เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 563 ตระกูลมู่จวนเทียนเสิน (3)/ตอนที่ 564 ตระกูลมู่จวนเทียนเสิน (4)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 563 ตระกูลมู่จวนเทียนเสิน (3)/ตอนที่ 564 ตระกูลมู่จวนเทียนเสิน (4)
ตอนที่ 563 ตระกูลมู่จวนเทียนเสิน (3)
“ขอรับ นายท่าน”
ตอนแรกหลังจากนายท่านดื่มยาเข้าไปมักจะวิงเวียนศีรษะและง่วงนอน ดังนั้นก่อนหน้านี้ตระกูลมู่จึงได้ให้หมอของจวนเทียนเสินมาตรวจส่วนผสมของยา
พบว่ายาวิเศษนี่สามารถรักษาร่างกายของท่านผู้เฒ่าได้จริง
ทุกวันนี้ทุกครั้งหลังจากเฉินชิงเยียนยกยามา เขาก็จะตรวจสอบว่าในยามีพิษหรือไม่แล้วค่อยยื่นให้ท่านผู้เฒ่า
แม้จะเป็นเช่นนี้ท่านผู้เฒ่าก็ยังคิดว่าเฉินชิงเยียนจะวางยาพิษ ทุกครั้งล้วนทำตกหล่นทำให้ขาดยาร่างกายก็นับวันจะยิ่งแย่ลง
วันนี้ไม่มีทางเลือกเขาจึงต้องนำยาไปซ่อนไว้ก่อน มิเช่นนั้นเกรงว่าท่านผู้เฒ่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน...
“พ่อบ้าน ไม่ให้หญิงชั่วนั่นต้มยาได้หรือไม่? ภรรยาข้าถูกแม่ของนางวางยาพิษจนตาย เกิดนางวางยาพิษข้าจะทำอย่างไร?” ท่านผู้เฒ่าเดินไปถึงหน้าประตู ชะงักเล็กน้อยแล้วทำปากยื่น “ข้ายังมีชีวิตอยู่ไม่พอ ไม่อยากตายเท่าไรนัก”
ท่าทางพ่อบ้านเฒ่าจนใจยิ่งนัก “ข้าน้อยเคยลองไม่ให้นางต้มยาแล้ว แต่ครั้งนั้นชิงเยียนฮูหยินกลับคุกเข่าอยู่นอกประตูสามวันสามคืนเพื่อแสดงความกตัญญูของตัวเอง สุดท้ายก็เป็นลม นายท่านรองโกรธมาก ให้ส่งยาวิเศษถึงมือชิงเยียนฮูหยินโดยตรง ดังนั้น…มียาวิเศษเพียงชุดเดียวเท่านั้น จำต้องให้นางเป็นคนต้มไม่มีทางเลือก”
หากเป็นเมื่อก่อนคนพวกนั้นไม่มีทางกล้าจัดยาวิเศษเพียงชุดเดียวแล้วยังส่งให้ชิงเยียนฮูหยินแน่
แต่ตอนนี้…คนที่ตัดสินใจในตระกูลมู่ไม่ใช่นายท่านแล้ว
“แต่ทุกครั้งหลังจากดื่มยาแล้วข้ามักจะหลับไปหลายวันหลายคืน เกิดพลาดซุปไก่งวงของซู่อีจะทำอย่างไร? อีกอย่างข้าชอบยาที่ซู่อีต้มมากกว่า ไม่ทำให้ข้านอนนานเช่นนี้” แววตาท่านผู้เฒ่าเต็มไปด้วยความน้อยใจ
พ่าบ้านเฒ่าเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ทว่าหมอท่านนั้นของจวนเทียนเสินก็เคยพูดไว้ ยาที่ซู่อีฮูหยินจัดให้ท่านไม่สู้ที่เฉินชิงเยียนหามาให้ท่าน...”
หมอท่านนั้นของจวนเทียนเสินมีอำนาจสูงส่งในจวน คำพูดของเขาไม่มีผู้ใดไม่เชื่อถือ
เขาผู้นี้ยังเป็นคนซื่อตรง ไม่เคยพูดโป้ปด
ดังนั้นเมื่อเขาพูดเช่นนี้แล้วนายท่านรองย่อมเชื่ออย่างมิต้องสงสัย…
…
มู่หลิงเพิ่งจะประคองเฉินชิงเยียนไปที่หลังจวนก็มีร่างร่างหนึ่งที่คุ้นเคยมาขวางหน้าเขาไว้
ชายตรงหน้าผอมยิ่งนัก ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวราวกับไม่สบาย เขากวาดสายตามองเฉินชิงเยียนที่ถูกมู่หลิงประคองอยู่แล้วขมวดคิ้วเบาๆ “พี่ใหญ่ ท่านไปทำให้ท่านพ่อโกรธอีกแล้วหรือ?”
มู่หลิงสีหน้าตึงเครียด “น้องรอง อย่างไรชิงเยียนก็เป็นพี่สะใภ้ของเจ้า นางเข้ามาในตระกูลแล้ว ผ่านการยอมรับจากเหล่าท่านลุงท่านอา เจ้ากลับมองดูนางถูกท่านพ่อทำร้ายไม่พูดอะไรสักคำ? สมองท่านพ่อไม่ปกติเจ้าก็เป็นเหมือนกันหรืออย่างไร?”
คิ้วของชายป่วยขมวดแน่นขึ้น “นางเป็นแค่อนุของท่านก็เท่านั้น พี่สะใภ้ของข้าควรจะเป็นภรรยาของท่านจึงจะถูก”
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจชิงเยียน แต่ว่า…”
“พี่ใหญ่” มู่ชิงอิ้นถอนหายใจเบาๆ “ข้าไม่ได้ไม่พอใจนาง เพียงแต่ท่านก็รู้ดีว่าท่านพ่อไม่ชอบนางเหตุใดยังให้นางไปอยู่ต่อหน้าท่านพ่อเช้าจรดค่ำ? นี่ไม่เพียงแต่ทำให้ท่านพ่อโมโหจนร่างกายยิ่งย่ำแย่ยังทำให้นางต้องรับกรรม ไม่สู้…”
“น้องรอง” เฉินชิงเยียนผละออกจากอ้อมแขนของมู่หลิง บนใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มหนักแน่นไม่สะทกสะท้าน “ข้าเพียงต้องการแสดงความกตัญญูก็เท่านั้น หากข้าไม่รับใช้ท่านผู้เฒ่าด้วยตัวเองใจของข้าก็ยากที่จะสงบ เรื่องนี้ไม่อาจโทษท่านพี่หลิง เป็นข้าที่อยากดูแลเขาเอง ไม่ว่าท่านผู้เฒ่าจะทำกับข้าอย่างไรเขาก็เป็นผู้ใหญ่ ข้ายินดีน้อมรับ”
มู่ชิงอิ้น “…”
มิน่าท่านพ่อจึงไม่ชอบนางเช่นนี้
……………………
ตอนที่ 564 ตระกูลมู่จวนเทียนเสิน (4)
ผู้หญิงคนนี้ไม่เข้าใจคำพูดคนเลยสักนิด…
“ช่างเถอะ แล้วแต่พวกท่าน ขอเพียงพวกท่านอย่าไปทำให้ท่านพ่อโมโหอีกเรื่องอื่นก็จะไม่ยุ่งด้วย แค่ก แค่ก” มู่ชิงอิ้นไอ ใบหน้าของเขาแฝงด้วยความอ่อนแอ จู่ๆ ก็หันไปมองเฉินชิงเยียน
“แม่นางเฉิน ที่สะใภ้ไปแล้วเจ้าก็ยึดครองตำแหน่งนี้ รอนางกลับมาไม่ช้าก็เร็วก็ต้อง…แค่กแค่กคืนกลับไป…”
สีหน้าเฉินชิงเยียนซีดขาว นางกำหมัดแน่น
เหตุใดกัน นางทุ่มเทมากมายขนาดนี้แล้วพ่อลูกตระกูลมู่คู่นี้ก็ยังคิดถึงแต่ซู่อีตลอด!
เป็นเพราะแม่ของนาง…ทำร้ายฮูหยินตระกูลมู่จนตาย? ความผิดทั้งหมดต้องให้นางแบกรับ?
นางเพียงแค่รักมู่หลิงเท่านั้น รักคนคนหนึ่ง…มีความผิดอะไร?
“ชิงเยียน”
มู่หลิงเห็นเฉินชิงเยียนหน้าซีดก็อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่อาจเอ่ยปากได้
ซู่อี…ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องกลับมา
ริมฝีปากเฉินชิงเยียนขยับเผยรอยยิ้มขมขื่น
“ข้าไม่เป็นไร ท่านพี่หลิงข้าเพียงเสียใจเล็กน้อยเท่านั้น ท่านให้ข้าอยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักพักก็ดีขึ้นแล้ว” มู่หลิงจ้องใบหน้าขื่นขมของเฉินชิงเยียนแล้วพยักหน้าในที่สุด เดิมก่อนที่เขาจะกลับมาก็อยากจะให้เฉินชิงเยียนไปอยู่ที่จวนอื่นของตระกูลมู่ เพื่อไม่ให้ซู่อีกับนางมีปัญหากัน ตอนนี้พอได้เห็นท่าทางเสียใจของเฉินชิงเยียน คำพูดเหล่านั้น…สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้เอ่ยออกไป…
…
เมืองเย่ว
หลังจากเจ้าเมืองเย่วปู้สงฟังคำสั่งถังอวี้ นำทุกคนในเมื่องเย่วไปล้อมโจมตีเฟิงหรูชิงสองพ่อลูก จิตใจของเขาก็อยู่ในความไม่สงบมาโดยตลอด ใจคอไม่ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ได้ยินว่าเฟิงหรูชิงกับน่าหลานเยียนทั้งสองคนทำลายสี่แคว้นไปแล้ว ใจของเขาก็ยิ่งตกลงไปในหุบเหว
เขามักรู้สึกว่าหลังจากคิดบัญชีกับสี่แคว้นเสร็จ รายต่อไปจะมาถึงพวกเขาแล้ว…
“ท่านเจ้าเมือง แย่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่ที่แย่มากๆ แล้วขอรับ”
ทหารอารักขาคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตกใจ แววตาแฝงด้วยความตื่นตระหนก
“สายลับที่ไปแคว้นหลิวอวิ๋นมารายงานว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนเฟิงหรูชิงได้นำคนกลุ่มหนึ่งบุกฆ่าฟันมาทางนี้ ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงเมืองเย่วแล้ว ท่านเจ้าเมือง นางเริ่มตามคิดบัญชีแล้วใช่หรือไม่…”
ว่าตามเหตุผลแล้ว วันนี้เมืองเย่วไม่รอดแล้ว
แต่เกิดเรื่องกับน่าหลานฉางเฉียนและคนอื่นๆ เฟิงหรูชิงจึงไม่สนใจคนพวกนี้รีบจากไป
ตอนนี้เรื่องทั้งหมดกลับสู่ปกติก็ถึงเวลาคิดบัญชีแล้ว…เย่วปู้สงตกใจจนขาสองข้างสั่นน้อยๆ มีความตื่นตระหนกในแววตาของเขา
เขายังไม่ทันได้เอ่ยอะไรก็มีเสียงรีบร้อนดังขึ้นอีก เขาตกใจจนเกือบล้มลงกับพื้น
“ท่านเจ้าเมือง เกิดเรื่องแล้ว เฟิงหรูชิงมาแล้ว! นางมาถึงหน้าประตูเมืองแล้วกำลังตรงมาที่เมืองเย่ว!”
กายเย่วปู้สงสั่นสะท้าน เขาหลับตาลงช้าๆ ที่ควรจะมาในที่สุดก็ต้องกลับมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจรอดพ้นไปจากภัยพิบัติครั้งนี้
“รายงาน!” มีเสียงดังมาจากนอกประตูอีกครั้ง ทหารอารักขาก้าวเข้ามาด้วยความเร่งรีบหอบหายใจเหนื่อย
“รายงานท่านเจ้าเมือง เฟิงหรูชิงท่าทางดุดันตรงไปที่ตระกูลฉัง”
ตระกูล…ตระกูลฉัง?
เย่วปู้สง “…”
ตระกูลฉังนี้ในเมืองเย่วไม่ได้สำคัญอะไร แต่ก่อนนี้ฉังลี่แห่งตระกูลฉังได้สู่ขอถังเชียนเชียนแห่งตระกูลถัง แม้ถังเชียนเชียนจะเป็นเพียงคุณหนูสายเลือดห่างๆ แต่อย่างไรก็มีความสัมพันธ์กับตระกูลถัง ตระกูลฉังจึงใช้ประโยชน์จะอำนาจนี้ปืนขึ้นมาอยู่ด้านหน้า
“คงจะไม่ใช่ว่านางจะกำจัดคนตระกูลถังให้สิ้นซากหลังจากนั้นค่อยมาคิดบัญชีกับพวกเรา?”
เย่วปู้สงคิดไปคิดมาก็มีแต่เหตุผลนี้เท่านั้น ที่จริงแล้วตระกูลฉังที่ไม่ได้สำคัญอะไรไม่มีค่าพอให้เฟิงหรูชิงนึกถึงเช่นนี้ ไปคิดบัญชีกับเขาเป็นคนแรก...