Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 10 กินคนเดียว
เฉินช่าวเย่รวบรวมความกล้าหาญทั้งหมดที่มี หันกลับมองด้านหลังเมื่อชูฮันเลือกที่จะไม่สนใจเขา ทันใดนั้น ใบหน้าของเขากลายเป็นสีเขียว มันมีแขนหักอยู่ข้างหลัง
มันมีสีขาวและนิ้วหักอยู่ 2 นิ้ว ตำแหน่งของมันดูน่าบังเอิญนัก เพราะมันตั้งอยู่ห่างออกไปจากข้างหลังของหัวเฉินช่าวเย่ไม่ถึง 30 เซนติเมตร เฉินช่าวเย่เกือบทรุดลงไปร้องไห้ เขาหมุนตัวกลับไปพร้อมใบหน้าชุ่มไปด้วยน้ำตา ชูฮันที่นั่งอยู่ข้างๆเขาดูคล้ายราวกับราชาแห่งนรกขณะกำลังฆ่าเหล่าซอมบี้ เขาจึงไม่รู้สึกอับอายอะไรที่จะพูดว่าเขากลัว เขาทำได้เพียงล้างสมองตัวเองว่าซอมบี้ตัวนั้นตายไปแล้ว และมันมีเพียงมือที่หัก มือที่หัก…
ในที่สุดชูฮันก็ฆ่าพวกซอมบี้้เสร็จในสามนาทีและเขาได้ 18 คะแนน เขาหมุนพวงมาลัยให้รถกลับมาวิ่งเส้นทางเดิม พวกเขาจะหาสถานที่เพื่อพักผ่อนเมื่อผ่านเส้นทางสัญจรไปแล้ว
“พี่ชู” ในที่สุดเฉินช่าวเย่ก็มีความกล้าและถามไปว่า “ทำไมหน้าต่างข้างหลังถึงว่าง?”
ชูฮันซึ่งกำลังตรวจสอบระบบล่มสลายอยู่ตอบเฉินช่าวเย่ “ฉันทำเอง”
เขาพบปัญหาแล้วว่า เมื่อเขาชนซอมบี้ด้วยรถ ซอมบี้แต่ละตัวจะมีค่าเพียง 0.5 คะแนน มันช่างสูญเปล่า! อีกเรื่อง ก็คือ มันมีเงื่อนไขของการเข้าถึงความสามารถพิเศษ ซึ่งมันก็คือ ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ในตอนนี้ ความแข็งแกร่งของชูฮันอยู่ในระดับธรรมดา เขาต้องมีอีก 200 คะแนน เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของเขาไปที่ระดับ1
มันไม่มีของฟรีในโลกนี้ แต่มันพอจะเข้าใจได้อยู่ ความสามารถพิเศษในระบบล่มสลาย คือ ความแรง ความว่องไว ความแม่นยำ และอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องใช้พละกำลังมหาศาลเพื่อใช้งานอย่างถูกต้อง
“พี่ทำมัน?” เฉินช่าวเย่มองไปที่ชูฮัน และพบว่าชูฮันมองเห็นบางอย่างเมื่อมองไปที่หน้าต่าง!
“แล้วยังไงต่อ พี่ชู?” เฉินช่าวเย่คิดอย่างรอบคอบ “แล้วถ้าซอมบี้เข้ามาในรถจากทางหน้าต่างด้านหลังล่ะ?” มันเป็นปัญหาใหญ่! ถ้าซอมบี้คลานเข้ามาและกัดเราล่ะ? พี่จะรับผิดชอบได้มั้ย?
ชูฮันมองไปพลางครุ่นคิดและพึมพำไปมากับตัวเอง
“ความแม่นยำเป็นสิ่งที่สำคัญมากและจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงตั้งแต่แรกๆ ฉันไม่ใช่คนที่ได้รับการฝึกปรือฝีมือมา ถึงแม้ว่าความจำทั้งหมดจะยังคงอยู่ในหัวของฉัน หากแต่ร่างกายในปัจจุบันไม่คุ้นเคยกับปืน กระสุนปืนไม่สามารถเสียทิ้งได้เนื่องจากมันจะหายากขึ้นตามเวลา”
เฉินช่าวเย่ “พี่พูดอะไร?ฉันไม่เข้าใจ!”
ชูฮันวิเคราะห์เล็กน้อย เขาตัดสินใจที่จะระงับเรื่องนี้ไว้ก่อน
เขาควรฆ่าซอมบี้ให้มากที่สุดก่อนเพื่อสะสมแต้ม
“ฉันเอาหน้าจอออกไปไม่ได้เหรอ?” ชูฮันพึมพำเงียบๆอยู่ในหัว ทันใดนั้น หน้าจอก็หายไปทันที อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกพอใจมากกับความจริงที่ว่าเขาสามารถตรวจสอบคุณสมบัติของเขาเมื่อไหร่ก็ได้
มันช่างน่าอัศจรรย์!
———-
10นาทีต่อมา ชูฮันจอดรถบนขอบถนนที่กว้างขวาง เขาใช้ตะเกียงเพื่อให้ความสว่างโดยรอบ และตรวจสอบความปลอดภัย พวกเขาเลือกที่นี้เป็นจุดพัก
สถานที่ที่กว้างขวางดูน่ากลัว แต่มันก็หลบหนีได้ง่ายในกรณีที่เจออันตราย ใครจะรู้ว่าอะไรจะโผล่ขึ้นมาตอนไหน
ชูฮันลากฟานเวิ่ยที่โคม่าอยู่ออกจากรถ ในที่สุดเฉินช่าวเย่ก็หายใจออกสักที
ชูฮันมองไปที่ฟานเวิ่ยที่หมดสติไปแล้วอย่างไม่ได้รู้สึกอะไร เขาไปที่ท้ายรถเพื่อจัดการกับอาหารที่หกเละเทะ อาหารที่มีวันหมดอายุสั้นควรจะกินก่อน ดังนั้นชูฮันจึงเอาพวกนี้มาไว้ที่เบาะหลัง ของกินต่างๆพวกคุ้กกี้ที่อยู่ได้นานเก็บไว้ที่กระโปรงหลังรถ
หัวใจของเฉินช่าวเย่กลายเป็นน้ำแข็ง ใบหน้าของมีความหวาดกลัวขณะมองไปที่ชูฮันซึ่งจับแขนที่หักของซอมบี้เขวี้ยงออกไป ท่าทางของเขาดูสบายๆราวกับกำลังโยนก้อนหิน
ทำไมคนธรรมดาถึงกล้าจับซอมบี้ด้วยมือเปล่า? มันเป็นแขนที่หักของซอมบี้!
เขาต้องไม่ใช่คนแน่นอน เขาต้องเป็นสัตว์ประหลาดแน่ๆ!
เมื่อชูฮันจัดการทุกอย่างเสร็จ ฟานเวิ่ยผู้ซึ่งนอนอยู่ข้างๆรถที่เปื้อนไปด้วยเลือดสีดำซึ่งส่งกลิ่นน่าขยะแขยง เขาครางออกมาด้วยสติเลอะเลือน ลำคอของเขาเหมือนถูกตัดด้วยอะไรบางอย่าง มันแย่อย่างมากและเกินจะทน เฉินช่าวเย่กลัวจนสั่นเทาไปทั่วตัว เขารีบวิ่งหนีจากฟานเวิ่ยมายืนอยู่ข้างๆชูฮัน “พี่ชู พี่บอกได้มั้ยว่าถ้าคนถูกซอมบี้กัดแล้วจะเป็นยังไง?”
ชูฮันก็เข้าใจทันที เมื่อมองไปที่ท่าทางของเฉินช่าวเย่
อาจกล่าวได้ว่าคนขี้ขลาดก็ยังมีความระมัดระวังตัวและอ่อนไหวเช่นกัน
“พวกเขาจะกลายเป็นซอมบี้” ชูฮันยังคงเก็บข้าวของต่อไป เขาส่งต่อขวานดับเพลิงไปให้เฉินช่าวเย่ด้วยมือข้างซ้าย เฉินช่าวเย่กลัวมากจนเหงื่อเริ่มไหลออกมา พยายามคุมน้ำเสียงสั่นเทาของเขา”พี่รู้ได้อย่างไร? มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ใช่มั้ย?”
ชูฮันมองเขาด้วยความประหลาดใจ “คนส่วนใหญ่จะติดเชื้อถ้าพวกเขาถูกกัดโดยซอมบี้”
ชูฮันบอกถึงสิ่งที่เขารู้ในขาติที่แล้ว
“แต่มันมีข้อยกเว้นบางอย่าง คนที่มีความแข็งแรงทางกายภาพที่ดียังคงมีชีวิตต่อได้ถ้าบาดแผลไม่รุนแรงนัก แต่มันมีโอกาสเพียง 1ใน10000”
“งั้นฟานเวิ่ย?” เฉินช่าวเย่ไม่แน่ใจ
ชูฮันหยุดงานที่กำลังทำอยู่ มองไปที่เฉินช่าวเย่ด้วยสายตาเย็นชา มันมีอารมณ์ที่มนุษย์ควรมีปรากฏอยู่ในตาเขา
“คุณสามารถฆ่าเขาได้ถ้าเขากลายเป็นซอมบี้”
สิ่งที่ชูฮันพูดไปเป็นสิ่งที่เขาคิดจริงๆ มันไม่สามารถเปลี่ยนย้อนกลับได้ สำหรับมนุษย์ที่กลายร่างเป็นซอมบี้ไปแล้ว และฟานเวิ่ยเองก็ไม่สามารถเรียกว่ามนุษย์ได้อีก เขาจะไม่เดินทางไปต่อกับเจ้าอ้วนอีก หากเจ้าอ้วนเฉินกลัวที่จะฆ่าฟานเวิ่ย
มันไม่ควรมีขยะอยู่ข้างกายเขา
กึก! เฉินช่าวเย่กลัวจนทำขวานตกพื้น
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉัน-ฉันทำไม่ได้” เฉินช่าวเย่อ้อนวอนทั้งน้ำตานองหน้า “พี่ชู พี่ชู พี่ช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน พี่ฆ่าเขาเองดีกว่ามั้ย?”
ชูฮันยังคงจัดอาหารต่อไป น้ำเสียงของเขายังคงเดิม “เมื่อฟานเวิ่ยกลายเป็นซอมบี้และตื่นขึ้นมา แกฆ่าเขาได้เลยและเราจะได้กินหม้อไฟกัน ไม่อย่างนั้น แกจะถูกเขากัดและกลายเป็นซอมบี้ และถูกฉันฟันทิ้งต่อทีหลัง หลังจากนั้นฉันก็จะได้กินหม้อไฟเองคนเดียว”
ขณะกำลังพูด เขาหยิบหม้อขนาดพกพา และกระป๋องก๊าซ2กระป๋องจากกล่องที่อยู่ใต้เบาะหลัง จุดไฟและเติมน้ำ มีกล่องอาหารกลางวัน วัตถุดิบในการทำหม้อไฟ และลูกชิ้นและผักต่างๆหลายกล่อง
มันมีรอยยิ้มในดวงตาของชูฮันเมื่อมองไปที่อาหารมากมายเหล่านี้ มันอาจเป็นความหรูหราในอนาคตและคนที่ไม่มีความสามารถเพียงพอจะไม่สามารถแม้กระทั่งได้สูดดมกลิ่นของพวกนี้
“ฉัน – ฉันทำไม่ได้” เฉินช่าวเย่ตอบอย่างดื้อด้าน เขาไม่กล้าฆ่าซอมบี้โดยเฉพาะซอมบี้ที่ยังเป็นมนุษย์อยู่เมื่อสักพักที่แล้ว ที่หนีอันตรายมากับเขาด้วยกัน เขาแค่ทำไม่ลง
ชูฮันไม่ได้สนใจอะไรอีก เขาเติมวัตถุดิบต่างๆลงไปในหม้อเมื่อน้ำเริ่มเดือด
กลิ่นหอมอบอวลกระจายไปทั่วบริเวณ
เฉินช่าวเย่หิวมากจนน้ำลายไหลย้อยลงมาจากปาก เขาไม่สามารถกลืนน้ำลายได้
“หม้อไฟ…”