โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 664 - เขมือบฟ้า
Ep.664 – เขมือบฟ้า
ฉากในปัจจุบัน เล่นเอาทุกคนอ้าปากค้าง
ช่วงเวลาคล้ายหยุดเดินไปหลายวินาที สักพักเลยทีเดียว กว่าลูกเรือกลุ่มไห่โม่บนภูเขาน้ำแข็งจะได้สติ ร้องตะโกนออกมา
“บอสหยาง!”
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
พวกเขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
บนอกของฉินเฟิง ติดตราผู้ใช้พลังเลเวล C อยู่ชัดๆ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยก็ไม่มีแรงกดดันเท่ากับเลเวล B แต่ตอนนี้ บอสหยางของพวกเขา กลับตกตายลงภายใต้เงื้อมมือของฝ่ายตรงข้าม
หยางเฉียนเบิกตากว้าง ปากกระอักเลือดคำโต สีหน้าแลดูบิดเบี้ยว แสดงออกชัดถึงความไม่ยินยอม ทั้งไม่อยากจะเชื่อ แต่สุดท้ายการแสดงออกทั้งหมดก็แข็งค้างไป
หยางเฉียน –ตาย!
ฉัวะ
ฉินเฟิงค่อยๆชักมีดรูนทองกลับออกมาอย่างช้าๆ
หยางเฉียนไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ร่วงตกจากฟากฟ้า
“ช่วยเขา! รีบช่วยเขาเร็ว!”
“บอสหยาง!”
“ไม่จริง บอสหยางต้องไม่เป็นอะไร!” ฝูงชนตื่นตระหนก
ฉากนี้ไม่ใช่แค่สถานการณ์ที่บอสของพวกเขาตาย แต่ยังแปรได้อีกความหมายนึงว่า ขนาดหัวหน้ายังตาย แล้วลูกน้องอย่างพวกเขาจะเหลือหรือ?
เมื่อชีวิตถูกกุมอยู่ในมือของผู้อื่น แล้วแบบนี้จะไม่ให้พวกเขาเกิดความกลัวได้อย่างไร!
ช่วงเวลานี้ สายตาของฉินเฟิงเบนกลับมา ตกลงบนร่างของหวังหยางหยิง ฉินเฟิงตรงเข้าหา แสดงชัดว่าคิดสังหารเขาเป็นรายต่อไป
หวังหยางหยิงเองก็ทราบเช่นกัน ชั่วเวลานี้เขารู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความคิดแว่บแรกในจิตใจของเขา คือต้องการจะหลบหนี!
“เทคนิคก้าววารี!”
กระแสคลื่นรอบๆเริ่มซัดสาดอย่างรวดเร็ว หวังหยางหยิงพริบตาเดียวดีดผึงไปไกลกว่าร้อยเมตร หมายหลบลี้จากการไล่ล่าของฉินเฟิง
สีหน้าของฉินเฟิงยังคงเรียบเฉย ไร้ซึ่งการแสดงออกใดๆ ตรงกันข้ามกับร่างกายที่วูบไหวอย่างรวดเร็ว
“เทคนิคก้าวมังกร!”
ฉินเฟิงอาศัยกำลังภายในอันรุนแรง ขับเคลื่อนสองเท้าข้ามผืนทะเล และมันว่องไวยิ่งกว่าหวังหยางหยิงเสียอีก!
แทบจะในเสี้ยววินาที เจ้าตัวสามารถไล่ตามศัตรูได้ทัน
“ตายซะ!”
มีดยาวในมือฉินเฟิงตวัดเข้าสังหาร
“ไม่!” หวังหยางหยิงร้องโวยวาย ปรากฏคลื่นน้ำว่ายวนรอบตัวเขา อย่างไรก็ตาม กำลังภายในของฉินเฟิงสามารถสะบั้นตัดมันขาดได้ในพริบตาเดียว
หวังหยางหยิงยังคิดพยายามหลบหนี แต่ความว่องไวของเขาอย่างไรไม่เทียมเท่าฉินเฟิง คมมีดตวัดสังหารนี้ เดิมมีเจตนาปาดเข้าคือคอของเขา แต่เนื่องจากเอี้ยวตัวหลบหนี ดังนั้นคมมีดเลยเฉือนโดนตรงเอวของหวังหยางหยิงแทน
ชุดเกราะในของหวังหยางหยิงน่ะทนทาน แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อตกอยู่ภายใต้กำลังภายในของฉินเฟิง สุดท้ายถูกสะบั้นตัดแยกจากกัน
ฉัวะ!!
หวังหยางหยิงถูกคมมีดกวาดแยกเป็นสองท่อน เมื่อปราศจากพลังสมาธิเข้าควบคุมรูนน้ำ ผืนทะเลก็สงบลง
“ยังเหลืออีกหนึ่ง … อ๋า?”
แม้จะทำลายประติมากรรมน้ำแข็งไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ฉินเฟิงตระหนักดี ว่าเฉินซายังไม่ตาย เพียงตกลงไปในทะเล บางทีอาจได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ถึงขั้นไร้สิ้นอำนาจในการต่อสู้
ดังนั้นฉินเฟิงตัดสินใจแผ่พลังสมาธิ กวาดควานหาเฉินซา
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้ จู่ๆฉินเฟิงพลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัว กำลังมุ่งตรงมาอย่างกะทันหัน
และกลิ่นอายอันน่าสะพรึงชนิดนี้ ในชีวิตของเขาไม่เคยพบเจอกับมันมาก่อน!
ไม่ว่าจะเป็นก่อนเกิดใหม่ หรือหลังเกิดใหม่ ล้วนไม่เคยสัมผัสกับกลิ่นอายแบบนี้มาก่อนเลย
ระหว่างนั้นเอง จู่ๆร่างหนึ่งพลันโผล่ขึ้นมาจากใต้ทะเล มันคือใบหน้าที่ฟุ้งไปด้วยความตื่นตระหนก –ยังมีใครอื่นอีกหรือหากมิใช่เฉินซา?
“ว๊ากกกก”
เฉินซาร้องโวยวายตื่นตระหนก ฟังไม่เป็นภาษา หากแต่ในใจของฉินเฟิงทราบดี ว่าการดำรงอยู่ที่สามารถทำให้ผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล B รู้สึกหวาดกลัว ย่อมมิใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาสามัญ
ขณะนี้ คู่ปีกน้ำแข็งงอกขึ้นบนแผ่นหลังของเฉินซา มันถูกระดมรูนและพลังสมาธิเข้าไปอย่างรวดเร็ว สยายปีกกระพือ บินสูงขึ้นฟ้า
ขณะเดียวกัน ทุกคนในที่นี้ต่างรู้สึกได้ถึงแสงสว่างรอบกายเริ่มสลัวลง ต้องทราบนะว่า สภาพอากาศวันนี้ตอนแรกดีมาก แม้อยู่เหนือผิวน้ำของทะเลนรก หากแต่ในทะเลก็ยังเป็นสีครามอย่างหาได้ยากยิ่ง ยังไงก็ตาม ไม่ถึง2 -3 วินาทีหลังปรากฏกลิ่นอายนี้ ความมืดมิดพลันเข้าปกคลุมน้ำทะเลแถบนี้ทันที
ฉินเฟิงสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่านี่เป็นผลมาจากรูนมืดปริมาณมหาศาล
ช่วงเวลานี้ ผิวน้ำทะเลกระเพื่อมไหว แยกออกเป็นสองทิศทาง สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่โต –การดำรงอยู่ที่ไม่ต่างจากเกาะกลางทะเล ค่อยๆผลุบขึ้นมาอย่างช้าๆ
แม้จะบอกว่าช้า แต่จริงๆแล้วนี่คือภาพลวงที่เกิดจากร่างอันมโหฬารของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ต่างหาก!
เพียงช่วงบนของร่างอันมโหฬารปรากฏขึ้นสู่ผิวน้ำ ผู้คนก็พบว่าตัวมันยาวกว่า 300 เมตร ถึงกระนั้น หากไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่านั่นคงจะเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางของมัน
แต่จริงๆแล้วนี่แค่ส่วนหัวเท่านั้น
เมื่อสัมผัสกับอากาศบนบก มันก็เริ่มอ้าปากใหญ่ เพียงพริบตา น้ำทะเลคล้ายถูกสูบกลืน ไหลลงสู่ปากของมัน
“อ๊าาาาาา”
“ช่วยด้วย!”
“เขมือบฟ้า! มันคือสัตว์ร้ายเขมือบฟ้า!”
บนภูเขาน้ำแข็ง ลูกน้องกลุ่มโม่ไห่ที่ยังตื่นตระหนกกับฉากเลเวล C สังหารหยางเฉียน เริ่มกรีดร้องโวยวาย เริ่มขอความช่วยเหลือ
แต่กระนั้น มันก็สายเกินไปแล้ว!
คล้ายปรากฏแรงดูดอันน่าขวัญผวาจากปากยักษ์ สูบภูเขาน้ำแข็งที่พวกเขาใช้หยั่งเท้า กลืนมันลงไปอย่างกะทันหัน
“นั่นสัตว์ร้ายเขมือบฟ้า! หนีกันเร็ว!”
ดวงตาของหยูหยางเต๋าบัดนี้แดงก่ำ สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามถึงชีวิต เริ่มระดมกำลังแทบทั้งหมดที่มี
ตัวเขาน่ะคือผู้ใช้อบิลิตี้ลม ดังนั้นย่อมสามารถฝึกฝนจนเข้าถึงแก่นแท้ของความเร็ว เหยียบกระแสอากาศสับเท้าวิ่งหลบหนีอย่างบ้าคลั่งเมามัน
“รีบหนีเร็ว!” เขาวิ่งผ่านด้านข้างของฉินเฟิง ทั้งยังปลดปล่อยเทคนิคสายลมห่อหุ้มกายฉินเฟิง หนุนเสริมความเร็วให้เขาหลบหนีได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
ในตอนนี้ ขอบอกว่าฉินเฟิงเองก็ตกใจกับฉากตรงหน้าเช่นกัน
“เจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร?” ฉินเฟิงหลุดพ้นจากแรงดึงดูดของสัตว์ทะเลอันน่าขนพองสยองเกล้าตัวนี้ ขณะเดียวกันเริ่มใช้กำลังภายในทะยานไปในอากาศอย่างดุเดือด
หยูหยางเต๋าคาดไม่ถึงว่าฉินเฟิงจะไม่รู้จักสัตว์ร้ายตัวนี้จึงเร่งตอบคำผ่านพลังสมาธิ “มันคือสัตว์ร้ายอันดับต้นๆในทะเลนรก ความแข็งแกร่งสมควรอยู่ในระดับจักรพรรดิเลเวล A และน่าจะเป็นการดำรงอยู่ที่สามารถก้าวสู่ระดับสัตว์เทวะในไม่ช้า หากพบเจอมันในทะเล โชคชะตาเดียวที่รอคอย ก็คือความตาย!”
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่มิอาจต่อสู้กับมัน นั่นเพราะเจ้าเขมือบฟ้าตัวนี้ทรงพลังเกินไป!
ก็คิดดูเอาเถอะ ถึงขนาดถูกมนุษย์ตั้งฉายาให้ แค่นี้ก็บ่งบอกชัดเจนแล้วว่ามันทรงพลังเพียงใด
เขมือบฟ้าสูบกลืนน้ำทะเล ทว่าสายตาของมันจับจ้องไปยังเฉินซาอย่างไม่วางตา!
แค่นี้ก็พอจะคาดเดาได้ ว่าการที่เขมือบฟ้าปรากฏกาย เดิมเพราะต้องการกินเหยื่ออย่างเฉินซา!
ทว่าเฉินซาในปัจจุบัน ได้บินขึ้นไปสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 100 เมตรแล้ว เขาพยายามหลบหนีการไล่ล่าของเขมือบฟ้าสุดกำลัง
แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นได้แค่ความฝันเฟื่อง
เขมือบฟ้าสูบกลืนน้ำทะเลเข้าปาก ศีรษะโตเชิดเงยขึ้น อ้าคำรามอีกครั้ง
“ฮู้มมมมมมม”
ชั่วพริบตาเดียว บังเกิดรังสีแสงทะมึนอันน่าหวาดกลัว ยิงออกจากปากของมัน
ฉินเฟิงสามารถทราบได้ทันทีว่านี่คืออะไร มันคืออบิลิตี้มืด! เป็นเทคนิคประกายแสงแห่งความตาย!! สามารถสร้างขึ้นได้จากอักษรรูนมืด หากถูกสิ่งนี้โถมเข้าปกคลุม ร่างกายจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนกระทั่งพลังชีวิตเหือดหาย
จากนั้น เซลล์และกระดูกก็จะเริ่มเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว!
เพียงระยะเวลาสั้นๆ 3 วินาที บนท้องฟ้า เฉินซาผู้ซึ่งถูกห่อหุ้มโดยอบิลิตี้มืดของเขมือบฟ้า ก็มิอาจต้านทานได้อีกต่อไป ร่วงหล่นลง
“อึก!”
เขมือบฟ้ากลืนศัตรูของมันลงไปในคำเดียว ร่างมันมโหฬาร ปัจจุบันลอยเหนือผิวน้ำ เผยโฉมโดยสมบูรณ์แล้ว
จากตอนแรกโผล่ให้เห็นแค่ 300 เมตร ตอนนี้ร่างของมันเหมือนจะยาวเป็นกิโล ช่างน่าเหลือเชื่อซะจริง
เรือดำน้ำหากอยู่ต่อหน้าเจ้าเขมือบฟ้า คงไม่ต่างไปจากทารกน้อย ไร้กำลังต้านทานอย่างสิ้นเชิง
เนื่องจากอีกฝ่ายมีขนาดใหญ่โตเกินไป ยามอยู่ใกล้ชิดกับมัน เลยไม่สามารถมองเห็นดวงตาของเจ้าเขมือบฟ้าได้ อย่างไรก็ดี ฉินเฟิงสามารถตระหนักได้ ว่าพลังสมาธิของอีกฝ่าย กวาดลงมาตรึงบนกายตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ วินาทีต่อมา เขมือบฟ้าเริ่มอ้าปากใหญ่อีกครั้ง ร่างที่กำลังขยับไหวของมัน มองไปไม่ต่างจากภูเขายักษ์ทั้งลูก
ช่วงเวลานี้ ต่อให้เป็นรูนลม หรือกำลังภายในอะไรก็ช่าง ปัจจุบันกลายเป็นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
ร่างกายอีกฝ่ายแม้ใหญ่โต แต่ความเร็วกลับน่ากลัวไม่แพ้กัน
“ฮู้มมมมมมม!”
เขมือบฟ้าอ้าปากคำรน สูบกลืนฉินเฟิงกับหยางหยูเต๋าที่กำลังหลบหนีเข้าปากในคราเดียว