Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 318
บทที่ 318
ตราประทับมังกรแท้จริง
“คู่ควรกับการเป็นผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอับดับแรกจริงๆ เขาแม้แต่กระทั่งสอนเทคนิคลับทรงพลังเช่นนี้มาให้!”
นักสู้ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดหลายคนแสดงออกอย่างอิจฉา
เทคนิคลับที่สามารถซ้อนทับกับเทคนิคลับอื่นๆ ได้นั้นหายากมาก บางทีมันอาจจะมีอยู่มากในยุคที่ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงอาศัยอยู่ แต่ตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ว่าจะซักหนึ่งหรือสองเทคนิคแต่อย่างใด
เทคนิคลับที่หลี่ฟู่เฉินเปิดใช้งานสมควรเป็นเทคนิคลับระดับ 4 ดาว และเมื่อเสริมด้วยเทคนิคลับระดับ 4 ดาวของนิกายวารีคราม พลังของมันก็กลายเป็นเทคนิคลับระดับ 5 ดาวแล้ว
แน่นอน พวกเขาย่อมไม่รู้ว่าบทดาบไร้สมบรูณ์ไม่ใช่เทคนิคลับระดับ 4 ดาว แต่เป็นเทคนิคลับระดับ 6 ดาว นอกจากนี้ มันยังเป็นจุดสุดยอดของเทคนิคลับระดับ 6 ดาว และหากบทดาบไร้สมบูรณ์มีข้อมูลมันอยู่ครบ อย่างน้อยๆ มันก็คงไป 7 ดาวหรือไม่ก็ 9 ดาว
ถ้าผู้คนรู้เรื่องนี้ พวกเขาอาจจะอยากได้มันมากกว่าเดิม บางที่คนเหล่านั้นอาจจะยอมเสี่ยง และไม่สนใจความโกรธของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก บังคับเพื่อให้หลี่ฟู่เฉินยอมมอบบทดาบไร้สมบรูณ์มาให้ หลังจากทั้งหมดแล้ว เมื่อผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับออกจากเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ เขาก็จะไม่สามารถใช้ความสามารถที่แท้จริงออกมาได้ และกลับไปอยู่ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดแทน หากพวกเขาจะฝึกฝนบทดาบไร้สมบูรณ์ พวกเขาก็อาจชนะผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธืเร้นลับคนแรกได้ และเข้าปกครองทวีปยูนิคอร์นตะวันออก
แต่มันช่างน่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้ ทุกคนสันนิษฐานว่าเทคนิคลับของหลี่ฟู่เฉินเป็นเพียงเทคนิคลับระดับ 4 ดาวเท่านั้น
หากมันเป็นเพียงเทคนิคลับระดับ 4 ดาว มันจึงยังไม่เพียงพอที่จะให้นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดต้องเสี่ยงกับทุกสิ่ง
เทคนิคลับมีข้อจำกัดบางประการ โดยทั่วไปแล้ว นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดย่อมอยู่คู่กับเทคนิคลับระดับ 5 ดาว เนื่องจากผลลัพธ์ของเทคนิคลับระดับ 4 ดาวไม่ดีเท่ากับเทคนิคลับระดับ 5 ดาวเมื่อตอนที่ใช้มัน หากพวกเขาใช้เทคนิคลับระดับ 3 ดาว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็อาจจะดีกว่าคนอื่นๆ เล็กน้อยเท่านั้น
ซึ่งนั้นก็หมายความว่า เมื่อขอบเขตบ่มเพาะของใครคนหนึ่งเพิ่มขึ้น พวกเขาก็ยิ่งต้องการเทคนิคลับที่มีระดับสูงมากกว่าเดิม
เทคนิคลับระดับ 4 ดาวที่สามารถซ้อนทับกันได้นั้นน่าจะทำให้นักสู้ขอบเขตสวรรค์บ้าคลั่งได้มากที่สุด แต่ไม่ใช่สำหรับนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด
แน่นอนว่ามันจะดีที่สุดหากพวกเขาได้รับมันมา เนื่องจากความสามารถที่เพิ่มขึ้นเป็นที่ต้องการแทบจะตลอดกาล
“ท่านปู่ หลี่ฟู่เฉินได้อันดับหนึ่ง!” จ้าวหมิ๋งเยว่รู้สึกประหลาดใจระคนดีใจ
“ใช่” จ้าวหวูจินเองก็พยักหน้าด้วยสีหน้าประหลาดใจและมีความยินดีเช่นกัน
ในนิกายวารีคราม เขาถือเป็นบุคคลแรกในคนที่มีตำแหน่งสูงๆ ที่ชื่นชมหลี่ฟู่เฉินมากกว่าคนอื่น ตอนนี้ ทุกอย่างได้รับการพิสูจน์แล้วและเขาก็ประเมินหลี่ฟู่เฉินได้ถูกแล้ว ถึงในความเป็นจริง เขาจะประเมินหลี่ฟู่เฉินต่ำไปเล็กน้อยก็ตาม
“เขาได้อันดับ 1 ในการแข่นขันจัดอันดับดาราจริงๆ?”
หลิหวูหวงและหยูเหวินเทียนไม่อยากจะเชื่อ
ไม่นานมานี้ พวกเขาเข้าใจผิดมากพอที่จะคิดว่าพวกเขาสามารถเอาชนะหลี่ฟู่เฉินได้ในอนาคต ขณะที่พวกเขาเองก็ยังสันนิษฐานกันว่าในตอนนี้หลี่ฟู่เฉินก้าวหน้านำพวกเขาไปเพียงเล็กน้อย
แต่เมื่อดูจากสิ่งที่เห็นแล้ว เขาไม่ได้ก้าวหน้าไปเพียงแค่เล็กน้อย เขาทิ้งห่างพวกเขาออกไปไกลหลายแสนไมล์แล้วต่างหาก
เมื่อตอนที่พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันการจัดอันดับดาราในอีกสามปีต่อจากนี้ หลี่ฟู่เฉินก็อาจไปไกลกว่านั้นแล้ว
“นี่อาจเป็นการแข่งขันจัดอันดับดาราที่มีผลลัพธ์เหนือความคาดหมายที่สุด” ชูมู่หยูกล่าวอย่างเงียบๆ
สำหรับอัจฉริยะยุคใหม่ที่ได้รับการจัดอันดับดาราเป็นที่ 1 นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหลายศตวรรษแล้ว ในการแข่งขันจัดอันดับดาราก่อนหน้านี้ สือตือเหล่ยได้อันดับ 1 เมื่อตอนที่อายุ 24 ปี ยิ่งไปกว่านั้นแล้วมันก็ยังไม่มีอัจฉริยะชั้นยอดในการแข่งขันก่อนหน้านี้ หากไม่เช่นนั้นแล้วสือตูเหล่ยคงจะไม่ได้มีช่วงเวลาง่ายๆ สำหรับการคว้าอันดับที่ 1 มา
แต่ในการแข่งขันครั้งนี้ มันมีอัจฉริยะชั้นยอดมากมาย และตามหลักการแล้ว มันคงจะเป็นการท้าทายสวรรค์มากเกินไปสำหรับการที่อัจฉริยะยุคใหม่จะได้สิบอันดับแรก มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้อันดับ 1 แต่หลี่ฟู่เฉินก็ทำมันได้จริงๆ
“ข้าดูแคลนเขามากเกินไปจริงๆ” หยานฉิงหวูเลิกคิ้วของเธอ
คำพูดของเธอก่อนการแข่งขันดูเหมือนเป็นเรื่องตลกในตอนนี้แล้ว
แต่นั่นไม่ใช่ความผิดของเธอ เนื่องจากสิ่งที่หลี่ฟู่เฉินแสดงออกมาไม่สามารถมองเป็นสามัญสำนึกได้
งงงวย ตื่นเต้น อิจฉา หวงแหน
ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้เลยว่าการแข่งขันการจัดอันดับดาราในปีนี้จะถูกอัจฉริยะที่เพิ่งเข้าร่วมเอาชัยชนะไป สมาชิกของนิกายเทพอัสนีไม่ได้มีการแสดงออกที่พึงพอใจ และสำหรับพวกเขาแล้ว บางสิ่งที่มีความหมายสำหรับพวกเขาได้บินออกไปแล้ว
ก่อนที่หลี่ฟู่เฉินจะเอาชนะสือตูเหล่ยได้ พลังฉีเทพยุทชุบธ์สวรรค์ที่มีรูปแบบเป็นมังกรน้ำของสือตูเหล่ยถูกสูบพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ไป ซึ่งมันเองก็ถูกสูบพลังออกไปจากมังกรน้ำอีกตัว
ในช่วงเวลาต่อมา พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ที่เป็นรูปแบบมังกรน้ำของหลี่ฟู่เฉินก็เริ่มเปลี่ยนแปลง
เขาจากเขาเดียวขยายออกเป็นสองเขา กรงเล็บของมันเติบโตเป็นห้ากรงเล็บ และเกล็ดบนร่างกายก็ดูสดใสและเหมือนจริง ขณะที่มันดูเปล่งประกายงดงามมาก
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นรูปแบบมังกรที่แท้จริงของพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์
พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์รูปแบบมังกรที่แท้จริงคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า ในขณะที่พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ของคนอื่นๆ หัวลงและไม่กล้าที่จะแข่งขัน
ด้วยการถือกำเนิดของพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ที่เป็นรูปแบบมังกรที่แท้จริง ค่ายกลชุบสวรรค์ก็ดูเหมือนจะถูกเปิดใช้งาน มันเริ่มหมุนวน และลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า กลุ่มดาวที่เปล่งประกายระยิบระยับ เคลื่อนที่ลงมาก่อนที่จะหลอมรวมเป็นกลุ่มดาวใหญ่ในค่ายกลชุบสวรรค์
ในเวลาเพียงชั่วครู่ เสาหินชุบสวรรค์ทั้ง 36 ต้นก็เปล่งแสงแพรวพราวออกมา เมื่อแสงเริ่มส่อง พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ในรูปแบบต่างๆ ก็เริ่มหดตัว และในที่สุดก็หลอมรวมตัวเป็นรอบประทับ
ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ…
ทันใดนั้นเองรอยประทับก็บินออกไปและพุ่งตัวเข้าสู่หว่างคิ้วของทั้ง 36 คนที่เป็น 36 อันดับแรก
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกเจ็บปวดที่ตรงกลางระหว่างคิ้วของเขาในขณะที่ตราประทับมังกรแท้จริงประทับตรา
“นี่คือรอยประทับของพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์?”
รอยประทับของพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์จะถูกเปิดใช้งานก็ต่อเมื่อมีการก้าวหน้าขึ้นไปยังขอบเขตสวรรค์ ไม่เพียงแต่สามารถเลื่อนระดับได้หลายระดับ แต่ตัวมันเองก็ลึกลับมากเช่นกัน มันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ได้หลายเท่า อาจกล่าวได้ว่าทุกคนเองต้องเข้าร่วมการแข่งขันการจัดอันดับดาราแม้ว่าจะต้องรอสามปีก็ตาม ถึงบางคนอาจจะรักสงบและไม่ต้องการรอนานขนาดนั้น แต่พวกเขาเหล่านี้เองก็ไม่อยากพลาดมันอยู่ดี หลังจากทั้งหมดแล้ว สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของพวกเขา เมื่อพวกเขาพลาดมันไปแล้ว พวกเขาอาจต้องใช้เวลาในการฝึกฝนนานกว่าสิบปี และมันก็อาจไม่มีวันที่จะตามคนอื่นๆ ได้ทันแม้ว่าพวกเขาจะฝึกหนักเท่าไหนก็ตาม
นอกเหนือจากนี้ หากนักสู้ขอบเขตปฐพีได้ครอบครองตราประทับพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ พวกเขาอาจจะสัมผัสถึงขอบเขตสวรรค์ล่วงหน้าได้ ส่งผลทำให้พวกเขาก้าวขึ้นไปสู่ขอบเขตสวรรค์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
“ตราประทับมังกรแท้จริงของเขาแตกต่างจากของข้าในการแข่งขันก่อนหน้านี้”
สือตูเหล่ยจ้องไปที่หลี่ฟู่เฉินด้วยการแสดงออกที่เย็นชา เมื่อเขาได้เห็นตราประทับมังกรแท้จริงที่อยู่บนหว่างคิ้วของหลี่ฟู่เฉิน เขาตกใจเล็กน้อย ตราประทับมังกรแท้จริงก่อนหน้านี้ของเขามีเพียงเขาของมังกรที่แท้จริง แต่ไม่มีกรงเล็บ และมันก็มีความแตกต่างเล็กน้อยอื่นๆ
พวกเขาเป็นอันดับที่ 1 ของการแข่งขันจัดอันดับดาราเหมือนๆ กัน แต่ทำไมตราประทับมังกรที่แท้จริงถึงแตกต่างกัน?
สือตูเหล่ยไม่เข้าใจสิ่งนี้
มันน่าเสียดายที่นอกเหนือจากผู้ครอบครองตราประทับพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสววรค์แล้ว คนอื่นที่ไม่ได้ครอบครองมันก็ไม่ได้มองเห็นตราประทับพลังฉีชุบสวรรค์แต่อย่างใด ไม่แม้แต่กระทั้งนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด หลังจากทั้งหมดแล้ว เมื่อพวกเขาก้าวขึ้นไปสู่ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด ตราประทับชุบสวรรค์ก็อาจหายไปแล้ว
แต่มันมีสิ่งนึงที่ทุกๆ คนที่อยู่ที่นี่ไม่รู้… มันมีร่างเงาผู้อาวุโสผู้นึงอยู่ที่ด้านในของภูเขาโชคชะตาดาราและเขาเองก็เป็นพยานทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่
“ไม่เลว มีคนที่สร้างรูปแบบที่สมบูรณ์ของตราประทับมังกรแท้จริงได้ ในสถานการณ์ปกติทั่วไป คนผู้หนึ่งจะต้องได้รับอันดับที่ 1 จากการแข่งขันสองครั้งติดต่อกัน เพื่อที่จะได้มีโอกาสในการสร้างตราประทับมังกรแท้จริงในรูปแบบที่สมบูรณ์ได้ ดูเหมือนว่าจะมีอัจฉริยะชั้นยอดมากเกินไปในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งมันจึงไปเพิ่มปริมาณของพลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์และโชคชะตาดาราเข้า”
เงาผู้อาวุโสยิ้มและหายไปอย่างไร้ร่องรอย มันราวกับว่าเขาไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน
ครืน!
เสาหินชุบสวรรค์จมลง ในขณะที่ตราประทับพลังฉีชุบสวรรค์ของทั้ง 36 คนค่อยๆ หายไป จนแม้แต่กระทั้งผู้ครอบครองตราประทับชุบสวรรค์คนอื่นๆ ก็มองไม่เห็นตราประทับของกันและกัน
ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels