Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1363
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1363 – ปณิธานของอี่หวง กู่หวู๋ พลังแห่งศรัทธา พลังแห่งความยุติธรรม พลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์
ทั้งชือโอ๋และชือเฟิงต่างพักอยู่ที่ตระกูลชิง สำหรับเรื่องครอบครัวของพวกเขานั้นคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา หากพ่อและแม่ของพวกเขาตายไปแล้วจริงๆและหากพวกเขากลับมาเกิดใหม่เป็นปีศาจจริงๆและความโดดเดี่ยวเป็นสิ่งที่สวรรค์กำหนดมาให้พวกเขาเช่นนั้นก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนี้
แม้ว่าพ่อและแม่ของพวกเขาจะมีครอบครัวของตนเองในตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตนเองนั้นอยู่ที่ใดและตามหาเขาอยู่หรือไม่ นี่คือกรณีที่พ่อแม่ของทั้ง 2 คนไปยังมหาทวีปราชันย์เหนือฟ้าเพื่อตามหาพวกเขา แต่ด้วยเวลาที่ผ่านมาหลายปีนี้ แม้ว่าพ่อและแม่ของพวกเขาจะพยายามตามหามันก็คงเป็นเรื่องยากยิ่งนัก เพราะโลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่อย่างยิ่ง
เครือญาติที่เหลือของชือโอ๋และชือเฟิงนั้นมีเพียงปู่ของเขาและคนของหมู่บ้านภูเขาหยกเท่านั้น พวกเขาไม่ได้มีพ่อแม่มาตั้งแต่แบเบาะดังนั้นจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก สำหรับพวกเขาพ่อแม่ที่ให้กำเนิดนั้นเป็นเพียงคนแปลกหน้า
แม้ว่าพวกเขาจะคิดเช่นนี้แต่ลึกๆในใจนั้นก็ยังแอบหวังว่าจะได้พบพ่อและแม่ของตนเองในสักวันหนึ่งและถามพวกเขาว่าทำไมถึงทิ้งเขาไปเมื่อในอดีต นี่คือเส้นแบ่งระหว่างความรักและความเกลียดชัง พวกเขาไม่รู้เหตุผลใดๆและไม่รู้แม้แต่ว่าจะควรเกลียดชังหรือไม่เกลียดดี
…
ลูกๆของเหวินเหรินอูซวงและติ๊ชิงก็มีอายุได้ 2 เดือนแล้วในตอนนี้ เหวินเหรินอูซวงนั้นมีลูกชายขณะที่ติ๊ชิงนั้นมีลูกสาว เด็กทั้ง 2 นั้นมีอายุห่างกันแค่ 10 วันเท่านั้น
เด็กชายมีนามว่าชิงเติง เด็กหญิงมีนามว่าชิงนิ๋ว ตอนนี้ตระกูลชิงได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีก 2 คนแล้ว ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นหญิงสาวทั้ง 2 คน อายุของอวี้เหอนั้นมากกว่าพวกนางเล็กน้อยและนางก็มีระดับการฝึกยุทธที่สูงเช่นกัน แต่นางยังไม่ นางมองไปยังชิงสุ่ยด้วยความโศกเศร้าราวกับว่าชิงสุ่ยนั้นเสื่อมสมรรถภาพในยามที่อยู่กับนาง…
เมื่อมองไปยังลูกๆของเขาชิงสุ่ยรู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นภาพลวงตา ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาไม่แม้แต่จะกล้าคิดเรื่องนี้ ผู้คนมักจะบอกว่าอย่ามีลูกมากเกินไปแต่ไม่ว่าเขาจะมีลูกมากเพียงใดเขาก็สามารถเลี้ยงดูได้ นอกจากนี้เขายังมีภรรยาที่งดงามจำนวนมาก…
ทุกๆคนย่อมมีความใฝ่ฝันที่แตกต่างกันในชีวิต บางคนตามหาเงิน บางคนชอบตัณหา บางคนใฝ่ฝันถึงพลัง บางคนชอบที่จะสู้…
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาชิงสุ่ยหวังเพียงงานที่มั่นคง ได้มีบ้านที่สะดวกสบาย มีคนรัก พ่อแม่สุขภาพดีและครอบครัวมีความสุข เขาไม่ต้องการที่จะเป็นคนไร้ประโยชน์ เขาเพียงต้องการเป็นคนที่มีชีวิตะรรมดาที่สุขสบาย
เขาไม่เคยคาดคิดว่าเมื่อเข้ามายังโลกใบนี้เขาจะมีทุกๆอย่างเช่นนี้ แต่ความคิดของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลไปแต่อย่างใด ในตอนแรกเริ่มนั้นเขาถูกผลักดันจากสิ่งที่มองไม่เห็นทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้นเหมือนดังทุกวันนี้
จากความมุ่งมั่นของเขาเมื่อตอนอยู่ที่หมู่บ้านตระกูลชิงเพื่อที่จะไปยังตระกูลเยียนและก็ได้ไปที่นั่นภายใน 20 ปี… ชิงสุ่ยพยายามที่จะแบ่งเบาภาระในใจของทุกๆคนในอดีตที่ผ่านมาเพื่อให้ทุกๆคนรอบตัวเขานั้นสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
แม้แต่ตอนนี้มันก็ยังเหมือนเดิม เขายังไม่สำเร็จทุกๆสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำ เขายังต้องฝึกฝนอย่างหนัก ย้อนกลับไปในตอนที่เขายังอยู่ที่หมู่บ้านตระกูลชิงเขาคิดว่าเมื่ออยู่ในระดับพลังปราณเทวะเซียนเทียน เขาจะสามารถชำระเรื่องราวระหว่างตระกูลชิงและตระกูลเยียนได้แล้วจากนั้นชีวิตของเขาก็จะอิสระและความสบายในชีวิต
…
หลังจากพักอยู่ที่บ้านมานานหลายวันชิงสุ่ยก็กลับไปยังมหาทวีปอู่เซียตะวันตก เขาบอกกล่าวกับอี่หวง กู่หวู๋และจากไป ในตอนนี้อี่หวง กู่หวู๋นั้นก็จะไปที่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำพร้อมกับเขา นางต้องการชำระเรื่องราวมากมายที่มีต่อตระกูลอี่หวงในตอนนี้
อี่หวง ตูซินนั้นเป็นพ่อแท้ๆของนางแต่เขาก็เป็นเพียงในนามเท่านั้น เขาไม่เคยดูแลนางแม้แต่สักวันดี เขายังบีบบังคับให้แม่ของนางไปสู่ความตาย ก่อนหน้านี้เขายังเคยพานางออกไปทิ้งเอาไว้ให้อยู่ตามลำพัง อี่หวง ตูซินนั้นทรงพลังอย่างยิ่งในตอนนี้และแม้ว่าหญิงสาวคนอื่นๆที่เขาเคยทิ้งไปอาจจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่สำหรับอี่หวง กู่หวู๋ชายอีกคนที่นางเรียกเขาว่าเป็นพ่อของตนเอง แต่กลับถูกสังหารไปทั้งครอบครัวเพราะอี่หวง ตูซิน
อี่หวง ตูซินนั้นไม่อยากปล่อยนางไปไหน เขากล่าวว่าไม่ว่าพยัคฆ์ร้ายจะโหดเหี้ยมแค่ไหนมันก็ไม่ฆ่าลูกของตนเอง อี่หวง ตูซินได้หายตัวไปแล้ว เขากลัวว่าจะมีใครที่ทราบเรื่องนี้ในอนาคตและดังนั้นจึงคิดกำจัดนางไปตั้งแต่ต้น แต่เขาไม่อาจทำอะไรที่มากเกินไปได้ดังนั้นอี่หวง กู่หวู๋จึงยังคงรอดชีวิตมาได้
ดังนั้นแม้นางจะมีชื่อว่าอี่หวง กู่หวู๋แต่นางก็ไม่ใช่คนของตระกูลอี่หวง อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตระกูลอี่หวงที่อี่หวง ตูซินอาศัยอยู่ เจตนาของนางในตอนนี้คือการกำจัดตระกูลอี่หวง
หลังจากที่ได้รับรู้ความตั้งใจของนางชิงสุ่ยก็มีความรู้สึกไม่สามารถอธิบายได้ เขารู้สึกว่าการตัดสินใจของนางถูกต้องและด้วยบุคลิกของอี่หวง กู่หวู๋ นางย่อมทำมันได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าใครก็ตามก็ต้องทำเช่นนี้เหมือนกันหากต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับนาง
“เจ้าอยากให้ข้าช่วยจัดการใครหรือไม่?” ชิงสุ่ยถามเบาๆ
“เจ้ากลัวว่าข้าจะไม่อาจแบกรับเรื่องนี้ได้ไหวงั้นหรือ?” อี่หวง กู่หวู๋มองไปยังชิงสุ่ย
“ชิงสุ่ยเขาไม่ได้แต่งงานกับท่านแม่ของข้า เขาเพียงบีบบังคับนางเพราะกิเลสตัณหาและยังไม่ให้นานใช้สกุลของเขา นางไม่อาจเทียบได้แม้แต่คนรับใช้ของตระกูลและเขาก็กำจัดนางออกไปเมื่อรู้สึกเบื่อหน่ายกับนาง ข้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากกิเลสตัณหาของชายผู้นั้น ชายที่บีบบังคับให้ท่านแม่ของข้าต้องไปสู่ความตายและยังต้องการสังหารฆ่าด้วยเช่นกัน ในหัวใจของข้าเขาเป็นศัตรูที่ได้สังหารพ่อแม่ของข้าไป หากข้าไม่ได้สังหารเขาด้วยตนเอง ข้าคงไม่มีหน้าไปพบท่านพ่อท่านแม่ที่ตายไปได้ ชิงสุ่ยเจ้าคิดว่าฆ่าโหดเหี้ยมหรือไม่?” อี่หวง กู่หวู๋มองไปยังชิงสุ่ย
“ไม่ ข้าเพียงกลัวว่าเจ้าจะแบกรับเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้ย่อมไม่ควรที่จะได้รับการให้อภัย แต่คนอื่นๆของตระกูลอี่หวงล่ะ?” ชิงสุ่ยถามขึ้นหลังจากคิดครู่หนึ่ง เพราะตระกูลอี่หวงนั้นเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่
“ข้าจะสังหารครอบครัวของชายผู้นั้นและให้เขาได้สัมผัสความรู้สึกของการที่ครอบครัวโดนทำลายลงไป” อี่หวง กู่หวู๋กล่าวเบาๆแต่น้ำเสียงของนางนั้นเต็มไปด้วยเจตนาที่จะสังหาร
ชิงสุ่ยไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรที่นางมีเจตนาสังขารรุนแรงเช่นนี้ เขาเข้าใจความรู้สึกของอี่หวง กู่หวู๋ นางใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและยากลำบากแต่ก็มีเจตจำนงในหัวใจ ก่อนหน้านี้เมื่อเขาได้พบกับนางครั้งแรก นางยังคงมีความสุขกับชีวิตของตนเองแม้ว่านางจะมีปัญหาชีวิตที่หนักหนาสาหัสและร่างกายที่เป็นปัญหาของนาง นางเป็นคนที่มีหัวใจที่แข็งแกร่งจริงๆ
ชิงสุ่ยจับมือของนางเอาไว้โดยไม่ได้กล่าวอะไรออกมา อี่หวง กู่หวู๋ยิ้มและมองไปยังชิงสุ่ย น้ำตาของนางไหลรินออกมา ไม่ว่านางจะแข็งแกร่งเพียงใดนางก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการความรักในชีวิตต้องการไหล่ให้ซบยามที่นางเหนื่อยล้า ในตอนนี้นางได้พบกับชายผู้นี้แล้วชายที่ทำให้นางรู้สึกราวกับว่าเหมือนได้รับชีวิตใหม่ หากไม่มีเขานางก็ไม่รู้ว่าชีวิตของตนเองนั้นจะเป็นเช่นไร อย่างน้อยที่สุดโอกาสที่นางจะได้กลับไปแก้แค้นที่ตระกูลอี่หวงนั้นย่อมเป็นศูนย์
ชิงสุ่ยจูบลงไปที่น้ำตาของนางและจากนั้นก็ลูบจมูกของนางเบาๆ เอากอดนางเอาไว้เพื่อแสดงถึงความรักที่มีต่อนาง ความรักสำหรับนางคนเดียวเท่านั้น
“สิ่งที่ดีที่สุดที่สวรรค์ส่งมาให้ข้าในยามที่ข้ารู้สึกโศกเศร้าและไร้กำลังใจมากที่สุดนั่นก็คือเจ้า” อี่หวง กู่หวู๋เงยหน้าของนางขึ้นมองไปยังชิงสุ่ยและยิ้ม
“เราได้เจอกันแค่เพียงไม่กี่วันเจ้าก็สามารถพูดถ้อยคำที่หวานซึ้งเช่นนี้ออกมาได้” ชิงสุ่ยเย้าหยอกนาง
อี่หวง กู่หวู๋เขินอาย นางไม่ได้ต้องการที่จะพูดอะไรเช่นนี้แต่มันเป็นความรู้สึกที่ส่งมาจากหัวใจของนาง มันได้สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่และแม้ว่าชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเขาควรจะแสดงสีหน้าเช่นใดดีแต่เขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง
“หวู๋หวู๋น้อย ข้าจะไปก่อน เจ้าค่อยตามมาทีหลัง ให้ลู่หยานและหยวนเอ๋อมาอยู่ที่นี่ต่อไป เจ้าสามารถกลับมาและพักอยู่ที่นี่ได้หลายวันในทุกๆเดือน”
“อืม ตำแหน่งต่อไปของธงสวรรค์ปัญจธาตุของข้านั้นสามารถตั้งไว้ได้เพียงที่มหาทวีปมังกรอหังกาล ข้าได้ตั้งมันเอาไว้ที่เมืองหลวงของมหาทวีปมังกรอหังกาลแล้วซึ่งนั่นเป็นสถานที่ที่ใกล้กับมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำและมหาทวีปอุดรเทวามากที่สุด” อี่หวง กู่หวู๋ดูเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่างและกล่าวออกมา
“อืม เช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน มันคงจะเป็นเรื่องง่ายหากเราต้องการที่จะไปยังเมืองหลวงของมหาทวีป ข้าได้ตั้งตำแหน่งที่ 3 ของข้าไว้ด้วยเช่นกัน มันอยู่ที่ศูนย์กลางของมหาทวีปอุดรเทวา” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวขึ้น
อี่หวง กู่หวู๋ตกตะลึง “ดูเหมือนว่าธงสวรรค์ปัญจธาตุนี้จะต้องการให้พวกเราเป็นสามีภรรยากันจริงๆ”
“แล้วพวกเราไม่ใช่สามีภรรยากันงั้นหรือ? ในใจของข้าเจ้าคือหญิงสาวของข้าและภรรยาของข้า” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวด้วยความจริงจัง
“เจ้ามันเอาแต่ใจ!” อี่หวง กู่หวู๋กล่าวด้วยน้ำเสียงที่รำคาญเล็กน้อย แต่นางรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งในใจ ความสุขระหว่างคู่รักที่รักกันนั้นเป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่ง
…
ชิงสุ่ยใช้ธงสวรรค์ปัญจธาตุและไปยังมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ
เมื่ออยู่กลางอากาศนั้นชิงสุ่ยรออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีระลอกคลื่นของลมเกิดขึ้นมาและอี่หวง กู่หวู๋ก็ปรากฏตัวอยู่ข้างๆเขา การไปยังมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำครั้งนี้อี่หวง กู่หวู๋นั้นดูไม่สงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด
ชิงสุ่ยเรียกมังกรไอยราเกล็ดทองคำออกมาและพวกเขาทั้งสองคนก็ตรงไปยังหอคอยจักรพรรดิ เมื่ออี่หวง กู่หวู๋ได้เห็นหอคอยจักรพรรดิอีกครั้งนางก็รู้สึกตกตะลึงอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้หอคอยจักรพรรดินั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สิ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองอี่หวงนั้นไม่ใช่ตระกูลอี่หวงหรือตระกูลอื่นๆอีกต่อไปแต่มันคือหอคอยจันทราฉายและสถานที่อื่นๆ นี่เป็นเพราะว่าสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่ยอดฝีมือและคนที่ร่ำรวยเท่านั้นแม้แต่คนที่ยากจนก็สามารถมารักษาได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ไม่ว่าพวกเขาจะเจ็บป่วยในเรื่องอะไร ตราบใดที่พวกเขานั้นยากจนพวกเขาก็สามารถมารับการรักษาได้โดยไม่ต้องจ่ายสิ่งใดๆตอบแทน ในชีวิตก่อนหน้านี้ของชิงสุ่ยผู้ที่สามารถครองใจของผู้คนได้นั่นคือผู้ที่สามารถครองโลกได้ คนที่เป็นที่รักของประชาชนนั้นจะมีอิทธิพลที่น่ากลัวอย่างยิ่งแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงคนธรรมดา บางครั้งพวกเขาก็อาจจะได้เป็นตัวตนอย่าง “นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่”
คนบางคนอาจไปฝันถึงพลังด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถได้รับพลังของความยุติธรรมและพลังของความศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากฝูงชนได้ แน่นอนว่าไม่ได้มีคนจำนวนมากนักที่จะมีพลังเช่นนี้ ผู้คนในโลกนี้ย่อมเรียกพลังเช่นนี้ว่าพลังแห่งศรัทธา
ดังนั้นผู้ที่มีชื่อเสียงมากมายย่อมสามารถบดขยี้คนอื่นๆด้วยชื่อเสียงที่พวกเขามีได้
หมอปิศาจนั้นรู้จักอี่หวง กู่หวู๋แต่หยวน สู่นั้นไม่ได้รู้จัก เมื่อนางได้เห็นอี่หวง กู่หวู๋นางก็ตกตะลึงไปในทันที หญิงสาวผู้นี้เติบโตเต็มวัย กลิ่นอายที่สง่างามและเปล่งปลั่งของนางทำให้ผู้คนรู้สึกไม่อาจต้านทานได้
หยวน สู่นั้นไม่เคยคิดว่าตนเองจะได้ไปกว่าผู้ใด นอกเหนือจากติ๊เฉินและติ๊ชิงนางก็ไม่เคยพบหญิงสาวคนไหนที่งดงามไปมากกว่านาง แต่ในตอนนี้นางรู้สึกว่านางไม่ได้ด้อยไปกว่าหญิงสาวผู้นี้ แต่ภายใต้ความศักดิ์สิทธิ์ ความสง่างาม ความเย้ายวนเล็กๆน้อยๆ นารู้สึกว่านางไม่อาจเทียบได้เลย
หญิงสาวผู้นี้คือใครกัน?
หยวน สู่ไม่รู้ว่านางรู้สึกเช่นไร นางรู้ว่าชิงสุ่ยนั้นมีหญิงสาวคนอื่นอีกและมันย่อมมากกว่า 1 คน แต่เมื่อนางเห็นเขาอยู่กับหญิงสาวที่งดงามจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้นางก็รู้สึกขมขื่นเล็กน้อย นี่เป็นเพราะว่านางเก็บความรู้สึกที่ว่าชิงสุ่ยไม่ได้ชอบนางมาโดยตลอด ถ้าหากนางงดงามเช่นนี้?
“ชิงสุ่ย เจ้าดูไม่ค่อยดีเลย เมื่อไหร่กันที่เจ้าได้รู้จักผู้ที่งดงามอย่างยิ่งเช่นนี้?” เมื่ออี่หวง กู่หวู๋ได้เห็นหยวน สู่นางก็กล่าวมาอย่างมีความสุข
“นี่คือพี่สาวสู่ แน่นอนว่าเจ้าไม่อาจเรียกนางเช่นนี้ได้ ยาเม็ดบรรพกาลแรกเริ่มที่ข้าได้ใช้นั้นก็มาจากสูตรยาที่นางเขียนขึ้น” ชิงสุ่ยแนะนำหยวน สู่ให้กับอี่หวง กู่หวู๋
“เป็นท่านนี่เอง เขาพูดถึงท่านอยู่หลายครั้ง ในตอนแรกก็คิดว่าหญิงสาวสามารถสร้างสูตรยาชิ้นนั้นขึ้นมาได้ไม่น่าจะงดงามเท่าไหร่ ข้าไม่คาดคิดว่าท่านจะงดงามเช่นนี้ แม้แต่ข้าก็รู้สึกว่าตัวเองเทียบกับท่านไม่ได้ในด้านความงาม”
“พี่สาว ท่านกล่าวเรื่องตลกแล้ว ข้ารู้สึกว่าท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่งดงามที่สุด” หยวน สู่ยิ้มและกล่าวขึ้น นางรู้สึกดียิ่งขึ้นในตอนนี้
“พี่สาวสู่ นี่คือภรรยาของข้า ในอนาคตหากพวกท่านได้รู้จักกันไว้นั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี” ชิงสุ่ยกล่าว
แม้ว่าหยวน สู่จะเดาได้ว่าหญิงสาวผู้นี้เป็นใครแต่สายตาของนางก็ปิดลงเมื่อนางได้ยินเช่นนี้ อี่หวง กู่หวู๋ยิ้มแล้วเดินไปจับมือของหยวน สู่ “พี่สาวสู่ มาเถอะ มาพูดคุยกัน”
หมอปิศาจและครอบครัวของเขาก็ได้ย้าย อย่างไรก็ตามพื้นที่ของชั้น 5 นั้นกว้างใหญ่นะมันมีพื้นที่หลายร้อยตารางเมตร สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้รองรับได้เป็น 10 ครอบครัว มันยังมีลานขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปเมืองนอกด้วยเช่นกัน
เมื่อชิงสุ่ยกลับออกมาอีกครั้งเขาก็รู้สึกว่าหญิงสาวทั้งสองคนนั้นพูดคุยกันอย่างสนิทสนมราวกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ เขาไม่เคยเข้าใจความคิดอันแปลกประหลาดของผู้หญิง หญิงสาวทั้งสองนั้นเข้ากันได้ดีและดูสนิทสนมกันอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยไม่อาจเข้าใจได้และดังนั้นเขาจึงเลิกคิดเรื่องนี้ เพราะไม่ว่าอย่างไรมันก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
อี่หวง กู่หวู๋นั้นจะพักอยู่กับหยวน สู่ซึ่งทำให้ชิงสุ่ยนั้นพูดไม่ออก แต่เขาคิดว่าตนเองจะทรมานมากเพียงใดเพราะไม่อาจทำเรื่องเช่นนั้นได้เพราะพวกนางนั้นนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน เขาจะต้องหาเวลาอื่นๆเพื่อให้ตนเองได้ผ่อนคลาย