แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 530 : คนมีบุญวาสนา
พวกหญิงสาวเดินไปตามราวจับตามแนวทะเลสาบและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เฮฮา แต่เดินได้ไม่เท่าไหร่ก็บังเอิญเจอเข้ากับสาว ๆ อีกกลุ่ม
ทันใดนั’นบรรยากาศทีเฮฮาหยุดนิงทันที
หากว่าพูดตามหลัก ทุกคนต่างเป็ นบุตรสาวของครอบครัวมังมีในเมืองหลวงกั น ทั’งนั’น แม้จะมีความคับข้องใจกันบ้างในยามปกติ แต่ถึงอย่างไรทีนีคือจวนองค์ หญิงเต๋อหลง ไม่เห็นแก่หน้าสงฆ์ก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธบ้าง มารยาททีดี ทีสุดทีควรทําเวลาบังเอิญต้องมาเดินผ่านกันคือทักทายซึงกันและกันแล้วต่างคน ต่างไปก็เพียงพอ
ทว่าครั’งนี’กลับไม่ได้ง่ายดายเช่นนั’น เพราะคนทีเดินนําอยู่ฝังตรงข้ามคือชิวเพ่ย โหลว
สถานะของชิวเพ่ยโหลวในกลุ่มเพือนของนางเป็ นเหมือนกับผู้นํากลุ่มทีพูดอะไร คนในกลุ่มก็ต้องคล้อยตาม ตอนนี’นางยืนนิงไม่ไหวติง แน่นอนว่าพวกหญิงสาว ลูกคุณหนูคุณนายทีอยู่ข้างหลังนางก็จะไม่ไปไหนเช่นกัน
พวกหญิงสาวทางฝังของหลีอันหรูสังเกตถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว ชิวเพ่ยโหลวคนนี’คิดจะทําอะไร…?
แน่นอนว่าหลีอันหรูเองก็รู้จักชิวเพ่ยโหลว วงการคุณหนูในเมืองหลวงนั’นกว้าง มาก แต่สําหรับพวกผู้หญิงทีเกิดและโตในเมืองหลวงอย่างพวกเขาซึงมีพ่อแม่ และพีชายอยู่ในตําแหน่งสูง น้อยคนทีจะไม่รู้จักกัน จะเว้นก็แต่ครอบครัวของ ข้าราชการทีเพิงเลือนตําแหน่งบางคน
หลีอันหรูรู้สึกอึดอัดใจ “แม่นางชิวเอ้อ มีธุระอะไรหรือเปล่า ?”
ชิวเพ่ยโหลวหัวเราะคิกคัก สายตานางจับจ้องเจียงป่ าวชิง “แม่นางเจียง เจ้าก็อยู่ ด้วยรึ ?”
คําพูดนี’แทบเป็ นการถามทั’งทีรู้อยู่แก่ใจ เจียงป่ าวชิงเป็ นคนทีมีชีวิตดี ๆ และใน เมือถูกเชิญมายืนอยู่ในงานเลี’ยงนี’ ชิวเพ่ยโหลวยังจะมาถามอะไรทํานองนี’อีก นี แทบจะเป็ นอืนไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่อยากหาเรือง
และคําพูดในตอนหลังก็ตามมาติด ๆ หลังจากทีชิวเพ่ยโหลวหัวเราะคิกคัก “แต่ ข้าจําได้ว่าแม่นางเจียงกําลังเตรียมแต่งงานไม่ใช่รึ ?”
คําพูดนี’ก็เป็ นคําพูดไร้สาระเช่นกัน ในเมือนางมายืนอยู่ทีนีได้ก็แสดงว่าจวนองค์ หญิงเต๋อหลงส่งจดหมายเชิญให้นาง มิเช่นนั’น หญิงสาวทีกําลังเตรียมแต่งงาน เป็ นเจ้าสาวอยู่ทีบ้านจะถ่อมาเข้าร่วมงานเลี’ยงชมดอกไม้ทีมีจุดประสงค์หลัก ๆ คือการดูตัวเช่นนี’ทําไมกัน
หลีอันหรูรู้สึกปวดศีรษะ ถามทั’งทีรู้คําตอบอยู่แก่ใจแสดงถึงอย่างเดียวเท่านั’นนัน ก็คือชิวเพ่ยโหลวคนนี’คิดจะหาเรืองเจียงป่ าวชิง
ถ้าหากเป็ นคนอืน หลีอันหรูคงไม่สนใจ มีเวลาว่างสู้ไปอ่านหนังสือยังจะดีเสีย กว่า แต่สําหรับนาง เจียงป่ าวชิงไม่ใช่คนอืน อีกฝ่ ายเป็ นน้องสาวของคนทีนางถูก อกถูกใจ ไม่แน่ในอนาคตอีกฝ่ ายอาจจะเป็ นน้องสาวสามีนางก็ได้ แบบนี’นางต้อง ปกป้องอีกฝ่ ายให้ดี ๆ
หลีอันหรูนวดหัวคิ’วแล้วพูดอย่างทอดถอนใจ “คุณหนูชิวเอ้อ ทีแม่นางเจียงอยู่ ทีนีได้ก็เพราะถูกเชิญมา ถ้าเจ้าไม่มีธุระอืนแล้ว เราต้องขอตัวก่อนนะ”
ชิวเพ่ยโหลวยิมอย่ ‘ างนุ่มนวล วันนี’นางอยู่ในชุดสีชมพูอ่อนช้อยทีช่วยขับให้ดูสวย เด่นมากขึ’น “อ้าว อย่าเพิงไปสิ น้องสาวตระกูลหลีเจ้าเองก็ อย่าได้รีบร้อน ข้าแค่ รู้สึกว่าดวงสมพงศ์กันกับแม่นางเจียงจึงอยากพูดคุยกับแม่นางเจียงสักเล็กน้อยเท่า นั’นเอง”
ทันใดนั’นบรรยากาศกลับมาอึดอัดอีกครั’ง
แต่เจียงป่ าวชิงหัวเราะ ซึงเสียงหัวเราะของนางทําให้คนทีนางหัวเราะใส่รู้สึกขน ลุก “หึ ๆ ได้สิ แม่นางชิวเอ้ออยากคุยอะไรกับข้า ถ้าอย่างนั’นเราไปนังคุยกั นที ศาลาทางนู้นดีไหม ?”
……
หญิงสาวสองสามคนไม่อยากเข้าไปเกียวข้องจึงถือโอกาสนี’ขอตัวไปเดินเล่นที อืน
ทีเจียงป่ าวชิงทําเช่นนี’ หนึงคือชิวเพ่ยโหลวชอบมายุ่งมาพัวพันจนนางรู้สึกรําคาญ แล้ว สองคือนางไม่อยากดึงคนอืนมาเสียเวลากับนางทีนี
เมือมานังในศาลาก็ มีสาวใช้ของจวนองค์หญิงช่วยชงชาให้แต่ละคน
แม่นางชิวเอ้อจิบชาเบา ๆ ด้วยสีหน้าทีเต็มไปด้วยความชืนชม “นีคือชาใหม่ที เรียกกันว่า ชาก่อนฝนตกของปี นี’ เกรงว่าเพิงส่งมาทีวังยังไม่ถึงสองวัน องค์ หญิงเต๋อหลงช่างใจกว้างจริง ๆ”
เจียงป่ าวชิงไม่สนใจ นางก้มหน้าจิบชา วางถ้วยชาและฝาปิ ดลงไปบนโต๊ะหินใน ศาลา “แม่นางชิวเอ้อต้องการคุยอะไรกับข้ารึ ?”
ชิวเพ่ยโหลวมองเจียงป่ าวชิง คิ’วสวยของนางยกสูงขึ’นเล็กน้อย “แม่นางเจียงช่าง เป็ นคนทีมีบุญวาสนาจริง ๆ”
ชิวเพ่ยโหลวคนนี’คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ จู่ ๆ ก็มาชมนางซะอย่างนั’น เจียงป่ าวชิงเลิก คิ’วขึ’นเล็กน้อย
“แม่ทัพกงทั’งมีชือเสียงและเรืองอํานาจ ส่วนเจ้าเป็ นเพียงหมอหญิงธรรมดา ๆ แต่ กลับได้แต่งกับเขา นีช่าง…” ชิวเพ่ยโหลวปกปิ ดคําพูดประโยคหลังของตัวเอง ด้วยการดืมชา รสชาติของชายังคงเหลืออยู่ตรงปลายลิ’นเป็ นเวลานาน
เจียงป่ าวชิงไม่เข้าใจ ฮ่องเต้พระราชทานการแต่งงานให้นางกับกงจี’ไปตั’งนาน แล้ว ทีชิวเพ่ยโหลวคนนี’หยิบยกขึ’นมาพูดในตอนนี’ นางคิดจะทําอะไรกันแน่
แน่นอนว่าตอนนี’เจียงป่ าวชิงไม่รู้ว่านีเป็ นการระบายความละเหียใจสุดท้ายของ ชิวเพ่ยโหลวทีมีต่อสิงทีกําลังจะเกิดขึ’นเท่านั’น แต่จะว่าไปแล้วก็เป็ นการถากถาง ด้วยเช่นกัน หมอหญิงคนหนึงดันแต่งงานได้สมปรารถนาดังใจ ส่วนนางทีเป็ นถึง คุณหนูสองของจวนโฮ่ว กลับต้องพึงพาแผนการเพือให้ได้แต่งงาน และตอนนี’ แผนการยังไม่สําเร็จเลยด้วยซํ’า
หลีอันหรูขมวดคิ’ว “แม่นางชิวเอ้อ คําพูดของเจ้า…”
“อันทีจริงข้าไม่ได้จะพูดกับแม่นางเจียงเรืองนี’” ชิวเพ่ยโหลวหลุบตาลงพร้อม เผยรอยยิมเย็นชาทีมุมปาก ‘ “เมือกี’นี’ข้าเจอเสียวหรู นางเหมือนวิงหนีอะไรไปด้วย จิตใจบอบชํ’า เสียวหรูนิสัยอ่อนโยนเสมอมาและนางไม่ชอบมีปัญหากับใคร มี เพียงแม่นางหลี…” ชิวเพ่ยโหลวจงใจหยุดเว้นช่วงเพือมองเจียงป่ าวชิงก่อนจะ
พูดต่อ “…กับแม่นางเจียงเท่านั’นทีเหมือนจะมีเรืองผิดใจกับนาง ไม่ทราบว่า พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเสียวหรูเป็ นอะไรกันแน่ ?”
“เสียวหรู” ทีชิวเพ่ยโหลวพูดถึง แน่นอนว่าไม่ใช่หลีอันหรู
กงหย่าหรูจิตใจบอบชํ’าแล้วมันเกียวอะไรกับนาง เจียงป่ าวชิงเพียงรู้สึกขําเมือได้ ฟังในตอนแรก แต่หลังจากทีขําเสร็จก็สังเกตได้ถึงความหมายทีแฝงอยู่ในคําพูด ของชิวเพ่ยโหลว นางคิดจะใช้คําวิจารณ์ทีคลุมเครือของผู้คนมาวางแผนทําเรือง เลวร้ายอีกแล้ว
ถ้าหากว่ากงหย่าหรูเป็ นอะไรขึ’นมา ความผิดนี’ถ้าไม่ใช่หลีอันหรูก็เป็ นนางทีทํา ชิวเพ่ยโหลวคิดว่าหนึงในทั’งสองคนจะต้องแบกรับความผิดนี’อย่างนั’นหรือไง
หลีอันหรูเองก็ไม่ตกหลุมพราง “แม่นางชิวเอ้อ เจ้าก็ช่างจะพูดออกมาได้ ข้ากับ แม่นางเจียงไม่ใช่พยาธิในท้องของกงหย่าหรูเสียหน่อย จะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่านาง เป็ นอะไร ?”
ชิวเพ่ยโหลวพูดด้วยนํ’าเสียงนุ่มนวล “ข้าไม่ได้สงสัยพวกเจ้าอย่างไม่มีมูลเหตุ แต่ มีคนเห็นจริง ๆ ว่าหลังจากทีเสียวหรูพูดคุยกับพวกเจ้าทีศาลาในป่ าไผ่ นางก็วิง หนีไป ใช่ไหมเหวินจู่ ?”
หญิงสาวทีหน้าตางดงามพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ ข้าเห็นกับตา”
หลีอันหรูพูดในใจว่าแย่แล้ว เพราะเหวินจู่คนนี’ไม่ใช่คนธรรมดา นางเป็ น บุตรสาวทีมีสายเลือดทางฝังครอบครัวของไทเฮา หากจะให้พูดจริง ๆ คือนางต้อง เรียกฮ่องเต้องค์ปัจจุบันว่าท่านลุง
และสิงทีสําคัญทีสุดคืออันทีจริงเหวินจู่คนนี’เป็ นคนดีมาก นิสัยจริง ๆ ของนางไม่ เหมือนกับทีชิวเพ่ยโหลวผู้หยิงผยองเคยวิจารณ์ไว้ นอกจากนี ‘ คุณหนูเหวินจู่เคย ได้รับคําชมจากพระลัทธิเต๋าในวัดเทียนลู่ซึงนีเทียบเท่ากับได้รับการรับรองอย่าง เป็ นทางการว่านางเป็ นคนดี
แน่นอนว่าคําพูดของคนประเภทนี’มักจะสามารถโน้มน้าวผู้อืนได้ง่ายมาโดย ตลอด
เมือชิวเพ่ยโหลวเห็นว่าหลีอันหรูรู้ถึงความยอดเยียมของเหวินจู่ นางก็อดไม่ได้ที จะรู้สึกลําพองใจในใจ
อันทีจริงเจิ’งเหวินจู่ไม่ใช่คนฝังนางหรอก แต่แล้วยังไงล่ะ ?
นีสวรรค์ต่างก็กําลังช่วยนางอยู่เห็น ๆ
ชิวเพ่ยโหลวยิมแย้ม ‘ “ช่างเถอะ ข้าก็แค่ถามดูเท่านั’น ถ้าหากพวกเจ้าไม่รู้ก็ไม่ เป็ นไร กลับไปเมือเจอเสียวหรูข้าค่อยคุยกับนางก็ได้”
เจิ’งหวินจู่พยักหน้าอย่างจริงจัง “แม่นางเพ่ยโหลวพูดถูก เป็ นเพือนกันก็ต้องเป็ น ห่วงและช่วยเหลือซึงกันและกันแบบนี’แหละ”