novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 753 รู้ความจริง

  1. Home
  2. พลิกชะตาชายาสยบแค้น
  3. ตอนที่ 753 รู้ความจริง
Prev
Next

ตอนที่ 753 รู้ความจริง

“หมายความว่า…” ซูฉือหวู่กำลังสืบข้อมูลให้เฝิงผิงจือ ด้วยเหตุนี้ยิ่งถามมากเท่าไรก็ยิ่งดี ทำให้เขาแสร้งมิเข้าใจและจงใจพูดออกมา

“แน่นอนว่าต้องเป็นแค่ยาบรรเทาอาการ ส่วนยาถอนพิษทั้งเผ่าปิงชวนมีเพียงเม็ดเดียว แล้วข้าจักให้อ๋องมู่อย่างง่ายดายได้อย่างไร ? ” ทันใดนั้นฟางหลิงซู่ก็เผยสีหน้าดุดันออกมา ส่วนซูฉือหวู่ก็มิได้ถามต่อ

จากนั้นทั้งสองคนก็ทำเหมือนไม่มีอันใดเกิดขึ้นแล้วฝึกเขียนอักษรต่อไป แต่ซูฉือหวู่ได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดและรู้ว่าฟางหลิงซู่ใช้สิ่งนี้มาผูกมัดอันหลิงเกอเอาไว้

ซูฉือหวู่มิได้พูดอันใดขึ้นมาอีก ฟางหลิงซู่เองก็มิได้คิดมากแต่มิรู้เลยว่าหลังจากนี้ซูฉือหวู่ได้ไปหาเฝิงผิงจือและเล่าทุกสิ่งที่รับรู้ให้นางฟัง

“ท่านบอกว่าตอนนี้อ๋องมู่โดนพิษหรือไร ? ” เฝิงผิงจือตกใจเป็นอย่างมากเพราะคาดมิถึงว่าฟางหลิงซู่จักใช้วิธีนี้ เขาช่างเป็นคนที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก

“ใช่ ดูเหมือนว่าประมุขเผ่าได้รับปากพระชายาว่าจักให้ยาถอนพิษแก่อ๋องมู่ แต่ความจริงแล้วเป็นแค่ยาระงับพิษ ส่วนยาถอนพิษที่แท้จริงมีเพียงเม็ดเดียวและข้าเชื่อว่าเขาไม่มีทางช่วยอ๋องมู่แน่นอน”

ซูฉือหวู่บอกกับเฝิงผิงจืออย่างตรงไปตรงมา แม้สิ่งที่เขารับรู้ในวันนี้ทำให้ตกใจเพราะคาดมิถึงว่าฟางหลิงซู่จะเป็นคนโหดร้ายถึงขั้นทำเรื่องเช่นนี้ได้

ส่วนเฝิงผิงจือมิได้กล่าวอันใด นางเพียงก้มหน้าครุ่นคิดบางอย่าง ซูฉือหวู่เห็นท่าทีของนางก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดหาวิธีที่จะดึงพระชายาประมุขเผ่าลงจากตำแหน่ง

แล้วนางจะดึงพระชายาลงจากตำแหน่งได้อย่างไร ? ซูฉือหวู่คิดเพียงว่ามันเป็นไปมิได้จึงส่ายหน้าและเตรียมตัวเดินจากไป

“ฉือหวู่ ท่านช่วยสืบเรื่องที่ซ่อนของยาถอนพิษให้ข้าได้หรือไม่ ? ” นี่เป็นครั้งแรกที่เฝิงผิงจือเรียกเขาอย่างสนิทสนมเพียงนี้ ทำให้ซูฉือหวู่ตะลึงไปชั่วขณะ แต่พอหันไปมองเฝิงผิงจือก็มิได้มีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย

ดูเหมือนการที่นางเรียกเขาเช่นนี้คงแค่นึกถึงช่วงเวลาในวัยเด็ก แต่พอได้ยินนางเรียกอย่างถนัดปากแล้ว ซูฉือหวู่จึงคิดอยากให้นางเรียกเขาแบบนี้ตลอดไป

“ขะ ข้าจะพยายาม” ซูฉือหวู่รู้สึกเขินอายเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าและรีบเดินจากไป เฝิงผิงจือรู้ว่าเขาต้องช่วยอย่างแน่นอน อีกทั้งนางยังรู้ว่าเขามิได้กังวลอันใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

เมื่อซูฉือหวู่ออกไปแล้ว เฝิงผิงจือก็ไปหาอันหลิงเกอทันที แม้รู้ว่าตำหนักของอันหลิงเกอมิต้อนรับ แต่ตอนนี้นางมีข่าวมาบอกและเป็นข่าวที่อันหลิงเกอต้องอยากรู้มากแน่นอน แล้วยังต้องกลัวอันใดอีก ?

เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ว่าเมื่อเฝิงผิงจือมาถึงประตูตำหนักพระชายา องครักษ์ก็เข้ามาขวางไว้ทันทีเพราะเจ้านายมิอยากพบอีกฝ่าย เฝิงผิงจือก็คลี่ยิ้มออกมาและเอ่ยกับองครักษ์ผู้นั้นว่า

“ไปรายงานพระชายาให้ข้า ถามว่านางอยากรู้เรื่องของอ๋องมู่หรือไม่ ? ” เฝิงผิงจือเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ แม้คำพูดเช่นนี้จะทำให้อันหลิงเกอมิเชื่อแต่ก็ต้องยอมพบนางอย่างแน่นอน

องครักษ์ผู้นั้นก็มิได้ขัดคำสั่ง เขารีบเดินเข้าไปรายงานพระชายาทันที

“ทูลพระชายา บัดนี้พระสนมเฝิงมาขอเข้าเฝ้า จักให้นางเข้ามาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ? ” อันหลิงเกอได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วเพราะยังจดจำสตรีนางนี้ได้

“ให้นางกลับไป”

“แต่พระสนมเฝิงให้มาทูลพระชายาว่าอยากรู้เรื่องของอ๋องมู่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์เงยหน้ามองสีหน้าของอีกฝ่ายแต่สุดท้ายเขาก็ยังตัดสินใจพูดออกมา

แม้พวกเขาจะเป็นทหารองครักษ์ของฟางหลิงซู่ แต่บัดนี้ได้มาติดตามอันหลิงเกอแล้วจึงเชื่อฟังคำสั่งของนาง อีกทั้งฟางหลิงซู่ก็เคยบอกว่าอันหลิงเกอคือนายของพวกตนในปัจจุบันนี้

“เช่นนั้นก็ให้นางเข้ามา” อันหลิงเกอเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็อนุญาตให้อีกฝ่ายเข้าพบ แม้รู้ว่าอาจเป็นลูกไม้ที่สนมเฝิงใช้อ้างเพื่อจะได้เจอตน แต่นางมิอยากปล่อยโอกาสในการรู้เรื่องของมู่จวินฮานไป

เมื่อเฝิงผิงจือเข้ามาในตำหนักก็ย่อกายคุกเข่าลงเบื้องหน้าอันหลิงเกอทันที

“พี่สาว วันนั้นผิงจือจำคนผิดจึงเข้าใจว่าพี่สาวเป็นบุตรีของอัครมหาเสนาบดีผู้นั้น ผิงจือประมาทเองและหวังว่าพี่สาวจะยอมยกโทษให้เพคะ”

เฝิงผิงจือคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมบีบน้ำตาออกมา แต่อันหลิงเกออยากรู้เรื่องมู่จวินฮานและมิอยากให้อีกฝ่ายมัวงี่เง่าอยู่แบบนี้

“ลุกขึ้นแล้วพูดออกมา” เฝิงผิงจือเห็นอันหลิงเกอไม่มีความอดทนจึงพูดเข้าประเด็นทันที เพราะหากอันหลิงเกออารมณ์ไม่ดีขึ้นมาแล้วไล่นางออกไป นางก็คงหมดโอกาสอีก

“พี่สาว ท่านรู้หรือไม่ว่าบุตรีของอัครมหาเสนาบดีเหมือนพี่สาวทุกประการ มิว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ท่าทางหรือกระทั่งน้ำเสียงและสิ่งที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือตอนนี้นางแต่งงานไปอยู่ที่เมืองจิงและเป็นพระชายาของอ๋องมู่เพคะ”

พอเฝิงผิงจือกล่าวจบ อันหลิงเกอก็ตกตะลึงทันที นางรู้เพียงว่ามู่จวินฮานมีพระชายาคนใหม่และเป็นคนของเผ่าปิงชวนแต่มิรู้ว่าคือหลู่เยว่เยว่

พอนึกถึงท่าทางของเฝิงผิงจือในวันนั้น อันหลิงเกอก็คิดว่าอีกฝ่ายคงเข้าผิดว่าตนเป็นหลู่เยว่เยว่ เมื่อเป็นเช่นนี้หลู่เยว่เยว่ก็คงมีหน้าตาเหมือนนางมาก จากนั้นอันหลิงเกอก็นึกถึงดวงตาคู่นั้นอีกครั้งและมิรู้ว่าใบหน้าใต้ผ้าคลุมนั้นจะเหมือนนางมากเพียงใด

พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วอันหลิงเกอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ หากบอกว่าสตรีนางนั้นมีหน้าตาเหมือนตน ดังนั้นตอนที่มู่จวินฮานพาอีกฝ่ายออกไปจากเผ่าปิงชวนได้อย่างง่ายดายก็ต้องมีสาเหตุอื่นอีกแน่

“พี่สาว ข้าได้ยินว่ายามหลู่เยว่เยว่อยู่ต้าโจวก็ใช้ชื่อและตัวตนของท่าน เรื่องนี้แปลกมากเพราะเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพี่สาวอยู่ในเผ่าปิงชวน เหตุใดจึงมีคนแอบอ้างเป็นท่านไปอยู่ที่นั่นได้เพคะ ? ”

ตอนนี้คำพูดของเฝิงผิงจือเป็นเหมือนน้ำมันราดลงกองไฟ ทำให้อันหลิงเกอรู้สึกสงสัยยิ่งกว่าเดิม แต่ดูเหมือนตอนนี้อันหลิงเกอจะเข้าใจแล้วว่าเรื่องทั้งหมดต้องเกิดจากใครบางคนแน่นอน

ทันใดนั้นอันหลิงเกอก็นึกถึงงานเลี้ยงต้อนรับพระชายา ฟางหลิงซู่มิเคยบังคับนางมาก่อน ทว่าก็ลากนางไปเข้าร่วมงานให้ได้และยังควบคุมอิสระของนางอีกด้วย

และนับแต่วันนั้นก็ไม่มีร่องรอยของมู่จวินฮานอีก จากนั้นก็มีข่าวว่ามู่จวินฮานกลับต้าโจวและมีพระชายาคนใหม่

มันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือทุกอย่างนี้เป็นฝีมือของฟางหลิงซู่กำหนดไว้ ทันใดนั้นอันหลิงเกอก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา คาดมิถึงว่าฟางหลิงซู่จะยังใช้แผนการกับนางอีก

“พี่สาว ท่านรู้ไม่ว่าตอนนี้อ๋องมู่ถูกพิษ ? ” เฝิงผิงจือรู้ว่าอันหลิงเกอทราบอยู่แล้ว เรื่องนี้น่าจะเป็นสิ่งฟางหลิงซู่ใช้ควบคุมอันหลิงเกอ

อันหลิงเกอพยักหน้าพร้อมเผยร่องรอยแห่งความโศกเศร้าไว้บนใบหน้า เฝิงผิงจือรู้ว่าตนมิได้เดาผิดเพราะเรื่องนี้อันหลิงเกอจึงยังต้องอยู่ที่เผ่าปิงชวน

“ถ้าเช่นนั้นพี่สาวรู้หรือไม่ว่าท่านประมุขเผ่ามิเคยคิดช่วยอ๋องมู่จริง ๆ เพคะ” ดูเหมือนเฝิงผิงจือกำลังตัดสินใจบางอย่างแล้วกล่าวประโยคนี้ออกมา

อันหลิงเกอมองอีกฝ่ายอย่างมิเข้าใจเพราะตอนนี้ฟางหลิงซู่ส่งยาถอนพิษให้มู่จวินฮานทุกเดือน แบบนี้จะไม่เรียกว่าช่วยได้อย่างไร ?

“พี่สาว ท่านลองคิดให้ดีว่ายาถอนพิษนั้นใช้มากว่าครึ่งปีแล้ว หากเป็นยาถอนพิษจริง อ๋องมู่ก็คงฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ ไหนเลยจะต้องทานยาต่อไปล่ะเพคะ ? ”