Godly Model Creator - ตอนที่ 793 ดูถูกเอสเปอร์มืออาชีพงั้นเหรอ?
GMC ตอนที่ 793 ดูถูกเอสเปอร์มืออาชีพงั้นเหรอ?
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้ง ทั่วทั้งสหพันธ์ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายอีกครั้ง
เสียงระฆังที่ดังขึ้นทุกๆ วันจะถือเป็นเหตุการณ์ปกติ หากเป็นในช่วงต้นของยุคแห่งวุ่นวาย แต่ในช่วงนี้
มันมีความหมายแตกต่างกันอย่างมาก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่มันเกิดขึ้นสองครั้งที่ตระกูลซู
เกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลซู?
สัญญาณเตือนของโลกเป็นสิ่งที่แปลกมาก มันเป็นสิ่งที่อยู่สูงขึ้นไปไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามีอะไรอยู่ แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมันจะส่งเสียงออกมาอย่างถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้นโดยขึ้นอยู่กับประเภทของเหตุการณ์พลังเสียงจะแตกต่างกันเช่นกัน
ครั้งที่แล้วเมื่อกฏใหม่เกิดขึ้น ทั้งโลกสั่นสะเทือนและเกือบทุกๆ เอาเปอร์โดเมนสามารถได้ยินเสียงระฆัง!
ครั้งนี้เฉพาเอสเปอร์โลกเท่านั้นที่ได้ยินเสียงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าความสําคัญของกฏชนิดใหม่และเขตแดนวิญญาณสมบูรณ์แบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบเข็มจะส่งผลกระทบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามไม่ว่าการตอบสนองที่สหพันธ์จะเป็นเช่นไร อย่างน้อยก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อตระกูลซู
“อืม…ถ้าฉันต้องการจากไป ฉันก็ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของฉันได้” ซูฮ่าวครุ่นคิด
ตอนนี้เขาเป็นผู้นําตระกูลของตระกูลซู เมื่อตัวตนของเขาถูกเปิดเผยคนจํานวนมากจะพยายามลอบสังหารเขา! หากเอสเปอร์โลกลงมือเองเขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเขาจะตายแบบไหน
“ดูเหมือนว่าฉันต้องคิดวิธีแก้ปัญหา”
ซูฮ่าวคิด
เช้าวันรุ่งขึ้นในที่พักของตระกูล
ศิษย์หลักและผู้อาวุโสของตระกูลซูต่างไปรับซูฮ่าวออกจากการปิดประตูบ่มเพาะ แต่เมื่อซูฮ่าวเดินออกจากห้องบ่มเพาะทุกคนต่างก็มีสีหน้ามืดมน ซูฮ่าวสวมเสื้อคลุม ด้วยเสื้อผ้าสีดําเขาเดินออกมาอย่างสบายราวกับนักรบกําลังภายใน
“นี่” ผู้อาวุโสใหญ่เหงื่อตก “ผู้นําตระกูล หากเจ้าแต่งกายเช่นนี้ มันยิ่งสะดุดตามากขึ้น”
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ผู้นําตระกูลนี่มันยุคไหนแล้ว หากท่านแต่งตัวเหมือนนักรบสมัยก่อน เมื่อท่านไปถึงวิทยาลัยท่านยิ่งเป็นตัวดึงดูดความสนใจมากยิ่งขึ้น
“เพียงส่งฉันไปยังสถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับวิทยาลัย” ซูฮ่าวหัวเราะ “ฉันมีวิธี”
“ท่านผู้นําตระกูลหรือว่าท่านชอบสไตล์การแต่งตัวเช่นนี้?”
เหล่าผู้อาวุโสดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง ทุกคนต่างก็ตาสว่างขึ้น ใช่แล้ว… การใช้ทักษะต้นกําเนิดเพื่อซ่อนตัวเองนั้นแลดูทั่วไปมากเกินไปภาพลวงตา การหลอกตา และอื่นๆ ภายใต้อิทธิพลของพลังงานต้นกําเนิดมันง่ายที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นทักษะต้นกําเนิดใดๆ ต่างมีข้อบกพร่องที่สําคัญ
เอสเปอร์ใดๆ ที่ขอบเขตสูงกว่าจะสามารถมองทะลุทักษะต้นกําเนิดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นนั่นแสดงว่ามันมีผลกับคนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น
“ด้วยความแข็งแกร่งของท่านผู้นําตระกูล” ผู้อาวุโสเป็นกังวล
ใบหน้าของซูฮ่าวมืดมน
ไอ้***คําตอบมันยังไม่ชัดเจนอีกงั้นเหรอ แล้วไงถ้าฉันเป็นเอสเปอร์มืออาชีพ? เอสเปอร์มืออาชีพก็เป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือยังไง? คุณกล้าดูถูกเอสเปอร์มืออาชีพงั้นเหรอ? คุณก็ไม่ได้เป็นเอสเปอร์มืออาชีพมาก่อนหรือยังไง?
“ท่านผู้นําตระกูล?”
ผู้อาวุโสสังเกตเห็นว่าซูฮ่าวไม่ได้พูดอะไร
“โอ้ ไม่มีอะไร”
ซูฮ่าวฟื้นกลับมาและโบกมืออย่างไม่เป็นอะไร “ส่งฉันไปได้แล้ว”
“ครับ!”
เอสเปอร์ที่มีความสามารถพิเศษประเภทพื้นที่หลายคนก้าวออกมาและห่อล้อมซูฮ่าวอย่างระมัดระวัง ในไม่ช้าพื้นที่ก็สั่นคลอนและร่างของซูฮ่าวก็หายไป เอสเปอร์ที่มีความสามารถพิเศษประเภทพื้นที่หน้าซีดเผือกร่างกายอ่อนแรง การขนส่งระยะไกลเช่นนี้เป็นการกินพลังงานอย่างมาก
“ไม่เลว” ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ให้รางวัลแก่พวกเขา”
“ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านผู้นําตระกูล” เหล่าผู้อาวุโสถอนหายใจ พวกเขายังคงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของซูฮ่าว
ผู้อาวใหญ่โบกมือ “จะดีกว่าถ้าเราไม่รับรู้ ผู้นําตระกูลต้องปลอดภัย นอกจากนี้ด้วยความแข็งแกร่งของผู้นําตระกูล ฮีฮีฮี เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าแม้กรทั่งเอสเปอร์โดเมนก็ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของเขา ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับผู้นําตระกูลของเรา ท้ายที่สุดเขาก็คือ…ซูฮ่าว”
“ซูฮ่าว”
ผู้อาวุโสทุกคนต่างสั่นสะท้าน
ใช่ เขาไม่ใช่คนธรรมดา เขาคือ… ซูฮ่าว!
คําสองคํานี้ดูราวกับมีพลังพิเศษบางอย่าง ทุกวันนี้หลังจากซูฮ่าวกลายเป็นผู้นําตระกูลของพวกเขา พวกเขาก็เหมือนจะลืมพลังของเขาไปราวกับว่าเขาเป็นชายหนุ่มธรรมดา อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงจําเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มคนนี้ได้สร้างถนนแห่งเลือดบนสหพันธ์ และแม้ในตอนที่เขาไม่มีอะไร เขาก็กล้าที่จะเข้าไปหาตระกูลเทียน!
นอกจากนี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการยอมรับพวกเขาก็ตระหนักดีว่าความแข็งแกร่งของซูฮ่าวนั้นน่ากลัวเทียบเท่าจุดสูงสุดก่อนหน้านี้ของเขา!
ก่อนหน้านี้ฉากที่เอสเปอร์โดเมนสูงสุดถูกฆ่าตายในคราวเดียวยังคงฉายซ้ำๆ อยู่ในใจของพวกเขา นั่นเป็นฉากที่น่าทึ่ง
วิทยาลัยจานเจียง
ด้านนอกตําหนักเทียนหลง
มีกลุ่มแสงส่องประกายเมื่อมีช่องว่างพื้นที่เปิดตัวขึ้นและร่างเงาที่ชัดเจนก็ปรากฏตัวมาจากด้านใน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือซูฮ่าวที่ถูกผลักออกมาจากช่องพื้นที่
ก่อนหน้านี้ในคลื่นสัตว์ร้าย เขาเคยเห็นมันครั้งแรก ซึ่งเป็นของสัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิ จักรพรรดิเสือไฟได้ใช้วิธีการดังกล่าว ตอนนี้เขาได้มาลองมีประสบการณ์กับตนเองซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่แย่มากจนเขาอยากอ้วก!
ระหว่างการเดินทางผ่านช่องว่างพื้นที่สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ผู้ที่ร่างกายอันทรงพลังอย่างเขายังถูกโยนไปมาจนทําให้เขามีนหัว ถ้าเป็นคนอื่น
ซูฮ่าวถอนหายใจ
ดูเมื่อเทียบกับสัตว์ร้ายเหล่านั้นในคลื่นสัตว์ร้าย พวกมันปรากฏตัวออกมาอย่างยิ่งใหญ่
มองซ้ายมองขวาไม่มีใคร
ซูฮ่าวถอดหมวกไม้ไผ่ออกและทําลายเสื้อคลุมบนร่างของเขา ภายใต้เสื้อผ้าสีดําใบหน้าที่ชั่วร้ายเล็กๆ ถูกเผยออกมา จ้าวเฟิง
“เจ้าคิดดีแล้วงั้นหรอที่ทําเช่นนี้?” จ้าวเฟิงถอนหายใจ
“อย่างไรเจ้าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ข้าเพียงยิ้มใบหน้าของเจ้าเท่านั้น” ซูฮ่าวดูตื่นเต้น
ผ่านอุปกรณ์สื่อสารทั้งสองกําลังติดต่อกัน ซูฮ่าวคิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และมีเพียงสิ่งเดียวที่ทําให้เขาสามารถปกปิดตัวตนของเขาที่วิทยาลัยได้คือการเป็นจ้าวเฟิง
“ข้าคิดว่าจะเข้าไปที่ตระกูลเทียน” จ้าวเฟิงรู้สึกแปลก ๆ
“มีอุบัติเหตุบางอย่าง แต่มันก็ไม่สําคัญ ก่อนที่จะไปที่ตระกูลเทียนฉันจะตั้งถิ่นฐานในตําหนักเทียนหลง” ซูฮ่าวถาม ” แล้วเจ้าล่ะ?”
“ไม่มีปัญหาอะไร” จ้าวเฟิงตอบอย่างสงบและเย็นชาเหมือนเคย “บางครั้งข้าก็ออกไปทําภารกิจบางอย่าง ส่วนใหญ่ข้าจะบ่มเพาะ ข้าไม่ชินกับการใช้ชีวิตในรั้ววิทยาลัย ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็จะเป็นเหมือนชีวิตของหอคอยงาช้าง
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เวลาทําภารกิจเจ้าระวังตัวให้มาก”
“ไม่มีปัญหา”
ซูฮ่าววางสาย
เมื่อมองที่ใบหน้าของเขา ซูฮ่าวก็รู้สึกพอใจอย่างมาก ทักษะต้นกําเนิด? ภาพลวงตา? มันคือสิ่งใด? เพียงฉันต้องการที่จะเปลี่ยนใบหน้า ฉันจําเป็นต้องพึ่งสิ่งเหล่านั้นหรือไม่? ซูฮ่าวหัวเราะ ในเวลาเดียวกันเขาสบถเหล่าผู้อาวุโสที่ดูถูกเขา
จุดประสงค์ของทักษะต้นกําเนิดเปลี่ยนใบหน้าคืออะไร?
เป็นการเปลี่ยนรูปลักษณ์
ทักษะภาพลวงตาและการบิดเบือนต่างๆ ก็มีจุดประสงค์เดียวกัน เพื่อให้ผู้คนมองไม่เห็นภาพลักษณ์ดั้งเดิมของคนๆ นั้น อย่างไรก็ตามเมื่อทักษะต้นกําเนิดถูกค้นพบแล้วใบหน้าที่แท้จริงจะถูกเปิดเผย ดังนั้นผู้อาวุโสคนนั้นจึงกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของซูฮ่าว อย่างไรก็ตามสําหรับซูฮ่าวนั้น เขาจําเป็นต้องทําเช่นนั้นงั้นหรอ?
ไม่จําเป็น!
ภายใต้ร่างกายที่ทรงพลังของเขา ความสามารถในการควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งจนถึงจุดที่ทําให้คนอื่นหวาดกลัว!
เปลี่ยนรูปลักษณ์?
แก็ก!
กระดูกใบหน้าเริ่มขยับ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ซูฮ่าวเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
“ฉันคือจ้าวเฟิง” ซูฮ่าวยิ้ม
ก้าวเข้าไปในพื้นที่ของวิทยาลัย ซูฮ่าวเดินผ่านเครื่องสแกนของวิทยาลัย
“ ตรวจสอบเอกลักษณ์เสร็จสมบูรณ์ นักเรียนจ้าวเฟิงยินดีต้อนรับกลับ”
หลังจากได้ยินเสียง ซูฮ่าวยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
นี่คือฉากที่พบได้บ่อยที่สุดในวิทยาลัย ด้วยเครื่องสแกนในแต่ละจุดและการสแกนแบบสุ่มมันย่อมเป็นการยากที่จะแอบเข้ามาในวิทยาลัย แต่สําหรับซูฮ่าวมันไม่เป็นปัญหา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเพิ่มข้อมูลประจําตัวใหม่บนฐานข้อมูลวิทยาลัยได้ แต่ก็ยังเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนข้อมูลของซูฮ่าวให้เป็นจ้าวเฟิง
หากต้องการก้าวเข้าสู่วิทยาลัย สําหรับซูฮ่าวเพียงเปลี่ยนข้อมูลเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากมาถึงที่นี่เขาก็นึกถึงสถานที่ที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง ห้องบ่มเพาะที่ไม่มีที่สิ้นสุดของตําหนักเทียนหลง โดยเฉพาะห้องบ่มเพาะระดับหนึ่ง ปัจจุบันสําหรับซูฮ่าวห้องบ่มเพาะระดับหนึ่งไม่ถือว่าเป็นอะไร อย่างไรก็ตามเขาสงสัยว่าทรัพยากรในห้องบ่มเพาะระดับหนึ่งนั้นไร้ขีดจํากัดจริงๆ หรือไม่?
ตระกูลซูที่เป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ หากพวกเขาปล่อยให้เขาใช้ทรัพยากรทั้งหมดของตระกูล นั่นทําให้ซูฮ่าวก้าวเข้าสู่อขเบขตโดเมน! แต่การกระทําดังกล่าวจะทําให้ตระกูลซูไม่เหลืออะไร จึงเป็นไปไม่ได้ ถ้าซูฮ่าวใช้ทรัพยากรทั้งหมดคนอื่นจะเหลืออะไรให้ฝึกฝน
อนาคตมืดมน
เอาล่ะ… อย่าพูดถึงมันเลย
ถ้าเช่นนั้นแล้วของสหพันธ์ละ สหพันธ์นั้นไม่มีใครเทียบได้ ในแง่ของความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวสหพันธ์ไม่เป็นสองรองใคร สําหรับด้านทรัพยากร คงสามารถใช้ได้เพียงคําอธิบายเดียว น่ากลัว ดังนั้นห้องบ่มเพาะนั้นมันไร้ขีดจํากัดจริงหรือไม่?
มันคุ้มค่าที่จะลอง
ดวงตาของซูฮ่าวส่องประกาย
เมื่อเขาเข้ามาในห้องบ่มเพาะ ซูฮ่าวได้ยินเสียงเยาะเย้ย “โอ๊ะ โอ้.. นั้นคงไม่ใช่เจ้าชายแห่งการต่อสู้ระยะใกล้ของเรา จ้าวเฟิงงั้นหรอ? ทําไมเจ้าไม่ตามไปเก็บกระดูกซูฮ่าวล่ะ”
“หืม?”
ซูฮ่าวเงยหน้าขึ้นและเห็นคนที่เป็นคนทรยศเมืองเจียงเหอสําหรับตระกูลจี พวกเขาไม่เห็นด้วยกับจ้าวเฟิง? ซูฮ่าวจึงเข้าใจในทันที เนื่องจากข้าวเพิ่งเลือกที่จะติดตามเขาและปรากฏว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง คนเหล่านี้จึงชิงชังมากกว่าเดิม
ช่างเป็นคนที่น่าเศร้า
ซูฮ่าวถอนหายใจด้วยความเศร้าใจ หากเจ้ารู้ถึงพลังที่แท้จริงของจ้าวเฟิงเจ้าคงมิกล้าที่จะยั่วยุเขา
“จ้าวเฟิง แก…”
ปัง!
ด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว ซูฮ่าวประดับชายคนนี้ไว้บนกําแพงและเกือบจะยุบเข้าไปในกําแพง “ขอโทษที พี่ชายกําลังรีบ”
ติ้ง~
ซูฮ่าวเลือกห้องบ่มเพาะระดับหนึ่งแล้วเข้าไปในห้องโดยทันที
ที่ทางเข้าประตู ชายผู้ถูกเตะประดับผนังโดยซูฮ่าวคนนั้นใบหน้าบวมและมีเลือดไหลออกมาจากจมูก เมื่อมองไปที่ซูฮ่าวผู้ที่จากไปแล้ว เขาตะโกนขึ้นไปสุดปอด “แกยังไม่เข้าใจอีก? เมื่อซูฮ่าวกลายเป็นผู้นําตระกูลหรืออะไรก็ตาม เขาเคยเรียกหาแกหรือไม่? แกถูกทิ้งแล้ว! พวกเขายังจะสนใจแกอยู่อีกงั้นเหรอ? ไอ้***ย่อมไม่! ฉันจะส่งคนมาจัดการแกแน่ วันนี้ฉันต้องสอนบทเรียนให้แก!”
ช่างเป็นตัวโง่เง่าเสียจริงๆ
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ทราบว่าเฉาเพิ่งในปัจจุบันทรงพลังเพียงใด! เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เตะเขาในตอนนี้คือผู้นําตระกูลของตระกูลซูที่ถูกกล่าวถึงจากปากของเขา
ภายในห้องบ่มเพาะระดับหนึ่งซฮ่าวนั่งขัดสมาธิและเริ่มฝึก เขาไม่รีรอใดๆ เรื่องในครั้งนี้เป็นเพียงสิ่งเล็กๆ มันไม่ได้มีคุณสมบัติพอที่จะให้เขาไปสนใจ
บูม!
พลังงานต้นกําเนิดมากมายที่ทรงพลังกําลังปรากฏ
ซูฮ่าวหายใจเข้าลึกๆ ความรู้สึกที่คุ้นเคยนี้ การทะลุทะลวงจากพลังงานที่เข้มข้นและหนาแน่น หลังจากประสบกับผลกระทบที่มาจากคลังพลังงานที่ 1 มันก็ไม่สามารถทําให้เขาบาดเจ็บได้อีกต่อไป สูดหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายของเขาดูดซับพลังงานไปอย่างสมบูรณ์แบบ
“มันเริ่มขึ้นแล้ว”
ดวงตาของซูฮ่าวสว่างขึ้น “ฉันขอดูสิ่งที่เรียกว่า พลังงานที่ไร้ขีดจํากัดนี้หน่อย มาดูกันว่ามันจะมีมากแค่ไหน!”