แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที 513 : มาทางไหนกลับไปทางนั'น
เจิ’งหนานสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วชี’บ้านทีอยู่ตรงหน้านางก่อนจะพูดขึ’น “เพือน บ้านทุกท่านต่างก็พักอาศัยกันอยู่แถวนี’ แล้วทุกท่านรู้หรือเปล่าว่าบ้านหลังนี’เป็ น ของตระกูลไหน ?”
“ข้ารู้ บ้านนี’เป็ นของตระกูลเหล่าหู เขาย้ายไปอยู่กับลูกชายของเขาเมือสองสาม วันก่อน ทีแรกบ้านหลังนี’จึงถูกทิงไว้ไม่ ‘ มีคนอยู่” มีคนรู้อย่างชัดเจนจึงพูด ออกมา
“ใช่ ตระกูลหนิวเพิงย้ายเข้ามาอยู่เมือวันก่อน ได้ยินว่าเขาเช่าบ้านหลังนี’ซึงดูเป็ น คนรํารวยมากเลยทีเดียว เฮ้ ไม่ใช่ว่าเราชมตัวเองอะไรหรอกนะ แต่แปลงทีดิน แถวบ้านของพวกข้านี’ ถ้าไม่มีเงินก็เช่าไม่ได้หรอก”
มาถึงตรงนี’มีหลายคนพยักหน้าเห็นด้วย
เจิ’งหนานพยักหน้าเช่นกัน “ก็ใช่ บ้านหลังนี’เช่าให้ครอบครัวแซ่หนิวได้อยู่อาศัย แต่แม่นางของเราเป็ นคนออกเงินค่าเช่า พวกเขาไม่ได้ออกเอง”
เมือคําพูดนี’หลุดออกไป หลายคนรู้สึกอิจฉาทันที
เหล่าหนิวรีบพูดขึ’นมา “เมียข้ากับแม่นางของเจ้าเป็ นลูกพีลูกน้องกัน ตระกูลเจียง มีบ้านหลังใหญ่อยู่อาศัยแต่กลับรังเกียจทีครอบครัวเราเป็ นญาติพีน้องจน ๆ จึง ไม่ให้เราอยู่ด้วย และขับไล่เราให้ออกจากบ้านหลังใหญ่มาอยู่บ้านหลังเล็กนี’!”
มีหลายคนเริมรู้สึกไม่พอใจ
สิงทีน่าขยะแขยงทีสุดในความคิดของพวกเขาคือการทีพวกคนรวยไม่ยอมรับ ญาติพีน้องจน ๆ สมแล้วทีเหล่าหนิวเป็ นคนทีแฝงกายอยู่ในสังคมชั’นล่างสุดมา หลายปี จึงสามารถจับทางความคิดของผู้คนได้อย่างแม่นยํา
แววตาของหลายคนทีมองเจิ’งหนานกับเจียงป่ าวชิงต่างก็เริมเปลียนไป
“อื’อหือ! แม่นางรูปโฉมงดงามเหมือนนางฟ้า แต่ทําไมถึงดูถูกญาติพีน้องตัวเอง ได้ลงคอ เป็ นพวกคนทีรังเกียจความจนแต่ชอบความรวยงั’นรึ ?!”
“ใช่! แบบนี’แย่มาก ลูกพีลูกน้องคือญาติพีน้องทีต่อให้จะยังไงก็คือสายเลือด เดียวกัน นีกลับไม่ยอมรับพวกเขาซะอย่างนั’น”
เจิ’งหนานพูดเสียงดัง “ทุกท่านรู้เพียงว่าพวกเขาถูกขับไล่ออกมา แต่ทุกท่านเคย คิดบ้างหรือเปล่าว่าถ้าแม่นางของข้าไม่อยากยอมรับพวกเขา นางคงไม่รับพวกเขา เข้าจวนตั’งแต่แรก ข้าจะบอกอะไรให้ว่าหลังจากทีครอบครัวหนิวเข้าไปอาศัยอยู่ ในจวนเจียง พวกเขาก็มีความโลภและมาข่มขู่แย่งเครืองประดับของแม่นางน้อย ของเราแล้วเอาไปแลกเป็นเงินอย่างโจ่งแจ้งโดยแย่งเอาไปถึงสองครั’ง คนแบบนี’ จะปล่อยให้อยู่ในจวนด้วยได้ยังไง ? แต่ดูเสียก่อน ขนาดพวกเขาทําความผิด
แม่นางของข้ายังออกเงินมากมายเช่าบ้านหลังนี’ให้พวกเขาได้อยู่ เพือไม่ให้พวก เขาไร้ทีอยู่อาศัย นีถือว่าเห็นแก่ญาติพีน้องแล้ว!”
สายตาของทุกคนเปลียนไปอีกครั’ง ทีแท้ครอบครัวหนิวคือพวกโลภได้คืบจะเอา ศอกนีเอง
ใครบางคนทีมีนิสัยรุนแรงถ่มนํ’าลายลงพื’น “ถุย! ทีแท้ก็เป็ นแบบนี’นีเอง พวกคน ตระกูลหนิวยังมีหน้ามาใช้คําพูดหลอกให้เราเข้าใจผิดอีกนะ!”
เมือเหล่าหนิวเห็นเจิ’งหนานโต้แย้งอย่างไม่ลดละ เขาก็รู้สึกหวาดกลัวในใจจึงรีบ พูดขึ’น “เฮ้! ทุกคนอย่าถูกหลอก ครอบครัวนี’รวยมาก เช่าบ้านหลังเล็กแค่นี’พวก เขาขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก”
หญิงวัยป้าและเหล่าผู้หญิงหลายคนทียืนกันอยู่แถวนี’ต่างก็ทนดูต่อไปไม่ไหว หนึงในนั’นพูดเยาะเย้ย “ครอบครัวของพวกเขารวยแล้วมันเกียวอะไรกับ ครอบครัวเจ้า! พวกเขารับพวกเจ้าเข้าจวนแต่พวกเจ้ากลับขู่แย่งเอาของของพวก เขาไปแลกเงิน ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ!”
“จริงด้วย! แล้วข้าก็เพิงสังเกตว่าหลังจากทีครอบครัวนี’ย้ายเข้ามา ข้าก็ไม่เคยเห็น ว่าพวกเขาจะออกไปทํางานอะไร ดูก็รู้ว่าเป็ นคนประเภทกินดีแต่ขี’เกียจทํางาน มิน่าล่ะ ถึงทํานิสัยแย่ ๆ อย่างแย่งเครืองประดับคนอืนแล้วเอาไปขายเป็ นเงินแบบ นั’นได้ลง!”
“ใช่ และเท่าทีได้ฟัง ตระกูลเจียงยังเช่าบ้านหลังนี’ให้กับพวกเขาด้วย ดูเหมือนว่า ตระกูลเจียงจะมีความเมตตากรุณามากแล้ว แต่ครอบครัวหนิวไม่รู้จักบุญคุณเอง”
เหล่าหนิวไม่สนใจจะโต้แย้งอะไรอีกแล้ว เมือเห็นว่ามีคนพูดถึงเรืองบ้านหลังนี’ เขาก็รีบตะโกนแหกปากทันที “ทั’งหมดนี’เป็ นเรืองโป้ปดทีไอ้คนดูแลแม่นางเจียง จงใจหลอกคนอืน ตอนนี’ครอบครัวแซ่เจียงต้องการขับไล่เราออกไปจากบ้านหลัง นี’ ทุกคนลองคิดดูนะว่าลูกข้าเพิงอายุสามขวบ ถ้าพวกเขาไล่ เราออกไปเราจะไป นอนทีไหน นีไม่เท่ากับว่าปล่อยให้เราไปตายหรอกรึ ?!”
ทุกคนมองดูเด็กสามขวบทีนังร้องไห้อยู่ บนพื’นด้านข้าง พลันจิตใจในด้านทีรู้สึก เห็นอกเห็นใจคนอ่อนแอก็กลับมาได้เปรียบและอดไม่ได้ทีจะรู้สึกลังเลอีกครั’ง
เมือเหล่าหนิวเห็นว่าทุกคนไม่ได้พูดอะไรอีก เขาก็ใช้จังหวะนี’พูดพลางสะอื’นไห้ “ทั’งหมดเป็ นเพราะเมียข้าเกิดความคิดไม่ดีและทําผิด แต่ลูกชายข้าเพิงอายุสาม ขวบ เขาจะไปรู้เรืองอะไรล่ะ คุณหนูเจียง นีเจ้าไม่พอใจอะไรอีก เจ้าก็จะส่งเมียข้า
เข้าคุกอยู่แล้วไม่ใช่รึไง แล้วเจ้ายังรู้สึกโกรธอะไรอีก การทีเจ้าต้องการขับไล่เรา สองพ่อลูกออกไปนั’นมันเท่ากับฆ่าเราชัด ๆ!”
เด็กเล็กนังร้องไห้อยู่ บนพื’นช่างชวนให้ผู้คนรู้สึกสงสาร เหล่าหญิงชราบางคนพา กันส่ายหน้า “เฮ้อ เวรกรรมแท้ ๆ”
และมีบางคนอดไม่ได้ เริมช่วยขอความเมตตาจากเจียงป่ าวชิง “แม่นางเจียงใช่ ไหม ไหน ๆ เจ้าก็เช่าบ้านหลังนี’แล้ว ก็ให้พวกเขาอยู่ต่อไปไม่ดีกว่าหรือ…?”
“ใช่ ไม่ว่าแม่เด็กจะทําผิดอะไร แต่เด็กเป็ นคนทีไม่มีความผิดอะไรด้วยหนิ ดูสิ ร้องไห้อย่างน่าสงสารมากเลยจริง ๆ นะ…”
เจิ’งหนานเพิมเสียงพูดให้ดังขึ’นเล็กน้อย “ทีทุกท่านสงสารก็เพราะไม่รู้ว่า ตระกูลหนิวทําอะไรลงไปบ้าง พวกเขาไม่ได้ทําแค่แย่งของของน้องสาวแม่นาง เจียงเอาไปขายเท่านั’น แต่ยังทําเรืองเลวร้ายอย่างอืนอีก ครอบครัวของเขาสมคบ กับโจร จับตัวน้องสาวแม่นางเจียงไปเรียกค่าไถ่หวังจะเอาเงินเยอะ ๆ เข้ากระเป๋ า ตัวเอง เท่านั’นไม่พอยังคิดจะจับแม่นางเจียงไปอีกคน! เรืองไร้จิตสํานึกและ เนรคุณชัวช้าแบบนี ‘พวกเขายังทําได้ลง ถูกทําขนาดนี’แล้วยังจะให้แม่นางของเรา เสียเงินเลี’ยงดูครอบครัวแซ่หนิวนี’ต่อได้ยังไง ?!”
เมือทุกคนได้ยินว่าตระกูลหนิวทําเรืองชัวช้าถึงขนาดนี ‘ได้ลงคอ พวกเขาก็เข้าใจ ไม่แปลกใจเลยทีแม่นางตระกูลเจียงจะเกลียดพวกเขาเช่นนี’
และเมือลองคิด ๆ ดูแล้ว การขับไล่ตระกูลหนิวออกไปเพียงอย่างเดียวนั’นไม่ถือ ว่าทําเกินไปด้วยซํ’า เพราะถึงอย่างไรเดิมทีก็เป็ นตระกูลเจียงทีจ่ายเงินค่าเช่าบ้าน หลังนี’
“ไอ้โย เรืองนั’นก็เข้าใจแล้ว แต่เด็กดูน่าสงสารมากเลย ไม่เห็นต้องพาลใส่เด็ก เลยหนิ” ใครคนหนึงแสดงความคิดเห็นออกมาท่ามกลางกลุ่มคนทีมาดู
เจิ’งหนานเป็ นคนทีเล่าเรียนวิทยายุทธ์การต่อสู้มา สายตาของนางจึงยอดเยียมมาก และนางสามารถมองหาคนทีพูดเจอในทันที จากนั’นนางก็พูดขึ’น “สุภาพสตรีที ใส่เสื’อสีเขียวตรงนั’น ถ้าหากรู้สึกว่าเด็กน่าสงสารก็รับครอบครัวนี’กลับไปเลี’ยงที บ้านเลยสิ ใครรู้สึกสงสารก็เชิญคนนั’นเลี’ยง ถึงยังไงแม่นางของข้าก็จะไม่ให้ โอกาสครอบครัวทีไม่รู้จักบุญคุณนี’อีกแล้ว”
หญิงเสื’อเขียวตกใจ นางก็แค่อยากพูดออกมาเท่านั’น ไม่คิดว่าจะถูกเรียกตัวได้ อย่างแม่นยํา และเมือเห็นสายตาหยอกล้อของคนอืน ๆ โดยรอบ นางก็รีบปิ ดหน้า ตัวเองไว้ครึ งหนึงทันที “เฮ้ ๆ ๆ ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั’นเอง…”
แน่นอนว่าไม่มีใครพูดแทนเหล่าหนิวอีก
สําหรับเรืองทั’งหมดนี’ ถ้าใครได้ฟังและเข้าใจแล้วก็จะรู้ทันทีว่าเจียงป่ าวชิงไม่ได้ ทําผิดอะไรแม้แต่น้อย ทุกคนควรคิดแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา …ใครจะอยากเสีย เงินโดยเปล่าประโยชน์เพือเลี’ยงดูครอบครัวทีเนรคุณชัวช้าแบบนี ‘กันล่ะ
ยิงกว่ านั’น เดิมทีเหล่าหนิวเคยเป็ นขอทาน ในเมือเขาได้โอกาสทีดีแล้วแต่กลับไม่ รักษาโอกาสเอง เช่นนั’นมาทางไหนก็กลับไปทางนั’นเถิด…
……
เจียงฉิงถูกช่วยเหลือและได้กลับบ้านในทีสุด คงเป็ นเพราะเจอเรืองหนัก ๆ มา มาก ตกกลางคืนเด็กหญิงไข้ขึ’นสูง เจียงป่ าวชิงจึงดูแลนางตลอดทั’งคืนโดยไม่ได้ พักผ่อนเพือให้ไข้ลดลง
หลังจากทีเจียงฉิงตืนขึ’นมาในตอนเช้าก็เห็นเจียงป่ าวชิงยังคงเฝ้าอยู่ข้างกายนาง อย่างเหนือยล้า ในใจนางเต็มล้นไปด้วยความตื’นตัน “พีสาว…”
เจียงป่ าวชิงลูบศีรษะเจียงฉิงเบา ๆ ก่อนจะจับชีพจรให้นาง หลังจากทีแน่ใจแล้ว ว่าไม่ได้เป็ นอะไรมากถึงจะเบาใจลงและเอ่ยสังให้สาวใช้ปี’ หลิวดูแลเจียงฉิงให้ดี ๆ
เจียงป่ าวชิงไปทีห้องของเลียวชุนหยู่ทีไม่ได้สติมาสองวันแล้ว ดีทีเมือคืนเขาฟื’ น และโชคดีทีไม่มีอาการรุนแรงอะไรตามมา เพียงแค่มีอาการหูอื’อและวิงเวียน ศีรษะเล็กน้อยเท่านั’น
เจียงป่ าวชิงจดรายการยาชุดใหม่ทีต้องใช้รักษาอาการให้เลียวชุนหยู่ และสังให้ จ้านหลู เด็กรับใช้ของเลียวชุนหยู่ไปหยิบยามาให้
เลียวชุนหยู่นอนพิงอยู่บนหมอนอิง เขาถามอย่างอ่อนแอ “ได้ยินว่าพีเจียงฉิงเป็ น ไข้ นางไม่ได้เป็ นอะไรใช่ไหมขอรับ ?”
เจียงป่ าวชิงพยักหน้า “อื’ม พีเจียงฉิงของเจ้ามีชีวิตชีวาขึ’นแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็ นห่วง นะ”
เลียวชุนหยู่โทษตัวเอง เขากําหมัดแน่น “ข้าไม่ดีเอง ถ้าหากว่ากังฟูของข้าดีกว่านี’ พีเจียงฉิงก็คงไม่ถูกไอ้พวกนั’นจับตัวไปและไม่ต้องทนทุกข์ยากแบบนี’!”
“เจ้าไม่ต้องโทษตัวเองหรอก นีไม่ใช่ความผิดของเจ้า” เจียงป่ าวชิงปลอบพร้อม รอยยิม’ “ครั’งนี’พีเจียงฉิงของเจ้าซาบซึ’ งกับการเสียสละของเจ้ามาก นางบอกว่าจะ ไม่ให้เจ้ากินองุ่นทีไม่ค่อยสดแล้ว เจ้าควรได้กินองุ่นสดนะ”
เลียวชุนหยู่อดหัวเราะไม่ได้ “พีเจียงฉิงนีจริง ๆ เลย…”