novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
lalikabet168
lalikabet66 คาสิโนสด boston777 แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล บาคาร่า แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ Empire777 huayhit168 สมัคร ufabet แทงบอล แทงหวยออนไลน์ เว็บหวยออนไลน์ สล็อตเว็บตรง kodpung88 แทงบาคาร่า PGK44 nexobet askmeslot สล็อตเว็บตรง แทงหวย24 เว็บคาสิโน คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ คาสิโน คาสิโนออนไลน์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2773 ดาบกาลเวลา มาเยือนโลกอีกครั้ง

  1. Home
  2. Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
  3. ตอนที่ 2773 ดาบกาลเวลา มาเยือนโลกอีกครั้ง
Prev
Next

ละออง​แสงที่​สะดุดตา​กำ​ลังสาด​กระเซ็น​ เงาร่าง​ของ​หลิน​สวิน​ยืน​อยู่​กลางอากาศ​ราวกับ​เซียน​

ทุก​สายตา​เต็มไปด้วย​ความ​ตะลึง​

อวี่เฟิงจื่อ​ ระดับ​อมตะ​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​ที่​ลึกล้ำ​ไม่อาจ​คาดเดา​ที่สุด​แห่ง​ลัทธิ​ฌาน​ โลก​บงกช​ผลาญ​ใจที่​ผสาน​พรสวรรค์​ มรรค​วิถี​ และ​กฎเกณฑ์​ของ​เขา​ถูก​ทำลาย​แล้ว​!

นี่​สร้าง​แรง​สะเทือน​รุนแรง​ให้​กับ​ผู้คน​

เหล่า​คนใหญ่คนโต​ที่​ก่อนหน้านี้​ยัง​รอคอย​ให้​มรรค​วิถี​ของ​หลิน​สวิน​ถูก​ตัด​ระดับ​อย่าง​ตื่นเต้น​ รู้สึก​เพียง​ว่า​ตรง​หน้าอก​อัดอั้น​ ใบ​หน้าแก่​ชรา​เต็มไปด้วย​ความ​อึมครึม​

โลก​บงกช​ผลาญ​ใจจะแข็งแกร่ง​แค่​ไหน​ แต่​ท้ายที่สุด​ก็​ถูก​หลิน​สวิน​ทำลาย​แล้ว​!

เหล่า​คนใหญ่คนโต​อย่าง​เสวียน​เฟยห​ลิง​ ตู๋​กู​ยง​ ฟางเต้า​ผิง​ต่าง​โล่งอก​ จากนั้น​สบตา​กัน​แล้​วอด​ยิ้ม​ไม่ได้​

ความสามารถ​ของ​หลิน​สวิน​ทำให้​พวกเขา​ตกตะลึง​มาก​

“ยอมแพ้​หรือ​”

บน​ลาน​มรรค​เปิด​สวรรค์​ สายตา​ของ​หลิน​สวิน​มอง​ไป​ยัง​อวี่เฟิงจื่อ​

ก่อนหน้านี้​ถูก​ขัง​ใน​โลก​บงกช​ผลาญ​ใจ ผ่าน​การ​โจมตี​สี่สิบ​เก้า​ครั้ง​ ทำให้​หลิน​สวิน​เอง​ก็​เข้า​ใจถึงความสำเร็จ​ที่​แท้จริง​บน​มหา​มรรค​ขอ​งอ​วี่เฟิงจื่อ​

แม้แต่​เขา​ก็​จำต้อง​ยอมรับ​ ว่า​อวี่เฟิงจื่อ​เป็น​คู่ต่อสู้​ที่​แข็งแกร่ง​ที่​สุดคน​หนึ่ง​ แข็งแกร่ง​กว่า​พวก​สิงจวิ้น​ จิงฉิงเจี่ย​ช่วง​ใหญ่​

ที่​น่าเสียดาย​คือ​อวี่เฟิงจื่อ​มาเจอ​ตน​

ไอ​สังหาร​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ของ​โลก​บงกช​ผลาญ​ใจ ความจริง​เกี่ยวข้อง​กับ​สภาวะ​จิต​ และ​สิ่งที่​หลิน​สวิน​ไม่กลัว​ที่สุด​คือ​การประชัน​บน​สภาวะ​จิต​

อวี่เฟิงจื่อ​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ จู่ๆ ก็​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​ส่งเสียง​ถอนหายใจ​ยาว​ “ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ การเปลี่ยนแปลง​แห่ง​มหา​มรรค​ไม่ใช่สวรรค์​กำหนด​ ข้า​ใน​สมัยก่อน​ภาคภูมิใจ​ใน​ตัวเอง​อย่าง​ที่สุด​ต่อ​การอนุมาน​วิชา​ทั้งหมด​ตั้งแต่​อดีต​ถึงปัจจุบัน​ หยั่งรู้​นัย​เร้นลับ​รอดพ้น​เพียง​หนึ่ง​ คิด​เอง​เออ​เอง​ว่า​นี่​คือ​มรรค​แห่ง​ยอด​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ แต่​ตอนนี้​ดูท่า​ ยอด​อมตะ​จะไม่เคย​เป็น​เช่นนี้​”

“ไร้​การ​กำหนด​ ไร้​กฎเกณฑ์​ ไร้​จำกัด​…”

พร้อมกับ​เสียง​พึมพำ​ราวกับ​ทอดถอนใจ​ดัง​มา ความ​งุนงง​ ไม่จำยอม​ เศร้าโศก​ใน​ดวง​ตาขอ​งอ​วี่เฟิงจื่อ​ล้วน​หาย​ไป​

แววตา​เขา​กระจ่าง​ใส สงบนิ่ง​ ปรากฏ​พลัง​ขับ​เคลื่อนที่​ลึกลับ​ไม่อาจ​คาดเดา​ทั่ว​ร่าง​ ราวกับ​ทำลาย​โซ่ตรวน​และ​พันธ​การ​บางอย่าง​ได้​แล้ว​ เปล่ง​ท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​โดดเด่น​ยิ่งยวด​ออกมา​ทั้งตัว​

จอม​มุนี​ชื่อ​เย่​ตา​เป็นประกาย​ ปรบมือ​ชื่นชม​ “กระจ่างแจ้ง​ปัญญา​ อิสระ​ไร้​พัน​ผูก​ เยี่ยมยอด​!”

“เขา​คล้า​น​ทำลาย​อุปสรรค​ใน​ใจได้​ใน​ยาม​นี้​!”

เหล่า​คนใหญ่คนโต​บน​แท่น​พิธี​ รวมถึง​เฒ่าชรา​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ต่าง​ไหว​หวั่น​ใน​ชั่ว​ขณะนี้​ สังเกตเห็น​การเปลี่ยนแปลง​ของ​กลิ่นอาย​บน​ร่า​งอ​วี่เฟิงจื่อ​

นี่​ทำให้​พวกเขา​หวั่นไหว​

ความสามารถ​ใน​การ​หยั่งรู้​น่ากลัว​มาก​!

ถูก​หลิน​สวิน​โจมตี​มหา​มรรค​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​ทำให้​สภาวะ​จิต​เกิด​ปัญหา​ กลับ​ใช้ศึก​นี้​ใน​การ​หยั่งรู้​

ใคร​จะไม่ตะลึง​ได้​

ยาม​มองดู​อวี่เฟิงจื่อ​อีก​ครา​ สีหน้า​ของ​ผู้คน​ต่าง​แฝงความตกใจ​ ไม่เสียที​ที่​เป็น​หัวหน้า​ผู้พิทักษ์​ลัทธิ​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​แห่ง​ลัทธิ​ฌาน​!

หลิน​สวิน​เลิกคิ้ว​กล่าว​ “น่าสนใจ​”

อวี่เฟิงจื่อ​พนมมือ​ ริมฝีปาก​เผย​รอยยิ้ม​บาง​ๆ ราวกับ​มุนินทร์​ที่​ยิ้ม​ตรัสรู้​และ​บรรลุ​เห็น​แก่น​ธรรม​ กล่าวว่า​ “ขอบคุณ​พี่​หลิน​มาก​ที่​ช่วย​ข้า​ทำลาย​ขีดจำกัด​ของ​ตน​ หยั่งถึง​ความ​เร้นลับ​แห่ง​ยอด​แข็งแกร่ง​ที่​แท้จริง​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​ “เช่นนั้น​เจ้าจะขอบคุณ​ข้า​อย่างไร​”

“ย่อม​ต้อง​ต่อสู้​ต่อ​ ตัดสิน​สูงต่ำ​”

อวี่เฟิงจื่อ​สีหน้า​สงบนิ่ง​

ทั่ว​ลาน​เงียบกริบ​

คน​ของ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​หลาย​คน​เดือดดาล​เล็กน้อย​ เจ้าหมอ​นี่​ไม่รู้จัก​ควร​ไม่ควร​เกินไป​แล้ว​ แพ้​แล้ว​ชัด​ๆ ทั้ง​ยัง​หยั่งรู้​ใน​การต่อสู้​ที่​พ่ายแพ้​ หาก​จะขอบคุณ​จริงๆ​ ก็​ควร​จากไป​ตอนนี้​ถึงจะถูก​

แต่​เขา​กลับ​ยัง​จะตัดสิน​สูงต่ำ​!

หรือ​เขา​คิด​ว่า​พลัง​หลังจาก​หยั่งรู้​สามารถ​กด​ข่ม​หลิน​สวิน​ได้​

ส่วน​เหล่า​คนใหญ่คนโต​บน​แท่น​พิธี​อย่าง​ชื่อ​เย่​ล้วน​อด​ตื่นเต้น​ขึ้น​มาไม่ได้​ เรื่อง​เปลี่ยนไป​ใน​ทิศทาง​ที่​ดีขึ้น​ แม้แต่​พวกเขา​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​สถานการณ์​จะพลิกผัน​

พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ ตู๋​กู​ยง​ ฟางเต้า​ผิง​ต่าง​อด​ขมวดคิ้ว​ไม่ได้​ อวี่เฟิงจื่อ​นี่​รับมือ​ยาก​จริงๆ​!

กลับ​เห็น​หลิน​สวิน​หุบ​ยิ้ม​บน​ใบหน้า​ กล่าวว่า​ “โลก​บงกช​ผลาญ​ใจของ​เจ้าก่อนหน้านี้​มีอภินิหาร​ที่​สามารถ​ตัด​มรรค​วิธี​ แม้มหัศจรรย์​อย่าง​ที่สุด​ กลับ​ทำ​อะไร​ข้า​ไม่ได้​ ตอนนี้​เจ้าจะเอา​อะไร​มาสู้กับ​ข้า​”

“แน่นอน​ว่า​ยังคง​เป็น​โลก​บงกช​ผลาญ​ใจ”

อวี่เฟิงจื่อ​พูด​เสียง​เบา​ “เพียงแต่​แตกต่าง​จาก​ก่อนหน้านี้​โดย​สมบูรณ์​ ขอ​สหาย​ยุทธ์​หลิน​โปรด​ระวัง​ หาก​ยืนหยัด​ไม่ไหว​ขอให้​เอ่ย​ยอมแพ้​โดยเร็ว​เป็น​พอ​”

อวี่เฟิงจื่อ​ใน​ตอนนี้​ถึงกับ​ดู​มั่นใจ​อย่าง​ที่สุด​ การ​หยั่งรู้​ใน​ครั้งนี้​คล้าย​ทำให้​เขา​เปลี่ยนไป​เป็น​คนละ​คน​

ทั้ง​บน​ล่าง​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ต่าง​ไม่ชอบใจ​

คนใหญ่คนโต​อย่าง​พวก​ชื่อ​เย่​ล้วน​เผย​สีหน้า​ชื่นชม​ สำหรับ​พวกเขา​ นี่​เป็นเรื่อง​ดี​ที่​เหนือ​ความคาดหมาย​

กลับ​เห็น​หลิน​สวิน​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​ “ดื้อดึง​ไม่ยอมรับ​ ยาม​ควร​หยุด​ไม่หยุด​ อวี่เฟิงจื่อ​ การ​หยั่งรู้​ครั้งนี้​อาจจะ​เป็น​หายนะ​ครั้ง​ใหญ่​สำหรับ​เจ้า ข้า​สามารถ​ให้โอกาส​เจ้าอีกครั้ง​ ยอมแพ้​ตอนนี้​ยัง​ทัน​”

“หึ​!”

ได้ยิน​คำพูด​นี้​คนใหญ่คนโต​ไม่รู้​เท่าไหร่​แค่น​เสียง​ขึ้น​จมูก​อย่าง​เย็นเยียบ​ คิด​ว่า​เป็นไปได้​สูงมากว่า​หลิน​สวิน​จะร้อนใจ​ เจตนา​พูด​ข่ม​ให้​ผู้อื่น​ตกใจ​ ดู​น่า​ขัด​นัก​

โดยเฉพาะ​จอม​มุนี​ชื่อ​เย่​ที่​ส่ายหน้า​พร้อม​รอยยิ้ม​

แม้ไม่ได้​เอ่ย​พูด​อะไร​ แต่​ท่าที​ไม่เห็นด้วย​นั่น​กลับ​ทำให้​ทุกคน​ต่าง​ตระหนัก​ได้​ว่า​เขา​ดูถูก​หลิน​สวิน​ยิ่ง​!

อวี่เฟิงจื่อ​ไม่ได้​เถียง​ เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​สงบนิ่ง​ “สหาย​ยุทธ์​หลิน​โปรด​ชี้แนะ​”

วู้​ม!

เขา​พนมมือ​ บงกช​งดงาม​หลาก​สีสัน​ทรงกลม​มน​ควบ​รวม​ออกมา​อีกครั้ง​ กลิ่นอาย​ที่​มหัศจรรย์​คลุมเครือ​คละคลุ้ง​

โลก​บงกช​ผลาญ​ใจ!

เมื่อ​เทียบ​กับ​ก่อนหน้านี้​ มีท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​บริบูรณ์​ที่​ไร้​มลทิน​เพิ่ม​เข้ามา​

“เจ้าคิด​ว่า​โลก​บงกช​ผลาญ​ใจเล็ก​ๆ นี่​ยัง​จะสามารถ​ขัง​ข้า​ได้​หรือ​ ช่างเถอะ​ ก็​ให้​เจ้าได้​เห็น​ฝีมือ​ของ​ข้า​สักหน่อย​แล้วกัน​”

ส่วนลึก​ใน​ดวง​ตาดำ​ลุ่มลึก​ของ​หลิน​สวิน​วาบ​ประกาย​เย็นเยียบ​

เขา​ยื่นมือ​รวบ​นิ้ว​

ละออง​แสงกาลเวลา​ที่​งดงาม​ดั่ง​มายา​ควบ​รวม​ที่​ปลายนิ้ว​เขา​เงียบๆ​ กลาย​เป็นประกาย​คม​โปร่งแสง​วับ​วาว​ พริบไหว​กลืน​กิน​

เมื่อ​ฟัน​ออก​ไป​ใน​อากาศ​เบา​ๆ

ฉัวะ!​

ดาบ​คม​สาย​หนึ่ง​พาด​ผ่านฟ้า​ มิติ​เวลา​ราวกับ​ถูก​ตัดขาด​ ม้วน​ตัวอย่าง​บ้าคลั่ง​ ทิวทัศน์​ทั้งหมด​ปรากฏ​ความ​เสื่อมถอย​และ​ทรุดโทรม​อย่าง​รวดเร็ว​

ทุกคน​รู้สึก​เพียง​แสบตา​

แม้แต่​คนใหญ่คนโต​เหล่านั้น​ก็​ไม่ใช่ข้อยกเว้น​

เหมือน​เป็น​ชั่วพริบตา​ และ​เหมือน​ผ่าน​ไป​ไม่รู้​กี่​ปี​

กฎเกณฑ์​กาลเวลา​ที่​กระจาย​อยู่​กลาง​ฟ้าดิน​ปั่นป่วน​ไร้​ระเบียบ​ อลหม่าน​อย่าง​สิ้นเชิง​

เมื่อ​การเปลี่ยนแปลง​แปลกประหลาด​ผิดปกติ​ทั้งหมด​นี้​หาย​ไป​

บน​ลาน​มรรค​เปิด​สวรรค์​

หลิน​สวิน​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ บงกช​ที่​งดงาม​หลาก​สีดอก​นั้น​เบ่งบาน​ อวี่เฟิงจื่อ​ที่อยู่​ฝั่งตรงข้าม​ยังอยู่​ใน​ท่า​พนมมือ​

ราวกับว่า​ทุกอย่าง​ที่​เกิดขึ้น​เมื่อครู่นี้​ล้วน​เป็น​ภาพมายา​

ผู้​คนนอก​ลาน​มรรค​หลาย​คน​มึนงง​ ก่อนหน้านี้​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

ต่อให้​เป็น​ผู้ยิ่งใหญ่​ระดับ​อมตะ​ขั้น​ดับ​เทพ​ สีหน้า​ยัง​ประหลาดใจ​ไม่อาจ​สงบ​ได้​ พวกเขา​คล้าย​เดา​อะไร​ออก​รางๆ​

ส่วน​พวก​จอม​มุนี​ชื่อ​เย่​แห่ง​ลัทธิ​ฌาน​ ราชครู​ดิน​สยง​ถูแห่ง​ลัทธิ​พ่อ​มด​ จอม​วิญญาณ​ชิงอ​วิ๋น​แห่ง​ลัทธิ​วิญญาณ​ รวมถึง​พวก​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ ตอนนี้​ต่าง​ตกใจ​

สีหน้า​ของ​พวกเขา​เปลี่ยนไป​ ไม่สามารถ​สงบ​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​

ใน​บรรยากาศ​ที่​เงียบสงัด​ทั้ง​แถบ​ หลิน​สวิน​เอ่ย​ย​ปาก​เรียบๆ​ “ข้า​บอก​แล้ว​ สำหรับ​เจ้า นี่​เป็น​หายนะ​ครั้ง​ใหญ่​”

เสียง​ที่​แผ่วเบา​เพิ่ง​จบ​ลง​

ปัง​!

ภายใต้​สายตา​นับไม่ถ้วน​ที่​จับจ้อง​ บงกช​หลาก​สีนั่น​เหี่ยวเฉา​ใน​ชั่วพริบตา​ ระเบิด​ออก​กะทันหัน​ กลายเป็น​ฝุ่นผง​ลอย​กระเซ็น​ทั่ว​ฟ้า

หาก​บอ​กว่า​ภาพ​นี้​ทำให้​ผู้คน​ตกใจ​

เช่นนั้น​ภาพ​หลังจากนี้​ก็​ทำให้​พวกเขา​ใจสั่น​และ​หวาดกลัว​!

ก็​เห็น​ว่า​อวี่เฟิงจื่อ​ใน​จีวร​ขาว​ดั่ง​หิมะ​ที่​ยืน​พนมมือ​อยู่​ตรงนั้น​ รูปร่าง​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​กะทันหัน​ ราวกับ​เด็ก​ลง​ไม่รู้​กี่​ปี​ในทันที​

กลายเป็น​เด็กหนุ่ม​ที่​ตัว​เตี้ย​ผอมแห้ง​ เยาว์วัย​ไร้เดียงสา​ จีวร​ที่​เดิม​พอดี​ตัว​ก็​เปลี่ยน​เป็นใหญ่​กว่า​

ที่​น่ากลัว​ที่สุด​คือ​มรรค​วิถี​ทั้ง​ชีวิต​ของ​เขา​ราวกับ​ถูก​ฟัน​ขาด​ จาก​ระดับ​อมตะ​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​ร่วง​ลงมา​เป็น​ระดับ​จักรพรรดิ​ในทันที​ จากนั้น​จาก​ระดับ​จักรพรรดิ​ก็​ร่วง​ไป​ยัง​ระดับ​กึ่ง​จักรพรรดิ​ ระดับ​อริยะ​ ระดับ​อมตะ​เคราะห์​…

จนกระทั่ง​ถึงระดับ​มหาสมุทร​วิญญาณ​ของ​ห้า​ระดับ​ล่าง​ถึงค่อยๆ​ หยุด​ลง​!

นอก​ลาน​มรรค​เงียบกริบ​ไร้​เสียง​

ต่าง​ตกใจ​กับ​ภาพ​นี้​ หลาย​คน​อกสั่นขวัญหนี​ เบิก​ตาโพลง​

การเปลี่ยนแปลง​แปลกประหลาด​นี้​ราวกับ​เรื่อง​ที่​น่ากลัว​ที่สุด​ใน​โลก​ ทิ่มแทง​จน​ทุกคน​เหมือน​ตกลง​ไป​ใน​ถ้ำน้ำแข็ง​อย่างไร​อย่างนั้น​

“ดาบ​… กาล​… เวลา​!”

จอม​มุนี​ชื่อ​เย่​ลุกขึ้น​ สีหน้ามืด​ทะมึน​ เสียง​เหมือน​เบียด​ออกจาก​หน้าอก​อย่างไร​อย่างนั้น​ เจือ​ความ​เดือดดาล​ที่​ไม่สามารถ​ควบคุม​ได้​

“สวนกระแส​กาลเวลา​ ตัดทอน​มรรค​วิถี​! อภินิหาร​พรสวรรค์​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​เจ้าแห่ง​มรรคา​สวรรค์​”

“สมควร​ตาย​!”

“อภินิหาร​ต้องห้าม​นี้​ปรากฏ​อีกครั้ง​แล้ว​…”

ครั้น​มอง​ทาง​คนใหญ่คนโต​ใน​ลัทธิ​พ่อ​มด​ สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​เหล่านั้น​ สีหน้าต่าง​เย็นเยียบ​ อึมครึม​จน​น่ากลัว​ ใน​ดวงตา​เต็มไปด้วย​ความ​เดือดดาล​ รวมถึง​ความ​หวาดเกรง​ที่​ยาก​จะสังเกตเห็น​!

เฒ่าชรา​อย่าง​พวกเขา​ย่อม​รู้จัก​ลั่วทง​เทียน​ใน​ตอนนั้น​เป็น​อย่าง​ดี​ ที่​กล้า​ท้าทาย​สิบ​ยักษ์​ใหญ่​อมตะ​ ก็​เพราะ​อภินิหาร​พรสวรรค์​ที่​เขา​ครอบครอง​เป็น​เหมือน​สิ่งต้องห้าม​เกินไป​

แต่​ตอนนี้​หลังจาก​ผ่าน​ไป​ใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​ อภิ​นิ​หา​พรสวรรค์​เช่นนี้​ปรากฏ​ใน​โลก​อีกครั้ง​ ถูก​ผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​อย่าง​หลิน​สวิน​สำแดง​ออกมา​

นี่​จะไม่ให้​พวกเขา​โกรธ​ได้​อย่างไร​

ตอนนี้​เหล่า​คนใหญ่คนโต​อย่าง​ฝูเห​วิน​หลี​ ฉีเซียว​อวิ๋น​ ชื่อ​เวิน​ที่​มอง​หลิน​สวิน​เป็น​ศัตรู​ ใน​ใจล้วน​ปั่นป่วน​ เกิด​ความ​เดือดดาล​และ​ชิงชัง

เมื่อนานมาแล้ว​ก่อนหน้านี้​ ลั่วทง​เทียน​เคย​ใช้ดาบ​กาลเวลา​ทำให้​คนใหญ่คนโต​น่านฟ้า​ที่​แปด​ไม่น้อย​บาดเจ็บ​หนัก​ ตัดทอน​มรรค​วิถี​บน​ร่าง​พวกเขา​ ทำให้​น่านฟ้า​ที่​แปด​เกิด​เสียง​ตื่นตระหนก​หวาดหวั่น​ขึ้น​มากมาย​

พวกเขา​จะลืม​ได้​อย่างไร​

แต่​พวกเขา​กลับ​คิดไม่ถึง​ ว่า​หลิน​สวิน​จะปลุก​และ​สืบทอด​อภินิหาร​ต้องห้าม​นี้​ได้​แล้ว​!

ก่อนหน้านี้​เป็น​เพราะ​ดาบ​กาลเวลา​ของ​หลิน​สวิน​ ย้อน​อายุ​และ​มรรค​วิถี​ของ​อวี่เฟิงจื่อ​กลับ​ไป​ยัง​ยาม​เป็น​เด็กหนุ่ม​ใน​ครา​เดียว​ มีเพียง​ความทรงจำ​และ​สติปัญญา​ที่​ไม่เปลี่ยน​

แต่​ภาพ​นี้​น่าอนาถ​เกินไป​ ทำให้​ผู้คน​ขนลุกซู่​!

ลอง​จิน​ตน​การ​ดู​ว่า​ตัวตน​ระดับ​อมตะ​ขั้น​อายุขัย​เทียมฟ้า​ที่​โดดเด่น​ที่สุด​ของ​ลัทธิ​ฌาน​ ศิษย์​พุทธ​ฟ้าประทาน​ที่​มีสิทธิ์​สืบทอด​ตำแหน่ง​ ‘พุทธ​ปัจจุบัน​’ คน​หนึ่ง​ กลับ​สูญเสีย​มรรค​วิถี​ทั้งหมด​ใน​ชั่วพริบตา​ กลับ​สู่ยาม​เยาว์​ที่​เพิ่ง​ก้าว​เข้าสู่​เส้นทาง​ฝึก​ปราณ​ นี่​เป็น​ภาพ​ที่​น่ากลัว​เพียงใด​

ใน​ใจพวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ ตู๋​กู​ยง​ ฟางเต้า​ผิง​สะท้าน​ไหว​รุนแรง​ครา​หนึ่ง​ สีหน้า​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ตระหนัก​ได้​ว่าการ​โจมตี​นี้​ของ​หลิน​สวิน​เท่ากับ​ทำ​ลา​ยอ​วี่เฟิงจื่อ​อย่าง​สิ้นเชิง​

และ​การ​สูญเสีย​ศิษย์​พุทธ​ฟ้าประทาน​อย่าง​อวี่เฟิงจื่อ​ ผลกระทบ​ยิ่งใหญ่​ที่​มีต่อ​ลัทธิ​ฌาน​ย่อม​ไม่อาจ​ประเมิน​ได้​อย่าง​แน่นอน​ มีความเป็นไปได้​สูงมากว่า​จะทำให้​พวกเขา​แก้แค้น​หลิน​สวิน​อย่าง​บ้าคลั่ง​โดย​ไม่สนใจ​ทุกสิ่ง​!

พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​สบตา​กัน​ ต่าง​เริ่ม​ระวัง​ขึ้น​มา จับตามอง​การเคลื่อนไหว​ของ​คน​ของ​ลัทธิ​ฌาน​อย่าง​จอม​มุนี​ชื่อ​เย่​โดยเฉพาะ​

มองดู​คนอื่นๆ​ ในที่นี้​อีกครั้ง​ เหล่า​คนใหญ่คนโต​และ​ผู้สืบทอด​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ ตอนนี้​ต่าง​กระจ่าง​แล้ว​ว่า​คำ​ว่า​ ‘หายนะ​ครั้ง​ใหญ่​’ ที่​หลิน​สวิน​พูดถึง​คือ​อะไร​ ล้วน​อด​ตะลึง​จน​คำพูด​ไม่ได้​

ก่อนหน้านี้​อวี่เฟิงจื่อ​ใช้โลก​บงกช​ผลาญ​ใจโจมตี​ หมาย​จะตัด​มรรค​วิถี​ของ​หลิน​สวิน​

แต่​ตอนนี้​หลิน​สวิน​ตา​ต่อตา​ฟัน​ต่อ​ฟัน​ ตัด​มรรค​วิถี​ขอ​งอ​วี่เฟิงจื่อลง​ไป​ยัง​ห้า​ระดับ​ล่าง​ใน​ครา​เดียว​ ย้อนกลับ​ไป​สู่วัย​เด็กหนุ่ม​!

สำหรับ​อวี่เฟิงจื่อ​ ไม่ใช่หายนะ​ครั้ง​ใหญ่​แล้​วจะ​เป็น​อะไร​

บน​ลาน​มรรค​เปิด​สวรรค์​ อวี่เฟิงจื่อ​ที่มา​อยู่​ใน​รูปลักษณ์​ของ​เด็กหนุ่ม​อยู่​ใน​ท่า​พนมมือ​โดยตลอด​ เหมือน​ถูก​กระทบกระเทือน​จน​ไม่อาจ​รับรู้​ เนิ่นนาน​ก็​ไม่ขยับ​

ครู่ใหญ่​เขา​ถึงเงยหน้า​ขึ้น​ สายตา​มอง​ไป​ยัง​หลิน​สวิน​ ริมฝีปาก​ขยับ​เหมือน​จะพูด​อะไร​

แต่​สุดท้าย​เขา​ก็​กระอัก​เลือด​ออกมา​คำ​หนึ่ง​ พลัน​หน้า​ซีดเผือด​เซล้ม​นั่ง​บน​พื้น​

ราวกับ​สูญเสีย​บุพการี​อย่างไร​อย่างนั้น​!

………………..