Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1787 - บรรดาลูกๆและหญิงสาวของชิงสุ่ย
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1787 - บรรดาลูกๆและหญิงสาวของชิงสุ่ย
AST
บทที่1787 – บรรดาลูกๆและหญิงสาวของชิงสุ่ย
”ท่านพ่อ!!”ชิงหมิงยิ้มและตะโกนเรียกชิงสุ่ย
”ความสามารถของเจ้าเองก็ไม่เลวเลยทีเดียวแล้วตอนนี้เจ้าเองก็ใกล้จะบรรลุระดับ พลังขั้นถัดไปแล้ว หากเจ้าสามารถทะลวงพลังที่เจ้าติดขัดไปได้ เจ้าจะรู้สึกสนุกเหมือนกับการแล่นเรือในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ท่ามกลางแม่น้ำไหลเชียว”ชิงสุ่ยกล่าวขณะแตะลงบนไหลของชิงหมิง
ครั้งล่าสุดที่ชิงสุ่ยได้กลับมาที่บ้านเขาได้ช่วยเหลือและวางแผนเกี่ยวกับขั้นตอนการฝึกฝนของทุกคน ตอนนั้นชิงซุนคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด และคนอื่นๆก็เป็นเพียงแค่ยอดยุทธระดับพลังนักบุญพิโรธขั้นแรกเริ่ม แต่ตอนนี้ทุกคนพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจนอยู่ระดับขั้นปลายอีกครึ่งก้าวกว่าจะก้าวผ่านระดับพลังนักบุญพิโรธเข้าสู่ระดับพลังปราณจักรพรรดิ
”เหยี่ยนเอ๋อ(ลูกชิงสุ่ยกับสือฉิงจวง)!!”ชิงสุ่ยจับมือลูกสาวของเขา
เด็กหญิงตัวน้อยตอนนี้ก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่เช่นกันเธอยังคงเป็นเด็กสาวที่รักในความเงียบ เธอพูดไม่กี่คำแต่ความสามารถของเธอก็ไม่เลวเลย อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้มีพรสวรรค์ในชนิดที่หาตัวจับยาก
เธอไม่ชอบการต่อสู้ไม่ชอบความรู้สึกเงียบๆราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจอะไรเลยเด็กสาวคนนี้คือลูกสาวที่ชิงสุ่ยเป็นห่วงมากที่สุด เพราะใครก็ตามที่มองเห็นเธอมักจะรู้สึกหนักใจราวกับว่าเธอกำลังเก็บงำความทุกข์อยู่ภายในใจตลอด
”ท่านพ่อ!!”ชิงเหยี่ยนยิ้มขณะเรียกหาชิงสุ่ยรอยยิ้มของเธอเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจ แม้ว่าเธอจะแสดงสีหน้าแห่งความสุข แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงรับรู้ถึงความกังวลที่อยู่ภายในรอยยิ้ม
”เด็กน้อยของพ่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วมีใครที่พวกเจ้าสนใจบ้าง?”ชิงสุ่ยไม่เพียงแต่จะตั้งใจถามแต่เขายังต้องการดูว่าบรรดาลูกสาวของเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร
ชิงเหยี่ยนตกตะลึงชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะแสดงสีหน้าเขินอายและส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว”ไม่ ไม่ ไม่”
ชิงสุ่ยมองเห็นปฏิกิริยาของเธออย่างรวดเร็วเธอชะงักชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะหน้าแดงเพราะความรู้สึกเขินอาย
”เอาละถ้าหากเจ้าบอกว่าไม่มี ก็คงจะไม่มี แต่ถ้าหากมีใครคนนั้นจริงๆแล้วล่ะก็ เจ้าจะต้องบอกพ่อให้รู้เข้าใจไหม บางทีพ่ออาจจะแนะนำสิ่งสำคัญให้กับเจ้าและช่วยเจ้าได้”
”อืมขอบคุณค่ะท่านพ่อ”
”มานี่สิสิ่งนี้พ่อให้เจ้า”ชิงสุ่ยน้ำพู่กัน พิณ รวมถึงกระดาษวาดภาพที่มีเนื้อกระดาษที่เนียนละเอียด ชิงสุ่ยจัดเตรียมสิ่งของเหล่านี้ำว้เป็นพิเศษตั้งแต่ก่อนที่เขาจะกลับมา
”ท่านพ่อข้าเองก็อยากได้มันบ้าง ท่านพ่ออย่าลำเอียงสิ”ชิงอวี้(ลูกชิงสุ่ยกับห่าวหยุนลิ่วลี่)
”โอ้?อวี้เอ๋อของพ่อชอบวาดภาพแล้วอย่างนั้นหรือ?”ขณะที่ชิงสุ่ยกล่าว เขาก็นำสิ่งของออกมาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ แน่นอนว่าเขาก็ได้เตรียมสิ่งของมากมายเพื่อต้อนรับลูกของเขาเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีชิงหยุนลูกสาวของหยุนต้วนและชิงสุ่ย เธอไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับชิงสุ่ย จึงทำให้เขารู้สึกอึดอัด และยังคงเป็นเหมือนเดิมในทุกๆครั้ง
ชิงหยุนเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเช่นกันไม่ว่าเด็กเหล่านี้จะมีบุคลิกอย่างไร ผู้เป็นพ่อก็ยังคงรู้สึกชื่นชมในตัวลูกๆของตนอยู่เสมอ แม่ของเด็กๆเหล่านี้มักจะเล่าเรื่องราวของชายผู้เป็นพ่อให้พวกเขาและพวกเธอฟัง หลายเรื่องส่วนใหญ่มักจะเล่าถึงความแข็งแกร่งระดับตำนานของชายผู้เป็นพ่อ
”เดี๋ยวพ่อจะสอนทักษะย่างก้าวเมฆาให้กับเจ้าเจ้าคิดว่าอย่างไร?”ชิงสุ่ยสัมผัสถึงกลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวลูกสาวของเขา เขาจึงนึกถึงทักษะนี้
ทักษะย่างก้าวเมฆาเป็นทักษะที่พัฒนามาจากทักษะย่างก้าว 9 เทวาและเป็นทักษะที่ชิงสุ่ยไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากมันเป็นทักษะที่ไว้ฝึกฝนเฉพาะหญิงสาวเท่านั้น
ถ้าให้เปรียบเทียบกันแล้วทักษะย่างก้าวเมฆามีความเรียบง่ายกว่าเล็กน้อย ไปยังคงซึ่งความสามารถอันแข็งแกร่ง ถ้าหากสามารถเรียนรู้ทักษะย่างก้าวเมฆาจนบรรลุระดับสูงได้มันจะยิ่งแข็งแกร่งกว่าทักษะย่างก้าว 9 เทวาที่ชิงสุ่ยใช้งานในปัจจุบัน
”ลูกต้องการ!!”
ชิงสุ่ยจึงค่อยๆลูบหัวเธอจากนั้นก็หันไปหาสาวน้อยที่ยืนมองอยู่ด้านข้าง “จุ๋นเอ๋อ เจ้าคิดถึงพ่อหรือไม่?” ”ข้าคิดถึงท่านพ่อมากๆ”ชิงจุ๋นกล่าวด้วยน้ำเสียงในคอ
ชิงจุนคือลูกสาวบุญธรรมของอี่หวงกู่หวู๋เธอเกิดมาพร้อมกับกล่องเสียงที่ผิดปกติไม่สามารถพูดได้ แต่ด้วยความสามารถในการรักษาของชิงสุ่ย จึงทำให้เธอสามารถกลับมาพูดได้เหมือนคนปกติเพียงแต่การพูดจะอาศัยพลังผลักดันเสียงให้ออกมาจากลำคอ
”เดี๋ยวครั้งนี้พ่อจะทำให้เจ้าพูดโดยใช้ปากให้ได้”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
”ท่านพ่อข้าชินกับมันแล้ว ไม่เป็นไรหรอก”ชิงจุนคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าว
”ข้าอยากให้เจ้าใช้เสียงของเจ้าเองเวลาเรียกพ่อ”ชิงสุ่ยลูบหัวเธอ
ส่วนชิงเติงชิงนิ๋ว ชิงหลง และเด็กคนอื่นๆ แน่นอนว่าทุกคนต่างก็เติบโตขึ้นหลังจากวันเวลาผ่านไป ส่วนใหญ่จะสูงขึ้นและมีรูปร่างผอมเพียว พร้อมกับดวงตาที่มุ่งมั่นมากกว่าตอนที่เป็นเด็ก หลวนหลวนและอวี้ช่างต่างก็ไม่ได้พักอยู่ที่บ้านอี่หวงกู่หวู๋ได้บอกให้ว่าทั้งสองต่างก็อยู่อาศัยที่นิกายวงกตเทวะ
แน่นอนว่าติ๊เฉินติ๊ชิง ห่ายต่งชิง เหวินเหรินอูซวง ล้วนแล้วแต่ถือเป็นสมาชิกของนิกายบงกชเทวะ ทุกคนมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ภายใต้นิกาย แล้วจะแบ่งตัวออกเป็นกลุ่มต่างๆเพื่อทำภารกิจของตน
ขณะที่ชางห่ายหมิงเยวี่ยห่าวหยุนลิ่วลี่ หยุนต้วน จรู้ชิง หมิงเยวี่ยเก้อโหลวและสือฉิงจวง มุ่งเน้นไปในด้านการสร้างสมาคมการค้า พวกเธอพัฒนากลุ่มการค้าของพวกเธอจนก้าวนำกลุ่มการค้าขนาดใหญ่จนถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในละแวกแห่งนี้
ทางด้านอวี้ลู่หยานและถานท่ายหยวน ทั้งสองใช้ชีวิตได้อยู่อาศัยอยู่ภายใต้เทือกเขาปู๋โถว แต่ทั้งสองคนก็จะกลับมาที่ตระกูลชิงปีละ 2-3 ครั้ง
อี่หวงกู่หวู๋รับหน้าที่ในการดูแลคนตระกูลชิงขณะที่หยวนสู่จะรับหน้าที่ในการคอยตรวจตราหอคอยจักรพรรดิ
อวี้เหอและมู่ชิงมักจะอยู่อาศัยและคอยดูแลหุบเขาร้อยบุบผา
ส่วนองค์หญิงใหญ่ชิงซา และเหยียนจินยวี้ต่างก็กำลังสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองภายใต้ตัวตนของกลุ่มสำนักสวรรค์เร้นลับ
ส่วนทางด้านถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงทั้งสองคนยังคงใช้ชีวิตอยู่ภายใต้พระราชวังจอมอสูร
แน่นอนว่าอีเย่เจี้ยนมูหยุนชิงเก้อ หลัวชิงเฉิงและชิงห่านอี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการคอยดูแลพระราชวังอาทิตย์อัสดง
เมื่อนึกถึงทุกคนชิงสุ่ยก็ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่ารอบตัวเขามีบรรดาหญิงสาวอยู่มากมายนักแต่ตอนนี้มีเพียงแค่อี่หวงกู่หวู๋และหยวนสู่เท่านั้นที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านของตระกูลชิง ส่วนบรรดาหญิงสาวที่คอยดูแลสมาคมการค้า แม้ว่าพวกเธอจะกลับมาบ้านตระกูลชิงอยู่บ่อยครั้ง แต่พวกเธอก็ไม่กลับมาอยู่บ้านได้ทุกวัน พวกเธอจะอยู่ได้ครั้งละเพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้นและต้องกลับไปทำภารกิจหน้าที่ของตัวเองต่อ
แน่นอนว่าทันทีที่ชิงสุ่ยกลับมาถึงบ้านข่าวคราวของเขาจะต้องถูกแจ้งออกไปให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชิงได้รับรู้
บรรดาลูกๆของชิงสุ่ยทุกคนได้รับอิสระในการทำอะไรก็ได้ตราบใดที่พวกเขาต้องการ แน่นอนว่าเป็นเด็กๆเหล่านี้จะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านมากกว่าอี่หวงกู่หวู๋อย่างแน่นอน ซึ่งการฝึกฝนส่วนใหญ่อี่หวงกู่หวู๋จะเป็นคนรับหน้าที่ในการฝึกสอนต่อจากชิงสุ่ย เพราะหลังจากที่เขาจากไป คนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลย่อมต้องเป็นอี่หวงกู่หวู๋อย่างแน่นอน
ชิงสุ่ยโอบกอดอี่หวงกู่หวู๋เช่นเดียวกับที่โอบกอดหยวนสู่ตอนนี้ทั้งสองคนได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีไม่ว่าจะอยู่ภายใต้ตระกูลชิงหรือหอคอยจักรพรรดิ ทุกคนต่างขนานนามทั้งสองคนในฐานะเทพธิดาหมอปาฏิหาริย์
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่โชคดีที่สุด
ในชั่วพริบตากลุ่มคนกลุ่มใหญ่ก็ปรากฏคนกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงคือห่าวหยุนลิ่วลี่ ชางห่ายหมิงเยวี่ย จรู้ชิง หมิงเยวี่ยเก้อโหลวและสือฉิงจวง การปรากฏตัวของพวกเธอทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาไม่ได้เจอพวกนางเลยมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันต้องทำให้เขารู้สึกถึงความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
”ชิงสุ่ย!!”ห่าวหยุนลิ่วลี่พุ่งกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนชิงสุ่ยอย่างรวดเร็ว