Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 6 คนอ้วนมาแล้ว!
รวดเร็วอย่างกับใส่หน้ากาก อารมณ์ของชูฮันเปลี่ยนอย่างฉับไว เขางอนิ้วขณะจับด้ามขวานไว้อย่างแน่นหนาด้วยมือข้างขวา น้ำหนักของขวานในมือให้ความรู้สึกคุ้นเคยดั่งเช่นในชาติที่แล้ว เขามักจะจับขวานด้วยมือเดียวไล่สังหารซอมบี้นับไม่ถ้วน
ซอมบี้ทั้งสองตัววิ่งมาทางเขาพร้อมๆกัน มันอ้าปากกว้างเผยให้เห็นฟันแหลมคมพร้อมกับส่งเสียงคำรามดุร้ายออกมา พวกมันต้องการฝังเขี้ยวลงบนเนื้อสดๆของชูฮัน ฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้นๆ
เพลิดเพลินกับการดื่มกินอวัยวะของเขา
“วิ่ง!!” จางจือหวีตะโกนขึ้น ไม่สามารถที่จะอยู่ทนอยู่ในสถานการณ์นี้ต่อไปได้อีก
ชูฮันตั้งท่าเหยียดตรงคล้ายราวกับหอก ในตอนที่ซอมบี้ทั้งสองตัวอยู่ห่างจากเขาไม่ถึง1เมตร เขาก็ยื่นเท้าขวาขึ้นพร้อมกับยกขวานขึ้นมา เตะไปที่ซอมบี้ตัวหนึ่งจนกระเด็นออกไป พร้อมกับฟาดขวานลงมาที่หัวของซอมบี้อีกตัวอย่างดุดัน
*ปัง!*
เสียงขวานฟาดลงมาอย่างรวดเร็ว ชูฮันเล็งไปที่หัวของมันเพราะมันเป็นจุดอ่อนของซอมบี้
กระโหลกของมันแตกละเอียดอันเป็นผลจากแรงกระแทกที่รุนแรง
น้ำหนองในสมองสาดมากระทบกับใบหน้าของชูฮันพร้อมกับเศษชิ้นเนื้อที่เน่าเปื่อยบางส่วนกระเด็นเข้าปากของเขา ลูกตาสองข้างของมันกระเด้งออกจากเบ้าตาร่วงลงไปกลิ้งตามพื้น
ในขณะนี้ ซอมบี้ที่ถูกเตะออกไปในตอนแรกได้ตระกายตัวกลับขึ้นมายืน วิ่งพุ่งเข้าหาชูฮัน พร้อมคำรามด้วยความโกรธ มันไม่ได้รู้สึกเศร้าหรือรู้สึกอะไรกับความตายของเพื่อนมันเลย
* ถุยยย! *
ชูฮันถุยเศษเนื้อเน่าออกจากปากพร้อมกับยกขวานขึ้นฟาดลงไปยังซอมบี้ตัวที่เหลือด้วยแรงอันทรงพลัง ทำให้กระโหลกของมันแตกกระจาย
ตั้งแต่แรกเริ่มจนจบ…เขาไม่ได้ปล่อยมืออีกข้างที่เติมน้ำมันอยู่ออกเลย ขวานในมือชโลมไปด้วยของเหลวในสมองและเลือดสีดำ มันค่อยๆไหลหยดลงพื้นทีละหยด
จางจือหวีที่กำลังหนีอยู่ตกใจเป็นอย่างมากเมื่อหันกลับมาดู เขาเห็นตัวของชูฮันเลอะไปด้วยเลือดสีดำของซอมบี้ ศพของซอมบี้ทั้งสองตัวนอนแผ่อยู่ข้างเท้า ปากอ้าค้างพร้อมกับกระโหลกศีรษะที่แตกละเอียด
ฉากที่สยดสยองและน่ากลัวนี้ทำให้เขารู้สึกกล้าหาญขึ้นมา ดูเหมือนว่าไอ้คนที่อึมครึมและเจียมเนื้อเจียมตัวนั่น ได้กลายเป็นคนดุร้ายไปแล้ว
ชูฮันฆ่าซอมบี้ทั้งสองตัวด้วยมือข้างเดียวในขณะที่อีกข้างกำลังเติมน้ำมันอยู่!
จางจือหวีจ้องไปที่ภาพอันน่ารังเกียจที่พื้นอีกครั้ง ส่วนผสมของเลือดและหนองไหลทะลักออกมากจากกระโหลกที่แตกของซอมบี้ ใบหน้าของชูฮันเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีดำ
*แหวะ—— *
ทันใดนั้นจางจือหวีก็อ้วกออกมา
ชูฮันมองมาที่เขาอย่างไร้อารมณ์ เขายังคงความระมัดระวังไว้ดังเดิมขณะเติมน้ำมันใส่ G55 กวาดตามองไปรอบๆ เพื่อยืนยันความปลอดภัยของพื้นที่โดยรอบ
“อย่าเปิดประตู! อย่าเปิดประตูนะ!อ้ายยย!” เสียงกู๋เสี่ยวตงกรีดร้องจากที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ
ฟานเว่ยเปิดประตูออกมาพร้อมกับแท่งเหล็กในมือ หากกลับหยุดชะงักเท้าทันที เช่นเดียวกับเสียงแหกปากของกู๋เสี่ยวตงที่เงียบลง เมื่อพวกเขาได้เห็นภาพสถานการณ์ข้างนอก
ซอมบี้ตายแล้ว…
ตาของฟานเว่ยเต็มไปด้วยความกลัวขณะจ้องไปที่ชูฮันผู้ซึ่งยังคงยืนนิ่งอยู่ มือข้างหนึ่งจับขวานไว้และอีกข้างจับที่หัวจ่ายน้ำมัน
‘ชายคนนี้ยังเป็นคนอยู่รึเปล่า? จิตใจของคนๆหนึ่งจะต้องเข้มแข็งขนาดไหนถึงจะสามารถยืนนิ่งสงบได้ในสถานการณ์เช่นนี้? ฟานเวิ่ยคิดพร้อมกับสัญญาณเตือนภัยในหัว
กู๋เสี่ยวตงยังคงยืนนิ่งเสมือนโดนแช่แข็ง จ้องไปที่ชูฮันด้วยสายตาสับสน ถึงแม้เธอจะไม่ได้เห็นภาพที่ชูฮันเป็นคนฆ่าซอมบี้เองกับตา หากเธอก็รู้ดีว่าชูฮันเป็นคนฆ่าพวกมัน
ชูฮันถอดหัวจ่ายน้ำมัน ในที่สุดรถเขาก็เติมน้ำมันเสร็จ เขาหมุนตัวกลับไปมองไปรอบๆ เนื้อตัวที่เปื้อนเลือดและใบหน้าที่เลอะเทอะของเขาไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ ยังมีที่ว่างเหลืออยู่ในรถ เขาจึงตัดสินใจที่จะตุนอาหารที่อยู่ในร้านเพิ่ม
จางจือหวีวิ่งมาที่เขาพลางถาม “ที่ไหน … คุณจะไปที่ไหน?”
เขาตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าจะยังไงก็จะตามชูฮันไป
“ไปหาพ่อแม่ของฉัน” เขาตอบ การตามหาพ่อแม่คือเป้าหมายหลักของชูฮันสำหรับการเดินทางครั้งนี้ บางคนก็พยายามที่จะตามหาคนรักของพวกเขา บางคนก็ตัดสินใจที่อยู่รอดเพียงลำพัง
หากทว่ามีเพียงไม่กี่คน ที่ตัดสินใจจะไปตามหาพ่อแม่ที่อยู่ห่างไกลออกไป ทุกคนๆพึ่งจะผ่านช่วงวิกฤตจลาจลในตอนอายุเพียงแค่นี้ จึงยังไม่มีจิตสำนึกของความกตัญญูต่อพ่อแม่เท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตาม ชูฮันตั้งมั่นที่จะตามหาพ่อแม่ของเขาให้เจอ เพราะสุดท้ายแล้ว ลูกผู้ชายที่แท้จริงจะไม่ทอดทิ้งพ่อแม่ของพวกเขาไว้ในโลกที่อันตรายเช่นนี้!
“คุณพาฉันไปด้วยได้มั้ย?” จางจือหวีถาม “บ้านของคุณอยู่ในเมืองอันลู ซึ่งคุณต้องผ่านเมืองชือ ฉันอยากไปเมืองชือ!”
หัวใจของจางจือหวีเกือบจะวายตาย เขาไม่เคยคิดเลยว่าชูฮันจะเป็นคนที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ ด้วยการใช้ขวานอย่างสงบและมีประสิทธิภาพ เขาสามารถจัดการกับซอมบี้สองตัวได้ด้วยการแกว่งขวานเพียงสองครั้งเท่านั้น ซึ่งมันทำให้เขากลัว…
“เรามีรถ เราจะไม่ทำให้คุณลำบาก” ฟานเว่ยกล่าวเสริม
“ใช่ ใช่ ใช่!” จางจือหวีพยักหน้ารับ (เขาไม่กล้าที่จะพูดกับชูฮันด้วยทัศนคติเช่นเดิมอีก)
ชูฮันคิดพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะการพาพวกนั่นไปด้วยบนG55จะเป็นปัญหาอย่างแน่นอน หากเขาไม่ว่าอะไรถ้าพวกเขามีรถของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เส้นทางไปอันลูจำเป็นต้องผ่านเมืองชืออยู่แล้ว อีกทั้ง โอกาสในการมีเสบียงอาหารตุนและโอกาสรอดจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหากมีรถสองคัน
“ตกลง” ชูฮันกล่าว “แต่ก่อนอื่นเราควรเตรียมอาหารให้มากกว่านี้”
“เยี่ยมเลย!” จางจือหวีและฟานเวิ่ยตอบรับทันที
ชูฮันก้าวเข้าไปในร้านค้า มือข้างขวายังคงจับขวานไว้ กวาดสายตามองตรวจสอบไปรอบๆ เดินเข้าไปในโกดังเมื่อมั่นใจแล้วว่าปลอดภัย
ชูฮันเดินผ่านกู๋เสี่ยวตงไปอย่างไม่สนใจ แม้ว่าเธอจะมองมาที่เขาด้วยสายตาประหลาดก็ตาม
เขาไม่คิดจะสนใจผู้ชายตัวอ้วนที่กำลังแทะอาหารกินอยู่ในมุม
เพราะเขาคิดว่าชายอ้วนผู้นี้ดูหมดหนทางจะช่วย เขาจะตายในโลกที่วุ่นวายนี้แน่นอน
กล่องอาหารกล่องแล้วกล่องเล่าถูกขนขึ้นไปไว้ในบนG55 ชูฮันบอกให้จางจือหวีและฟานเว่ยหยุดก็ต่อเมื่อไม่มีที่เหลือบนG55แล้ว
เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะเดินทางแล้ว จางจือหวีเดินไปทางที่ชายตัวอ้วนร้องไห้อยู่ในมุม เตะไปที่หน้าของชายคนนั้น พลางตะคอก “ไปให้พ้น ไอ้ขยะ อย่าขวางทางฉัน”
ชายอ้วนผู้นั้นยิ่งร้องเสียงดังขึ้นเมื่อเขาถูกเตะ เขาเงยหน้าขึ้นและมองมาที่จางจือหวีด้วยความกลัว สูดน้ำมูกและสะอื้นเมื่อชูฮันเดินผ่านเขาไปทางยังทางออกของโกดัง เจ้าอ้วนนั่นยังคงกินไปร้องไห้ไป เขากินเป็ดต้มเค็มไปแล้ว5ถุง ไส้กรอกแฮม20ชิ้น และยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ชูฮันรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากในตอนที่เจ้าอ้วนได้เงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นใบหน้าจ้ำม่ำของเขา
‘แน่นอนว่าเรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริง … ‘ ชูฮันเชื่อเช่นนั้น
ใบหน้าของชายอ้วนนั้นคล้ายราวกับลูกชิ้น เขามีไฝ และผมกลุ่มหนึ่งอยู่ที่ด้านซ้ายของริมฝีปาก ถึงแม้ชูฮันจะมองไม่เห็นชัดเท่าไหร่นัก หากบุคคลิกอันเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ สะกิดใจเขาอย่างมาก
“คุณชื่ออะไร?” ชูฮันถามอย่างลังเล เขาไม่แน่ใจว่าชายผู้นี้ใช่คนเดียวกับที่เขาเคยรู้จักหรือไม่
การร้องไห้ราวกับเด็กเช่นนี้ดูไม่ใช่ท่าทางของคนผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย
“ฉันชื่อ เฉินช่าวเย่” ชายอ้วนตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“อะไรกันวะ! สิ่งที่ฉันเห็นคือไอ้ปัญญาอ่อน !!” จางจือหวีสบถเสียงดังลั่น พยายามที่จะเตะชายอ้วนอีก ชายอ้วนแสดงความกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด พยายามถอยหลบหนีอย่างลนลาน เขาแทบจะหนีลูกเตะของจางจือหวีไม่พ้น
ชูฮันยิ้มมุมปาก ‘ฮ่าฮ่า…เฉินช่าวเย่’
ชายอ้วนผู้นี้คือมือปืนมือฉมัง…เฉินช่าวเย่ เขาสามารถสร้างความเดือดร้อนได้ทุกเมื่อ ด้วยความสามารถของเขาที่ติดอับดับ 20 อันดับแรกในชาติที่แล้วของชูฮัน
ผู้ชายคนนี้คือเฉินช่าวเย่ โดยเฉินเป็นชื่อสกุลของครอบครัวเขา ช่าวเย่คือชื่อจริงของเขา
แต่ชูฮันไม่คิดเลยว่าเฉินช่าวเย่จะเป็นแค่เพียงเศษขยะในช่วงแรกเริ่มของโลกาวินาศ เทียบกับการเกิดใหม่ของชูฮัน การเปลี่ยนแปลงของเฉินช่าวเย่ดูน่าทึ่งมากกว่าเยอะ อย่างไรก็ตาม ชื่อของเฉินช่าวเย่เป็นที่รู้จักดีของทุกคน ถึงแม้เขาจะถูกจัดไว้อันดับที่ 20 ของการต่อสู้ทุกรูปแบบ หากหลายคนที่ถูกจัดอันดับใน10อันดับแรกกลับไม่กล้าที่จะสู้กับเขาด้วยซ้ำไป
เป็นเพราะความแม่นยำอันไม่น่าเชื่อของเฉินช่าวเย่ หากเขาอ้างว่าทักษะในการลอบยิงของเขาเป็นที่สอง…จะไม่มีใครกล้าอ้างว่าตัวเองเป็นที่หนึ่งแน่นอน เขามีฉายาว่า ‘นักแม่นปืน’ ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เขาได้เกิน10เมตร
เช่นเดียวกับชูฮัน คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีพลังเหนือธรรมชาติจะมีปืนเป็นอาวุธ แต่สำหรับชูฮันนั้นเป็นกรณีพิเศษ
เขาได้รับสิทธิพิเศษเป็นอาวุธที่มีกำลังสูงซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้
ใครจะสามารถสู้กับเฉินช่าวเย่ได้? การซ่อนตัวอยู่ในอาคารแทบไม่มีผลอะไรเพราะอาคารจะถูกทำลายด้วยพลังทำลายล้างของปืน
จางจือหวีกำลังจะเข้าไปตีเฉินช่าวเย่อีกครั้ง หากชูฮันห้ามเขาไว้
“คุณควรขึ้นรถคุณไปได้แล้ว ฉันจะพาเขาไปเอง”
“คุณพูดจริงเหรอ?” จางจือหวีสงสัย ใครก็ตามที่มีสติปัญญาแม้เพียงน้อยนิดก็จะคิดได้ว่าเฉินช่าวเย่จะไม่ช่วยอะไรนอกจากสร้างปัญหาให้เท่านั้น
“เขาจะมากับฉัน เขาจะไม่ทำให้คุณรำคาญเลย” ชูฮันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ตาทั้งสองข้างจ้องเขม็งมาที่จางจือหวี ถึงจางจือหวีจะฉลาดเพียงใด หากเขาก็ไม่เคยฆ่าคนมาก่อน การที่ชูฮันจ้องเขม็งมาที่เขา ทำให้เขารู้สึกตัวรีบหันหลังเดินไปที่รถอย่างเร็ว
“เจ้าอ้วนเฉิน เก็บของทุกอย่างและมากับฉัน” ชูฮันออกคำสั่ง เขาไม่มีเวลาสำหรับเรื่องไร้สาระใด ๆ
“คุณจะพาฉันไปเหรอ?” เฉินช่าวเย่รู้สึกปลื้มปีติ น้ำตาและน้ำมูกผสมกันไหลลงมาตามหน้า
“รีบเข้า เร็ว!” ชูฮันไล่อย่างหมดความอดทน ขณะเดียวกันก็คิดว่าจะหาปืนอย่างไรให้เจ้าอ้วนเฉินดี
มันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด หากปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปด้วยปลายนิ้วมือของเขาเอง
จากนั้น ชูฮันก็เอาขวานของนักดับเพลิงออกจากรถและส่งให้ชายอ้วน
“ไป!”
* แกร๊ง! *
ชูฮันเดินไปได้ไม่ไกลนัก ก่อนจะได้ยินเสียงขวานหล่น เส้นเลือดบนขมับเขาเต้นอย่างรุนแรง เขารู้สึกอยากจะฉีกหัวชายอ้วนนั่นออก
“ขอโทษ ขอโทษ!” เฉินช่าวเย่ยืนอยู่ข้างหลังชูฮัน เนื้อตัวสั่นเทา มันมีกองอาหารหกอยู่ตรงหน้าอกของเขาและขวานนอนอยู่บนพื้นข้างๆเท้า
“หยิบมันขึ้นมา” ชูฮันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระชาก “อาวุธจะต้องไม่ห่างมือ ไม่งั้นคุณจะถูกฆ่า”
เฉินช่าวเย่มองไปที่ขวานที่ชูฮันถืออย่างตะลึง ขวานของชูฮันทั้งยาวและมีขนาดใหญ่กว่าขวานของเขามาก อีกทั้งมันดูท่าจะหนักมากด้วย ถึงแม้กระนั้น ขวานนี้ก็ไม่เคยหลุดออกจากมือชูฮันเลย ถึงแม้เขาจะแบกของอื่นๆอยู่ก็ตาม
“ฉัน…ฉันเข้าใจแล้ว” เฉินช่าวเย่พูดติดอ่าง ความรู้สึกอบอุ่นตีขึ้นมาในหัวใจของเขาขณะก้มหยิบขวานขึ้นมาและเดินตามหลังชูฮันไป
นั่งอยู่ถัดไปในรถอีกคันนั้น…จางจือหวีถ่มน้ำลายพลางมองไปที่เฉินช่าวเย่ที่เดินตามหลังชูฮัน และได้เข้าไปนั่งในG55ที่เขาปรารถนา เขารู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก
“แม่ง! ชูฮันคิดอะไรอยู่? ไปกับไอ้อ้วนหน้าโง่นั่น !!”
กู๋เสี่ยวตง ผู้ซึ่งใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยเครื่องสำอางค์แน่นเลียริมฝีปาก
“รถคันนี้มีราคาสูงมาก ชูฮันเป็นเจ้าของรถราคาสูงขนาดนี้ได้ยังไงกัน?” เธอถามจางจือหวีด้วยความสงสัย
จางจือหวีกระพริบตาพลางคิดตาม หากความคิดที่แน่วแน่ของเขาก็กลับคืนมา เมื่อนึกถึงการแสดงออกอย่างร้ายกาจของชูฮันขณะกำลังฆ่าซอมบี้
“หยุดตั้งคำถาม!” เขาตำหนิด้วยความโกรธ