Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 390
คำพูดของจูเล่อเลอที่ดังลั่นได้ทำลายความเงียบก่อนหน้านี้ทันที ทันใดนั้นฝูงชนก็เริ่มส่งเสียงกันไม่หยุดและพากันจับจ้องมาที่ชูฮันด้วยสายตาหลากหลายที่ผสมไปด้วยความดูถูกและรังเกียจ
เช่นเดียวกับเหล่าวิวัฒนาการ ใครคือคนมาใหม่ที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมกับกองทัพกัน? ทำไมมันถึงมีคริสตัลของซอมบี้ระยะ 3?
แต่ระดับความตกใจนั้นแตกต่างจากกลุ่มคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง ด้วยเพราะสำหรับคนธรรมดา พวกเขาสามารถรับมือได้แค่เพียงซอมบี้ระยะ 1 เท่านั้น แม้แต่คริสตัลของซอมบี้ระยะ 2 ยังหาดูได้ยากสำหรับพวกเขาเลย หากในตอนนี้ชูฮันกลับหยิบคริสตัลของซอมบี้ระยะ 3 ออกมาโต้งๆถึง 2 ชิ้นอย่างไม่สนอะไร
“ไอ้เศรษฐีหน้าใหม่นั้นมาจากไหนกัน?”
“ใครให้คริสตัลของซอมบี้ระยะ 3 กับเขา?”
“เขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มวิวัฒนาการ!”
“แต่ถ้ามันเป็นระะ 3 หรือสูงกว่านั้น ทำไมมันถึงมาเข้าแถวที่นี้?”
“ฉันไม่รู้! แกว่าใช้คนที่มีชื่อเสียงบนรายชื่อเสาหินรึเปล่า?”
“ไม่น่าใช่! พวกคนระดับสูงขนาดนั้นจะมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?”
ชูฮันได้ยินที่คนรอบตัวเขาพูดคุยกันถึงเขาทุกอย่าง อีกครั้งที่เขานึกถึงพฤติกรรมที่น่าดูแคลนของหลูปิงเซ่อ แต่ละสถานที่จะมีการผันผวนของราคา แต่มันก็คล้ายๆกันหมดอยู่ดี โดยเฉพาะภายในค่ายผู้รอดชีวิตที่ใหญ่ที่สุดของจีนแบบนี้ คริสตัลของซอมบี้ระยะ 2 สามารถแลกเปลี่ยนอาหารได้เป็นจำนวนมาก และคริสตัลของซอมบี้ระยะ 3 ก็ยิ่งล้ำค่าขึ้นไปอีก แต่หลูปิงเซ่อและจางโบฮั่นมีหัวคิดดี ไวน์หนึ่งแก้วแลกกับคริสตัลของซอมบี้ระยะ 2 ซึ่อถือเป็นการข่มเหงภายในพื้นที่ท้องถิ่นที่ทรัพยากรขาดแคลน
แต่เมื่อชูฮันถามตัวเองให้ใคร่ครวญให้ดี เขาก็คิดว่าเขาควรขยายร้านค้ามืดแบบนั้นในที่ห่างไกลทุรกันดานบ้างดีมั้ย?
และในขณะที่ชูฮันกำลังขบคิดอยู่ในใจ มันก็มีมือหนึ่งตบลงเบาๆที่ไหล่เขา “สถานการณ์ของนายคืออะไร?”
น้ำเสียงที่ใช้ไม่มีความสุภาพและไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด หลินเทียนซีมองมาที่ชายหนุ่มตรงหน้าเขม็ง ละจ้องไปที่คริสตัลของซอมบี้ระยะ 3 สองชิ้นตรงหน้าทหารหญิงที่กำลังมีท่าทางหวาดกลัว แววตาของหลินเทียนซีเป็นประกายจ้าขึ้นมาทันที
ด้านจูเล่อเลอที่ยืนดูหลินเทียนซีอยู่ก็ล้มเลิกความคิดที่จะเป็นเพื่อนกับเจ้าเศรษฐีใหม่นี่แล้ว พันตรีที่เป็นวิวัฒนาการระยะ 2…นี่ต่างหากแรงสนับสนุนที่ดีในค่ายซางจิงที่เขาควรสร้างมิตรไว้
ทหารหญิงคนสวยรู้สึกโล่งอก ในเมื่อพันตรีหลินเทียนซีมาที่นี้แล้วและขวางทางผู้ชายคนนี้ไว้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเธอก็จะไม่เดือดร้อน เธอเกือบจะแย่แล้ว!
ชูฮันหันกลับไปมองหลินเทียนซีและพูดขึ้น “ฉันแค่อยากจะเข้าร่วมทีม”
คริสตัลของซอมบี้ระยะ 3 สองชิ้นอาจดูมีค่ามากสำหรับคนอื่น แต่มันเป็นเพียงแค่ 20 คะแนนเท่านั้นสำหรับชูฮัน การฆ่าซอมบี้สำหรับคนอื่นๆถือเป็นการเปลืองพลังงานทิ้งเปล่าๆ แต่สำหรับชูฮันมันต่างไป เขาได้รับคะแนนเมื่อเขาฆ่าซอมบี้!
ซอมบี้ทุกตัวทำให้เขาได้รับคะแนน!
ประกอบกับมีหวังไคที่เป็นผู้ช่วยอเนกประสงค์ ชูฮันจึงไม่ต้องลำบากไล่เก็บคริสตัลขณะฆ่าซอมบี้ ซึ่งมันช่วยประหยัดเวลาและพลังงานได้เยอะมากและเป็นเพราะการบังคับกลายๆและการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของระบบล่มสลาย ในตอนนี้เขาจึงมีคะแนนเป็นพันๆ เพราะฉะนั้น 20 คะแนนนั่นจึงไม่เป็นปัญหาอะไรสำหรับเขา
อีกครั้งที่คำตอบของชูฮันทำให้ทุกคนเงียบกริบ ทุกคนต่างจ้องมาที่ชูฮันด้วยความกลัว พันตรีหลินเทียนซีเดินมาหาผู้ชายคนนี้เองถึงที่และถามว่าทำไมถึงได้อยากจะเข้าร่วมให้ได้มากขนาดนี้
สีหน้าของหลินเทียนซีฉายแววกระด้างขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง “การลัดคิวเป็นกฏข้อห้ามของที่นี้ ถึงแม้นายจะเป็นวิวัฒนาการระยะ 3 ก็ตาม”
ทหารหญิงคนสวยรีบจดบันทึกข้อความนี้ไว้ทันที หากครั้งต่อไปเธอต้องเจออะไรแบบนี้เธอจะได้รู้ว่าควรรับมืออย่างไร!
จูเล่อเลอกังวลเล็กน้อย หลินเทียนซีกับชูฮันงัดข้อกันต่อหน้าทุกคน นี่มันไม่ดีแล้ว? เพราะสุดท้ายแล้วไม่มีใครรู้ว่าชูฮันมีพลังอะไร…
เมื่อมองไปที่แววตาหยอกล้อในดวงตาของหลินเทียนซี ชูฮันก็เลิกคิ้วขึ้นและกวาดฝ่ามือหยิบคริสตัลบนโต๊ะกลับคืน
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างมึนงง…พวกเขาประนีประนอมกันรวดเร็วมาก ท่าทางผู้ชายคนนี้คงเป็นแค่วิวัฒนาการธรรมดาๆ นี่มันกล้าขนาดใช้คริสตัลง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?
และในจังหวะที่ทุกคนมีสีหน้าดูถูกชูฮันกันอยู่นั้น ทันใดนั้นชูฮันก็โยนคริสตัลสองชิ้นในมือขึ้นเล่นต่อหน้าหลินเทียนซีอย่างล่อตาล่อใจ “นอกจากการลัดคิวแล้ว มันไม่หนทางอื่นสำหรับฉันแล้วเหรอ ฉันไม่ต้องการรอ?”
เฮือก!
ทุกคนมองมาที่ชูฮันด้วยสายตาตกใจอย่างมาก…นี่ผู้ชายคนนี้กำลังคิดจะติดสินบนหลินเทียนซี
หัวใจของจูเล่อเลอเริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่ง ไอ้เศรษฐีใหม่นี่รวยจริงๆ แถมยังเป็นคนตรงและดุเดือดอีก แต่เนื่องจากหลินเทียนซีเป็นถึงพันตรี มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรับสินบน
ทหารหญิงคนสวยรีบกวาดสายตาสังเกตสถานการณ์อีกครั้ง รอฟังวิธีการหลีกเลี่ยงของหลินเทียนซี
ทว่าเหนือความคาดหมาย ปากของหลินเทียนซีเผยอขึ้น จากนั้นก็กล่าวว่า “แถวตรงนี้มันยาวเกินไปจริงๆ และยังไงมันก็ไม่มีพรสวรรค์เข้ามาอยู่แล้ว นายมาลงทะเบียนกับฉันโดยตรงเลยก็ได้”
“หาาาา—-“
ผู้คนเริ่มส่งเสียงตกใจ...แม้แต่หลินเทียนซีก็ยังรับสินบน?
แถมยังทำอย่างโจ่งแจ้ง!
“ฉันไม่ได้รับสินบน” หลินเทียนซีแย้ง ขณะที่ทุกคนต่างเริ่มพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยาม…ไม่รับสินบน แล้วอยู่ดีๆยอมช่วยเพื่ออะไร?
แน่นอนว่าใช่ มันเห็นได้ชัดๆ!
“ฉันช่วยนาย นายควรจะกล่าวขอบคุณฉัน” ประโยคต่อมาของหลินเทียนซีทำลายภาพในจินตนาการของทุกคนจนหมด…นี่ไม่ใช่การรับสินบน นี่เป็นการช่วยเหลือง่ายๆและหลินเทียนซีก็ไม่ได้รับคริสตัลไปซะหน่อย!
ริมฝีปากของชูฮันบิดเบี้ยวและท่ามกลางความตะลึงของทุกคน หลินเทียนซีก็เดินไปตรงจุดลงทะเบียนของพรสวรรค์ ซึ่งมันไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยแม้แต่คนเดียว ทำให้ประหยัดเวลาไปได้มากจริงๆ
“นี่เป็นใบสมัคร กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน” หลินเทียนซีหยิบกระดาษขึ้นมาและส่งให้ชูฮัน และในเวลาดียวกันมือของเขาก็ไม่ได้ชักกลับ เขาวางแผนรอให้ชูฮันแอบส่งคริสตัลมาให้กับเขา
หากชูฮันกลับเล่ห์เหลี่ยมสูงกว่า เขาทำเหมือนกับไม่เห็นมือของหลินเทียนซีและเพียงแค่รับใบสมัครมา ก้มหน้าอ่าน
“แค่ก!” หลินเทียนซีแสร้งทำเป็นไอ เขาจะลองทำแบบเดิมอีกทีหลังจากไอ้หนุ่มนี้กรอกข้อมูลเสร็จ แต่ไอ้หนุ่มตรงหน้าเขาดูซื่อบื้อจริงๆ
และในขณะที่ชูฮันพึ่งจะกรอกข้อมูลงไปได้แค่ไม่กี่คำในใบสมัคร จู่มันก็มีน้ำเสียงโหดเหี้ยมดังมาจากทางด้านหลังของชูฮัน
“มีพรสวรรค์มา?” จู่ๆพลตรีสิงโตก็เดินเข้ามา ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของหยางเทียนในเมืองอันลูจนมีสภาพดูไม่ได้ แต่พลตรีสิงโตในตอนนี้มีหน้าตาหล่อเหลา มันไม่มีแม้แต่รอยยับบนเครื่องแบบทหารที่เขาสวมใส่อยู่ แถมตราของพบตรีบนหน้าอกก็ยังส่องประกายเลื่อมเงาอีก