I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 533 แรงกดดัน! (1)
หลี่อิงเจี๋ยเห็นว่าสถานการณ์ท่าไม่ดีแล้วก็รีบสั่งการทันทีว่า “แม่งเอ๊ย พุ่งเข้าไปเลย รั้งคู่ต่อสู้ไว้ ลดแรงกดดันให้พวกพี่น้อง” กล่าวจบ หลี่อิงเจี๋ยก็เปิดใช้โล่แสงกระจก ก่อนจะเปิดใช้เครื่องยนต์ไอพ่นจนถึงขีดสูงสุด หุ่นรบพุ่งเข้าไปหาหุ่นรบหนึ่งในนั้นราวกับกระสุนปืนใหญ่ก็ไม่ปาน
“ย๊ากก~” หุ่นรบลำเลียงสิบห้าตัวที่มีรูปลักษณ์ต่างกันแผดเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวออกมา พุ่งไปหาฝ่ายตรงข้ามตามหัวหน้าทีมของตัวเอง
ถึงแม้ผู้ควบคุมหุ่นรบของหน่วยหุ่นรบลำเลียงพลาธิการล้วนเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูง แต่พวกเขาไม่ได้บุ่มบ่ามและก็ไม่ได้หลับหูหลับตาเลย คู่ต่อสู้ที่พวกเขาเลือกคือผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงเช่นเดียวกัน ขณะที่คลายวงล้อมให้เพื่อนร่วมรบ พวกเขาก็อยากต่อสู้จนถึงฉากสุดท้ายของการต่อสู้ประจัญบาน
เมื่อมีหุ่นรบสิบห้าตัวของหลี่อิงเจี๋ยเข้าร่วม อู่จย่ง หานอวี้ มู่เส่าอวี่และคนอื่นๆ พลันรู้สึกว่าแรงกดดันลดลงไปมาก ทั้งสองฝ่ายเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด ฝ่ายหนึ่งรู้ดีว่าขอเพียงโจมตีฝ่าคนขวางทางพวกนี้ได้ ฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งก็กลายเป็นของในกระเป๋าพวกเขาแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งรู้ดียิ่งกว่าว่า ถ้าเกิดพวกเขาไม่ขัดขวาง เมื่อฐานที่มั่นถูกตีแตก พวกเขาก็จะพ่ายแพ้ถูกส่งออกจากสนามทั้งหมด นี่เป็นจุดจบที่พวกเราไม่อาจยอมรับได้
ควรพูดว่าคนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งทุ่มสุดตัวกันหมดแล้ว ถึงแม้หุ่นรบลำเลียงจะมีกำลังรบในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับหุ่นรบต่อสู้ที่แท้จริงแล้ว มันยังคงไม่เพียงพออย่างไม่ต้องสงสัย นี่จึงต้องการความสามารถในการควบคุมของผู้ควบคุมหุ่นรบมาชดเชย แต่คนที่สามารถเข้าร่วมศึกประลองหุ่นรบได้ ต่อให้เป็นเพียงผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูง นั่นก็เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูง นี่จึงทำให้หน่วยรบลำเลียงที่หลี่อิงเจี๋ยพามา นอกจากหลี่อิงเจี๋ยที่ยังสามารถต้านทานคู่ต่อสู้ได้แล้ว คนอื่นๆ ตกอยู่ในวิกฤติพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เกาจิ้นอวิ๋นเป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมหน่วยหุ่นรบของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน ถึงแม้ความสามารถในการควบคุมของเขายังถือว่าไม่เลว แต่ถ้าเกิดเขาไม่ใช่คนของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนละก็ ต่อให้กลายเป็นแค่ผู้ควบคุมหุ่นรบลำเลียงในศึกประลองหุ่นรบครั้งนี้ ก็ยังไม่ถึงตาเขาเหมือนกัน
เมื่อเขารู้ว่าตัวเองถูกหลิงหลานกำหนดให้กลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบของหน่วยลำเลียงพลาธิการ เกาจิ้นอวิ๋นก็ตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัย เขารู้สึกซาบซึ้งใจต่อหลิงหลานมาก และดีใจที่ตอนอยู่บนยานรบลำเลียงสมัยตอนที่เริ่มเข้าเรียนนั้น เขาติดตามลูกพี่หลานบุกยึดยานรบอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ นี่เป็นเรื่องที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุดและก็เป็นเรื่องที่เขาตัดสินใจถูกต้องที่สุดในชีวิต ทำให้เขามีโอกาสที่น่าอิจฉาอย่างในปัจจุบันนี้
เกาจิ้นอวิ๋นรู้ว่าความสามารถในการควบคุมของตัวเองถือว่าเป็นกลุ่มรั้งท้ายในหมู่สมาชิกที่เข้าร่วมทั้งหมด ดังนั้น ทุกครั้งที่เขารับภารกิจลำเลียงเสบียง เขาจะระวังแล้วระวังอีก พยายามอย่างสุดความสามารถไม่ให้มีข้อผิดพลาดจนทำให้ลูกพี่หลานขายหน้า
ความจริงตอนที่หลี่อิงเจี๋ยสั่งพวกเขาต่อสู้ปะทะกับศัตรู เกาจิ้นอวิ๋นรู้ว่าจุดจบของตัวเองคืออะไร ความห่างชั้นของหุ่นรบ บวกกับอย่างน้อยที่สุดคู่ต่อสู้ก็เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่อยู่ระดับเดียวกัน พวกเขาไม่มีความหวังที่จะเอาชนะได้เลยจริงๆ…แต่ว่าต่อให้เป็นแบบนี้ ลูกทีมทุกคนรวมถึงเกาจิ้นอวิ๋นล้วนยกดาบแสงขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยวแล้วกระโจนเข้าไปหาฝ่ายตรงข้าม
ทุกคนรู้ว่า ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ มีเพียงทุ่มสุดกำลังเท่านั้นถึงอาจจะสามารถปกป้องฐานที่มั่นของพวกเขาได้!
เกาจิ้นอวิ๋นปะทะกับคู่ต่อสู้ทีหนึ่งก็รู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว ถึงแม้หุ่นรบที่อีกฝ่ายขับเป็นหุ่นรบระดับสูง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความสามารถของอีกฝ่ายไปถึงขั้นสูงสุดของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงแล้ว ขาดอีกแค่ครึ่งก้าวก็สามารถเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้ ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับนี้ ต่อให้เขาขับหุ่นรบระดับสูงรุ่นล่าสุดที่ดีที่สุดก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายเหมือนกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหุ่นรบที่เขาขับเป็นหุ่นรบลำเลียงที่ติดอาวุธง่ายๆ หยาบๆ มากเลย
ก็เป็นเหมือนดั่งที่เขาคิดไว้ หลังจากสู้ได้สิบกว่ากระบวนท่า เขาก็ถูกกดดันทั่วทุกด้านแล้ว สถานการณ์วิกฤติมาก เกาจิ้นอวิ๋นรู้สึกว่าวินาทีถัดไปตัวเองอาจจะถูกคู่ต่อสู้โจมตีจนร่วงลงไปได้
“อ๊าก!” เสียงร้องที่คุ้นเคยดังมาจากในช่องสื่อสารทีม เกาจิ้นอวิ๋นรู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร เขาคืออู๋เฟย เป็นหัวหน้าหน่วยหุ่นรบอีกคนของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนเหมือนกัน หลายวันมานี้ พวกเขาแทบเคลื่อนไหวด้วยกันทั้งกลางวันและกลางคืน เลยสนิทสนมกันแล้ว ในที่สุดอีกฝ่ายที่มีระดับการควบคุมเหนือกว่าเขาไม่มากก็ต้านทานไม่ไหว ถูกคู่ต่อสู้เอาชนะได้สำเร็จ
นี่ทำให้เกาจิ้นอวิ๋นรู้สึกเสียใจต่อการพ่ายแพ้ของพรรคพวกเดียวกัน “หรือว่าฉันก็จะต้องเป็นแบบนี้ ถูกศัตรูเอาชนะแล้วโดนไล่ออกไปจากสนาม?”
เวลานี้เอง ในสมองของเกาจิ้นอวิ๋นปรากฏสายตาเย็นชาของหลิงหลานขึ้นมา ท่ามกลางแววตาที่เย็นยะเยือกนั้นแฝงไปด้วยความเสียใจและผิดหวัง…
เกาจิ้นอวิ๋นหวนนึกถึงความตื่นเต้นตอนที่เขารู้ว่าเขาถูกลูกพี่หลานเลือกชื่อ สมาชิกในหน่วยรบรู้ข่าวนี้ก็จัดงานเลี้ยงส่งฉลองให้เขาเป็นพิเศษ ตอนนั้นเขาเคยพูดกับพวกลูกทีมว่า เขาจะต้องตอบแทนบุญคุณลูกพี่หลานอย่างแน่นอน
เขาจะตอบแทนแบบนี้เหรอ? โง่เง่าจริงๆ! เกาจิ้นอวิ๋นถลึงตาอย่างโกรธเกรี้ยว เจ็บแค้นในความอ่อนแอของตัวเอง เขาไม่มีทางพ่ายแพ้แบบนี้เป็นอันขาด ต่อให้เขาแพ้ก็จะต้องลากศัตรูไปด้วย! ไม่อย่างนั้น เขาจะตอบแทนลูกพี่หลานที่เชื่อใจเขา ยอมให้โอกาสเขาได้อย่างไร? นักรบยอมตายเพื่อคนรู้ใจได้ เขาจะทำให้ลูกพี่หลานขายหน้าไม่ได้เด็ดขาด!
“แม่งเอ๊ย ต่อให้แพ้ก็จะลากศัตรูไปด้วย ระเบิดตัวเองซะ!” เกาจิ้นอวิ๋นคำรามอย่างเดือดดาล มือเร่งเครื่องยนต์ไอพ่นหุ่นรบขึ้นมาฉับพลัน เขาใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดในตอนนั้นขับหุ่นรบชนฝ่ายตรงข้ามอย่างอำมหิต
ถึงแม้หุ่นรบลำเลียงจะเทียบกับหุ่นรบต่อสู้ที่แท้จริงๆ ไม่ได้ทุกด้าน แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่มันกลับเหนือกว่าหุ่นรบต่อสู้มาก นั่นก็คือจำนวนเสบียงสิ่งของที่บรรทุกได้มากขึ้น หุ่นรบลำเลียงเหล่านี้ถูกปรับเป็นหุ่นรบแบบรถถังหนัก หรือพูดอีกอย่างก็คือน้ำหนักตัวหุ่นรบจะมากกว่าหุ่นรบต่อสู้สองสามเท่า เมื่อเร่งความเร็วแล้วอัดกระแทก พละกำลังที่ทรงพลังนี้ทำให้หุ่นรบต่อสู้ถอยหลังไปสามฟุต ไม่กล้าประจันหน้าตรงๆ
อย่างที่คิดไว้เลย พลังที่พุ่งตรงมาของเกาจิ้นอวิ๋นทำให้คู่ต่อสู้ถอยหนีแล้ว คู่ต่อสู้หลบไปทางด้านข้าง เตรียมตัวรอให้เกาจิ้นอวิ๋นเหนื่อยแล้วค่อยทำการโจมตีอีก
เกาจิ้นอวิ๋นเห็นแบบนั้น แววตาก็เปล่งประกาย รู้ว่านี่เป็นโอกาสของเขาแล้ว เขาออกแรงฮึดสู้โจมตีใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง เนื่องจากเกาจิ้นอวิ๋นรู้ดีว่า เมื่อพลังสายนี้ผ่านพ้นไป เขาก็ไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว
โอกาสผ่านไปแล้ว การตัดสินใจเดียวก็อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน คู่ต่อสู้ของเกาจิ้นอวิ๋นพลันสังเกตเห็นว่าหลังจากที่เขาเลือกถอยหนี ความได้เปรียบทางฝั่งเขาก็อันตรธานหายไป ตอนนี้ฝ่ายที่โดนโจมตีกดดันกลับเป็นตัวเขานี่เอง
แต่ผู้ควบคุมหุ่นรบคนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ คนที่มีสภาพจิตใจดีมากอย่างเขาไม่ได้ตื่นตระหนกเลย หากแต่สงบนิ่งมาก เขาป้องกันอย่างสุดกำลัง ถึงแม้การโจมตีของเกาจิ้นอวิ๋นจะบ้าคลั่งมาก แต่เขายังคงต้านรับเอาไว้ ไม่ให้โอกาสเกาจิ้นอวิ๋นเลยสักนิดเดียว
อย่างที่คิดไว้เลย คนที่เข้าร่วมการประลองหุ่นรบล้วนไม่ใช่คนธรรมดาทั้งนั้น! เกาจิ้นอวิ๋นลอบชื่นชมความสุขุมของอีกฝ่าย เขาไม่สังเกตเลยว่าความเร็วนิ้วมือในการบังคับหุ่นรบของตัวเองทะลวงขีดจำกัดในตอนแรกของเขาแล้ว และเข้าสู่ขั้นถัดไป ทำให้เขากระโดดจากขั้นกลางของระดับสูงมาถึงขั้นสูงสุดของระดับสูงทันที ถ้าเกิดทำให้คงที่ได้สำเร็จ ไม่เกินหนึ่งปี เขาย่อมมีโอกาสหยั่งรู้ด่านกั้นของระดับพิเศษได้ และถ้าโชคดีก็สามารถเข้าสู่ตำแหน่งของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้ด้วย
เวลานี้เกาจิ้นอวิ๋นต่อสู้อย่างทุ่มสุดแรงกายแรงใจแล้ว เขามีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น นั่นก็คืออัดชนฝ่ายตรงข้าม นี่ก็เป็นโอกาสเดียวที่เขาสามารถเอาชนะได้
‘ตูม!’ เสียงดังสนั่น ในที่สุดเกาจิ้นอวิ๋นก็อัดกระแทกคู่ต่อสู้
สีหน้าของคู่ต่อสู้เปลี่ยนไปเล็กน้อยภายใต้การชนครั้งนี้ ถึงแม้เขาจะเร่งแรงม้าของเครื่องยนต์ไอพ่นจนถึงขีดสุด แต่เขายัง คงสังเกตเห็นว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการกระแทกอย่างเต็มกำลังของฝ่ายตรงข้าม หุ่นรบของเขาไม่สามารถต้านทานแรงมหาศาลสายนี้ได้เลย ในที่สุดหลังจากที่ฝืนสั่นอยู่หลายวินาที หุ่นรบของเขาก็สูญเสียการควบคุมอย่างที่คาดไว้ ก่อนจะกระเด็นไปข้างหลังทันที
“ให้ตายสิวะ! นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ผู้ควบคุมหุ่นรบที่สูญเสียการควบคุมอดสบถด่าขึ้นมาไม่ได้ เห็นชัดๆ ว่าจากความเร็วของอีกฝ่าย เขาสามารถหลบได้พ้น แต่ทำไมเมื่อครู่นั้นเขาถึงทำพลาดหลบไม่พ้นล่ะ?
ผู้ควบคุมหุ่นรบคนนี้ไม่คาดคิดเลยว่าเกาจิ้นอวิ๋นจะก้าวหน้าขึ้นระหว่างการต่อสู้ ความเร็วนิ้วมือทะลวงด่านเล็กๆ นี่เลยทำให้ฝ่ายตรงข้ามตัดสินใจผิดพลาด นี่ก็เป็นสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมก่อนหน้านี้อีกฝ่ายถึงหลบได้ แต่ว่าคราวนี้เขากลับหลบไม่พ้น
พอเห็นหุ่นรบของศัตรูกระเด็นออกไปอย่างเสียการควบคุม เกาจิ้นอวิ๋นก็ดีอกดีใจมาก เขายกดาบแสงขึ้นมาโดยไม่ลังเลก่อนจะแทงเข้าไปอย่างโหดเหี้ยม ดาบแสงโจมตีโดนส่วนหน้าอกของอีกฝ่าย
‘ซี่!’ ดาบแสงกระแทกกับโล่แสงอย่างรุนแรงจนประกายไฟสาดกระเซ็นขึ้นมา พลังงานของทั้งสองเริ่มเผาผลาญอย่างรวดเร็ว พลังงานของใครหมดคนสุดท้าย คนนั้นก็คือผู้ชนะ
หุ่นรบสองตัววาดออกเป็นลำแสงสายหนึ่งบนกลางอากาศ ในชั่วพริบตาที่พลังงานดาบแสงกำลังหมดลง เกาจิ้นอวิ๋น รู้สึกถึงความสิ้นหวัง ทันใดนั้นพลังงานที่ขวางกั้นบนมือก็หายไปในพริบตา ดาบแสงแทงเข้าไปในหุ่นรบของฝ่ายตรงข้ามอย่างง่ายดาย ยังไม่ทันได้กดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งนิ้ว พลังงานสายหนึ่งก็ดีดดาบแสงของเขาออกไป เกาจิ้นอวิ๋นรู้ว่านี่เป็นอุปกรณ์ป้องกันเสริมที่ติดตั้งไว้ในการต่อสู้ประจัญบานครั้งนี้
อย่างที่คิดไว้จริงๆ เกาจิ้นอวิ๋นที่ถูกดีดออกไปมองเห็นคู่ต่อสู้ของเขาว่า หุ่นรบตัวนั้นพลันร่วงจากฟ้าลงมาสู่พื้น เกาจิ้นอวิ๋นหยิบดาบแสงที่เลือนราง ก่อนจะอึ้งไปในพริบตา
นี่หมายความว่าเขาชนะแล้วใช่ไหม?
——————-