Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น - ตอนที่ 758
EG บทที่ 758 คนที่ชื่อสตีฟ
สตีฟเป็นชื่อที่พบได้ทั่วไปในอเมริกา มันก็เหมือนกับเสี่ยวเฉียงในฮ่องกง เสี่ยวหมิงในประเทศจีนหรือทอมในแบบเรียนภาษาอังกฤษ มันเป็นชื่อที่ธรรมดามากๆ แต่ถ้านามสกุลของสตีฟเป็นฟอร์บส์แล้วล่ะก็? มันก็จะไม่ใช่ชื่อที่ธรรมดาอีกต่อไป
สตีฟ ฟอร์บส์ คือชื่อของบ.ก.และผู้บริหารระดับสูงของนิตยสารฟอร์บส์ ประธานบริษัทค่อนข้างมีอายุจึงส่งผลให้การตัดสินใจทุกๆอย่างขึ้นอยู่กับสตีฟผู้นี้
วันนี้สตีฟมีนัดกับชาวจีนผู้หนึ่ง เขาต้องการสัมภาษณ์คนผู้นี้มาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็พลาดโอกาสไปเสมอ
ฝ่ายเฝิงหยู่เองก็ไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะได้พบกับคนที่ชื่อสตีฟแม้ว่าเขาจะเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงธุรกิจก็ตาม เฝิงหยู่ไม่ต้องการที่จะพบเขาในวันนี้ นั่นก็เพราะสตีฟเป็นนักข่าวไม่ใช่นักธุรกิจ คนประเภทนี้มันเสี่ยงที่จะทำให้เขาได้รับผลกระทบ เฝิงหยู่ไม่ต้องการอธิบายถึงสิ่งที่เขาทำในอดีตและนั่นย่อมเป็นสิ่งที่สตีฟต้องการจากเขาอย่างแน่นอน
แต่การนัดหมายครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดยบิล เกตส์และมันก็เป็นเรื่องยากที่เฝิงหยู่จะหลีกเลี่ยงได้ จริงๆแล้วตัวเฝิงหยู่เองก็อยากจะรู้จักกับสตีฟเช่นกัน ตัวเขายังอยากได้การยกย่องว่าเป็น‘นักพยากรณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งวงการตลาดการเงิน’และยังอยากรู้ว่าทำไมนิตยสารฟอร์บส์ถึงประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ มันเป็นนิตยสารที่มีผู้อ่านมากกว่า 50,000 ล้านคนและเป็นหนึ่งในนิตยสารที่ดีที่สุดในโลก
บิล เกตส์และสตีฟ ฟอร์บส์เข้าไปพบเฝิงหยู่ในสำนักงาน
“คุณคงไม่ต้องการให้ผมแนะนำตัวเองหรอกใช่มั้ยครับ?”
เฝิงหยู่หันไปมองบิล เกตส์และเอ่ยถามขึ้น
“คุณเล่าเรื่องของผมให้คุณสตีฟฟังหรือครับ?”
ยังไม่ทันที่บิล เกตส์จะได้ตอบอะไรสตีฟก็ชิงพยักหน้ารับก่อน
“มันไม่ใช่การสัมภาษณ์อะไรหรอกนะครับและผมเองก็ไม่มีเครื่องบันทึกเสียงอยู่กับตัวด้วย หากบิลไม่อนุญาตผมก็คงต้องทิ้งอุปกรณ์พวกนั้นไปก่อนล่ะครับ”
เฝิงหยู่ค่อนข้างพอใจเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว ตอนนี้เขายังไม่ต้องการที่จะเปิดเผยประวัติของตัวเองออกไปแม้ว่าในอนาคตเขาอาจจะต้องไปปรากฏตัวอยู่หน้ากล้องก็ตาม แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่ดีโดยเฉพาะที่อเมริกาซึ่งเรียกได้ว่าปืนสามารถพบกันได้ทุกที่เลยทีเดียว
ประธานาธิบดีของอเมริกาได้รับการคุ้มครองที่ดีที่สุดในโลกแต่หนึ่งในนั้นก็ยังถูกลอบสังหารได้เช่นเดิม หากเฝิงหยู่ไม่ได้สนุกกับชีวิตอย่างเต็มที่เขาก็ไม่ต้องการที่จะตายไปด้วยอายุที่น้อยเช่นนี้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเฝิงหยู่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน!
“คุณเฝิงเราพอจะคุยกันได้หรือเปล่า?”
สตีฟหยิบสมุดและปากกาออกมาจากกระเป๋า มันเป็นนิสัยของเขาที่ชอบจดบันทึกทุกๆอย่าง
เฝิงหยู่เริ่มขมวดคิ้วมุ่น
“คุณสตีฟ..ผมคิดว่าตัวผมก็แสดงชัดเจนแล้วนะครับว่าไม่อยากเปิดเผยตัวเอง..กรุณาอย่าจดอะไรลงไปเลยครับ”
ใบหน้าของเฝิงหยู่เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็บอกแล้วไม่ใช่หรือว่ามันไม่ใช่การสัมภาษณ์แล้วจะหยิบสมุดขึ้นมาจดอะไรอีก
สตีฟเก็บปากกาของตัวเองลง
“ขอโทษทีครับ..ไอ้เรื่องชอบจดบันทึกเนี่ยมันดันกลายเป็นนิสัยของผมไปแล้ว..พอดีผมเขียนคำถามบางอย่างเอาไว้ในสมุด..ผมขอใช้มันมาถามคุณได้หรือเปล่า?”
ให้ตายเถอะ! ทำไมมันยังเหมือนการสัมภาษณ์อยู่ดี? บิล เกตส์บอกว่ามันเป็นการพูดคุยกันแบบเพื่อนเท่านั้นนี่นา? แล้วทำไมบิล เกตส์ถึงนั่งลงเฉยๆล่ะ? ฉันคิดว่าเขาควรแสดงท่าทางขอโทษฉันสักหน่อยที่ทำให้สถานการณ์มันอึดอัดแบบนี้!
บิลเกตส์เห็นเฟิงหยู่จ้องมาที่ตนจึงยักไหล่ขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าแค่นี้คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับคุณเฝิง..ผมว่าเรามาเริ่มคุยกันดีกว่า”
ตัวบิล เกตส์เองก็อยากรู้เรื่องของเฝิงหยู่เช่นกันแต่ปัญหาก็คือเฝิงหยู่ไม่ใช่คนอเมริกัน เขาไม่มีทางที่จะทราบเรื่องในอดีตของเฝิงหยู่ทั้งหมดได้ เขาเคยว่าจ้างชาวจีนคนหนึ่งเพื่อจะได้รู้ข้อมูลของเฝิงหยู่เพิ่มเติม ซึ่งข้อมูลที่ได้รวบรวมมานั้นทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก เฝิงหยู่นับเป็นมหาเศรษฐีเพียงคนเดียวในประเทศจีนที่ดูคล้ายคลึงกับตัวเขาและยังประสบความสำเร็จในขณะที่มีอายุน้อยแบบเดียวกับเขาไม่มีผิด
ชายหนุ่มที่เป็นราชาแห่งอุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจค้าปลีก เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ภายในบ้านและยังมีข่าวลืออีกว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมอาหาร คนที่ถูกกล่าวถึงเช่นนี้ทรุดตัวลงนั่งและกำลังจะพูดคุยกับเขาต่อไป
แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือและยังไม่มีสื่อไหนสามารถรายงานได้อย่างแน่ชัด แต่ถ้าไม่มีมูลก็ไม่มีทางที่ข่าวลือเหล่านี้จะแพร่ออกมาได้ แม้ว่าเฝิงหยู่จะมีความเกี่ยวข้องแค่เพียงหนึ่งธุรกิจที่มีการลือออกมาก็นับว่าบุคคลผู้นี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก
ดูบริษัทข้ามชาติพวกนั้นสิ! พวกเขาสามารถเข้ามายึดครองอุตสาหกรรมได้หลายประเภทเช่น อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรคมนาคม การค้าปลีกเป็นต้น แม้ว่าพวกเขาจะยึดได้เพียงหนึ่งประเภทแต่มันก็แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าธุรกิจที่เฝิงหยู่ครอบครองอยู่ในประเทศจีนขณะนี้จะมีกี่ประเภท ย่อมหมายความว่าอิทธิพลของเขาไม่ใช่ธรรมดาๆเลยทีเดียว
ขึ้นอยู่กับศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ในอนาคตข้างหน้าเฝิงหยู่อาจมีสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งพันล้านดอลล่าร์สหรัฐ! นั่นคือสิ่งที่บิล เกตส์อยากรู้และอยากได้ยินเฝิงหยู่พูดถึงสิ่งที่เขาได้ทำเกี่ยวกับธุรกิจของตนเอง
ในอนาคตบิล เกตส์มีแผนที่จะขายหุ้นในบริษัทไมโครซอฟท์และนำไปขยายธุรกิจประเภทอื่นๆเพิ่มเติม มันแสดงให้เห็นว่าบิล เกตส์ไม่ได้ต้องการให้ชีวิตของเขามุ่งเน้นไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่งเพียงอย่างเดียว
ราล์ฟนำกาแฟเข้ามาเสริ์ฟและขอตัวออกไปทันที พฤติกรรมของเขาทำให้เฝิงหยู่พอใจไม่ใช่น้อย เขาไม่จำเป็นต้องบอกอะไรมาก ราล์ฟก็รู้ตัวว่าตัวเองต้องทำอะไร
สตีฟมองไปที่เฝิงหยู่และเอ่ยถามขึ้น
“คุณเฝิง..คุณถือหุ้นในไมโครซอฟท์ 15% หรือครับ? ”
“มันไม่ได้มากขนาดนั้นหรอกครับแค่ 14.9% เท่านั้นล่ะครับ”
สตีฟชี้ไปที่คำถามแรกที่เขาจดในสมุดเพื่อเอ่ยถามเฝิงหยู่ เขาต้องการให้เฝิงหยู่ตอบคำถามนี้
“ผมสงสัยว่าหุ้นของคุณทั้งหมดต่างมาจากการซื้อขายหุ้น..นั่นหมายความว่าคุณซื้อมันมาจากนักลงทุนคนอื่นๆในตลาดหุ้น เป็นเพราะคุณมั่นใจในศักยภาพของไมโครซอฟท์หรือครับถึงทำให้คุณเลือกที่จะลงทุนในไมโครซอฟท์?”
“ก็ต้องเป็นแบบนั้นสิครับ! เป็นเพราะผมมั่นใจในไมโครซอฟท์ซึ่งถือเป็นบริษัทชั้นนำของอุตสาหกรรมนี้ ในประเทศจีนเราจะเรียกบริษัทเหล่านี้ว่า‘หัวแพะ’ซึ่งหมายความว่าเป็นผู้นำแห่งการลงทุนเพื่อผลตอบรับที่มากยิ่งขึ้นและแน่นอนครับ..ไมโครซอฟท์จะทำให้ผมทำเงินได้มากขึ้นอย่างแน่นอน”
เรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดบังอะไรแต่เฝิงหยู่ไม่สามารถบอกได้ทั้งหมดว่าที่เขาเลือกลงทุนในไมโครซอฟท์ไม่ใช่เพื่อเงินเป็นหลักแต่เป็นเพราะเขาต้องการได้รับสิทธิ์ในการเป็นคณะกรรมการบริหารเพื่อที่ตัวเองจะได้เทคโอเวอร์บริษัทไมโครซอฟท์ได้ในอนาคต
“ผมรู้ครับว่าหุ้นของไมโครซอฟท์ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง..ดูเหมือนหุ้นทั้งหมดของคุณจะถูกซื้อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราพอจะคุยเรื่องนี้กันได้มั้ยครับว่าคุณสามารถนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นขนาดนี้ได้อย่างไร? หากย้อนไปเมื่อสองปีก่อนการลงทุนซื้อหุ้นของคุณถือว่าเป็นจำนวนเงินที่มากทีเดียว”
“แล้วทำไมผมจะซื้อมันไม่ได้ละครับ..เงินทุกเซ็นต์ที่ผมใช้ซื้อหุ้นก็เป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย คุณคิดว่าผมมีส่วนร่วมกับธุรกิจผิดกฎหมายหรือครับ?”
เฝิงหยู่ไม่ได้ตอบออกไปตรงๆ ทำไมฉันจะต้องบอกคุณด้วยว่าฉันหาเงินมาจากที่ไหน? คุณต้องการให้ฉันบอกความลับเรื่องการทำธุรกิจของฉันทั้งหมดงั้นหรือ?
สตีฟไม่พอใจกับคำตอบของเฝิงหยู่ เขาได้สัมภาษณ์นักธุรกิจหลายๆคนก็เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับแหล่งที่มาของรายได้และวิธีการบริหารงานที่พวกเขาใช้จนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเฝิงหยู่เลย มันเป็นเพราะเขาไม่มีอิทธิพลในประเทศจีน!
ถ้ามันยังอยู่ในอเมริกาอิทธิพลของฟอร์บส์จะทำให้เขาสามารถได้รับข้อมูลที่ตัวเองต้องการได้อย่างรวดเร็ว มันอาจจะไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการแต่นั่นก็เพียงพอแล้ว ฟอร์บส์จะไม่ขุดคุ้ยอดีตที่คนอื่นต้องการซ่อนเอาไว้ ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของสื่ออื่นก็แล้วกัน
“คุณเฝิง..คุณน่าจะทราบนะครับว่าผมกำลังหมายถึงอะไร?..เอาเป็นว่าผมจะเปลี่ยนคำถามนี้เล็กน้อยแล้วกัน..บริษัทอะไรหรือครับที่คุณลงทุนนอกเหนือไปจากไมโครซอฟท์..อืม? บริษัทนั้นสามารถทำกำไรได้มากกว่าหรือเปล่า?”