Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1321
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1321 – ศาสตร์แห่งการปรุงอาหารอันทรงพลัง ปราณแห่งการปรุงอาหาร ซาลาเปาหยก
ชิงสุ่ยเคยอยากเรียนรู้เรื่องการฝังเข็มในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา แต่ในตอนนี้มันกับไม่เหมือนกัน เหมือนดังคำพูดที่ว่า ‘ทุกๆสิ่งนั้นเป็นไปได้เสมอ’
ปราณธาตุไม้นั้นเป็นปราณที่สำคัญ มันเป็นพลังปราณที่ดีที่สุดในการรักษาอาการเจ็บป่วย ชิงสุ่ยนั้นแยกทักษะการฝังเข็มความหมายของเขาออกจากทักษะการฝังเข็มเบญจธาตุได้ เนื่องจากหมอปีศาจนั้นไม่อาจศึกษาทุกๆธาตุของธาตุทั้ง 5 ได้ เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับร่างกายของเขา
พลังปราณแห่งเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลของชิงสุ่ยนั้นมหัศจรรย์ยิ่งนักมันเหมือนกับธาตุทั้ง 5 เลย ดังนั้นมันจึงง่ายดายยิ่งนักในการใช้หลักการเรื่องการเสริมกันและการหักล้างกันของธาตุทั้ง 5 ในการรักษาอาการเจ็บป่วยและล้างพิษ
นอกจากนี้การฝังเข็มยังเป็นเคล็ดวิชาที่ช่วยบำรุงร่างกายได้ แต่ทั้งหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถหมอปีศาจ ชิงสุ่ยนั้นสนใจเพียงศาสตร์แห่งการปรุงอาหารหลังจากได้ศึกษาเรื่องนี้
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขานั้น เขาไม่เคยสนใจศาสตร์แห่งการปรุงอาหารเลย ดังนั้นเขาจึงรู้วิธีการทำอาหารเพียงเล็กน้อย เขารู้ว่าตนเองได้พลาดอะไรไปมากเพียงใดเมื่อได้เห็นห้องอาหารแห่งจักรพรรดิ ดูเหมือนว่าอาหารพวกนี้ก็ถือเป็นการบ่มเพาะที่ทรงพลังอย่างยิ่งรูปแบบหนึ่ง
ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่เขาได้รับรู้ตั้งแต่โลกก่อนหน้านี้ของเขานั่นก็คือ ผู้ที่มีความหิวกระหายในอาหารมากนั้นมักจะเป็นผู้ที่ทรงพลัง ผู้ที่หิวกระหายในอาหารน้อยนั้นมักจะอ่อนแอ นี่เห็นได้ชัดว่าร่างกายของมนุษย์นั้นมีการดูดซึมพลังจากอาหารด้วยเช่นกัน ยิ่งได้กินอาหารที่ดีเข้าไปมากเท่าไรร่างกายก็จะดูดซึมพลังได้มากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าการกินที่มากจนเกินไปย่อมเป็นผลเสียต่อร่างกายด้วยเช่นกัน
ยิ่งร่างกายของผู้บ่มเพาะทรงพลังมากเพียงใดก็จะยิ่งดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นอาหารที่ดีจึงสามารถช่วยในเรื่องการบ่มเพาะได้ มันไม่เหมือนกับอาหารธรรมดาทั่วๆไป
เมื่อมองไปยังศาสตร์แห่งการปรุงอาหารของเขา เขาเองก็ไม่ได้ตระหนักเลยว่าเขาได้เรียนรู้ศาสตร์แห่งการปรุงอาหารไปมากมาย เขาไม่ได้คิดถึงสิ่งต่างๆที่เขาเคยได้ทำมาตั้งแต่อดีตอย่างเช่น การหมักสุรา
เหล้าดอกบ๊วยผลิบาน เหล้าน้ำค้างโอชารส สุราวิศิษฎ์พิสุทธิ… ยังมีเหล้าเชี่ยงชุนกระดูกเสือและรวมไปถึงเหล้าน้ำดีอสรพิษ… แต่ของพวกนี้นั้นเป็นเพียงสุราระดับต่ำเท่านั้น
สุรานั้นก็มีการแบ่งระดับชั้นคุณภาพจากอายุของมัน ยิ่งสุรามีอายุมากเพียงใดก็จะยิ่งมีคุณภาพที่ดีมากขึ้นเท่านั้น อายุของสุรานั้นจึงมีความสำคัญหากคุณภาพของสุรานั้นไม่ได้สูงมากนัก
นอกเหนือจากสุราพวกนี้ชิงสุ่ยก็ได้เห็นซาลาเปา…
เขาลูบจมูกของตนเอง มีซาลาเปาในโลกใบนี้ด้วยเช่นกันแต่ชิงสุ่ยมันไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนเลย เมื่อเขาได้เห็นมันเขาก็รู้สึกอยากจะลิ้มลองมัน ดังนั้นเขาจึงรีบมองหาสูตรของการทำซาลาเปาในทันที
แม้ว่าชิงสุ่ยจะรู้จักศาสตร์แห่งการปรุงอาหาร เขาก็ยังคงต้องการส่วนประกอบในการทำซาลาเปา ชิงสุ่ยลองตรวจสอบดูและพบว่ามูลค่าของส่วนประกอบในการทำซาลาเปานั้นมากยิ่งนัก มันต้องการส่วนประกอบประมาณ 10 อย่างและภายในนั้นยังมีผงกระดูกสัตว์อสูรและเนื้อของสัตว์อสูรแล่บางๆ…
นี่ย่อมทำให้ซาลาเปาในโลกก่อนหน้านี้ของเขานั้นเทียบไม่ติดเลยเพราะในโลกก่อนหน้านี้ของเขาส่วนประกอบของมันนั้นมีเพียงสิ่งที่หาได้อย่างง่ายดาย สูตรของซาลาเปานี้นอกเหนือจากมันจะต้องใช้สมุนไพรเป็นส่วนประกอบแล้วมันยังมีผงกระดูกของสัตว์อสูร ในโลกก่อนหน้านี้ของเขานั้นคงจะทำไม่ได้เพราะที่นั่นไม่ได้มีสัตว์อสูรอาศัยอยู่
จากนั้นเขาก็ได้เห็นเนื้อไหมสวรรค์หยก น้ำค้างแห่งต้นหลิวหยก ซุปหัวไชเท้าหยก น้ำค้างทองคำ 1000 ปี…
สำหรับชิงสุ่ยนั้นการได้ศึกษาพวกมันทำให้เขามีความสุขอย่างยิ่ง เขายังได้พบอาหารบางอย่างที่คุ้นเคยเช่นสุรา 100 รส นี่เป็นสุราประเภทหนึ่งที่ใช้การหมักอันยอดเยี่ยม มันเป็นสุราที่หมักจากส่วนประกอบนับร้อยชนิด แม้ว่ามันจะง่ายดายยิ่งนักสำหรับชิงสุ่ย แต่มันคงจะยากสำหรับคนอื่นที่ต้องผสมส่วนประกอบนับร้อยชนิดเข้าด้วยกัน
เขาเองก็ลืมไปเลยว่าเขาก็มีเหล้าเทวะหมอกมึนเมา สุราเมามายมิรู้ลืมและของอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน แต่เพียงได้รับรู้สูตรของมันนั้นก็ดีมากพอแล้วเพราะคุณภาพของมันนั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้จากอายุในการหมักบ่ม
ยกตัวอย่างเช่นเหล้าดอกบ๊วยผลิบานของชิงสุ่ย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในดินแดนหยกยุพราชอมตะ บ๊วยบุปผชาติ 1000 ปีนั้นไม่ได้เป็นเพียงบ๊วยบุปผชาติ 1000 ปีอีกต่อไป ดังนั้นผลของเหล้าดอกบ๊วยผลิบานที่เขาได้หมักบ่มเอาไว้นั้นจึงดียิ่งกว่าเก่า
พลังของเหล่าสัตว์อสูรของเขานั้นยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง หมูป่านักล่าสมบัติและราชินีผึ้งหยกจักรพรรดินั้นได้อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นที่ 2 อสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณและพวกมันกำลังจะยกระดับขึ้นไปในเร็ววันนี้ ในตอนนี้หมูป่านักล่าสมบัตินั้นถือเป็นสัตว์อสูรที่มากความสามารถของชิงสุ่ย มันสามารถใช้ค้นหาสมบัติ ดูแลสมุนไพร และยังสามารถร่วมมือกับเขาเพื่อจัดการศัตรูได้
นอกจากนี้ชิงสุ่ยยังเห็นอาหารอื่นๆอีก บะหมี่ชีวิตยืนยาว!
มัจฉาชีวิตยืนยาวมันเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับบะหมี่ชีวิตยืนยาว ชิงสุ่ยพูดไม่ออกทันทีที่ได้เห็นเช่นนี้ บะหมี่ชีวิตยืนยาวที่เขาได้กินในโลกก่อนหน้านี้ของเขานั้นเป็นเพียงบะหมี่ทั่วๆไปที่ทุกคนจะกินกันในวันเกิดเท่านั้น นี่เป็นเพียงประเพณีที่สืบทอดกันมาเท่านั้นและแน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยยืดอายุขัยแต่อย่างใด
แต่บะหมี่ชีวิตยืนยาวในโลกใบนี้นั้นแตกต่างออกไป มันเป็นบะหมี่ที่สามารถช่วยยืดอายุขัยได้จริงๆ แน่นอนว่ามันจะเป็นการดีหากไม่ต้องใส่มัจฉาชีวิตยืนยาวในบะหมี่ชีวิตยืนยาว ไม่ว่าผลของมันจะถูกลดลงไปมากเพียงใด นอกจากนี้บะหมี่ประเภทนี้ยังแปลกประหลาดยิ่งนักมันจะช่วยยืดอายุขัยได้ 1 ปีในการกินบะหมี่นี้ 1 ครั้ง คนธรรมดาสามารถเพิ่มพลังชีวิตของพวกเขาได้สูงสุด 50 ปี นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถกินบะหมี่นี้ได้สูงสุด 50 ครั้งเท่านั้นใน 1 ปี
ในทำนองเดียวกันผู้บ่มเพาะในระดับผู้พิทักษ์เทวะธรรมนั้นก็สามารถยืดอายุขัยของพวกเขาได้เช่นกันแต่สูงสุดเพียง 200 ปีเท่านั้น
บะหมี่ชีวิตยืนยาวไม่เพียงแต่สามารถยืดอายุขัยได้ มันยังสามารถรักษาอาการผิดปกติบางอย่างได้ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย ดังนั้นมันจะช่วยเพิ่มพลังให้แก่ผู้ที่กินเข้าไปแต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นจนเห็นได้ชัด
แต่มันก็ถือว่าเป็นอาหารที่ท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก มัจฉาชีวิตยืนยาว 1 ตัวนั้นสามารถปรุงบะหมี่นี้ขึ้นมาได้ 2-3 ถ้วย ผลของมัจฉาชีวิตยืนยาวนั้นก็ถือว่าดียิ่งนักแต่มันก็มีขีดจำกัดของมัน ผลของมันนั้นจะไม่แสดงออกมาอีกต่อไปเมื่อผู้ใช้ได้กินมันครบจำนวนครั้งแล้ว มิฉะนั้นมันคงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้มัจฉาชีวิตยืนยาวเป็นส่วนประกอบของบะหมี่ชีวิตยืนยาวเพราะการได้กินมัจฉาชีวิตยืนยาวเข้าไปตรงๆนั้นยังถือว่ามีประโยชน์มากยิ่งกว่าการได้กินบะหมี่ชีวิตยืนยาว แม้ว่ามันจะถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองในการใช้มัจฉาชีวิตยืนยาวมาปรุงเป็นบะหมี่ชีวิตยืนยาว แต่บางครั้งมันก็ต้องมีการสูญเสียกันบ้าง
ชิงสุ่ยเห็นทักษะที่เขียนอยู่ในตอนท้าย ปราณแห่งการปรุงอาหาร!
มันจะเป็นการดีที่สุดหากทำความสะอาดส่วนประกอบในการทำอาหารด้วยปราณแห่งการปรุงอาหารในขณะที่เตรียมอาหาร ด้วยวิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเหนื่อยล้าเท่านั้นมันยังให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า
ในท้ายที่สุดชิงสุ่ยก็ตัดสินใจที่จะศึกษาเรื่องสุรา ซาลาเปา และบะหมี่ชีวิตยืนยาวในตอนนี้
บะหมี่ชีวิตยืนยาวนั้นไม่ได้ใช้สำหรับขายและต้องสั่งจองล่วงหน้า แต่ราคาของมันนั้นคงจะไม่ได้ถูกสำหรับทุกคน ดังนั้นแม้ว่ามันจะถูกวางขายก็มีเพียงพวกคนพิเศษเท่านั้นจะซื้อได้ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ถูกวางขายเพื่อแลกกับเงิน
……
ชิงสุ่ยตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันถัดไป หลังจากที่เขาออกมาจากห้องเขาก็ได้เห็นหมอปีศาจกำลังฝึกฝนตอนเช้าอยู่ เขากำลังฝึกฝนวิชาหมัดและพลังปราณของตนเอง ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นแม้แต่ลี่จี๋ก็ตื่นมาฝึกฝนเคล็ดวิชาดาบของนางในตอนเช้า
ลี่จี๋มันก็ถือเป็นผู้บ่มเพาะในระดับผู้พิทักษ์เทวะธรรม แม้ว่านางจะอยู่เพียงขั้นที่ 1 ผู้พิทักษ์เทวะธรรมแต่นางก็ถือว่าโดดเด่นยิ่งนัก
ชิงสุ่ยเดินออกมา เมื่อหมอปีศาจและลี่จี๋ได้เห็นเขา พวกเขาก็ทักทายชิงสุ่ย ลี่จี๋นั้นดูสดใสยิ่งขึ้นในตอนนี้ นางดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น นี่ต้องเป็นเพราะ ‘ความสุขนั้นได้ใส่หัวใจเข้าไปในร่างกายของมนุษย์’
“น้องชาย เจ้าจะฝึกฝนพลังปราณในตอนนี้หรอ?”
นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร พวกหมอนั้นไม่ได้ฝึกฝนพลังปราณของตนเองเลยเพราะพวกเขาคิดว่ามันไม่ได้สำคัญ หมอทุกๆคนนั้นมีแนวทางของตนเองในการฝึกฝนพลังปราณ ชิงสุ่ยนั้นไม่เคยรู้ว่าเขาฝึกฝนพลังปราณแบบไหนกัน แต่เขาก็อยากรู้วิธีการฝึกฝนของคนอื่นๆและบางทีมันอาจนำไปสู่การพัฒนาเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 อสูรหรือเคล็ดวิชาอื่นๆ
เรื่องพวกนี้ไม่อาจดูถูกได้เพราะมันอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ชิงสุ่ยนั้มีความสามารถมากพอจะทำเช่น ความสำเร็จในเรื่องการต่อสู้ของเขานั้นถือว่าทรงพลังอย่างยิ่งในตอนนี้ดังนั้นเขาจึงสามารถปรับปรุงเคล็ดวิชาหรือทักษะอื่นๆได้
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเขาไม่ได้ไปยังห้องอาหารแห่งจักรพรรดิในทันที แต่กลับกันชิงสุ่ยบอกพวกเขาว่ามีบางอย่างที่เขาอยากจะพูดคุยกับพวกเขา
มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการยกระดับสิ่งของบางอย่าง
ชิงสุ่ยนั้นได้เตรียมสุราที่เขาได้หมักบ่มก่อนหน้านี้เอาไว้ แม้ว่ามันจะมีคุณภาพต่ำแต่มันก็ถูกหมักบ่มมาเป็นเวลานาน สิ่งของที่ชิงสุ่ยพูดถึงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกๆคนจะสามารถใช้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้หมอปีศาจป่าวประกาศเรื่องนี้ ดังนั้นชิงสุ่ยจึงต้องสละเวลาในการจัดการเรื่องนี้
ชิงสุ่ยนำไหเหล้าดอกบ๊วยผลิบานออกมา ทั้งสามคนดื่มสุรานี้ไปด้วยขณะที่พูดคุยกัน รสชาติและผลของเหล้าดอกบ๊วยผลิบานนั้นทำให้หมอปีศาจและลี่จี๋ต้องตกตะลึง เพียงแค่รสชาติของมันก็ไม่อาจหาสิ่งใดเปรียบเทียบได้ มันยังสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เส้นลมปราณและร่างกายของพวกเขาได้เช่นกัน
นี่ยังไม่มีปราณแห่งการปรุงอาหารเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาสงสัยว่าสุรานี้จะให้ผลที่ดียิ่งขึ้นหรือไม่หากเขาใช้ปราณแห่งการปรุงอาหารในการเตรียมบ๊วยบุปผชาติก่อนหมักบ่ม
คำอธิบายของมันนั้นเขียนว่ามันจะช่วยทำให้อาหารนั้นได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น นั่นหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นจะให้ผลที่มากขึ้นอย่างน้อย 1 เท่านั้นหรือ?
จากนั้นก็มีซาลาเปา แม้ว่ามันจะดูธรรมดาไปหน่อย ชิงสุ่ยก็ยังอยากจะลองทำมันดู โชคดีที่ซาลาเปานั้นมีชื่อของมันอยู่แล้ว เช่น ซาลาเปาหยกและเต้าหู้หยก แต่ชิงสุ่ยไม่เคยลงมือทำมันมาก่อน
……
ชิงสุ่ยนึกถึงใครบางคนจากโลกก่อนหน้านี้ของเขา ‘หน้ากากซาลาเปา’ (จากรายการ The Mask singer ของไทยเลย ดอกจันของต้นฉบับเลย) เมื่อเขาคิดว่าในวันนี้ตนเองต้องมานึ่งซาลาเปาปากของเขาก็กระตุกขึ้น…
ไม่ใช่ว่าเขารู้สึกอายเพียงแต่เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
หลังจากที่ชิงสุ่ยได้อธิบายแผนการของเขาให้กับหมอปีศาจพวกเขาก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไรมากมาย พวกเขาสามารถเจาะตลาดได้อย่างช้าๆ เพียงแต่ส่วนใหญ่แล้วจะต้องทนกับแรงกดดันบางอย่าง เพราะหลังจากที่ทุกอย่างทรงตัวได้แล้วก็ต้องมีคนที่อยากจะขัดขวางการค้าของพวกเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องการหาหุ้นส่วนที่ทรงพลัง ตราบใดที่พวกเขาทรงพลังมากพอก็จะไม่มีใครมาทำอะไรได้
โชคดีที่หมอปีศาจนั้นมีชื่อเสียงมากมายในหมู่ผู้คน เพราะเขาได้รับการว่าจ้างจากตระกูลอี่หวงในอดีต ด้วยความจริงในข้อนี้ทำให้ใครหลายๆคนไม่กล้าที่จะลงมือกับพวกเขาโดยไม่คิดให้ดี
“จากนั้นพวกเราจะไปที่ห้องอาหารแห่งจักรพรรดิในวันนี้และให้พวกเขาลองลิ้มรสมันดู” ชิงสุ่ยยิ้มหลังจากที่เขาตัดสินใจได้ในตอนนี้
หมอปีศาจและลี่จี๋ต่างตกลงด้วยความยินดี
ห้องอาหารแห่งจักรพรรดิปกติแล้วนั้นจะดูแลโดยลี่จี๋ เพราะหมอปีศาจนั้นต้องรักษาคนไข้อยู่ตลอดเวลา
ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลายามบ่ายแล้ว แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายอยู่ในชั้นแรกของห้องอาหารแห่งจักรพรรดิ ราคาอาหารของชั้นแรกนั้นไม่ถือว่าแพงมากนัก นอกจากนี้มันยังเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนรวยจำนวนมากในเมืองหลวงเช่นนี้
เมื่อพวกเขาได้ขึ้นมาโดยใช้วิธีชิงสุ่ยก็ได้บอกสูตรของซาลาเปาหยกไปและให้พวกเขาจดจำสูตรของมันเอาไว้ก่อนที่พวกเขาจะลองทำมันขึ้นมา ทั้งสามคนทดลองทำมันร่วมกันด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าคนรับใช้
แต่แน่นอนว่าพวกคนรับใช้นั้นไม่ได้รับรู้ถึงสูตรนี้!
แม้ว่าสูตรนี้จะต้องการผงกระดูกของสัตว์อสูร แต่มันก็ยังสามารถใช้เงินหาซื้อมาได้ ชิงสุ่ยปรุงซาลาเปาด้วยการใช้ปราณแห่งการปรุงอาหาร
สำหรับเนื้อสัตว์เขาเลือกใช้เนื้อปราศจากไขมันของสัตว์อสูรที่มีคุณภาพสูง หม้อนึ่งของที่นี่มีขนาดใหญ่ มีส่วนผสมที่พิเศษในเนื้อแป้งของซาลาเปาตามสูตรของชิงสุ่ย สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญยิ่งนักเพราะหากปราศจากใบอบเชยหยก ก็จะไม่สามารถปรุงซาลาเปาหยกและเต้าหู้หยกขึ้นมาได้ ชิงสุ่ยไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใดเพราะศาสตร์แห่งการปรุงอาหารของเขาและสถานการณ์เช่นนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับเขาบ่อยๆ พูดง่ายๆก็คือเรื่องเหล่านี้อาจจะต่างออกไปหากไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนทำ ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าเขาควรดีใจหรือเสียใจกับเรื่องนี้ดี
สิ่งที่ดีก็คือมันเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขาที่จะจัดการเรื่องตลาด หากไม่มีใบอบเชยหยกของเขาแม้ว่าเขาจะมีสูตรของมันเขาก็จะไม่สามารถทำซาลาเปาหยกขึ้นมาได้ นี่หมายความว่าวัตถุดิบชิ้นนี้นั้นสำคัญยิ่ง…
การลงมือทำของเขาเป็นไปได้อย่างไหลลื่น ไม่นานนักเขาก็ได้สร้างก้อนขนมปังที่มีสีเขียวอ่อนขึ้นมา มันมีขนาดเพียงกำปั้นของเด็กและดูงดงามยิ่งนัก ชิงสุ่ยไม่ได้คาดคิดว่ามันจะออกมางดงามเช่นนี้
จากนั้นเขาก็เริ่มนึ่งมัน นี่เป็นกระบวนการที่เขาต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษโดยเฉพาะความแรงของเปลวไฟ ต้องเพิ่มกิ่งและใบของสมุนไพรลงไปยังเปลวไฟที่ใช้นึ่งมัน โชคดีที่มันไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก ซาลาเปานี้ใช้เวลานึ่งประมาณ 2 ชั่วโมง
ในตอนนี้มีซาลาเปาประมาณ 200 ลูกในหม้อนึ่ง ในตอนที่เขาเปิดฝาหม้อออกชิงสุ่ยและคนอื่นๆก็ต้องตกตะลึง กลิ่นหอมที่ไม่อาจบรรยายได้ลอยออกมา นอกจากนี้ซาลาเปาหยกเหล่านี้มันได้เปล่งประกายสดใสราวกับงานศิลปะ
ในอดีตชิงสุ่ยนั้นเคยคิดว่าซาลาเปาเป็นเพียงอาหารระดับต่ำ แต่ในตอนนี้เขาก็ได้รับรู้ว่าแม้แต่ซาลาเปาก็สามารถกลายเป็นอาหารหรูหราชั้นสูงได้…
ชิงสุ่ยตรวจสอบความสามารถซาลาเปาหยกนี้
เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย เติมพลังกายและพลังวิญญาณที่ใช้ไปได้บางส่วนได้ มีรสชาติที่อร่อยยิ่งนัก
แม้ว่าผลที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายของมันนั้นจะไม่ได้ถือว่ายอดเยี่ยมเท่าไหร่แต่ด้วยความจริงที่ว่ามันสามารถกินได้ทุกๆวันนั่นก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้มันยังสามารถเติมพลังกายและพลังวิญญาณที่ใช้ไปได้บางส่วนได้ในทันทีอีกด้วย