน้ำหนักธุระที่ต้องสะสาง เขาขึ้นไปด้านบน หยิบเอกสารที่พิมพ์เรียบร้อยแล้วลงมายื่นให้ฉินหร่าน“คุณจัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ” ฉินหร่านดื่มเสร็จแล้ว รับมาอ่านอย่างคร่าวๆ อย่างค่อนข้างแปลกใจเฉิงเจวี้ยนช่วยเหลือเธอจัดการสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ไม่ว่า จะเป็นข้อมูลของงานวิจัยหรือการทดลอง แล้วยังปัญหาใหญ่ ของบริษัทสกุลฉิน เพียงแต่สองวันนี้เธอไม่เห็นเขาจัดการเรื่องเหล่านี้เลย “อ่านดูสิ” เฉิงเจวี้ยนไปเอากุญแจรถที่ตู้ “ฉันจะไปส่ง เธอ” ทั้งสองคนทักทายเฉิงเวินหรูแล้วไปสถาบันวิจัยฟิสิกส์ เฉิงเวินหรูมองทั้งสองคนอย่างเหลือเชื่อ**สถาบันวิจัยฟิสิกส์ ฉินหร่านแต่งงาน อันที่จริงลาหยุดพักร้อนไปแล้วสามวันสิงไคมองดูข้อมูลเหล่านี้ของลูกน้องอย่างปวดหัว เดิมที เขาเป็นฝ่ายทดลองหลักที่คอยช่วยเหลือและติดตามเพื่อ เรียนรู้กับรุ่นพี่เยี่ย แต่ฉินหร่านลาพักร้อน แม้ว่าก่อนหน้านี้ เธอไม่อยู่ที่สถาบันวิจัย แต่ก็ยังสามารถช่วยประเมินผลลัพธ์ ได้จากระยะไกลไอคิวของเธอสูง โดยเฉพาะด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ แม้แต่นักวิชาการเลี่ยวผู้ไม่เป็นสองรองใครยังคิดว่าเธอเป็น ลูกรักของพระเจ้าแม้ว่าพวกสิงไคจะพูดแขวะเป็นการส่วนตัวว่านักวิชาการ ของสาขาดนตรีก็ยังพูดถึงฉินหร่านตั้งขนาดนั้นแต่ก็ไม่กล้าพูดต่อน้านักวิชาการเลี่ยวไม่กี่วันนี้ฉินหร่านลาพักร้อนอย่างสมบูรณ์แบบ พวกสิง ไคและหนานฮุ่ยเหยาจึงยุ่งมาก งานส่วนนี้ของฉินหร่านไม่ง่ายเลย โชคดีที่มีศาสตราจารย์เก่าแก่ทั้งห้าท่านและซ่งลี่วเถิง ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือ “พวกคุณดูต่อ” นักวิชาการเลี่ยวมองดูเวลา ใกล้ได้เวลา ประชุมใหญ่แล้ว เขาวางโทรศัพท์ “ฉันจะไปประชุมก่อน” วันนี้สถาบันวิจัยทั้งสี่เปิดการประชุมประจำปี ไม่ใช่แค่เกี่ยวข้องกับปัญหาการจัดสรรทรัพยากรในปีนี้ แต่ยังเกี่ยวข้องกับแผนการระบบเงินสมทบใหม่ด้วย คนเข้าประชุมจึงค่อนข้างเยอะ สถาบันวิจัยทุกแห่งต่างมีตัวแทนผู้นำระดับกลางและ ระดับสูง เห็นนักวิชาการเลี่ยว คณบดีเจียงที่นั่งอยู่ในคณะผู้แทน ของสถาบันฟิสิกส์จึงยืนขึ้นทักทายในปัจจุบันสถาบันวิจัยฟิสิกส์กำลังขาดแคลนอัจฉริยะ ฉินหร่านเลื่อนขั้นคณบดีเจียง และในขณะเดียวกัน เพื่อความ สมดุลจึงเลื่อนขั้นคณบดีแผนกฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัย A ที่ อยู่ถัดไปด้วยคนส่วนใหญ่ของสถาบันวิจัยเชื่อมั่นในฉินหร่าน แต่ก็มีไม่ น้อยที่ไม่เชื่อใจในฉินหร่านเอาเสียเลยคนเหล่านี้ไม่ใช่คนของฟ่งเจิ้นป๋อ ฉินหร่านจึงไม่ได้สนใจ อะไรฉินหร่านมาถึงล่าช้า ไม่เพียงมาสาย ยังพ่วงเอาเฉิง เจวี้ยนมาด้วย มาแล้วก็ไม่ฟังการจัดสรรทรัพยากรของปีนี้ ดู แล้วท่าทีแบบนั้นค่อนข้างสะลึมสะลือที่สถาบันทางการแพทย์เฉิงเจวี้ยนก็ถูกเสนอชื่อเช่นกัน มี การชมเชยเขาและพวกกู้ซีฉือสำหรับการวิจัยยาต่อต้านไวรัส Y3 ที่บนเวทีด้วยเฉิงเจวี้ยนฟังอย่างเอื่อยเฉื่อยแถมไม่ใส่ใจ เพียงช่วยฉินห ร่านแก้ไขส่วนที่ผิดของต้นฉบับสองชั่วโมงสำหรับการประชุมนี้ ฉินหร่านยืนขึ้นหลังจาก ประชุมเสร็จ“กลับบ้านเหรอ” เฉิงเจวี้ยนเก็บต้นฉบับแล้วถามเธอฉินหร่านครุ่นคิดแล้วส่ายหน้า พูดเสียงเบา “นักวิชาการ เลี่ยวบอกว่าตอนนี้พวกหนานฮุ่ยเหยาค่อนข้างยุ่ง ฉันจะไปดู สักหน่อย”“ได้สิ” เฉิงเจวี้ยนไม่ใส่ใจนัก กระนั้นก็ยังพาไปหลังจากทั้งสองคนจากไป“นักวิชาการเลี่ยว พวกคุณดูเธอสิ ต้องมีคนแบบเธอ เหรอ ทั่วทั้งสถาบันวิจัยต่างกังวลกับแผนงาน B ฉันคิดว่าการ ให้เธอเป็นผู้สืบทอดยังต้องรอการพิจารณา…” นักวิจัยรุ่น เก่าแก่พูดอย่างไม่พอใจคำพูดนี้ออกมา คนส่วนมากไม่ได้พูดอะไรนักวิจัยรุ่นเก่าแก่กำลังอยากจะพูดบางอย่าง คนแก่ที่อยู่ ด้านหลังพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “คุณท่านเซี่ย คุณจริงจังเหรอว่า พวกคุณไม่ต้องการคุณฉินแล้วน่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย เมื่อไม่กี่ วันก่อนสถาบันวิจัยคอมพิวเตอร์ของพวกเรายังคิดอยู่ว่าทำไม คุณฉินไม่เข้าไปสถาบันวิจัยของพวกเรา ดีจริงๆ เลย ขอบคุณ พวกคุณมาก…”