Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย! - ตอนที่ 133
ที่เมืองนี้มีแต่หมอกปกคลุมเต็มไปหมดแม้แต่เวลากลางวันก็ตาม มันดำมืดไปหมดแต่ก็ยังดีกว่าในหมอกแห่งสงครามก็แล้วกัน
เสี่ยวเฟิงที่ออกมาจากหมอกสีดำนั่นได้ก็ต้องตะลึงที่เห็นเมืองอยู่ตรงนี้ ลืมแม้กระทั่งจะเพิ่มพลังชีวิตด้วยซ้ำ
กำแพงของเมืองนี้สูงใหญ่ครอบคลุมพื้นมากมายแถมยังมีเสาต้นใหญ่ที่มีรู้ร่างเหมือนกระดูกสันหลังและมีกระโหลกอยู่ด้านบนอีกด้วย เขาไม่รู้ว่าเมืองนี้ใหญ่แค่ไหนแต่ก็น่าจะประมาณการณ์ไว้ว่าใหญ่ว่าเตียนหลงแน่ๆ
ภาพของสงครามถูกสลักเอาไว้บนกำแพงที่ดูเหมือนว่าจะมีคราบเลือดอยู่ ทางเข้าเมืองเองก็ใหญ่เหมือนกับปากขนาดยักษ์ ทำให้ทั้งเมืองดูเหมือนกับปีศาจจากนรกก็ไม่ปาน
“เฮ้ คุณทำเควสเนื้อเรื่อง คนถือสาห์นแห่งความมืด สำเร็จแล้ว”
เมื่อเขาเห็นเมืองนี้ ระบบแจ้งเตือนว่าเขาทำเควสนี้สำเร็จก็ดังขึ้น และสามารถกลับไปส่งเควสได้แล้ว
เขาไม่คิดว่าจะได้เจอเมืองใหญ่ขนาดนี้ซ่อนตัวอยู่ในม่านหมอกเหล่านั้น
ถึงเสี่ยวเฟิงจะทำเควสเสร็จแล้วก็จริง แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะหนีถอยจากการผจญภัยได้ ความสงสัยของเขาเองก็มีมากเท่ากับคนอื่น เขาเติมพลังชีวิตตัวเองแล้วเดินเข้าไปในเมืองแห่งความเศร้าอย่างระมัดระวัง
ข้างนอกเมืองนั้นเงียบมาก ไม่มีมอนสเตอร์รอบๆเลย และมันทำให้ชายหนุ่มเสียวสันหลัง
เมื่อเขามาถึงปากทางเข้า ประตูก็เปิดออก ชายหนุ่มมองเข้าไปข้างในก็พบแต่หมอกมัวๆ
เขาพยายามฟังเสียงต่างๆที่อยู่ในนั้นแต่ก็ไม่ได้ยินอะไร ที่นี่เงียบมาก
เสี่ยวเฟิงกัดฟันและเสี่ยงเดินเข้าไป ทันทีที่เขาเข้าไปในหมอกพวกนั้นพวกงานมากมายก็ปรากฎเหนือประตูบานนั้น และในวินาทีต่อมาหมอกที่ไปรวบรวมนั่นก็กลายเป็นก้อนกลม
และข้างในเมืองนั่นก็ปรากฎคนร่างสูงเดินออกมา
นั่นคือทหารยามของเมืองแห่งความเศร้า
เลเวล 30
ประเภท บอสในตำนาน
ธาตุ วิญญาณ
พลังชีวิต 180000/180000
พลังโจมตี 3000 – 3090
พลังเวทย์ 2000 – 2090
พลังป้องกันกายภาพ 2800 – 2880
พลังป้องกันเวทย์ 2720 – 2800
สกิล หวดรุนแรง,เงื้อมมือผีดิบ,พลีกายขั้นสุดยอด,พายุหมุนรุนแรง,กรงกระดูก,กลิ่นสาบศพ,ป้องกันผีดิบ,สังเวย,กายาแห่งความตาย,ความเป็นอมตะ และพลังอมตะ
คำอธิบาย ผู้ปกป้องเมืองแห่งความเศร้าที่แสนโหดร้าย แพ้ธาตุแสง
มันคือทหารกระดูกสูงกว่า 10 เมตร
มันใส่ชุดเกราะโบราณปกปิดไปทั้งตัวยกเว้นแค่เพียงส่วนคอและข้อต่อเท่านั้น หมอกสีหม่นยังคงถูกปล่อยออกมาจากตัวมันเรื่อยๆซึ่งทำให้มองมันได้ยากมาก
ดวงตาสีแดงของมันจดจ้องเสี่ยวเฟิงผ่านหน้ากากเหล็กที่มันสวมอยู่
ทั้งรูปร่างและสเตตัสของมันที่สูงลิ่วทำให้เสี่ยวเฟิงหวาดกลัวมันเป็นอย่างมาก
มันคือบอสเลเวล 30 และชายหนุ่มใช่สกิลสอดแนมสังเกตการณ์มันได้
บอสระดับตำนานเลเวล 30! ไม่ต้องพูดเรื่องความยาวของหลอดเลือด ค่าพลังต่างๆของมันก็สูงโคตรๆจนทุกคนที่ได้พบมันจะต้องหวาดผวาไปตามๆกัน
ถึงเสี่ยวเฟิงจะเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดแต่ก็ยังมีพลังชีวิตอยู่ที่เกือบๆ 400 เท่านั้นเอง แต่บอสตัวนี้กลับมีพลังโจมตีสูงถึง 3000
และถึงแม้ว่าพลังป้องกันของเสี่ยวเฟิงจะสูงมากแต่ก็ไม่อาจจะต้านทานการโจมตีของมันได้แน่ๆ
แต่เมื่อเจอคู่ต่อสู้แบบนี้ ชายหนุ่มก็ไม่ได้หวาดเกรงมันมากเท่าใดนัก ดวงตาของเขาปรากฎแสงออกมา
“นี่มันบอสในตำนาน! มันอาจจะดรอปอาร์ติแฟก!”
ตั้งแต่ที่เกมมิทได้เปิดให้บริการมา ไอเทมของเสี่ยวเฟิงนั้นเก่งกาจที่สุดและไม่มีใครจัดการเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นค่าสเตตัสของเขาก็สูงมากเสียจนไม่มีใครอยากต่อกรด้วย
และอาร์ติแฟกจะช่วยเพิ่มพลังให้มากขึ้นไปอีก
เสี่ยวเฟิงได้ไอเทมระดับเทพเจ้ามาจากการฆ่าบอสทอง ถ้าเกิดว่าเขาจัดการบอสระดับตำนานได้จะต้องได้อาร์ติแฟกแน่ๆ
ดวงตาของเขาเพ่งสมาธิ หัวใจของเสี่ยวเฟิงเต้นระรัว
ถึงบอสตัวนี้จะมีค่าสเตตัสที่น่ากลัวมากก็จริง แต่มันก็แพ้ธาตุแสง
นั่นหมายความว่าเขาอาจจะฆ่ามันได้ด้วยโฮลี่ไลท์
แล้วชายหนุ่มก็ถูกอาร์ติแฟกล่อลวงอย่างขาดสติ
“มีผู้กล้าเข้ามางั้นเรอะ? แถมยังมีออร่าแสงอีก แกเป็นพวกวิหารแสงสินะ” ทหารคนนั้นพูดและมองเสี่ยวเฟิง เสียงของเขาเยือกเย็นมาก ก็แหงล่ะมอนตัวนี้ตายไปแล้วนี่นา
เสี่ยวเฟิงตะลึงและไม่คิดว่าบอสในตำนานจะมีปัญญามากขนาดคุยกันได้แบบนี้
“ข้าเกลียดแสงที่สุด ดูเหมือนว่าพวกวิหารแสงจะรู้ตำแหน่งที่นี่แล้วสินะ พวกกองทัพปีศาจน่าจะเคลื่อนไหวกันให้เร็วกว่านี้ได้แล้ว”
“ผู้กล้าเผ่ามนุษย์เอ๋ย แกน่าจะรู้ดีว่าแสงน่ะทำให้ผู้คนเป็นบ้าได้ และความมืดเท่านั้นคือนิรันดร์ เจ้าไม่สนใจจะเข้าร่วมกันข้าหน่อยรึ? เจ้าจะได้รับอะไรมากมายเลยนะ”
ชายหนุ่มตะลึงกับคำพูดนั่น ‘อะไรว่ะเนี่ย? บอสพยายามเกลี้ยกล่อมฉันงั้นเหรอ?’
“เข้าร่วมกับนายงั้นเหรอ?”
“ใช่ เจ้าจะได้พลังแห่งความมืดและอาชีพที่เจ้าปรารถนามานานแถมจะได้พลังต่อสู้อันยิ่งใหญ่ด้วย”
บอสตัวนี้พูดด้วยไฟลุกโชนในดวงตา
“เทียบกันแล้วฉันสนใจในอาร์ติแฟกที่อยู่ในตัวนายมากกว่านะ”
อาชีพลับเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้เล่นต้องการมากเพราะมันจะได้รับพลังอันมหาศาล
นั่นเป็นเพราะว่าตอนเริ่มเกมนั้นผู้เล่นจะถูกบังคับเลือกให้เข้ากับฝ่ายแสงเพื่อต่อกรกับฝ่ายมืด ดังนั้นมันจึงเป็นข้อเสนอที่เย้ายวนมาก
ทว่า เสี่ยวเฟิงไม่ได้สนใจในข้อเสนอนั้น อันดับแรกเลยคือคลาสของเขาเองก็สูงและทรงพลังมาก อันดับสองคือเสี่ยวไป๋ที่วิหารแสงเองก็บังคับให้เขาเลือกฝ่ายแสง เพราะฉะนั้นชายหุ่มจึงไม่ได้มีความใส่ใจกับฝ่ายมืดอยู่แล้ว
“ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงสินะ เจ้าหนอนแมลงกล้าดียังไงถึงได้เข้ามารุกรานเมืองนี้?”
ออร่าความกดดันแผ่ออกมาจากตัวบอสกระจายไปทั่วบริเวณ และเสี่ยวเฟิงเองก็อยู่ในระยะโจมตีของมันเสียด้วย
“หุบปากแล้วส่งอาร์ติแฟกกับค่าประสบการณ์มาได้แล้ว”
เสี่ยวเฟิงถอยออกมาจากบอสตัวนี้ เพราะว่าถ้าโดนโจมตีเพียงครั้งเดียวก็อาจจถึงตายได้เลย แถมเขาน่าจะโจมตีมันได้สกิลโฮลี่ไลท์จากระยะไกลได้ด้วย
“-24300”
(สกิลพลังอมตะลดความเสียหายที่ได้รับ 10%)
ตัวเลขปรากฎขึ้นมาเหนือหัวบอสตัวนี้และมันก็คำรามออกมา
“โอ้ว! พลังแสงโสโครก! แกเป็นใครกัน?”
บอสตะโกนอย่างเดือดดาลและวิ่งเข้าหาเสี่ยวเฟิงจนพื้นดินสะเทือน
เสี่ยวเฟิงไม่ตอบคำถาม และรู้สึกดีใจ “ดูเหมือนว่าพลังธาตุแสงจะได้ผลแม้แต่กับบอสในตำนานสินะ อย่างนี้ก็สามารถฆ่าได้ภายในไม่กี่นาทีแน่!”
ทว่า เสี่ยวเฟิงก็ต้องชะงัก
“เฮ้ คุณกำลังได้รับผลจากสกิล กลิ่นสาบศพ จากบอสแห่งเมืองแห่งความเศร้า สูญเสียพลังชีวิต 100 ต่อวินาที”
“เฮ้ ความเสียหายที่คุณได้รับจะเพิ่มเป็นสองเท่าเนื่องจากธาตุศักดิ์สิทธิ์ในตัวคุณ”
ตัวเลขปรากฎขึ้นเหนือหัวของเขา
“-200”
“-200”
…
“เชี่ย!”
เสี่ยวเฟิงตะลึง เขาไม่คิดว่าสกิลกลิ่นสาบศพที่เขาคุ้นชินจากราชากระดูกมันจะรุนแรงได้ขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะมีไอเทมต่างหูระดับเทพเจ้าแบบนี้แล้วก็ตาม บางทีอาจจะเป็นเพราะราชากระดูกเป็นบอสระดับต่ำก็ได้ทำห้สกิลของมันไม่แรงแบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยสถานะศักดิ์สิทธิ์ของเขายิ่งทำให้รุนแรงขึ้นอีกสองเท่า
นั่นทำให้ก่อนที่เสี่ยวเฟิงจะได้ทันทำอะไรเขาก็เสียพลังชีวิตจนหมด
“เดี๋ยว อย่าเพิ่ง…”
เสี่ยวเฟิงร้องออกมา เขารู้ว่าครั้งนี้เขาตายแน่ๆ ทั่วทั้งบริเวณนี้ถูกครอบคลุมไปด้วยกลิ่นสาบศพของบอสตัวนี้แล้ว เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้
แล้วทันใดนั้นภาพทุกอย่างในสายตาเสี่ยวเฟิงก็ดำมืดลงเมื่อพลังชีวิตและมานาขอบเขาเหลือ 0
“เฮ้ คุณไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่แล้ว คุณถูกฆ่า คุณเลือกที่จะไปเกิดใหม่ยังจุดเกิดที่ใกล้ที่สุดไหม?”
ชายหนุ่มเลือก “ใช่” แล้วระบบก็พาเขาไปเกิดใหม่ที่เมืองซันเซทด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
“บอสในตำนานมันโหดมาก ไม่ใช่แค่ฉันโดนฆ่าครั้งแรกเท่านั้นแถมยังไม่ได้อาร์ติแฟกอีก และสูญเสียค่าประสบการณ์ 20% พร้อมกับเกราะแขน”
นี่ทำให้เสี่ยวเฟิงโกรธมาก แน่นอนว่าเขาจะต้องล้างแค้นเจ้าบอสตัวนี้แน่ๆ ดังนั้นเขาจึงเดินไปขอความช่วยเหลือจากโบลตัน
โบลตันเองก็เป็นบอสในตำนานเลเวล 30 เช่นกัน และถ้าเขาคอยช่วยเหลือNPCคนนี้ล่ะก็ยังไงก็ต้องล้มมันลงได้แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาร่ายโฮลี่ไลท์ใส่มันก็น่าจะช่วยสร้างความเสียหายมากขึ้นยิ่งไปอีก
ปัญหาของเขาที่สุดในตอนนี้ก็คือจะทำยังไงให้โบลตันยอมร่วมมือ
จากในหน้าจอทีม ติงติงรู้ว่าเสี่ยวเฟิงถูกจัดการไปแล้ว และไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็กลับมาหาเขาด้วยคัมภีร์วาร์ป
“นายโดนฆ่าเหรอ? แสดงว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเควสนี้สินะ?”