Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 177 อสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้า! ท่านแม่ยาย! (3)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 177 อสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้า! ท่านแม่ยาย! (3)
ในขณะที่ก้มลงมองตัวเอง ทันใดนั้นการมองเห็นของเขาก็พุ่งออก จากร่างและทะยานสู่ท้องฟ้า ทําให้โจวเหว่ยชิงได้มองภาพเหตุการณ์ จากมุมมองของนกบนท้องฟ้าแทน
มันเป็นเสือสีดําขนาดมหึมา เป็นสีดํามืดสนิทไม่มีสีอื่นเจือปน แม้แต่น้อย ดวงตาแดงฉานของมันเย็นชาและดุร้าย ความยาวลําตัว มากกว่า 8 เมตร แม้จะมีขนาดตัวใหญ่โตมโหฬารแต่ร่างของมันก็ยัง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อบึกบึนดูไม่เทอะทะ น่าจะหนักอย่างน้อย 3,000 จินหรือมากกว่านั้น คําว่า ‘ราชา’ บนหน้าผากของมันเป็นสีดํา แต่เป็น เฉดสีที่แตกต่างจากขนสีดําแวววาวของมัน สีดําที่ล�าลึกและมืดมน เหมือนหมอกรอบดวงจันทร์ สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดก็คือหางของ มัน…เมื่อเทียบกับเสือทั่วไป หางของมันยาวกว่าและชูสูงขึ้นไปใน อากาศ พวกมันสร้างขึ้นมาจากกระดูกข้อต่อหลายชิ้นที่มีปลายเป็น ตะขอขนาดยักษ์ ทั้งยังเปล่งประกายแวววาวอย่างน่าขนลุก
“พยัคฆ์เทพอสูรมืด”
ในขณะที่เขามองดูจากทางด้านบน โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกว่าหัวใจของ เขากําลังบีบแน่น ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่ตนเองกําลังจ้องมองอยู่ เจ้าของดั้งเดิมของพลังสายเลือดที่เขามีนั่นเอง!
ป่าใหญ่แห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต แต่ทันทีที่พยัคฆ์เทพอสูรมืด ปลดปล่อยกลิ่นอายของมันออกมา พื้นที่ทั้งหมดก็เย็นยะเยือกและไร้ ชีวิตชีวาไปทันที พลังชั่วร้ายพลันแผ่กระจายไปทุกทิศทางอย่างบ้าคลั่ง
ชั่วพริบตาต่อมาพยัคฆ์เทพอสูรมืดก็ดูเหมือนจะสัมผัสถึงบางสิ่ง บางอย่าง สายตาของมันหันไปจับจ้องบางสิ่งในระยะไกลๆ ดวงตาแดง ก�าเต็มไปด้วยจิตสังหารที่เยียบเย็นและความกระหายเลือดที่ทรงพลัง
สายตาของโจวเหว่ยชิงหันไปตามพยัคฆ์เทพอสูรมืดและพบเข้า กับมนุษย์คนหนึ่ง…ชายที่บินได้ของจริง!
ศีรษะของเขาปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีฟ้าปล่อยยาว แค่หน้าตาที่ หล่อเหลาของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้ผู้ชายทุกคนต้องรู้สึกอิจฉา ในมือของเขาชูตรีศูลที่มีรัศมีแสงเปล่งประกายขึ้น ก่อนจะแผ่กระจาย ลําแสงอันเจิดจ้านั้นไปทั่วทั้งผืนป่า ในเวลาเดียวกันก็ดูเหมือนว่าชาย คนนั้นจะค้นพบการดํารงอยู่ของพยัคฆ์เทพอสูรมืดเช่นกัน จากนั้นไม่ นานจึงมีแสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากหน้าผากของเขา ตรีศูลสีทองในมือ สว่างขึ้นด้วยแสงเรืองรองที่ดูทรงพลัง ทําให้โจวเหว่ยชิงสัมผัสถึง ความรู้สึกเกลียดชังและหวาดกลัว เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าชายคนนี้มีพลังมาก
เพียงใด ทว่าการสั่นสะเทือนของพลังปราณรอบตัวเขากลับกว้างใหญ่ ราวกับมหาสมุทร ราวกับว่ามันกําลังจะกลืนกินทุกสิ่งรอบตัวตลอดเวลา แต่ทว่าร่างกายของเขาก็ดูเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และชีวิตชีวา
ดํา ดํา ดํา ดํา แดง ดํา แดง แดง แดง วงแหวน 9 วงพุ่งขึ้นมาจากใต้ เท้าของชายหนุ่มรูปงามและโอบล้อมร่างของเขาเอาไว้ หนึ่งมนุษย์และ หนึ่งเสือต้องเผชิญหน้ากัน ความตึงเครียดเริ่มพุ่งทะยานขึ้นสู่ขีดสูงสุด เนื่องจากการต่อสู้ในครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่พวกเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะสังเกตจากด้านบน โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกได้เพียงว่าหัวใจของตัวเอง เริ่มเต็มไปด้วยความกระหายเลือด ราวกับว่าเขากําลังจะกลับไปเป็น พยัคฆ์เทพอสูรมืดอีกครั้ง
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองปะทุขึ้นเกือบจะในทันที แต่น่าเสียดายที่ โจวเหว่ยชิงไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกแล้ว นั่นก็เพราะ ความเร็วของทั้งคู่มีมากเกินไป เกินกว่าสายตามนุษย์จะมองตามทัน แสงหลากสีกระพริบวูบวาบออกมาไม่หยุดหย่อนจากร่างกายของเด็ก หนุ่ม ด้านพยัคฆ์เทพอสูรมืดเองก็รวดเร็วไม่แพ้กัน พละกําลังที่น่ากลัว และพลังปราณที่ไร้ขอบเขตของมันพลันพุ่งออกไปโจมตีฝ่ายศัตรู ไม่ช้า การปะทะกันของพวกเขาก็ทําลายล้างทุกสิ่งรอบตัวแทบพังพินาศ
ทันใดนั้น โจวเหว่ยชิงก็เห็นชั้นแสงสีเทาผุดขึ้นรอบๆร่างพยัคฆ์ เทพอสูรมืด เด็กหนุ่มจดจํามันได้ทันที เพราะนั่นคือปราการเทพปีศาจ
ที่เขาเคยใช้มาก่อนหน้านี้! จากนั้น เขายังเห็นสายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วน กระหน�าฟาดลงมา…ภาพคุ้นเคยปรากฏอย่างกะทันหัน เป็นสายฟ้าเทพ เจ้าอสูรมืดที่เคยช่วยชีวิตเขามาแล้วหลายต่อหลายครั้งนั่นเอง! อย่างไร ก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานของเขาแล้ว สายฟ้าที่เพิ่งระเบิด ออกมาจากร่างของพยัคฆ์เทพอสูรมืดนั้นไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวเหมือน เคย แต่กลับมีจํานวนนับพัน พุ่งออกไปในทิศทางที่แตกต่างกันเข้าหา เด็กหนุ่มเป็นจุดเดียว!
สิ่งที่ตามมาคือหางตะขอแมงป่องของพยัคฆ์เทพอสูรมืดเริ่มผุด แสงขึ้นมาอย่างกะทันหันและระเบิดของพลังที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งตาม ออกไป ด้วยการโจมตีที่รุนแรงและกะทันหันเช่นนี้ เด็กหนุ่มรูปงามก็ เกือบจะต้านรับการโจมตีนั้นไม่ไหวเลยทีเดียว
แม้ว่าระดับพลังปราณในปัจจุบันของโจวเหว่ยชิงจะทําให้เขาไม่ สามารถมองเห็นรายละเอียดทั้งหมดของการต่อสู้ครั้งนี้ได้ และเขาก็ไม่ สามารถบอกได้ว่าใครเป็นผู้ที่มีพลังเหนือกว่า แต่ก็นั่นก็ไม่อาจหยุด ความรู้สึกเลือดลมพุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้นในตัวเขาได้ ราวกับว่าเด็ก หนุ่มสามารถมองเห็นอนาคตของตัวเอง และโจวเหว่ยชิงก็สาบานว่าวัน หนึ่งเขาจะกลายเป็นคนที่มีพลังมากพอๆกับพวกเขาให้ได้! เมื่อถึงจุด นั้น โจวเหว่ยชิงก็เห็นร่างของพยัคฆ์เทพอสูรมืดกลายเป็นสีเทาคล้าย กับพลังปราณที่พุ่งออกมาจากหางของมัน มันเป็นแสงสีเทาที่ใส กระจ่างเหมือนผลึก กระจายตัวออกไปทั่วทั้งลานกว้าง
เมื่อได้เห็นแสงสีนั้น จู่ๆโจวเหว่ยชิงก็นึกถึงคําว่า ‘ราชา’ ที่ คล้ายคลึงกัน และมีสีเดียวกันขึ้นมาทันที กระแสไอเย็นเกาะกุมไปทั่ว กระดูกสันหลังของเขาขณะที่ร่างกายเริ่มสั่นสะท้าน ทันใดนั้น เขาก็ จดจําได้ว่าตนเองอยู่ในภาพลวงตา! ฉากทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นโดย พยัคฆ์ใต้พิภพกลับด้าน ฟีเลีย!
อนิจจา ในเวลาต่อมาพยัคฆ์เทพอสูรมืดก็พ่ายแพ้ไปอย่าง กะทันหัน…แพ้ให้กับตรีศูลของหนุ่มหล่อคนนั้น โจว เหว่ยชิงรู้สึกถึง ความหดหู่รวดร้าวที่ตรงเข้าครอบงําจิตใจของเขา ในขณะที่เฝ้าดูพยัคฆ์ เทพอสูรมืดโซซัดโซเซและอาเจียนของเหลวสีเทาจํานวนมากออกมา โจวเหว่ยชิงก็หวังว่าตนเองจะสามารถพุ่งไปข้างหน้าเพื่อรับระเบิดแทน มันได้ อนิจจา น่าเสียดายที่เขาทําอะไรไม่ได้เลย
แสงสีเขียวอีก 1 สายพุ่งออกมาจากร่างของชายหนุ่ม โอบล้อม พยัคฆ์เทพอสูรมืดไว้ทั้งตัว อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันพยัคฆ์เทพ อสูรมืดก็เงยหน้าขึ้น แสงสลัวในดวงตาของมันก็กระพริบวูบพร้อมกับ สว่างขึ้นอย่างกะทันหัน
ความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าในดวงตาของมันเลือนหายไป และหมอกสีเทาก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นสีดํา ทําให้ร่างกายของมันราวกับ เมฆสีเทาที่พุ่งเข้าใส่ร่างของเด็กหนุ่ม ความเร็วนั้นน่าเหลือเชื่อมาก เร็ว กว่าในระหว่างที่พวกเขาต่อสู้กันก่อนหน้านี้เสียอีก ทันทีที่มันกระโจน
เข้าหาอีกฝ่าย หางตะขอก็ฟาดออกไปด้วย แสงสว่างจ้าพลันปรากฏขึ้น ตรงกลางระหว่างตัวมันเองและเด็กหนุ่มรูปงาม กลุ่มแสงสีดําที่บ้าคลั่ง ระเบิดพลังออกมาอย่างรวดเร็ว กลายเป็นหลุมดําเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เมตรไปในพริบตา
อะไร…นั่นคืออะไร?! โจวเหว่ยชิงจ้องมองด้วยความตกใจเมื่อเห็น ฉากเบื้องหน้าตนเอง ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด สีดํานั้น ไม่ใช่ความมืดอย่างที่เขาคิดตั้งแต่แรก ทว่าเป็นเวลา แท้จริงแล้วมันเป็น ทักษะธาตุกาลเวลา!
เกือบจะในวินาทีนั้น โจวเหว่ยชิงก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่รวดร้าว อย่างน่าใจหาย และเขาก็รีบจดจ่อสมาธิกลับไปที่สนามรบ ทันได้เห็น แสงสีม่วงและสีฟ้า 2 สายพุ่งออกมาจากดวงตาของเด็กหนุ่มรูปงาม ตรงเข้าสู่ชั้นแสงสีดําอมเทาที่ป้องกันรอบๆพยัคฆ์เทพอสูรมืดและ จัดการทําลายมันลงในทันที
เด็กหนุ่มคนนั้นทรงพลังมาก แม้จะประหลาดใจกับพลังของพยัคฆ์ เทพอสูรมืด แต่เขาก็ยังสามารถโต้กลับได้
กระนั้น ภาพแปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นในวินาทีถัดมา และ ดวงตาของโจวเหว่ยชิงก็แทบจะปูดออกมาด้วยความประหลาดใจทันที ที่ฉากตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนไป ป่าทึบดูเหมือนจะหายวับไปในพริบตาและ
แทนที่ด้วยสนามประลองขนาดใหญ่ สิ่งที่เขาประหลาดใจที่สุดก็คือการ ได้เห็น 2 ฝ่ายยืนอยู่บนเวทีประลอง
นั่นคืออะไรกันแน่?! เด็กชายอายุ 6 ขวบ…กับเสือดําที่ยาว 1 เมตร ครึ่ง?!
นี่…นี่คือ?
โจวเหว่ยชิงไม่ใช่คนโง่ แต่เขาก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะและจิตใจวูบ โหวงไร้สติ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็จดจําได้และเข้าใจเรื่องราว ในทันที นี่คือเด็กหนุ่มผู้หล่อเหลาและพยัคฆ์เทพอสูรมืดที่ต่อสู้กันมา ก่อนหน้านี้! อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้กลับมาเป็นตัวเองตอนที่ยังวัย เยาว์อีกครั้ง!
ทันใดนั้น โจวเหว่ยชิงก็ตระหนักว่าทักษะที่พยัคฆ์เทพอสูรมืด ปลดปล่อยออกมาหลังสร้างหลุมดําขนาดใหญ่จะต้องเป็นทักษะธาตุ กาลเวลาที่สามารถบังคับให้ทั้ง 2 ย้อนกลับไปตอนที่ยังอายุน้อยกว่านี้ ได้แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเดาว่าเป็นเพราะเกราะป้องกันของพยัคฆ์เทพ อสูรมืดถูกทําลาย มิฉะนั้นมันก็จะยังคงอยู่ในรูปร่างเต็มวัยเช่นเดิมเพื่อ เผชิญหน้ากับศัตรูที่ยังเป็นเด็กเล็ก… หากเป็นเช่นนี้ทุกคนก็สามารถ จินตนาการถึงชัยชนะอันหอมหวานของพยัคฆ์เทพอสูรมืดได้แล้ว ทักษะนั้นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความแปลกประหลาดของมันด้วยด้วย น่าเสียดาย พยัคฆ์
เทพอสูรมืดคงไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งต่างๆจะดําเนินมาในลักษณะเช่นนี้ ตั้งแต่แรกจริงๆ
“ยินดีต้อนรับสู่สังเวียนชีวิตและความตาย นี่จะเป็นการต่อสู้เพื่อ เอาชีวิตรอด และจะมีเพียงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถออกจาก สนามพิเศษแห่งนี้ไปได้ เริ่มนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 เริ่ม!”
เสียงแปลกๆดังก้องไปทั่วมิติแยกที่แปลกประหลาดแห่งนี้ ทันใด นั้น การต่อสู้ครั้งใหม่ระหว่างเด็กน้อยทั้ง 2 ฝ่ายก็เริ่มขึ้น
สําหรับโจวเหว่ยชิง นี่เป็นการต่อสู้ที่ถูกตัดสินไว้แล้ว เขาสามารถ คาดเดาผู้ชนะได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเปลี่ยนไปสู่สภาพที่ ยังเยาว์วัย แต่พยัคฆ์เทพอสูรมืดวัยเด็กก็น่าจะแข็งแกร่งกว่าเด็กมนุษย์ อายุ 6 ขวบไม่ใช่หรือ?
อนิจจา ไม่นานโจวเหว่ยชิงก็ตระหนักได้ว่าตนเองคิดผิดอย่าง มหันต์ เด็กอายุ 6 ขวบสามารถหลบการโจมตีของพยัคฆ์เทพอสูรมืดได้ อย่างคล่องแคล่ว หนึ่งครั้ง สองครั้ง และทันใดนั้น จู่ๆก็มีกล่องสีดํา ปรากฏขึ้นในมือของเด็กน้อยผู้นั้น
เสียงโลหะกระทบ *กริ๊ก* ขณะที่กล่องสีดําถูกเปิดขึ้นอย่างช้าๆ
*เปรี้ยง* …ทักษะสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดที่โจมตีออกไปเป็นเพียง สายฟ้าขนาดเล็กที่มีพลังอ่อนแอเมื่อเทียบกับคลื่นสายฟ้านับพันที่ร่าง
โตเต็มวัยเป็นผู้ร่ายออกมา อนิจจา ในเวลาเดียวกัน เสียงสะท้อนก็ดัง ก้องขึ้นอีกครั้ง *กริ๊ก* แสงสีดํา 16 สายพุ่งออกมาจากกล่องดําในมือ ของเด็กน้อย บินออกมาอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่เห็น
*ตูม* สิ่งที่ระเบิดเป็นอย่างแรกก็คือสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืด แม้จะ ถูกทอนประสิทธิภาพลง แต่พลังระเบิดของมันก็น่าประหลาดใจอย่าง แท้จริง หลังปะทะกัน เส้นเงาดําหมุนคว้างกระจายไปในทิศทางต่างๆ อย่างน้อย 4 สาย และเส้นสีดําที่เหลืออีก 12 สายก็ยังคงมุ่งตรงไปยัง พยัคฆ์เทพอสูรมืดในจังหวะเดียวกัน
*ตูม* เสียงการโจมตีดังรัวออกมาเป็นชุดๆ จากนั้นพยัคฆ์เทพอสูร มืดก็แข็งทื่ออยู่กับที่ ฝนเลือดสีเทาขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากตัวของมัน ทําให้ร่างกายของมันสั่นเล็กน้อย ดวงตาแดงก�าของมันเต็มไปด้วยความ เจ็บปวดและความไม่เชื่อ
หนุ่มหล่อผู้นั้นเปิดปากพูดขึ้นมาทันที ในระหว่างการต่อสู้อัน ยาวนานระหว่างมนุษย์และสัตว์ร้าย นี่เป็นครั้งแรกที่โจวเหว่ยชิงได้ยิน การแลกเปลี่ยนคําพูดระหว่างพวกเขา
“ขอโทษนะ เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน�าสมเนื้อกับข้าจริงๆ ข้าต้อง ยอมรับว่าจากสัตว์วิญญาณทั้งหมดที่ข้าเคยเห็น เจ้าใช้กลอุบายเก่ง ที่สุด บางทีอาจเป็นสัตว์วิญญาณที่เฉลียวฉลาดที่สุด ไม่เพียงแข็งแกร่ง อย่างไม่น่าเชื่อเท่านั้น แต่ยังมีการคํานวณกลยุทธ์และวางแผนการ
ต่างๆอีกด้วย… ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าสามารถอยู่รอดมาได้จนถึง ตอนนี้ แม้เป็นพยัคฆ์เทพอสูรมืดตัวหนึ่ง แต่ข้าก็เชื่อว่าเจ้าย่อมต้องถูก ขนานนามว่าเป็นราชันแห่งเผ่าพยัคฆ์เทพอสูรมืดแน่ แม้ทั้งเผ่าจะมี จํานวนไม่มากนักก็เถอะ ข้าต้องยอมรับว่าในแง่ของการวางแผนและ การควบคุมสถานการณ์ ข้าพ่ายแพ้ให้แก่เจ้าอย่างราบคาบเพราะ ประเมินความแข็งแกร่งของเจ้าต�าเกินไป และความมั่นใจที่มากเกินไป ของข้าก็ทําให้ข้ามองข้ามอันตรายที่เป็นได้ เสียดายที่วันนี้โชคไม่ เข้าข้างเจ้า ข้าต้องบอกว่าแม้ข้าจะอายุ 6 ขวบและมีโอกาสพ่ายแพ้สูง แต่ข้าก็ยังมั่นใจว่าจะชนะ เพราะข้าเป็นศิษย์สํานักถังอย่างไรเล่า แต่ที่ สําคัญกว่านั้นคือ แม้ว่าความสามารถด้านกาลเวลาของเจ้าจะทรงพลัง แต่มันก็ไม่สามารถยับยั้งวิญญาณยุทธของข้าได้ เกาทัณฑ์เทพจูกัดเหลี ยงจะกลายเป็นกุญแจสู่ชัยชนะของข้าอีกครั้ง หลังจากที่เจ้ากับข้า ย้อนกลับไปวัยเด็กและเข้าสู่เขตมิติที่แปลกประหลาดนี้ ความพ่ายแพ้ ของเจ้าก็ได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว แต่ข้าจะยอมรับว่าเจ้าเป็นศัตรูที่ควรค่า แก่การให้ความเคารพ เป็นคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังอย่างแท้จริง”
หลังพูดเช่นนั้น ชายหนุ่มรูปงามก็โค้งคํานับเล็กน้อยเพื่อแสดง ความเคารพ ในเวลาเดียวกัน พยัคฆ์เทพอสูรมืดก็ดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ เขาพูด ก่อนที่มันจะแผ่รังสีแห่งความเกลียดชังและเสียงคํารามครั้ง สุดท้ายอย่างไม่ยินยอม ดวงตาแดงก�าของมันดูเหมือนจะลุกโชนไปด้วย ดวงไฟเจิดจ้า ราวกับจะพ่นเปลวเพลิงออกมา
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มก็สั่นเทาไปทั้งตัว ราวกับว่าเขาเข้าใจอะไร บางอย่างจากสายตาของพยัคฆ์เทพอสูรมืด ใบหน้าของเขาซีดลง และ ในที่สุดเด็กหนุ่มก็พูดว่า “ดูเหมือนว่าโชคของข้าจะยอดเยี่ยมจริงๆ ลา ก่อน”
…………………………………………………
สารจากผู้แต่ง: สําหรับผู้ที่ยังไม่ได้อ่านตํานานจอมยุทธ์ภูตถังซาน และอยากอ่านบทนี้ในอีกมุมมองหนึ่ง ฉากนี้อยู่ในตอนที่ 288-290