Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 148
บทที่ 148
สามดาบ
“ศิษย์ชั้นในระดับสูงสุดของนิกายวารีคราม?”
เจิ้งซานมองไปในทิศทางของหลี่ฟู่เฉิน
จากเนินเขา ร่างของหลี่ฟู่เฉินหายไปอย่างไร้ร่องลอย และเพียงไม่นานก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ด้านข้างของเฉินฟางหัว
“เฉินชิเจี๋ย ไปพักผ่อนอยู่ข้างๆ ก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการเรื่องนี้เอง”
เขาสามารถกล่าวได้เลยว่าเฉินฟางหัวจิตใจกำลังแตกสลาย
มันไม่ใช่เพราะเธอมีพลังใจที่อ่อนแอ แต่กรงเล็บวิญญาณเจิ้งซานนั้นสกดข่มและโหดร้ายเกินไป
ผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของตัวเองมากกว่าสิ่งใด เห็นได้ชัดว่าสภาพจิตใจของเธอจะกลายเป็นสิ้นหวังมาก หากเธอไม่สามารถตายอย่างมีเกียรติได้
เฉินฟางหัวพยักหน้า เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะดึงดันทำเป็นเข้มแข็ง ความมั่นใจและกำลังใจของเธอเกือบจะถูกบดขยี้โดยเจิ้งซวน
“เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถช่วยเธอได้?” เจิ้งซวนหัวเราะเยาะ ร่างกายของเขาปลดปล่อยพลังฉีปีศาจออกมา
“ข้าคนเดียวก็เพียงพอแล้ว” หลี่ฟู่เฉินตอบ
“ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าเป็นศิษย์ชั้นในระดับสูงสุดของนิกายวารีคราม มันเป็นความมั่นใจที่เหลือล้นเสียจริง แต่กิจกรรมที่ข้าโปรดปราดนั้นคือการที่ฆ่าบุคคลผู้ซึ่งมีความมั่นใจ ข้าจะถลกหนังของเจ้าออกให้หมด และนำมันมาทำเป็นหมวกฟาง
หลี่ฟู่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชา “กรงเล็บวิญญาณเจิ้งซวน หยุดกลอุบายของเจ้า อย่าใช้กลวิธีไร้ยางอายนี้เพื่อทำลายชื่อเสียงตนเอง”
“โหห!” ได้ยินคำตอบของหลี่ฟู่เฉิน การแสดงออกมาของเจิ้งซวนกลายเป็นเย็นชาทันที
เขาตระหนักได้ว่าหลี่ฟู่เฉินนั้นแตกต่างจากคนอื่น ๆ
หลี่ฟูเฉินสงบ ในสายตาของเขาไม่มีแม้แต่การสั่นไหว มีเพียงความเงียบสงบและคำใบ้ลางๆ ของเจตนาสังหาร
“ดูเหมือนว่าข้าไม่สามารถประมาทเจ้าได้”
เจิ่งซวนดูจริงจังมากขึ้นและไม่เล่นเล่ห์เหลี่ยมอีกต่อไป
“สามดาบ” หลี่ฟูเฉินมีสีหน้าไม่แยแส ขณะที่เขาวาดดาบทองคำออกไปทีละครั้งละครั้ง
เจิ้งซวนนั้นไม่ได้เป็นบุคคลทั่วไปแน่นอน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขาด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียว แต่สามดาบยังคงพอเป็นไปได้
“ฮ่าฮ่า” เจิ้งซวนเริ่มหัวเราะ เขาไม่เคยเห็นใครหยิ่งยะโสเท่านี้มาก่อน เขาคิดว่าตัวหลี่ฟูเฉินคือเรื่องตลกที่สุดในรอบสิบปี
“ดาบที่หนึ่ง” หลี่ฟู่เฉินเริ่มลงมือ
เจตจำนงเพลิงแดง
เจตจำนงดาบดาวตก
ด้วยเจตจำนงทั้งสองที่ผสานกัน เขาแทงเจิ้งซวนด้วยดาบทองดำของเขา
ดาบนี้ไม่ปรากฏแสงสว่างอย่างที่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจตจำนงดาบดาวตกที่ควรมี แต่มันต่างออกไปเพราะเจตจำนงเพลิงแดง
เร็ว!
เร็วเกินไป เร็วเสียจนเจิ้งซวนไม่สามารถหลบได้
เมื่อดาบแรกถูกฟันออกไปจนสุดทาง มันก็ได้มาต่อหน้าของเจิ้งซวน
มันเป็นดาบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ดาบนี้ส่งความหนาวเหน็บลึกลงไปในกระดูกสันหลังของเจิ้งซวน
“กรงเล็บวิญญาณโลกันต์!”
เจิ้งซวนคำราม ขณะที่เขาโจมตีออกไปในแสงไฟ
ฟึบ ฉึก!
ผิวดินฉีกขาด กรงเล็บของเจิ้งซวนโจมตีโดนเพียงแค่แสงดาบเท่านั้น ดาบนั้นเร็วเกินไป มันทำจึงให้เขาตัดสินใจผิดพลาดไป
เกราะพลังฉีและเกราะหนังสัตว์ปีศาจของเขาถูกแทง แสงดาบอันร้อนแรงทำให้เจิ้งซวนกรีดร้องอย่างน่าสังเวช เขาอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก
บนหน้าอกของเขามีรูเล็กๆ ที่เกรียมไหม้ปรากฏ มันลึกประมาณครึ่งนิ้ว
ในช่วงเวลาสำคัญ เจิ้งซวนเปิดใช้งานเทคนิคลับระดับ 2 ดาวของนิกายปีศาจสวรรค์ ลวดลายปีศาจ
เทคนิคลับนี้ต้องใช้ลวดลายจากร่างปีศาจมาสักบนลงร่างกาย ลวดลายจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ
“เจตจำนงแห่งดาบและเจตจำนงเทคนิค!” ใบหน้าของเจิ้งซวนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
จากข้อมูลที่เขาได้รับ หลี่ฟู่เฉินเข้าใจเพียงแต่เจตจำนงแห่งดาบเท่านั้น และไม่ได้เข้าใจเจตจำนงเทคนิค
หากมันเป็นเพียงเจตจำนงแห่งดาบ เขาก็จะไม่มีวันถูกรบกวน หลังจากทั้งหมดแล้ว เขาเองก็เข้าใจเจตจำนงกรงเล็บวิญญาณโลกันต์ด้วยเช่นกัน และระดับบ่มเพาะของเขาเองก็สูงกว่าหลี่ฟู่เฉินถึงสองระดับ
“เป็นไปได้อย่างไร? เขาฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะระดับลึกลับขั้นกลางถึงขั้นสูงสุดได้ตั้วแต่อยู่ขอบเขตต้นกำเนิด?”
เจิ้งซวนไม่สามารถเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเชื่อสายตาของตนเอง
ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ไม่มีสิ่งมดที่จะสามารถอธิบายพลังโจมตีที่มากล้นของดาบแรกนี้ได้
กินเม็ดยา เจิ้งซวนเหวี่ยงมือแล้วขว้างระเบิดโลหะออกไปสองลูก เขาหันกลับและเตรียมตัวหนีทันที
ต่อต้านใครบางคนที่แข็งแกร่งเบ็ดเสร็จอย่างเช่นหลี่ฟู่เฉินไม่ได้ เจิ้งซวนตั้งใจที่จะหลบหนี
“ชายผู้นี้มีความเข้าใจต่อเจตจำนงเทคนิค ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่หากข้าสามารถหาสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อพัฒนาขอบเขตบ่มเพาะของข้าได้ ข้าก็จะสามารถไปสู่ขอบเขตปฐพีระดับแรกได้”
เจิ้งซวยยังสามารถพัฒนาได้อีกไกล แต่เพื่อที่จะเข้าเขตแดนร้อบพฤกษาเร้นลับ เขากลับต้องสกดพลังบ่มเพราะของเขาเอง
ความก้าวหน้าของขอบเขตแห่งการฝึกฝนไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด มันต้องมีสถานที่ปลอดภัยในการโคจรพลังฉี
เมื่อถูกรบกวนจากใคร มันก็ง่ายที่จะตกอยู่ในความปั่นป่วนและเส้นชีพจรทั้งหมดอาจกลายเป็นพิการได้
หากเขาสามารถทะลวงระดับได้ทันที ตอนนี้เขาก็คงไม่จำเป็นต้องหลบหนีออกไปเช่นนี้
บูม บูม บูม….
ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว หลี่ฟู่เฉินก็รู้ว่าระเบิดโลหะเป็นระเบิดสายฟ้า พวกมันเป็นเครื่องมือทำลายล้างที่สำคัญซึ่งสามารถฆ่านักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ 9 ได้อย่างง่ายดาย
น่าเสียดายที่หลี่ฟู่เฉินไม่ใช่นักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ 9
ขยายเกราะพลังฉีของเขาออกไปด้วยเจตจำนงเพลิงแดง หลี่ฟูเฉินกลายเป็นสายธารแห่งเพลิงและไล่ตามเจิ้งซวนไป ขณะที่เขากำลังวิ่งไล่ ระเบิดสายฟ้าก็สลายตัวลงไปพร้อมๆ กับอำนาจทำลายล้างเมื่อมันสัมผัสด้วยเจตจำนงเพลิงแดง
ด้วยเวลาเพียงชั่วลมหายใจ หลี่ฟูเฉินก็จับเจิ้งซวนไว้ได้
ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะรวดเร็วแค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังคงไม่เร็วพอสำหรับท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขา
บูม!
เมฆหมอกหนาทึบกระจายออกไป ขณะที่เจิ้งซวนโยนระเบิดสีขาวออกมา
หลี่ฟู่เฉินถอนเกราะพลังฉีออก จากนั้นก็ทำการระเบิดสภาวะพลังฉี
วึบ วึบ วึบ
ลมรุนแรงเกิดขึ้น กระจายหมอกควันออกไป
หลี่ฟูเฉินจับเจิ้งซวนอีกครั้ง
เจิ้งซวนพยายามทำหน้าให้ดูเข้มแข็งต่อหน้าหลี่ฟู่เฉิน “หลี่ฟู่เฉิน เจ้าควรปล่อยข้าไป และเจ้าก็ไม่ควรสร้างปัญหาให้กับนิกายวารีครามของเจ้าเอง”
เขาเองก็กลัวตายเช่นกัน และยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ต้องการตายด้วยน้ำมือของศิษย์นิกายวารีคราม
“ดาบที่สอง!”
หลี่ฟู่เฉินปล่อยดาบที่สองออกไป ดาบนี้ถูกใช้ออกพร้อมกับการเปิดใช้งานเทคนิคลับมังกรเร้นลับ พลังฉีที่น่ากลัวแพร่ครอบคลุมตัวของเจิ้งซวย
“เวรเอ้ย”
เจิ้งซวนนำโล่ออกมาจากถุงเก็บของ และนำมันมาปิดที่ด้านหน้าของเขา
เคร้ง!
ประกายไฟพุ่งออกมาขณะที่แรงกระทบถูกส่งลงไปบนโล่ เจิ้งซวนแทบจะถูกฝั่งอยู่ในโคลนแบบมิดตัว แขนทั้งสองข้างของเขาไร้ความรู้สึกและเป็นอัมพาต
“ดาบที่สาม”
ด้วยร่างที่หายไป หลี่ฟู่เฉินปรากฏตัวขึ้นมาที่ด้านหลังของเจิ้งซวน ขณะที่เขาหยิบหัวออกมาด้วย
ทั้งหมดที่จำเป็นต่อการฆ่ากรงเล็บวิญญาณเจิ้งซานคือการใช้ออกไปสามดาบ
หากข่าวนี้ถูกส่งออกไป มันจะทำให้ศิษย์ทั้งหมดจากทั้งสามนิกายตกลงไปสู่ความตื่นตระหนก
แต่นี่ก็เป็นเพราะทัศนคติที่ไร้ความรอบคอบตรึกตรองของกรงเล็บวิญญาณเจิ้งซวน หากเขาหาสถานที่เพื่อพัฒนาขอบเขตบ่มเพาะของเขาก่อนเป็นอันดับแรก เขาจะไม่ตายอย่างง่ายดายเช่นนี้
ด้วยความสามารถของหลี่ฟู่เฉิน มันเป็นงานที่ยากที่จะเอาชนะอัจฉริยะขอบเขตปฐพีระดับที่ 1 เขาจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงเป็นการตอบแทนหากเขาจะลงมือต่อสู้
“นี่คือเกราะระดับลึกลับขั้นต่ำ”
หยิบโล่ขึ้นมา หลี่ฟู่เฉินกลายเป็นตกใจ
เพียงแค่โล่นี้ชิ้นเดียวก็มีมูลค่า 100,000 เหรียญทองแล้ว มันอาจมีค่ามากกว่านี้เพราะน้ำหนักวัสดุในเกราะหนักกว่าของอาวุธมาก มูลค่าของมันจะสูงขึ้นโดยธรรมชาติ
เจิ้งซวนมีถุงเก็บสองใบ หนึ่งในนั้นเป็นของเขาและอีกอันเป็นของหลูเสี่ยวเฟ่ยจากนิกายวารีคราม ถุงเก็บของแต่ละใบมีเครื่องหมายของแต่ละนิกายอยู่
หลังจากค้นร่างของเจิ้งซวนเสร็จ หลี่ฟู่เฉินก็กลับไปหาเฉินฟางหัว
“หลี่ชิตี๋ เจิ้งซวนอยู่ที่ไหนแล้ว?” เฉินฟางหัวพักฟื้นเสร็จสิ้น
“ตายแล้ว” หลี่ฟู่เฉินตอบ
“ตาย?” ดวงตาของเฉินฟางหัวเบิกกว้าง
ศัตรูที่น่ากลัวเช่นเจิ้งซวนกลับตกตายลงภายใต้เงื้อมมือของหลี่ฟู่เฉิน หลี่ฟู่เฉินแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่? เป็นไปได้ไหมว่าความสามารถของเขาจะมากขึ้นกว่าเดิมได้ด้วยเวลาเพียงสามเดือน?
เฉินฟางหัวสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามซึมซับข้อมูลเหล่านี้
ในช่วงเวลานี้เท่านั้น เธอก็เข้าใจได้อย่างแท้จริงว่าหลี่ฟู่เฉินน่ากลัวเพียงใด บุคคลที่ชั่วร้ายเหล่านั้นพวกเขาจะรู้หรือไม้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาเป็นเพียงผู้อ่อนแอในสายตาของหลี่ฟูเฉิน… เป็นคนที่เขาสามารถกำจัดได้อย่างง่ายดาย