Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 180 อ้วนน้อย ปะทะ ราชาสิงโต! (1)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 180 อ้วนน้อย ปะทะ ราชาสิงโต! (1)
โดยธรรมชาติแล้ว แม้ชุดศาสตรามณียุทธ์ในตํานานจะทรงพลัง มาก แต่การจะนําพลังของมันออกมาใช้ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนที่เห็น เพื่อให้ ได้รับความแข็งแกร่งทั้ง 32 เท่าอย่างเต็มที่ โจวเหว่ยชิงต้องเปิดใช้งาน ศาสตรามณียุทธ์แต่ละชิ้นอย่างเต็มที่ ถ่ายโอนและรวบรวมพลังทั้งหมด เข้าด้วยกันเพื่อบีบอัดนําไปเป็นพลังโจมตีที่เข้มข้นที่สุด นั่นคือสิ่งที่โจว เหว่ยชิงกําลังทําอยู่ในตอนนี้ รวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่แขนขวาของเขา ก่อนจะส่งต่อให้ค้อน ‘หน้าร้องไห้’ ในมือขวา!
ในที่สุดชุดตํานาน ‘ชังพสุธาไร้ที่ยก’ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ และคู่ต่อสู้ของมันก็คือยอดฝีมือระดับ มหาราชาสวรรค์ ชุดในตํานานนี้ถือได้ว่าเป็นชุดที่ไม่เหมือนใครอย่าง แท้จริง แม้ไม่มีทักษะที่ทรงพลังซ่อนเร้นอยู่ภายในเหมือนศาสตรามณี ยุทธ์ชนิดอื่นๆ แต่มันก็ได้เพิ่มความแข็งแกร่งพื้นฐานให้พุ่งขึ้นจนถึงขีด สูงสุด
กรงเล็บเทวาทั้ง 2 ข้างของราชาสิงโตตวัดเข้าใส่ค้อน ‘หน้าร้องไห้’ อย่างรวดเร็วและฉีกกระชากพลังปราณสวรรค์ธาตุปีศาจที่ลอยวนอยู่ รอบๆออกไปอย่างง่ายดาย ในแง่ของพลังปราณสวรรค์หรือทักษะการ ควบคุม กู่ซื่อเต๋อย่อมมีชัยเหนือโจวเหว่ยชิงอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่
ทําให้เขาประหลาดใจก็คือค้อนนั้นกลับเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง เหลือบดําในชั่วพริบตา และในวินาทีถัดมา กรงเล็บทั้งสองก็พลันถูก ทําลาย
หลังจากนั้น ค้อน ‘หน้ายิ้ม’ ก็ทุบลงที่ศีรษะของเขา
เป็นไปได้อย่างไร? แม้ไม่มีทักษะใดๆ แต่โจวเหว่ยชิงก็ยังสามารถ สลายการโจมตีของเขาได้จริงๆ?
กู่ซื่อเต๋อไม่มีเวลาให้คิดต่อ เขายกมือซ้ายตบลงที่ค้อน ‘หน้ายิ้ม’ พลังปราณสวรรค์ปรี่มารวมตัวกันอย่างรวดเร็วท่ามกลางการระเบิด ครั้งใหญ่ มือขวาของเขายังคงมุ่งหน้าต่อไปเพื่อปิดกั้นค้อน ‘หน้าร้องไห้’ ที่ยังคงพุ่งมาอย่างต่อเนื่องหลังจากสลายทักษะกรงเล็บทั้งสองทิ้งไป แล้ว ทันใดนั้น โจวเหว่ยชิงก็ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวช้าลง ทําให้ค้อน “หน้ายิ้ม” มาถึงช้าไปครึ่งวินาที ด้วยวิธีนี้ ค้อนทั้งสองจึงจะฟาดใส่ราชา สิงโตในเวลาเดียวกัน
ห่างออกไปเล็กน้อย หลงซื่อหยาผู้ที่ยังคงสนุกกับการกําราบกู่อิ่ งปิงในขณะที่เฝ้าดูศิษย์ของตนก็ยิ้มออกมาน้อยๆขณะคิดกับตัวเอง เจ้า เด็กเหลือขอคนนี้เป็นจอมมารน้อยที่แท้จริง!
*พรึ่บ* *ตูม* สองเสียงที่แตกต่างดังขึ้นพร้อมๆกัน กรามของซู่อ้าว อิงแทบร่วงไปอยู่ที่พื้น ในฐานะผู้ตัดสินที่เฝ้าดูอยู่อย่างใกล้ชิด เขาพลัน ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของกู่ซื่อเต๋อถูกส่งกระเด็นกลับไปเนื่องจากการ โจมตีของโจวเหว่ยชิง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับค้อนทั้ง 2 ของโจวเหว่ยชิง กู่ซื่อเต๋อจึงแบ่ง พลังปราณสวรรค์ของเขาออกเป็น 2 ส่วนอย่างเท่าเทียมกัน อนิจจา นี่ เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับค้อนคู่ระดับเทพเจ้าในตํานาน เขาจะรู้ ความลับเบื้องหลังค้อนที่แสนเจ้าเล่ห์เหล่านั้นได้อย่างไร?
เสียง *พรึ่บ* นั้นเกิดจากที่มือซ้ายของกู่ซื่อเต๋อวูบผ่านค้อน ‘หน้า ยิ้ม’ ไป พลังปราณสวรรค์จํานวนมากของเขาจึงพุ่งทะลุขึ้นไปบน ท้องฟ้า การเสียหลักเพราะไม่ได้ปะทะกับวัตถุจริงทําให้เขาหลุดการ ควบคุม แม้กู่ซื่อเต๋อจะสามารถกลับมาทรงตัวได้อย่างรวดเร็วเนื่องด้วย พลังและความสามารถของตนเอง แต่ถึงกระนั้น สําหรับยอดฝีมืออย่าง เขา การโจมตีออกไปทว่าไม่มีสิ่งใดมารองรับก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนัก
ที่สําคัญไปกว่านั้น เมื่อการโจมตีของเขาพลาดจากค้อน ‘หน้ายิ้ม’ ไป ค้อน ‘หน้าร้องไห้’ ก็ทุบลงมาเช่นกัน แต่คราวนี้มันเป็นการโจมตีของ จริง ทว่าเนื่องจากเขาเสียสมดุลจากอีกด้านอย่างกะทันหัน มันจึงส่งผล กระทบต่ออีกด้านหนึ่งในทันที พลังปราณสวรรค์ที่ใช้ปกป้องร่างกาย ของเขาสั่นสะเทือนเพียงเสี้ยววินาที แต่นั่นก็มากเกินพอแล้ว เนื่องจาก
พลังปราณสวรรค์ถูกแบ่งออกอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อเทียบกับพลังโจมตี เต็มรูปแบบจากโจวเหว่ยชิง… คราวนี้เขาจึงเสียเปรียบอย่างรุนแรง
ค้อน ‘หน้าร้องไห้’ ในปัจจุบันมีพลังทั้งหมดของโจวเหว่ยชิง นั่น รวมถึงความแข็งแกร่ง 32 เท่าของเขาด้วย และเมื่อรวมกับความ ช่วยเหลือของสถานะพยัคฆ์-มังกรกลายร่าง การโจมตีนี้จะน่ากลัวได้ถึง ขนาดไหน?! แค่ความแข็งแกร่งทางกายภาพเพียงอย่างเดียว โจวเหว่ย ชิงก็อยู่เหนือจ้าวมณีสวรรค์ประเภทความแข็งแกร่งที่มีมณี 8 ชุดไปแล้ว นับประสาอะไรกับพลังที่เพิ่มขึ้น 32 เท่าในตอนนี้ หากพิจารณาเฉพาะ ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ด้วยชุดในตํานาน ‘ชังพสุธาไร้ที่ยก’ ของ เขา โจวเหว่ยชิงย่อมสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของราชาสวรรค์ที่มีมณียุทธ์ ประเภทความแข็งแกร่งได้แล้ว หากเป็นเช่นนี้ พลังปราณสวรรค์ของเขาไม่ได้เพิ่มระดับขึ้นแล้ว อย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นความสามารถใดก็ตาม เมื่อมันถูกขับเคลื่อนจนถึง ขีดสุด ความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ควรถูกผู้ใดมองข้ามเช่นกัน ดังคํา กล่าวที่ว่า ‘มีหลายวิธีที่จะไปถึงจุดหมาย’ ไม่มีเส้นทางที่แน่นอนสําหรับ การต่อสู้อยู่แล้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ กู่ซื่อเต๋อพลันรู้สึกได้ถึงพลังน่ากลัวที่ซุก ซ่อนอยู่เบื้องหลังการโจมตีของโจวเหว่ยชิงที่เขาไม่สามารถต้านทานได้ ด้วยแรงระเบิดครั้งใหญ่นั้น ร่างของเขาถูกส่งกระเด็นกลับไปทั้งตัว หนึ่ง
เป็นการโจมตีปลอมและอีกหนึ่งเป็นของจริง สิ่งที่ทําให้เขาเสียหน้าครั้ง ใหญ่ที่สุดก็คือความรุนแรงของการโจมตีนั้นทรงพลังเกินไป ตอนนี้ไม่ เพียงแต่มือของเขาจะชาจากแรงกระแทก บริเวณหน้าอกยังยุบลงไป เล็กน้อย กู่ซื่อเต๋อกําลังพยายามหยุดตัวเองไม่ให้พ่นเลือดออกมา แต่ เขาก็ได้รับบาดเจ็บภายในบางส่วนแล้ว
ทันใดนั้น โจวเหว่ยชิงก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังกู่ซื่อเต๋อ ใช้เกราะ มือยักษ์วิญญาณหยินหยางถือค้อนคู่ระดับเทพเจ้าในตํานาน เขาทุบลง ไปที่ศีรษะของราชาสิงโตย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง
ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา แท้จริงแล้วในช่วงเวลานั้น โจวเหว่ยชิง ได้ใช้ทักษะที่เขาฝึกฝนจนชํานาญที่สุด นั่นก็คือทักษะเคลื่อนย้าย พริบตา
ในฐานะที่เป็นยอดฝีมือระดับมหาราชาสวรรค์ ประสาทสัมผัสของ กู่ซื่อเต๋อจึงทรงพลังเป็นอย่างมาก และเขาก็ค้นพบการไล่ตามติดเพื่อ โจมตีของโจวเหว่ยชิงอย่างรวดเร็ว กระนั้น ความคิดแรกในใจของเขาก็ มีเพียงแค่ เป็นไปไม่ได้!
ก่อนหน้านี้ เมื่อหลงซื่อหยาใช้เขตแดนควบคุม 6 สุดยอดทักษะ สวรรค์ แม้ว่าเขาจะสามารถควบคุมทักษะธาตุต่างๆได้ตามต้องการ หลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกัน หรือแม้กระทั่งเร่งอัตราการฟื้ นฟูพลัง
ปราณสวรรค์… แต่เขาก็ไม่เคยใช้ทักษะกักเก็บได้มาก่อน! แล้วโจวเหว่ย ชิงใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาได้อย่างไร!
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาที่กู่ซื่อเต๋อจะคิดให้มากความ เมื่อเพิ่งถูก ส่งกระเด็นออกไปด้วยค้อนของโจวเหว่ยชิง เขาก็รู้ดีว่าพลังที่อยู่ เบื้องหลังค้อนเหล่านี้น่าหวาดกลัวเพียงใด แม้จะมีร่างกายระดับมหา ราชาสวรรค์ เขาก็ไม่กล้าปล่อยให้การโจมตีดังกล่าวปะทะร่างของตน โดยไม่มีการป้องกันเด็ดขาด
จู่ๆก็มีภาพลวงตาของแมมมอธปรากฏขึ้นด้านหลังกู่ซื่อเต๋อ ใน เวลาเดียวกัน ม่านแสงสีทองก็สว่างไสวเจิดจ้าขึ้น ราวกับมีหนามงอก ขึ้นมาเพื่อทักทายค้อนของโจวเหว่ยชิง
ทักษะนี้เป็นหนึ่งในทักษะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของราชาสิงโต กักเก็บมาจากอสูรสวรรค์ราชาแมมมอธวิเศษที่แสนทรงพลัง ราชาแมม มอธวิเศษนี้ยังเป็นหนึ่งในอสูรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรวั่น โซ่ว เป็นอสูรสวรรค์ระดับราชา หากพูดให้ชัดเจนกว่านั้นก็คือ มันเป็น ผู้นําของบรรดาเผ่าแมมมอธ แต่เพราะสติปัญญาของมันไม่สูงพอจึงไม่ สามารถขึ้นเป็นผู้นําและชนชั้นปกครองที่แท้จริงของอาณาจักรวั่นโซ่ว ได้ ถึงกระนั้น มันก็ยังคงมีสถานะที่สูงส่งและเป็นที่เคารพนับถือใน อาณาจักรวั่นโซ่ว ในแง่ของพลังสายเลือด ราชาแมมมอธวิเศษเหล่านี้ เป็นรองเพียงพยัคฆ์วิญญาณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์และราชสีห์วิญญาณ
สวรรค์ปฐพีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น คล้ายกับทั้ง 2 ตัวก่อนหน้านี้ พวกมันมี ทักษะธาตุเทวา และทักษะนี้ของพวกมันก็ถูกเรียกว่าโล่หนามเทวา วิเศษซึ่งเป็นทักษะที่มีความสามารถทั้งรุกและรับในหนึ่งเดียว การที่เขา สามารถบังคับให้ราชาสิงโตต้องเรียกใช้ทักษะระดับไม้ตายไม่นาน หลังจากที่พวกเขาปะทะกันได้เช่นนี้ โจวเหว่ยชิงก็สามารถภูมิใจใน ตัวเองได้อย่างแท้จริงแล้ว
อย่างไรก็ตาม จู่ๆภาพที่น่าเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้นเป็นลําดับถัดไป กระทั่งทําให้กู่ซื่อเต๋อตกตะลึงสุดขีด ที่ด้านหลังของโจวเหว่ยชิง ร่างลวง ตาหนึ่งพลันก่อตัวขึ้นมาเช่นกัน เป็นอสูรที่ดูอวบอ้วนคล้ายแมลงตัว ใหญ่ ทันทีที่ร่างลวงตาปรากฏขึ้น มันก็คลืบคลานไปข้างหน้า ก่อนจะ ลอยหายเข้าไปในร่างลวงตาของแมมมอธซึ่งอยู่เหนือศีรษะของกู่ซื่อ เต๋อ พวกมันพัวพันกันชั่วขณะก่อนที่ทั้งสองจะหายไปพร้อมกับโล่ หนามเทวาวิเศษ!
นี่คือการปะทะกันของภาพทักษะสวรรค์ ทําให้พลังของทั้งคู่เป็น โมฆะอย่างแท้จริง
เดิมทีองค์ชายสิงโตกู่อิ่งปิงเคยใช้วิธีการนี้ต่อต้านทักษะผนึกมังกร เงียบของโจวเหว่ยชิงมาก่อน และตอนนี้โจวเหว่ยชิงก็กําลังใช้วิธี เดียวกันกับกู่ซื่อเต๋อเพื่อต่อต้านโล่หนามเทวาวิเศษ
การปะทะกันของภาพทักษะสวรรค์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่าย ปลดปล่อยทักษะที่ทรงพลังมากพอจะทําให้เกิดภาพทักษะสวรรค์ ทั้งคู่ สามารถใช้ภาพทักษะสวรรค์ของตนเองทําให้ภาพทักษะสวรรค์ของ ศัตรูหายไปได้หากเร็วมากพอ ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทําไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้นได้ แต่ตามการคาดเดาของบรรพบุรุษ นั่นเป็นเพราะสวรรค์มีเมตตาต่อ โลก ไม่ต้องการให้ทักษะที่ทรงพลังเช่นนี้สร้างหายนะและการทําลาย ล้างชีวิตมากเกินไป จึงทําให้เกิดผลเป็นโมฆะเสีย
ในอดีตโจวเหว่ยชิงไม่ได้ผ่านการร�าเรียนอย่างเหมาะสมมา และ เขาก็ต้องคิดคํานวณทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วเด็กหนุ่มย่อมไม่รู้ เกี่ยวกับการปะทะกันของภาพทักษะสวรรค์และกู่อิ่งปิงก็รับรู้เรื่องนั้น ได้อย่างง่ายดาย เขาจึงลงมือกําจัดภาพทักษะสวรรค์ของเด็กหนุ่มอย่าง รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ ภายใต้การชี้นําของหลงซื่อหยา โจวเหว่ยชิงจึงเข้าใจหลักการของพลังนี้เช่นกัน และอย่างน้อยก็รู้ แนวทางในการจัดการกับมันทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ พลังวิญญาณของ เขาเพิ่มขึ้นจนสามารถควบคุมภาพทักษะสวรรค์ได้บางส่วนแล้ว ในขณะนี้โจวเหว่ยชิงจึงใช้ประโยชน์จากผลลัพธ์ที่ว่าอย่างกะทันหัน เพื่อพลิกสถานการณ์ในสนามรบ
ราชาพยัคฆ์ซู่อ้าวอิงเฝ้าจับตาดูพวกเขามาโดยตลอด และเมื่อโจว เหว่ยชิงใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา ริมฝีปากของเขาก็อ้าค้างเช่นกัน เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับเขตแดนควบคุม 6 สุดยอดทักษะสวรรค์ ทั้งยัง
เคยพูดคุยหารือกับพี่ชายของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้ ว่าทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาที่มีระดับสูงกว่า 6 ดาวนี้ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งเมื่อโจวเหว่ยชิงยังเพิ่งใช้เขตแดนได้ใหม่ๆ เขาไม่น่าจะสามารถใช้ ทักษะนี้ได้อย่างแน่นอน! ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาควร เป็นหนึ่งในทักษะที่ยากที่สุดในการลอกเลียนแบบไม่ใช่หรือ ในขณะนั้น เขาจึงเหลือเพียงความคิดเดียวที่คล้ายคลึงกับกู่ซื่อเต๋อ เป็นไปได้ยังไง?!
อย่างไรก็ตาม ขณะที่โจวเหว่ยชิงเรียกใช้ภาพทักษะสวรรค์นั้น ภายใต้การสังเกตอย่างใกล้ชิดของซู่อ้าวอิง ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นบาง สิ่งที่อาจเป็นความลับซึ่งซ่อนอยู่เบื้องหลัง
เมื่อโจวเหว่ยชิงปลดปล่อยทักษะกักเก็บทั้งสองนั้น มุมหนึ่งภายใน หกเหลี่ยมรูป ‘ดาว’ จะสว่างขึ้นใต้เท้าของเขา และไพฑูรย์ตาแมวสองสี ก็กระพริบวูบวาบก่อนที่ทักษะจะปรากฏขึ้น
หลังมองเห็นเช่นนั้น ซู่อ้าวอิงก็สามารถคาดเดาความลับเบื้องหลัง การใช้ทักษะดังกล่าวของโจวเหว่ยชิงได้แล้ว ทว่านั่นก็ไม่ได้ทําให้ความ ประหลาดใจของเขาลดน้อยลง เป็นไปได้ไหมว่าในขณะที่โจวเหว่ยชิง ใช้เขตแดนควบคุม 6 สุดยอดทักษะสวรรค์รูปแบบใหม่นี้ เขาจะยัง สามารถใช้ทักษะได้? นั่นจะทรงพลังเกินไปแล้ว!
ความจริงการคาดเดาของซู่อ้าวอิงนั้นค่อนข้างแม่นยํา เขตแดน แสง 6 สุดยอดเทพเจ้าของโจวเหว่ยชิง เมื่อเปรียบเทียบกับเขตแดน
ควบคุม 6 สุดยอดทักษะสวรรค์แล้ว มันอาจจะแย่กว่าในแง่ ประสิทธิภาพและอัตราการฟื้ นตัวของพลังปราณสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ความด้อยกว่าในส่วนนี้ได้รับการชดเชยอย่างง่ายดายด้วยสถานะ พยัคฆ์-มังกรกลายร่างของเขา นั่นยังไม่รวมถึงวิชาเทพอมตะด้วย สําหรับมุมพิเศษทั้ง 6 ภายในหกเหลี่ยมรูป ‘ดาว’ นี้ แต่ละมุมสามารถ ‘บันทึก’ ทักษะกักเก็บเพื่อนํามาใช้ได้ในทุกครั้งที่สร้างเขตแดน
กล่าวคือ เมื่อใช้เขตแดนควบคุม 6 สุดยอดทักษะสวรรค์เป็น พื้นฐาน เขตแดนแสง 6 สุดยอดเทพเจ้าจึงสามารถผูกมัด 6 ทักษะไว้ได้ ชั่วคราว เมื่อใดก็ตามที่เขาเรียกเขตแดนออกมา โจวเหว่ยชิงก็จะ สามารถใช้พวกมันได้เช่นเดียวกับระหว่างการต่อสู้ปกติ ทักษะที่ถูกผูก ติดไว้กับเขตแดนเหล่านี้โจวเหว่ยชิงเลือกมาจากคลังทักษะกักเก็บของ ตนเอง แต่พลังปราณสวรรค์ที่ใช้ก็จะได้รับผลกระทบจากประสิทธิภาพ และอัตราการฟื้ นฟูของเขตแดนเช่นกัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโดยภาพรวมแล้ว ในด้านความสามารถทางการ ต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับโจวเหว่ยชิง เขตแดนแสง 6 สุดยอดเทพ เจ้านั้นเหนือกว่าเขตแดนควบคุม 6 สุดยอดทักษะสวรรค์มาก เหตุผลก็ ง่ายเช่นกัน แม้ว่าทั้งสองจะมีทักษะธาตุ 6 ชนิด แต่เขตแดนของโจว เหว่ยชิงมีทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์ 2 ชนิด นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่า โครงสร้างเขตแดนของเขาแตกต่างกันแล้ว เหตุผลเบื้องหลังเช่นนี้ก็ทํา ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวขึ้นมาด้วย
หนึ่งในทักษะที่ถูกผูกติดไว้ในเขตแดนก็คือทักษะเคลื่อนย้าย พริบตาที่โจวเหว่ยชิงใช้เพื่อปิดช่องว่างระหว่างไล่ติดตามโจมตีเมื่อ สักครู่ ส่วนทักษะที่ 2 ที่เพิ่งถูกปลดปล่อยออกมาก็คือทักษะย้อนเวลา เหตุผลที่เขาเลือกทักษะนี้ แท้จริงแล้วก็เพื่อจุดประสงค์ในการใช้ภาพ ทักษะสวรรค์เข้าปะทะกับศัตรู เนื่องจากองค์ชายสิงโตมีทักษะที่ สามารถเรียกภาพทักษะสวรรค์ได้ ราชาสิงโตจะไม่มีได้อย่างไร? ดังนั้น โจวเหว่ยชิงจึงตั้งใจจะใช้ทักษะย้อนเวลาที่ ‘ไร้ประโยชน์’ นี้นําผลลัพธ์ที่ สมบูรณ์แบบมาให้ตนเอง
เมื่อโล่หนามเทวาวิเศษหายไป กู่ซื่อเต๋อก็พลันรู้สึกตกใจอย่างไม่ ทันได้ตั้งตัวอีกครั้ง ในเวลาเดียวกัน ค้อนของโจวเหว่ยชิงก็ฟาดลงมาที่ ศีรษะของกู่ซื่อเต๋อแล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆนั้นก็สายเกินไปที่เขาจะ เรียกใช้ทักษะอื่น กู่ซื่อเต๋อทําได้เพียงใช้มือของเขารับแรงกระแทกและ หมุนเวียนพลังปราณสวรรค์ออกมาปกป้องตัวเองอย่างเต็มที่
………………………………………………….