โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 615 - เสี่ยวไป๋อารมณ์ไม่ดี
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น!” คงถิงอยากเถียงใจจะขาด ว่าความจริงเธอไม่ได้สั่งให้ฆ่าฉินเฟิง เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือไป๋หลี
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ฉินเฟิงโกรธมาก เขาแสยะยิ้มเย็นชา
“งั้นหรอ ถ้าเธอไม่ได้เพ่งเล็งฉัน งั้นน่ากลัวว่าเป้าหมายของคนพวกนี้ คงเป็นไป๋หล่ะล่ะสิใช่ไหม?”
ไป๋หลีฮึฮะคำหนึ่ง และกล่าว “ในหัวคงกลวงไม่มีสมอง กล้าไล่ฆ่าฉัน ไม่อยากมีชีวิตแล้วรึไง?”
สีหน้าของฟูโลวเก๋อยิ่งนานยิ่งน่าเกลียด จนคิดว่าคงไม่อาจน่าเกลียดไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว เพราะไม่ว่าใครฟังก็คงรู้ ว่าไอ้หัวกลวงไม่มีสมองนั่นหมายถึงเขา
เวลานี้คงถิงสีหน้าซีดเผือด ไม่ทราบเป็นเพราะเสียเลือดมากเกินไป หรือเพราะถูกฉินเฟิงเปิดโปงกันแน่
ฉินเฟิงพอเห็นสีหน้าของผู้คนในที่นี้ ก็พอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ในหัวใจฟุ้งไปด้วยความโกรธ
“คุณหนูถิง ผมคงไม่กล้ารับความรู้สึกชอบพอขอบคุณ เพราะตัวคุณในตอนนี้ มันน่ารังเกียจเกินไป!”
คงถิงน่ะมีพ่อเป็นเลเวล B ดังนั้นตั้งแต่เด็กจนโต เธอมักได้รับทุกสิ่งที่ต้องการ ทั้งยังเป็นคนขี้อิจฉามาก ละโมบในความสุขสม เห็นได้ชัดว่าพ่อของเธอมีอำนาจมากอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังไม่รู้สึกพอ
และที่เหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงตอนนี้ เป็นเพราะคงถิงที่ชักนำมันมาสู่ตัวเองทั้งสิ้น
ฉินเฟิงกวาดสายตามองกลุ่มปีศาจชินระ เอ่ยปากออกมา “กลุ่มปีศาจชินระสินะ? เป็นกองกำลังมืดที่ทรงพลังใช่รึเปล่า งั้นฉันก็คงยุ่งกับพวกแกไม่ได้สิใช่ไหม เหอะ! คงไม่มีทางเลือกอื่น ฉันขอตัวก่อน!”
ฉินเฟิงกวักมือเรียก ไป๋หลีเดินตามหลังเขา ทั้งสองเดินจากไปอย่างไม่ใยดี
พอได้ฟัง สมาชิกที่เหลือของกลุ่มปีศาจชินระกลายเป็นโง่งม
‘เมื่อกี้ฉินเฟิงพูดมา ‘คงยุ่งไม่ได้’ ใช่ไหม? แต่เขาเพิ่งจะฆ่าพรรคพวกของพวกเราไปตั้งเยอะไม่ใช่หรอ และอาศัยแค่ความแข็งแกร่งของทั้งสองคน ยังไงก็สามารถฆ่าพวกเราทั้งหมดในที่นี้ได้ แต่สุดท้ายกลับจากไป นี่มันยังไงกันแน่?’
อันที่จริงแล้ว ที่ฉินเฟิงคิดน่ะง่ายมาก จริงอยู่ที่คงถิงเป็นลูกสาวของคงโบะ แต่ก็แล้วไง? เรื่องนั้นมันเกี่ยวข้องอะไรกับฉินเฟิง? ฉินเฟิงไม่ต้องการหาเรื่องผู้ใช้พลังเลเวล A แล้วตอนนี้เรื่องราวก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาช่วยชีวิตคงถิงไว้ครั้งหนึ่ง แต่อีกฝ่ายกลับชักนำเขาเข้าสู่สถานการณ์บ้าๆนี่ ดังนั้นเธอจะเป็นหรือตาย เขาไม่สนใจอีก
แล้วอีกอย่าง กลุ่มชินระไม่ช้าก็เร็วต้องถูกฉินเฟิงฆ่า ดังนั้นตอนนี้ ฉินเฟิงเลยปล่อยให้พวกมันฆ่าคงถิงตัวปัญหาให้จบๆไป
สองบอดี้การ์ดของคงถิง เบิกตากว้างมองฉินเฟิง แต่เจ้าตัวอย่างไรไม่ยอมสนใจ ยังคงก้าวสองเท้าเดินจากไป
ฉากนี้ เล่นเอากลุ่มปีศาจชินระอึ้งไปเหมือนกัน
สายตาของติหรัง เบนมาตกลงบนร่างของคงถิง ในหัวใจเกิดความคิดอ่านว่า ผู้หญิงคนนี้อาจไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่เขาคิดซะทีเดียว บางทีฉินเฟิงอาจเกรงว่าคงถิงจะได้รับอันตราย เลยแสร้งไม่ยอมลงมือใช่หรือไม่?
แน่นอน เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องนึกไปเอง เข้าใจผิดสุดๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้! แกจงทิ้งผู้หญิงผมขาวนั่นไว้ซะ มิฉะนั้น ฉันจะฆ่าลูกสาวของคงโบะ!” ติหรังกล่าว ราวกับว่าตนสามารถจับจุดอ่อนของฉินเฟิง
คราวนี้ หากปฏิบัติการของเขาล้มเหลวติดต่อกันถึงสองครั้งสองครา ติหรังไม่กล้าจินตนาการเลยว่าชินระจะลงโทษเขาอย่างไร ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือ นำบรรณาการที่ชินระชมชอบกลับไป
แต่ในขณะนั้นเอง ฟูโลวเก๋อกลับสบถด่าออกมาด้วยความโกรธ “แกพูดบ้าอะไร! หุบปากซะ!”
‘เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังมองท่าทีของฉินเฟิงไม่ออกอีกหรือ? คงถิงจะเป็นจะตาย ฉินเฟิงสนใจซะที่ไหนกัน?’
ในเวลานั้นเอง หนึ่งในสองบอดี้การ์ดของคงถิงพลันขยี้ตัวเชื่อมมิติ
ครั้งก่อนที่คงถิงถูกลักพาตัวไป เป็นเพราะเธอพลัดหลงกับบอดี้การ์ดของตัวเอง ดังนั้นบอดี้การ์ดไม่สามารถใช้ตัวเชื่อมมิติได้ แต่ในครั้งนี้มันต่างออกไป
สองบอดี้การ์ดได้รับบาดเจ็บสาผัส ปรากฏอย่างน้อยสามถึงห้าบาดแผลบนร่างกายที่ถูกเจาะด้วยแท่งเหล็ก แต่โชคดีไม่โดนจุดสำคัญ ทำให้ยังพอสามารถเคลื่อนไหวได้
ตัวเชื่อมมิติถูกเปิดใช้งาน ช่องว่างมิติปรากฏขึ้นทันใด มองคล้ายไม่ต่างจากปากหลุมดำ และไม่นาน ชายคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากมัน–
–เป็นคงโบะ!
“กลุ่มปีศาจชินระ! เป็นพวกแกอีกแล้ว!” คงโบะเห็นศัตรู ก็สามารถระบุสถานะได้ทันที
ภาพความเกลียดชังในครั้งเก่าก่อน ท่วมท้นขึ้นมาในจิตใจของเขา
เดิมที แค่ไป๋หลีกับฉินเฟิง คนเหล่านี้ก็ไม่อาจชนะได้อยู่แล้ว เมื่อเพิ่มคงโบะเข้าไป ก็ยิ่งไม่มีโอกาสชนะ
ช่วงเวลานี้ คงถิงราวกับพบพระมาโปรด
“คุณพ่อ ช่วยหนูด้วย ช่วยหนูที!”
คงถิงกรีดร้องน่าสงสาร สภาพของเธอ แขนข้างหนึ่งถูกตัดออกจากกัน คงโบะพอเห็น ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นแดงฉาน
“สารเลว! พวกแกทั้งหมดต้องตาย!”
คงโบะระเบิดกำลังภายในออกมา เพียงพริบตา ปรากฏมีดสีดำนับพันเล่มลอยล่องในอากาศ ว่ายวนรอบตัวเขา
วินาทีต่อมา มีดเหล่านั้นถูกถ่ายเทกำลังภายในเข้าไป เสริมอำนาจทำลายจนถึงขั้นน่าสะพรึง ก่อนขว้างไปยังกลุ่มปีศาจชินระ
ร่องรอยของความเหยียดหยันสะท้อนวาบในแววตาของติหรัง สงสัยคงโบะจะโกรธจนเลอะเลือนไปแล้ว ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายแม้ใช้กระบวนท่ามีดบินที่ตนเชี่ยวชาญ แต่ก็ยังพ่ายแพ้เขา พอตอนนี้พอเจอหน้ากันอีกครั้ง กลับยังใช้ซ้ำอีกรอบ?
“จงสยบแก่ฉัน!” ติหรังปลดปล่อยพลังสมาธิกวาดออกไป หมายจะเข้าควบคุมมีดบินเหล่านั้น บังคับให้ทั้งหมดสิ้นอำนาจ
ทว่าเพียงแรกสัมผัส ติหรังกลับพบว่า เขาไม่สามารถเข้าควบคุมมีดบินเหล่านั้นได้ เจ้าตัวเบิกตาค้าง เฝ้ามองมีดบินนับไม่ถ้วนพุ่งแทงเข้ามาหาตนและลูกสมุน
“อ๊าาาาาา”
ติหรังกรีดร้องเสียงหลง วินาทีต่อมา มีดบินเล่มนั้นพลันอาบไปด้วยเลือด
ขณะเดียวกัน บนหัวของติหรัง ปรากฏรูเลือดขนาดสองเซนติเมตรเหวอะออกมา จากนั้นเลือดก็เริ่มไหลนอง ทะลักเป็นสาย
ฟุฟฟฟฟ!
ผู้ครอบครองความสามารถระดับราชันย์ของกลุ่มชินระ ถูกสังหารตกตายอย่างไม่คาดฝัน!!
แต๊ง แต๊ง แต๊ง แต๊ง!
เสียงคมของมีดบินกระทบกันไปมา กำลังภายในอันแข็งแกร่งกดดันฟูโลวเก๋ออย่างหนักหน่วง จนเจ้าตัวต้องล่าถอยออกไป บังเกิดช่องว่างอย่างไม่ทันรู้ตัว คงโบะอาศัยจังหวะนั้นระเบิดวิชาตัวเบา โฉบกายไปเบื้องหน้าและกระชากคงถิงกลับมา สุดท้ายแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ค่อยสลายหายไป
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!” ฟูโลวเก๋อกวาดมองโดยรอบ ไม่เพียงติหรังที่ตาย แต่สมาชิกเลเวล C ที่เหลืออยู่ทั้งหมดล้วนถูกสังหารสิ้น ทีมทั้ง 20 คนที่นำมา บัดนี้เหลือเพียงผู้บัญชาการอย่างเขาแค่ลำพัง
โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ฟูโลวเก๋อหันหลังวิ่งหลบหนีทันที
แต่ในตอนนั้นเอง เบื้องหน้าสายตาของเขา พลันปรากฏรอยแยกมิติในแนวนอนขึ้นอย่างกะทันหัน และรอยแยกนี้ช่างเป็นอะไรที่คุ้นเคย เพราะมันคืออบิลิตี้มิติที่ไป๋หลีเพิ่งใช้ทำร้ายเขา ส่วนคราวนี้เธอแอบลอบเตรียมมันเอาไว้ล่วงหน้า
เนื่องจากถูกดึงดูดความสนใจจากพวกติหรัง ฟูโลวเก๋อเลยไม่ทันสังเกตเห็นมัน
ณ จุดนี้ เจ้าตัวพบว่าตำแหน่งการวิ่งของตนเอง กำลังตรงเข้าสู่รอยแยกมิติพอดิบพอดี เฉือนผ่านลำคอตน คิดหยุดฝีเท้าก็ไม่ทันการ
ฟุฟฟฟฟ!
ปรากฏเสียงเบาๆคล้ายสายลมพัดผ่าน ร่างของฟูโลวเก๋อยังคงวิ่งไปข้างหน้า ทว่าศีรษะกลับพลิกตลบ ร่วงกลิ้งลงกับพื้นแล้ว
“แค่บอกว่าจะหนีก็หนีได้รึไง? ถ้าปล่อยให้แกหนีไปได้ฉันไม่เสียหน้าแย่หรอ?” ไป๋หลีกล่าวน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นก็ขับเคลื่อนพลังสมาธิ ควบคุมอุปกรณ์รูนมิติหลายชิ้นของฟูโลวเก๋อเข้ามาในมือเธอ
จากนั้น สายตาเย็นชาของไป๋หลีก็เบนมาตกลงบนร่างของคงโบะและคงถิง
คงโบะเวลานี้ก็ตกตะลึงกับฉากตรงหน้าเช่นกัน เขาสามารถขับไล่ฟูโลวเก๋อได้ก็จริง แต่นั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายตกใจกับอานุภาพมีดบินอันร้ายกาจของเขา
อย่างไรก็ตาม เทคนิคของไป๋หลีกลับร้ายกาจยิ่งกว่า มันไม่ใช่แค่ขับไล่ แต่สามารถฆ่าเลเวล B ได้ในพริบตาเดียว!
“ท่านผู้ใหญ่คง บอกตามตรงว่าฉันรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก หลังจากนี้ไปถ้าฉันยังอยู่ในลุ่มน้ำตู่ซาน ฉันหวังว่าคุณจะเตือนสติลูกสาวคุณ ไม่ให้คิดทำอะไรโง่ๆอีก มิฉะนั้นคนต่อไปที่หัวหลุดจากบ่า –จะเป็นเธอ!”
ไป๋หลีไม่คิดมากมารยาท เอ่ยเตือนคงโบะโดยตรง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”คงโบะสับสนไม่เข้าใจ เขาไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครตอบเขา แม้แต่คงถิงก็เอาแต่ก้มหน้าเมื่อได้ยินคำนี้ ไม่กล้าสู้สายตาของคงโบะ
สายตาของคงโบะเบนออกไปหยุดลงบนสองบอดี้การ์ดทันที
บอดี้การ์ดเหลือบมองฉินเฟิงอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงไม่ได้สนใจพวกเขา แต่ยกอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาโทรติดต่อหาใครบางคน ดูเหมือนว่าแม้เขาจะเจอเรื่องร้ายระหว่างทาง แต่เนื่องจากศัตรูถูกกำจัดแล้ว ดังนั้นฉินเฟิงเลยคิดทำภารกิจของเขาต่อไป
ด้วยเหตุนี้ บอดี้การ์ดจึงถอนสายตากลับมาด้วยความรู้สึกผิด และส่งเสียงผ่านกำลังภายใน บอกเล่าแก่คงโบะว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อได้ฟัง สีหน้าของคงโบะแปรเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ!