แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 464 : ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
เมือเห็นการแต่งกายของปี หยุน สีหน้าลู่เหมยเปลียนไปทันที นางรู้สึกถึงความ ผิดปกติได้อย่างราง ๆ แล้วในตอนก่อนหน้านี ตอนทีจะต้องมาห้องโถงในช่วง พลบคํา นางเร่งปี หยุนให้ออกจากห้องเร็ว ๆ แต่ปี หยุนก็มัวแต่อืดอาดและบอกว่า ยังต้องแต่งหน้าเปลียนชุดอีกหน่อย นางจึงไม่ได้คิดมากอะไรในตอนนัน แค่บอก กับอีกฝ่ ายว่าทุกอย่างเป็ นไปตามทีคุยกันก่อนหน้านี แล้วนางก็รีบออกมาก่อน
แต่นางไม่คิดว่าปี หยุนจะใส่ชุดนี!
ไม่ต้องพูดถึงความแพงของวัสดุทีใช้ตัดเย็บ นีไม่ใช่สิงทีผู้เป็ นสาวใช้ควรสวมใส่ หากปี หยุนจงใจใส่ชุดเดียวกับแม่นางเจียงจริง ๆ นันก็ เป็นการกระทําทีผิดอย่าง ยิง!
ถ้าหากว่าปี หยุนสวมใส่ชุดนีออกมาอย่างเป็ นธรรมชาติ นางอาจคิดว่าเป็ นแค่เรือง บังเอิญ แต่เมือนึกย้อนกลับไปถึงจุดทีไม่เป็ นธรรมชาติของปี หยุนในหลาย ๆ อย่างในตอนก่อนหน้านีแล้วนัน…
ลู่เหมยไม่ใช่คนโง่ นางจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าปี หยุนจงใจจึงถลึงตาใส่ปี หยุนอ ย่างร้อนรน
ปี หยุนทําเหมือนมองไม่เห็น นางยังคงกอดพิณเจ็ดสายด้วยใบหน้ายิมแย้ม เดินเข้า มาอย่างอ้อยอิงและทําความเคารพผู้เฒ่าหยุนไห่อย่างจริงใจ “ปี หยุนคารวะท่าน อาจารย์เจ้าค่ะ” ในคําพูดของนางยังคงมีความทะเล้นเหมือนวันก่อน ๆ “พิณที ปี หยุนดีดวันนีไพเราะไหมเจ้าคะ ?”
ขณะนี หากเทียบทุกคนในห้องโถง น่าจะมีเพียงปี หยุนคนเดียวเท่านันทีรู้สึก สบายใจ ส่วนสบายใจจริงไหมนัน คงมีเพียงปี หยุนเท่านันทีรู้
ผู้เฒ่าหยุนไห่ลอบถอนหายใจ เขายกมือเพือให้ปี หยุนลุกขึน
เจียงหยุนชานขมวดคิวเล็กน้อย เขามองปี หยุนสลับกับมองน้องสาวตัวเอง ไม่ใช่ ว่าเขาลําเอียงหรืออะไร แม้ว่าชุดสองชุดนีจะเหมือนกันทังสีและรูปแบบ แต่เห็น ได้ชัดว่าเมือมันมาอยู่บนตัวป่ าวชิงของเขาแล้วออกจะดูดีกว่าอีกฝ่ ายเล็กน้อย
กําปั นของเจียงฉิงกําแน่นอยู่ใต้โต๊ะ ใบหน้าเล็กก็บึงตึงอย่างมาก ถ้าหากว่าเจียง ป่ าวชิงไม่มองนางเพือบอกให้นางสงบไม่ร้อนใจ เกรงว่าเจียงฉิงคงจะยืนขึนและ ด่าประณามอีกฝ่ ายเสียงดังไปแล้ว
แม้เลียวชุนหยู่จะยังเด็ก ไม่ค่อยรู้เกียวกับมารยาทเท่าไหร่นัก แต่มีอยู่เล็กน้อยทีเขา รู้ นันคือสาวใช้ปี หยุนคนนันใส่ชุดเหมือนกับพีสาวคนโตของเขา ซึงดูเหมือนจะ ไม่เหมาะสมอย่างมาก
ใบหน้าทีมีรอยยิมเบาหวิวมาโดยตลอดของเผยหยู่ เจ๋อทาบทาความอึมครึม เล็กน้อยอย่างไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก แต่ความอึมครึมนันหายไปอย่างรวดเร็วเหมือน เมฆทีอยู่บนท้องฟ้าซึงลอยจากไป เมือมองแวบแรก เขายังคงเป็ นลูกศิษย์คนทีสี ของผู้เฒ่าหยุนไห่ทีเกียจคร้านและไม่ค่อยเอาใจใส่ต่อทุกสิงไม่เคยเปลียน
คนทีพูดขึนก่อนคือกู่ชวนทีมักปฏิบัติต่อผู้อืนอย่างเคร่งขรึมจริงจัง “เจ้า… ดีดพิณ ได้ไม่แย่เลย แต่ชุดทีเจ้าใส่นีไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก”
ปี หยุนผู้นีเคยอยู่ในบ้านเก่าของผู้เฒ่าหยุนไห่มาก่อน ผู้เฒ่าหยุนไห่ออกแสวงหา ความรู้ไปทัวทุกสารทิศ และในช่ วงไม่กีปี มานีเขาเพิงกลับมาบ้านในเมืองหลวงที ทิงไปนานหลายปี ทว่ ากําลังคนไม่เพียงพอเขาจึงย้ายปี หยุนจากบ้านเก่ามาทีนี
กู่ชวนรู้จักปี หยุนดี ผู้เฒ่าหยุนไห่ไม่มีหลานสาว จึงปฏิบัติต่อเหล่าสาวใช้อย่างใจ กว้างพร้อมเลียงดูอย่างตามใจเสมอมา นิสัยของสาวใช้บางคนจึงแทบไม่ต่าง อะไรกับคุณหนูสูงส่งทีชอบเอาแต่ใจเลย
แต่สาวใช้ก็คือสาวใช้ แม้พูดว่าไม่แตกต่างทว่าแท้จริงแล้วช่องว่างยังมีมากอยู่
ดวงตากลมโตของปี หยุนเบิกกว้างขึนเล็กน้อย ดูแล้วเหมือนกําลังงุนงงราวกับคน โง่เขลา “ท่านกู่ ทําไมถึงไม่เหมาะสมล่ะเจ้าคะ ?”
ไม่ว่ายังไงกู่ชวนก็เป็ นชายวัยกลางคนทีอายุหลายสิบปี ถ้าจะให้เขามาชีให้เห็นถึง ปัญหาการแต่งตัวของเด็กสาวไม่กีสิบปี เขาจึงไม่สามารถพูดออกมาได้ใน ทันทีทันใด
ลู่เหมยรีบวิงมายืนอยู่ข้างปี หยุน แล้วคุกเข่าเพือทําความเคารพผู้เฒ่าหยุนไห่ “ท่านอาจารย์เจ้าคะ ปี หยุนไม่ได้สังเกตมาก่อนถึงได้ใส่ชุดเหมือนกับแม่นางเจียง อย่างไม่ระวังเช่นนี… ข้าน้อยจะพานางไปเปลียนเดีCยวนีเจ้าค่ะ”
แต่ปี หยุนกลับสะบัดแขนลู่เหมย นางมองเจียงป่ าวชิงแล้วพูดขึนอย่างประหลาด ใจระคนแปลกใจราวกับเพิงสังเกตเห็น “ไอ้ยา! คุณหนูเจียง ทีแท้คุณหนูก็ใส่ชุด นีด้วยเหมือนกัน… คุณหนูว่ามันบังเอิญไหมเจ้าคะ วันนันปี หยุนถูกใจชุดนี แต่ เพราะว่ามันเกินจํานวนทีปี หยุนจะสังตัดเย็บได้แล้ว ปี หยุนจึงใช้เงินของตัวเอง ไปสังตัดเย็บชุดนี ทีเรือนเทียนอี ไม่คิดเลยว่าจะเป็ นชุดแบบเดียวกับคุณหนูเจียง ในวันนี”
ปี หยุนกอดพิณเอาไว้พลางหมุนตัวอย่างเบิกบานใจ “แบบนีเราดูเหมือนพีน้อง กันแล้วหรือยังเจ้าคะ ?”
เจียงป่ าวชิงเลิกคิวทรงดอกเหมยทีงดงาม นางยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้ยินเสียง หัวเราะดังมาจากทีนังฝั งตรงข้าม
แน่นอนว่าปี หยุนเองก็ได้ยินเช่นกัน นางมองไปตามเสียงก็เห็นเผยหยู่เจ๋อใช้มือคํา ศีรษะไว้อยู่บนโต๊ะด้วยท่าทางยิมแย้ม
ปี หยุนเป็ นอิสระอยู่ในจวนแห่งนีจนชิน นางจึงไม่กลัวเผยหยู่เจ๋อและพูดขึนอย่าง ไม่พอใจ “คุณชายเผยหัวเราะอะไรเจ้าคะ ?”
เผยหยู่เจ๋อพูดขึนอย่างเชืองช้า “ข้าคิดว่าปัจจัยสีทีลู่เหมยดูแลอยู่ในจวนนันมีจุดที ไม่เหมาะสมอยู่เล็กน้อย”
ลู่เหมยคิดว่าเผยหยู่เจ๋อกําลังพูดถึงเรืองทีปี หยุนใส่ชุดเดียวกับเจียงป่ าวชิง นางจึง ก้มหน้าเก้อเขินแล้วคุกเข่าทําความเคารพอีกฝ่ ายอย่างไว “จริงอย่างทีคุณชาย กล่าว ข้าน้อยจะปรับปรุงอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
เผยหยู่เจ๋อพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูดขึนยิม ๆ “ถ้าอย่างนันกลับไปเจ้าก็อย่าลืม เปลียนกระจกทองเหลืองในห้องของปี หยุนด้วย กระจกทองเหลืองอันก่อนคงพัง แล้วแน่ ๆ ถึงได้ทําให้ปี หยุนเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าตนเป็ นเหมือนพีน้องกับ น้องสาวตระกูลเจียงเช่นนี”
ทุกคนตกตะลึง แต่ไม่นานพวกเขาก็อดหัวเราะไม่ได้ แม้แต่ผู้เฒ่าหยุนไห่เองก็อด ไม่ได้ทีจะมองลูกศิษย์คนนีด้วยสีหน้าขบขัน
นีคือ… กําลังบอกให้ปี หยุนกลับไปส่องกระจกให้ดี ๆ ไม่ใช่หรือไง!
ปี หยุนหน้าแดง นางกอดพิณไว้และกระทืบเท้าพูดขึนอย่างไม่พอใจ “คําพูด หยอกล้อของคุณชายไม่น่าขําเลยนะเจ้าคะ”
ลู่เหมยดึงแขนปี หยุนอีกครังพลางมองด้วยสายตาตักเตือนแต่นําเสียงของนางกลับ ยังคงอ่อนโยนตามปกติ “ปี หยุน มันไม่ดีนักทีจะใส่ชุดเดียวกับแขก ข้าจะพาเจ้า กลับไปเปลียนชุดใหม่”
เดิมทีปี หยุนอยากสะบัดมือลู่เหมยออก แต่ครังนีลู่เหมยจับแขนนางไว้แน่นราว กับคีมคีบเหล็กจึงสะบัดไม่ออก
ภายใต้สายตาของทุกคน ปี หยุนไม่สามารถขยับตัวแรง ๆ ได้ มิเช่นนันมันจะ เหมือนว่านางลงไม้ลงมือกับลู่เหมย จําต้องปล่อยให้ลู่เหมยกําแขนตัวเองไว้
ส่วนตัวเองก็พูดขึนอย่างไม่พอใจ “ใส่ชุดเหมือนกันก็ไม่เห็นเป็ นไร ไม่ใช่ว่าพวก เจ้ามักจะพูดชมว่าคุณหนูเจียงใจกว้าง เป็นหญิงทีไม่ธรรมดาหรอกรึ คุณหนูเจียง จะพาลถึงขนาดไม่อนุญาตให้คนอืนใส่ชุดเหมือนตัวเองได้ยังไง ?” ปี หยุน หยุดชะงักพลางมองเจียงป่ าวชิง “ใช่ไหมเจ้าคะคุณหนูเจียง ?”
เจียงป่ าวชิงยิมอย่ างสบายใจ “แน่นอนว่าข้าจะไม่พาลเช่นนัน…”
รอยยิมของปี หยุนยังไม่ทันฉีกถึงใบหู ก็ได้ยินเจียงป่ าวชิงพูดเสริมอย่างเชืองช้า อีกหนึงประโยค “…เพราะถึงยังไงการใส่เสือผ้าเหมือนกันไม่ใช่เรืองน่ากลัว แต่ใครทีหน้าตาอัปลักษณ์กว่าก็เก้อเขินไปแล้วกัน”
ภายในห้องโถงเกิดความเงียบชัวขณะ มีหลายคนทีกลั นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว
เผยหยู่เจ๋อมองเจียงป่ าวชิงด้วยสีหน้าราบเรียบ ทว่าในดวงตาของเขาเป็ นประกาย เล็กน้อย
ปี หยุนไม่คิดว่าเจียงป่ าวชิงจะพูดตรงเช่นนี ความโมโหแล่นจุกอกขึนมาถึงคอ หอย “อ้อ งันคุณหนูเจียงคิดว่าเราสองคน ใครทีต้องเก้อเขินล่ะเจ้าคะ ?”
คําถามช่วงหลังจงใจเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัด “ปี หยุน…”
ลู่เหมยเรียกปี หยุนอย่างไม่สบายใจ แต่ปี หยุนกลับมองเจียงป่ าวชิงอย่างดึงดันและ ไม่สนใจลู่เหมยทียังคงดึงแขนตัวเองอยู่โดยสินเชิง
เจียงป่ าวชิงนังอยู่ ตรงทีนังของนางอย่ างสงบ ก่อนจะพูดโดยทีไม่ยกเปลือกตาขึน ด้วยซํา “เจ้าคิดว่าคําถามนีน่าสนใจหรือไง คําตอบค่อนข้างเห็นชัด หรือว่าคนที ถามคําถามนีไม่รู้ว่าคําตอบคืออะไร ?”