Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1600 – ผู้สืบทอดมรดกของเทพอสูรอินทรีย์อัสนี
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1600 – ผู้สืบทอดมรดกของเทพอสูรอินทรีย์อัสนี
บทที่ 1600 – ผู้สืบทอดมรดกของเทพอสูรอินทรีย์อัสนี
เขามีหน้าตาที่ธรรมดาอย่างมากค่อนข้างออกแน่ประหลาดก็ว่าได้ เขามีคิ้วที่แหลมคม หางตาชี้ยาว จมูกและปากของเขาดูคล้ายกับนกก็มิปาน เมื่อทุกๆองค์ประกอบมารวมเข้าด้วยกันทําให้เขาดูดุร้ายอย่างมาก
ชิงสุ่ยมองเข้าไปที่ชายคนนั้น ปรากฏคลื่นวิญญาณที่แสนคุ้นเคย เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ครอบครองมรดกของเทพอสูรเอาไว้ ชิงสุ่ยไม่ค่อยแปลกใจเท่าไรที่อีกฝ่ายจะมีกลุ่มคนที่ครอบครองมรดกของเทพอสูรเอาไว้ เพราะแม้ในตอนนี้กลุ่มของเขาก็ยังครอบครองมรดกแห่งพระเต้าเอาไว้ถึง4คน เพราะมรดกแห่งพระเจ้าและเทพอสูรนั้นจะมีสายสัมพันธ์ที่สามารถสื่อเข้าหากันและกัน
ชายผู้นี้เป็นผู้ครอบครองมรดกเทพอสูรอินทรีอัสนี้เอาไว้ ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงสายฟ้าที่บ้าคลั่งที่กําลังไหลวนอยู่ในร่างกายของเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังคงแข็งแกร่งกว่าอสูรแห่งตระกูลนั่วอยู่หลายขุม ในตอนนี้เขามองไปที่ฉินชิงและกล่าวผ่านพลังวิญญาณไปบอกเธอ “ชิงเอ๋อ เจ้าจงระวังให้มากเขาเป็นผู้ครอบครองมรดกเทพอสูรอินทรีอัสนี อย่าได้ประมาทเขาเด็ดขาด”
ฉินชิงพยักหน้าให้เขาขณะที่เธอนั่งอยู่บนมังกรฟ้าของเธอ ในตอนนี้แม้เธอจะอยู่บนท้องฟ้าแต่เธอก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้า ด้วยเหตุผลที่เป็นคู่ต่อสู้ของเธอ เป็นผู้เชี่ยวชาญในใช้สายฟ้าในการต่อสู้
สายฟ้าเป็นพลังที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าคุณสมบัติของไฟในแง่พลัง และยังมีความแข็งแกร่งในด้านความเร็วที่เหนือกว่าสายลม นอกจากนี้สายฟ้านั้นยังส่งผลก่อให้เกิดอาการอัมพาตอีกด้วย ซึ่งความแข็งแกร่งของสายฟ้าก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ของมัน
“ สาวน้อยเจ้างดงามอย่างมาก ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเป็นใคร ทําไมเจ้าไม่ยอมมาเป็นภรรยาของข้า ข้าสัญญาว่าข้าจะดูแลเจ้าอย่างดีและจะให้ทุกๆสิ่งที่เจ้าต้องการ” ชายคนนี้กล่าวออกมาอย่างนิ่งเฉย แต่แฝงเอาไว้ถึงความตื่นกระหายในตอนนี้
ฉินชิงยังคงนิ่งเงียบในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินสิ่งที่คู่ต่อสู้ของเธอพูดออกมา อย่างไร ก็ตามผู้คนจํานวนมากด้านล่างเคยได้ที่ได้ยิน รวมไปถึงชิงสุ่ยนั้นกําลังเดือดดาดไปด้วยความรังเกลียด “ เจ้าเต่าอัปลักษณ์ ไม่สังเวชดูหนังหน้าของตัวเองเสียบ้าง เจ้ามีดีอะไรที่จะไปยืนข้างๆนาง”
ในตอนนี้ชิงสุ่ยกล่าวด่าออกไปก่อนที่ชายคนนั้นจะหันมามองเขาและกล่าว “เดี๋ยวเจ้าก็จะได้รู้ ว่าข้ามีดีอะไร?”
คําราม!
มังกรฟ้าได้คํารมออกมาในตอนนี้ มันเสียเปรียบอย่างมากกับสายฟ้าของอีกฝ่าย เนื่องจากคุณสมบัติติดตัวของมันเป็นธาตุน้ํา จึงทําให้มันแพ้ทางสายฟ้าอย่างรุนแรง
ในเวลานี้ชายคนนั้นค่อยๆลอยตัวขึ้น ปรากฏปีกสายฟ้าขนาดใหญ่ด้านหลังของเขา หากมองใกล้ๆพวกเขาจะรู้ว่านี้เป็นปีกขนาดมหึมาที่เป็นเกิดจากมรดกเทพอสูรอินทรีอัสนี นอกจากจากนี้แล้วกลิ่นอายรอบๆตัวของเขาก็เปลี่ยนเป็นประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ไปมา
ในตอนนี้เขาเพียงกระพือปีกเพียงครั้งเดียวก็หลบหลีกการจู่โจมของมังกรฟ้าไปอย่างง่ายดาย ในบรรดาเทพอสูรอินทรีอัสนีนั้นจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสามารถเทพอสูรที่มีความเร็วที่สุด นอกจากนี้มันยังมีความสามารถที่โดดเด่นมนการจู่โจมอีกด้วย
ความเร็วสามารถเทียบเท่าได้กับความแข็งแกร่ง และมันยังเป็นปัจจัยที่สามารถใช้ตัดสินใจทุกๆอย่าง ด้วยความเร็วที่น่าเกรงขามชายผู้คนนี้ ทําให้เขาไม่ได้เสียเปรียบเลยแม้แต่น้อยต่อความแข็งแกร่งที่ด้อยกว่า ในขณะนี้เขามองดูไปที่มังกรฟ้าและยิ้มออกมาก่อนที่เวลาเดียวกัน กระบี่สายฟ้านับสิบจะถูกยิ่งออกมาจากปีกสายฟ้าของเขา
เป้าหมายของการโจมตีนั้นก็คือมังกรฟ้าของฉินชิง การจู่โจมของเขาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและแม่นยํา ราวกับว่ามันสามารถติดตามเป้าหมายได้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่หน้ากลัวที่สุดของมัน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือความเร็วของกระบี่สายฟ้า และอํานาจในการทําลายล้าง ด้วยความรุนแรงในการจู่โจมของชายคนนี้ ฉินชิงได้เรียกใช้มรดกของเทพวิหคเพลิงอีกครั้ง ก่อนที่วิหคเพลิงมรกตขนาดเล็กจะปรากฏที่กระบี่ของเธออีกครั้ง
เช่นเดียวกัน ในตอนนี้มังกรฟ้าได้สร้างโล่วารีออกมาเพื่อป้องกันฉินชิงและตัวของมันเอาไว้
แต่ถึงอย่างไรก็ตามด้วยคุณสมบัติที่แพ้ทางกันทําให้มันไม่สามารถต้านทานการจู่โจมนี้ไว้ได้
มังกรฟ้าได้คํารามออกมาด้วยความเจ็บปวดและโกรธเกรี้ยวและปล่อยเสียงคํารามที่โกรธออกมา ขณะที่มันได้กระหน่ําหางของมันฟาดไปที่ชายคนนั้นอย่างสุดกําลัง
ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กว่าพันเมตร การฟาดของมันอออกมาแต่ละครั้งได้สร้างพายุนับร้อยออกมา นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นทักษะบรรพกาลที่มีแต่มังกรเท่านั้นที่สามารถสร้างมันออกมาได้ในเวลานี้ท้องฟ้าได้ปกคลุ่มได้พายุหมุนหลายร้อยลูก
ในตอนนี้ชายคนนั้นได้กระพือปีกของเขาอย่างสุดกําลัง เพื่อหลบหลีกการจู่โจมของมังกรฟ้า แต่ถึงอย่างไรด้วยจํานวนที่มากมายมหาศาลของพายุหมุน มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะสามารถหลบหลีกมันได้ทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสร้างโสายฟ้าขึ้นมากรอบตัวของเขา
ย๊า!
โล่สายฟ้าได้ประทะกับพายุหมุนนับร้อย รวมถึงหางของมังกรฟ้าที่ฟาดลงมา มันได้ระเบิดออกมา แต่ถึงอย่างไรช้าผู้นี้ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ขณะที่มังกรฟ้าต้องถอยไปตั้งหลักใหม่อีกครั้ง ด้วยความสามารถที่ชายผู้นี้มีมันยากอย่างมากที่มังกรฟ้าจะต่อกรได้
ในขณะที่มังกรฟ้าถอยกับไปวิหคเพลิงมรกตได้ปรากฏออกมา ในตอนนี้ขนาดของมันได้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างมาก จนมีขนาดไม่ต่ํากว่า1เมตร ขณะที่มันได้พุ่งเข้าใส่ชายคนนั้น ดังอุกกาบาตที่ตกลงมาจากท้องฟ้า
ในช่วงเวลาเดียวกันกระบี่สายฟ้าที่มีขนาดสองเมตรได้ถูกสร้างขึ้นเหนือศีรษะของเขา เพื่อรับมือกับการจู่โจมของฉินชิง
กระบี่ตัดอัสนีคลั่ง! เขาได้ส่งมันออกไปเข้าประทะกับวิหคเพลิงมรกตของฉินชิง
ตูม!
เสียงระเบิดที่น่าสยดสยองได้ดังออกมา แต่ถึงอย่างไรชายคนนั้นก็ไม่ได้รับผลกระทบจากมัน เพียงแค่ร่างกายของเขาถอยไปข้างหลังเพียงสองสามก้าวเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวเหนือฉินชิง และกํากระบุสายฟ้าเอาไว้ในมือ ก่อนที่จะขยายมันใหญ่ขึ้นดังลูกศรที่มีขนาดใหญ่กว่าร้อยเมตร เสียงของสายฟ้าที่ฉีกกระชากบรรยากาศรอบๆได้ดังสะท้านไปทั่วบริเวณ
โล่วารีศักดิ์สิทธิ์
คลื่นน้ําขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมารอบๆตัวฉินชิง ขณะที่ท้องฟ้าในตอนนี้ถูกถาบไปด้วยก้อนน้ําวนขนาดใหญ่
ชิงส่ยสามารถบอกได้ว่าชายผู้นี้แข็งแกร่งมาก เขาสามารถปราบปรามฉินชิงและมังกรฟ้าได้ ด้วยความเร็วของเขา หากไม่ใช่เพราะมรดกเทพวิหคเพลิงของเธอ เธอคงจะพ่ายแพ้ไปนานแล้ว
มรดกเทพอสูรอินทรีอัสนี้นั้นเป็นอะไรที่ทรงพลังอย่างมาก สายฟ้าที่มันสร้างออกมานั้นมีพลังมากพอที่จะทําลายทุกๆสิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นก็ต้องยอมรับว่าชายผู้นี้มีความสามารถจริงๆ เขาสามารถควบคุมสายฟ้าจากมรดกเทพอสูรอินทรีอัสนีนั้นเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันยิ่งทําให้อํานาจของมรดกเทพอสูรอินทรีอัสนีนั้นแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้ว่าฉินชิงไม่สามารถรับมือการจู่โจมครั้งนี้ของชายผู้นี้ได้ เขาได้ทําเพียงแต่มองดูเธอด้วยความกังวล
ในตอนนี้ฉินชิงไม่ยอมแพ้ ทันใดนั้นเธอได้กระโดดลอยขึ้นไปจากหลังของมังกรฟ้า ในมือของเธอถือกระบี่ยาวและมีฟีนิกซ์มรกตเกาะอยู่ ขณะที่เธอพุ่งเข้าใส่ชายผู้นั้น ฉินชิงยังมีความเชื่อมั่นในความเร็วของเธอ แม้เธอจะรู้ดีว่าความเร็วของเธอจะต่ํากว่าอีกฝ่าย แต่มันก็ไม่ได้ต่ํากว่ามากมายเท่าไร
อย่างไรก็ตามด้วยย่างก้าวเก้าเทวาของเธอ แม้ว่ามันอาจจะไม่อยู่ในระดับเดียวกับชิงสุ่ย แต่เธอก็ยังสามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างสูสี นอกจากนี้ยังมีการช่วยเหลือจากมังกรฟ้าจากด้านหลังอีกด้วย มันจึงทําให้เธอกล้าที่จะออกไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
อัสนีหยินหยาง!
กลิ่นอายของเข้าเพิ่มขึ้นมาอีกสองเท่าในตอนนี้ ขณะที่เขาใช้กระบี่อัสนี้ในมือของเขา ฟันเข้าไปที่ไหล่ของฉินชิง
ฉินชิงตกใจกับการจู่โจมของเขาอย่างมาก และได้ใช้ย่างก้าวเก้าเทวาออกมาอย่างรวดเร็ว ถอยหลังออกมา อย่างไรก็ตามเขาก็สามารถไล่ตามเธอทัน ขณะที่ฟันเข้าใส่โล่ของเธอจนระเบิดออก
ฉินชิงถอยไปข้างหลังด้วยแรงกระแทก ก่อนที่เธอจะเรียกปีกของวิหคเพลิงเพลิงออกมาอีกครั้ง มันทําให้ความเร็วของเธอเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่ในเวลานั้นเองชิงสุ่ยถอยหายใจออกมาขณะเฝ้ามองไปที่เธอ นั้นเพราะเขารู้ดีว่าเธอสามารถใช้มันได้วันละครั้งเท่านั้น และเธอก็ได้ใช้มันในการจัดการกับอสูรแห่งตระกูลนั่วไปแล้ว มันจึงทําให้ร่างกายของเธอไม่สามารถแบกรับมันได้อีก
ในตอนนี้ความเร็วของเธอเพิ่มขึ้นจนไปสู่จุดสูงสุด แม้แต่ชายผู้นั้นก็ยังยอมรับในความเร็วของเธอ แต่ถึงอย่างไรก็ตามความห่างชั้นของเธอกับเขามันก็ต่างกันอย่างชัดเจน
“เจ้าไม่อาจเอาชนะข้าได้ ทําไมต้องฝืนอีกต่อไปละ ยิ่งฝืนต่อไปอาการบาดเจ็บของเจ้าก็จะแย่ลง ทําไมเจ้าไม่ลองพิจารณาข้อเสนอแนะของข้าก่อนหน้านี้ใน ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี” ชายคนนั้นกล่าวออกมาช้า
ในตอนนี้ชิงสุ่ยมองไปที่ฉินชิงและกล่าวว่า “เจ้ายอมแพ้เถอะที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของข้า”
ในเวลานี้ปีกของเธอค่อยๆหายไป ขณะที่เธอได้กระอกเลือดออกมา ชิงสุ่ยไม่รอช้ารีบพุ่งออกมา และไปฝังเข็มให้กับเธอ หลังจากนั้นเขาก็ได้ถ่ายทอดปราณของเขาเพื่อรักษาเธอ
ชายวัยกลางคนผู้นั้นสามารถบอกได้ว่าฉินชิงเป็นพรหมจารี เมื่อเห็นชิงสุ่ยที่อุ้มเธออยู่ เขารู้สึกโมโหอย่างมาก นั้นเพราเขาต้องการให้ฉินชิงเป็นผู้หญิงของเขา เขาไม่ต้องการให้ชายอื่นใดแตะต้องเธอ
ในตอนนี้ชิงสุ่ย สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่อันตรายที่เขาปล่อยออกมา ทําให้ชิงสุ่ยหันไปมองเขาและถามว่า “ ตาแก่ เจ้าชื่ออะไรนะ?”
ตอนนี้ชายคนนั้นโมโหอย่างมาก ถึงอย่างไรเขาก็ตอบกลับมาด้วยน้ําเสียงที่ไม่เป็นมิตรเลิงหมิง!”
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้รักษาอาการบาดเจ็บให้เธอ ชิงสุ่ยสามารถบอกได้ว่าเธอนั้นไม่ได้บาดเจ็บหนักมากเพียงแค่ฝืนใช้พลังมากเกินไป เพียงแค่พักผ่อนสองสามวันเธอก็จะหายดี
“ เจ้าพักผ่อนตรงนี้ก่อนนะ กินนี้ก่อนสิ” ชิงสุ่ยวางเธอลงและนํายาเม็ดบางอย่างป้อนให้เธอ
ฉินชิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ ระวังตัวด้วย!”
“ ไม่ต้องกังวลไป เจ้าดูแลตัวเองดีๆและ” ชิงสุ่ยพูดพร้อมกับยิ้ม
“ เจ้าช่วยตอบคําถามของข้า สักหนึ่งข้อได้มั้ย?” ชิงสุ่ยยิ้ม ขณะที่จ้องที่ชายชื่อเลิงหมิง
เลิงหมิงถักคิ้วของเขาขึ้น ขณะที่เขามองดูไปที่ชิงสุ่ยและกําลังประเมิฯความเข็งแกร่งของเขา
“ ถามมา แต่ข้าไม่มั่นใจว่าจะตอบ” เลิงหมิงอย่างสงบ
“ ข้าคิดว่าเจ้าควรตอบมันนะ เจ้าสามารถบอกข้าได้มั้ยว่าจริงๆแล้วพวกเขามีคนอื่นที่แข็งแกร่งเหมือนอสูรแห่งตระกูลนั่วกี่คนกัน?” ที่จริงแล้ว ชิงสุ่ยกําลังสงสัยว่ามีกี่คนกันที่ได้รับมรดกของเทพอสูรไปในตอนนี้
เลิงหมิงยิ้มและถาม “ ทําไมเจ้ากลัวรึ?”
“ ข้าก็แค่อยากรู้เท่านั้น ว่าตระกูลนั่วยังมีผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งอีกมากมายเท่าไร” ชิงสุ่ยก ล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ ข้าไม่จําเป็นต้องตอบคําถามนี้กับเจ้าว่าไงยังมีคําถามอื่นอีกหรือไม่” เลิงหมิงมองไปที่ชิงสุ่ยและยิ้มออกมา
“ข้าเข้าใจแล้ว จริงๆแล้วเราไม่ควรใช้กําลังในการแก้ไขปัญหาในนครั้งนี้เลย” ชิงสุ่ยดึงง้าวทองออกมากอ่นที่เขาจะระเบิดกลิ่นอายออกมา
ณ ตอนนี้แม้แต่เลิงหมิงก็ไม่กล้าแม้จะดูถูชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาตระหนักว่า ชิงสุ่ยเป็นคนที่แปลกอย่างมาก กลิ่นอายของเขาสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตามที่เขาต้องการ โดยรวมแล้วเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับชายหนุ่มผู้นี้
เจตนาการต่อสู้แห่งวิหกเพลิง!
ปราณเทวะทวยเทพ!
ในตอนความแข็งแกร่งขอชิงสุ่ยยังคงเพิ่มขึ้น ในขณะนี้เลิงหมิงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ดีอีกต่อไป เขาเหวี่ยงกระบี่สายฟ้าในมือของเขาเข้าใส่ชิงสุ่ยอย่างสุดแรง
ชิงสุ่ยมองดูการจู่โจมของอีกฝ่ายอย่างสงบก่อนที่จะยกร้าวทองในมือขึ้นป้องกันอย่างง่ายดาย
ในเวลานั้นเองลําแสงสีทองนับพันได้ระเบิดออกมาจากง้าวของเขา ชิงสุ่ยยังคงยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับไปไหนหลังจากการประทะ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย มันทําให้เลิงหมิง ตกใจอย่างมาก เขานั้นมั่นใจอย่างมากในความแข็งแกร่งและความเร็วของเขา แต่เขาไม่เคยคิดเลย ว่าการจู่โจมสุดยอดของเขาจะไม่สามารถแม้แต่สร้างบาดแผลให้กับชิงสุ่ย โดยปกติกับผู้ต่อสู้ที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันหรือแข็งแกร่งกว่าเขาไม่มากจะถูกสังหารตายด้วยการจู่โจมนี้ของเขา
แต่นี้ชิงสุ่ยกับสามารถรับมันได้อย่างง่ายดาย และดูเหมือนว่ามันจะไม่มีผลอะไรกับเขาเลย นี่ทําให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก