I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 538 เสพติด!
“ลูกพี่ ฉันควรจะเตือนเธอ” เสี่ยวซื่อก้มหน้าสำนึกผิด ในฐานะที่เป็นผู้ช่วย นี่คืองานของเขา แต่เขาก็มองข้ามไปเหมือนกัน
“ดังนั้นต้องจำบทเรียนนี้ไว้ ต่อไปพวกเราสองคนต้องตรวจสอบกันเอง ไม่ว่าใครเลินเล่อ ก็ต้องช่วยอีกฝ่ายหาข้อผิดพลาด” หลิงหลานเผยรอยยิ้มออกมาให้เสี่ยวซื่อเล็กน้อย มีเพียงอยู่ ในห้วงสติเท่านั้น หลิงหลานถึงจะผ่อนคลายตัวเอง ไม่ต้องรักษามาดของลูกพี่ไว้ตลอด
หลิงหลานทำตายิ้ม แววตางดงามพราวพร่างจนทำให้เสี่ยวซื่อมองอย่างอึ้งๆ
ท่าทางตกตะลึงของเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานอารมณ์ดีขึ้น เธอยกมือขึ้นมาดีดนิ้วทีหนึ่ง “เด็กโง่ มองอะไรน่ะ?”
เสี่ยวซื่อส่งเสียงร้องและนวดหน้าผากอย่างสุดความสามารถ ก่อนจะมองลูกพี่อย่างเสียอกเสียใจ และตำหนิความใจร้ายของลูกพี่ ฮือๆๆ หน้าผากของเขาจะต้องถูกลูกพี่ดีดจนแดงแล้วแน่ๆ เลย ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว
ไม่ง่ายเลยกว่าจะขับไล่ความเจ็บปวดสายนี้ออกไป เสี่ยวซื่อมองไปยังดวงหน้าน้ำแข็งที่กลับมาเย็นชาของลูกพี่อีกครั้ง จากนั้นก็พูดอย่างโศกเศร้าว่า “ลูกพี่ เธอต้องยิ้มเยอะๆ นะ เม มื่อกี้ตอนเธอยิ้ม ดูดีมากเลย”
หลิงหลานใจกระตุก “ดูดี? ดูดีแค่ไหน?” เธอจะโดนคนอื่นสงสัยว่าเป็นผู้หญิงเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า?
เสี่ยวซื่อเริ่มทุ่มเทสมองค้นหาคำคุณศัพท์ “ก็…ก็…ฉันค้นคลังข้อมูลก่อนนะ อืมๆๆ หาเจอแล้ว มัจฉาจมวารี จันทร์หลบโฉมสุดา โฉมงามโดยกำเนิด ล้มชาติบ้านเมือง อ่อนช้อยนุ่มนวล รูปโฉ ฉมดุจภาพวาด งดงามตระการตา ความงามเป็นเอกแห่งยุค…” เสี่ยวซื่ออ่านสำนวนที่บรรยายรูปโฉมงดงามในคลังข้อมูลออกมาทีละอัน
“หยุด! หยุด! หยุด! ไม่ได้โอเวอร์ขนาดที่นายพูดมาหรอกใช่ไหม?” หน้าผากหลิงหลานขึ้นขีดดำ ถ้าเธอหน้าตาแบบนั้นจริงๆ พวกเพื่อนของเธอคงสงสัยว่าเธอเป็นผู้หญิงไปนานแล้วเหอะ
เสี่ยวซื่อมองไปทางหลิงหลานอย่างงุนงง คำอธิบายแบบนี้เกินจริงไปเหรอ? ทำไมเขารู้สึกว่ามันเหมาะสมมากเลยล่ะ ยิ้มล่มเมืองของลูกพี่เมื่อกี้ ขนาดเขาที่เป็นร่างปัญญายังถูกดูด พลังงานไปเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เลย ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะลูกพี่หลานดีดเรียกสติเขาทันเวลา คาดว่าเขาคงจะเครื่องค้างไปแล้ว
แววตางุนงงของเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานหลุดหัวเราะ ยังเป็นเด็กอย่างที่คิดไว้จริงๆ ก็เลยพูดจาโอเวอร์เกินไปหน่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอยื่นมือไปลูบผมเสี่ยวซื่อ แล้วถามด้วยรอ อยยิ้มว่า “เสี่ยวซื่อ บอกฉันแค่ว่า ตอนที่ฉันยิ้มจะทำให้คนอื่นสงสัยว่าฉันเป็นผู้หญิงหรือเปล่า?”
เสี่ยวซื่อครุ่นคิดอย่างจริงจัง ก่อนจะส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ไม่นะ ตอนที่ลูกพี่ยิ้มทำให้คนรู้สึกว่าเหมือนพ่อมากเลย” อบอุ่นเหมือนกันจนทำให้คนอยากดื่มด่ำ
หลิงหลานได้ยินคำกล่าวก็บอกกับตัวเองอีกครั้งว่าอย่ายิ้มมั่วซั่ว ถึงแม้ไม่ทำให้คนอื่นสงสัยว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่ถ้าถูกคนอื่นสังเกตเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหลิงเซียว ก็ไ ไม่ใช่เรื่องที่ยินดีขนาดนั้น หลิงหลานไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจของสหพันธรัฐเพราะเหตุนี้หรอกนะ
ตอนแรกเป็นเพราะว่าหลิงเซียว ‘พลีชีพ’ ไปอย่างไม่คาดฝัน ระดับสูงของกองทัพสหพันธรัฐอาจจะต้องการทำเพื่อปกป้องสายเลือดของหลิงเซียว และก็อาจจะทำเพื่อลดทอนอิทธิพลของหลิงเซียวใ ในใจทหาร ตอนที่เธอเกิดมา ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลิงหรือว่าคนอื่นๆ ที่รู้เรื่องล้วนถูกปิดปากไว้ และปิดบังเรื่องที่หลิงเซียวมีทายาทต่อคนภายนอกไว้อย่างสมบูรณ์ คนทั่วไปไม่มีทางร รู้เรื่องเลย
ต่อมาเมื่อหลิงเซียว ‘ฟื้นคืนชีพ’ กลับมา และโยนหลิงหลานเข้าไปในโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งเพราะความเข้าใจผิด หลิงเซียวก็ยิ่งปิดเรื่องที่เขามีลูกไว้เพื่อป้องกันความปลอดภัยของ งหลิงหลาน สุดท้ายนอกจากคนที่รู้เรื่องก่อนหน้านี้แล้ว ก็มีเพื่อนสนิทบางคนของหลิงเซียวที่เขาไว้ใจได้รู้เรื่องนี้
นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไม หลิงหลานแสดงผลงานยอดเยี่ยมในโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอีกสักแค่ไหน ก็ไม่มีคนนึกโยงเธอกับหลิงเซียวเข้าด้วยกัน บวกกับทฤษฎีศึกษาวิจัยที่ว่าพรสวรรค์ข ของทายาทผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะจะไม่สูงนัก ยิ่งทำให้หลิงหลานมีเกราะป้องกันเพิ่มขึ้นอีกชั้น
ในสายตาของนักเรียนและอาจารย์ของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง หลิงหลานตามหลังเฉียวถิง และเป็นคนที่จะกลายเป็นราชาของโรงเรียน คนที่แข็งแกร่งแบบนี้จะเป็นคนไร้ค่าที่มีพรสวรรค์ไม่สู งแบบนั้นได้อย่างไร?
ความคิดแบบนี้ทำให้ทุกคนยิ่งออกห่างจากความเป็นจริงมากขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดหลิงเซียวหรือหลิงหลานไม่ประกาศออกมาเอง ก็คงไม่มีใครเชื่อมโยงพวกเขาสองคนเข้าด้วยกัน
หลังจากที่พูดคุยกับเสี่ยวซื่อแล้ว อารมณ์หงุดหงิดในใจหลิงหลานก็หายไปแล้ว แววตาดูแน่วแน่ขึ้น
คนเรามักจะทำผิดพลาด ทำผิดไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือให้ตายก็ไม่ยอมรับผิด หลิงหลานเป็นคนที่เชี่ยวชาญการสรุปเรื่องราวทุกอย่าง เมื่อรู้ว่าผิดก็แก้ไขความผิด นี่ก็คือสาเหตุ ที่เธออยากเติบโตอย่างรวดเร็วในมิติการเรียนรู้ เธอไม่มีทางทำผิดซ้ำสอง และสิ่งเหล่านี้เป็นจุดที่พวกอาจารย์ในมิติชื่นชมหลิงหลานมากที่สุด
หลิงหลานที่ทบทวนความผิดของตัวเองแล้วก็ลุกขึ้นมาจากที่นั่ง ขณะที่กำลังคิดจะออกคำสั่ง อุปกรณ์สื่อสารบนข้อมือก็สั่นไหวเบาๆ เธอก้มหน้ากวาดตามองรอบหนึ่ง แววตามีความประหลาดใจพา าดผ่าน...
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง หลิงหลานก็กลับมาเยือกเย็นตามเดิมแล้ว เธอสั่งจ้าวจวิ้นว่า “ส่งพลุสัญญาณ ให้หลี่หลานเฟิงดำเนินแผนการขั้นที่สอง”
“ได้ ลูกพี่!” จ้าวจวิ้นรับคำสั่งแล้วก็เดินออกมาจากเต็นท์ หลายวินาทีให้หลัง พลุสัญญาณสีเงินก็พุ่งขึ้นมาจากฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่สอง
บริเวณรอบนอกฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่สอง หลี่หลานเฟิงที่เฝ้าระวังสถานการณ์รอบด้านมาโดยตลอดเห็นพลุสัญญาณนี้ เขาก็ยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมา พลุสัญญาณนี้บ่งบอกว่าพวกหลิ งหลานทำสำเร็จแล้ว
หลี่หลานเฟิงตื่นเต้นแค่แวบเดียวเท่านั้น แล้วเขาก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว เขาดึงยาหลอดหนึ่งออกมาจากในกล่องเก็บของในห้องคนขับ ก่อนจะเปิดมันออกแล้วดื่มลงไป นี่เป็นยาแก้ปวด ดที่ส่งผลรวดเร็ว หลังจากดื่มลงไปแล้ว ก็จะขับไล่ความไม่สบายตัวออกไปทั้งหมดในไม่กี่วินาที ประสิทธิผลของมันสามารถอยู่ได้ครึ่งชั่วโมง
ตามแผนการ หลังจากที่หลิงหลานยึดฐานที่มั่นแล้ว เขาจะกลับไปยังฐานที่มั่นของโรงเรียนเจี้ยนเฉียว แล้วเปลี่ยนฐานที่มั้นเป็นอาณาเขตของพวกเขา ทำให้ทุกคนในฐานที่มั่นเขต Q คิดว ว่าตกอยู่ในอันตราย กลัวว่าจะกลายเป็นผู้พ่ายแพ้ คนต่อไป แบบนี้อีกฝ่ายถึงจะวางกำลังรบทั้งหมดไว้ในฐานที่มั่นของตัวเอง และพวกเขาถึงค่อยอยู่ในฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่สอง งได้อย่างปลอดภัย
อย่างที่คิดไว้เลย สิบวินาทีต่อมา ความเจ็บปวดที่ฉีกกระชากหัวใจแต่เดิมหายไปจนหมดแล้ว หลี่หลานเฟิงสะกดกลั้นความตื่นเต้นที่มีอยู่เต็มอกไว้ แล้วนั่งลงบนที่นั่งควบคุมของหลิง งหลาน
ที่นั่งของหลิงหลานมีกลิ่นเฉพาะตัวหลิงหลานอยู่ กลิ่นหอมเย็นเยียบจางๆ สายหนึ่งโชยเข้าไปในจมูกของหลี่หลานเฟิง เขาสูดลมหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่งอย่างควบคุมไม่อยู่ ความรู้สึกที่ เรียกว่าสงบนิ่งและพึงพอใจแผ่ขยายในใจ ราวกับว่าตอนนี้หลิงหลานอยู่ข้างกายเขา กำลังมองเขาด้วยสายตาให้กำลังใจ
หลี่หลานเฟิงรู้สึกว่าเขาเข้าใกล้หลิงหลานขึ้นอีกหน่อยแล้ว เขาน่าจะเป็นคนแรกที่ได้ขับหุ่นรบของหลิงหลาน (ถึงแม้จะเป็นหุ่นรบที่ใช้ชั่วคราวเท่านั้น) เขามองแผงควบคุมเบื้องห หน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ที่นี่ยังเป็นของหลิงหลาน แต่ตอนนี้รอยนิ้วมือของเขาจะทิ้งไว้บนนี้…
นิ้วมือของหลี่หลานเฟิงสัมผัสปุ่มบังคับแรก หัวใจก็เต้นกระหน่ำหลายทีอย่างควบคุมไม่อยู่ เขาร้อนรุ่มขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรในสมองของเขาถึงปรากฏภาพตอนที่หลิงหลานสอนเขาบัง งคับทีละขั้น กลิ่นอายของหลิงหลานมีอยู่ทั่วทุกที่ ราวกับว่าเขาอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย อบอุ่นจนทำให้เขาอาลัยอาวรณ์
“ความรู้สึกที่ทำให้คนเสพติดแบบนี้ ฉันจะยอมให้คนอื่นได้ยังไง!” แววตาของหลี่หลานเฟิงพลันเย็นเยียบ เขาดึงคันเร่งเครื่องยนต์ไอพ่นขึ้นมาทันที ความเร็วของหุ่นรบระเบิดออกมาโดยพลัน น ก่อนจะบินไปยังฐานที่มั่นของโรงเรียนเจี้ยนเฉียวราวกับลำแสงสายหนึ่ง
กองกำลังพันธมิตรกำลังรีบกลับฐานที่มั่น คนของโรงเรียนเจี้ยนเฉียวพลันเกิดฉากแบบเดียวกับโรงเรียนทหารชายที่สอง ทุกคนรู้ว่าฐานที่มั่นโรงเรียนอีกแห่งในเขต Q ถูกบุกยึดแล้ว
“เร็วเข้า รีบกลับไปที่ฐานที่มั่น!” ทุกคนเร่งกลับไปอย่างสุดกำลัง และหน่วยรบพันธมิตรที่รับหน้าที่ลาดตระเวนเขต Q ก็โดนผู้บัญชาการของพวกเขาแต่ละคนเรียกตัวกลับไปป้องกันฐานที่มั นสุดชีวิต
เนื่องจากเขต Q กองกำลังลึกลับตะลอนไปทั่ว ทำให้โรงเรียนด้านในได้แต่เฝ้าปกป้องฐานที่มั่นอย่างสุดชีวิตเท่านั้น กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นรางวัลสงครามถัดไป
ส่วนโรงเรียนทหารในเขต M ตอนนี้ก็แย่เหมือนกัน โรงเรียนทหารชายที่สามกลับมาเป็นปกติแล้วก็ตั้งกลุ่มกับหน่วยรบของเฉียวถิงและหน่วยรบของโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งเป็นกองกำลังพ พันธมิตรใหม่ แล้วเริ่มบุกโจมตีเขต M
พวกเขากวาดล้างมาตลอดทาง เฉียวถิงพาทีมเข้าไปในเขต Q ด้วยความเร็วสูงสุด และไปยังเขต Q9 ซึ่งเป็นฐานที่มั่นเดิมของโรงเรียนทหารชายที่สองเพื่อสนับสนุนหลิงหลาน เวลานี้โรงเรียนทห หารที่ยังอยู่ในการต่อสู้ประจัญบานไม่รู้เลยว่าฐานที่มั่นแห่งนี้กลายเป็นฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งแล้ว
หลังจากที่รวมกลุ่มกับเฉียวถิง หลิงหานก็ไม่ได้อยู่เฝ้าป้องกันที่นี่ หากแต่ให้เฉียวถิงกวาดล้างเขตรอบๆ เขต Q9 หลิงหลานรู้ดีว่าการโจมตีเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
บทสรุปของการต่อสู้ประจัญบานใกล้เข้ามาเรื่อยๆ โรงเรียนทั้งหมดในเขต Q ถูกผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเฉียวถิงข่มขู่จนไม่กล้าบุ่มบ่ามเคลื่อนไหวเลย ทำได้แต่เฝ้าป้องกันฐานที่มั่นเท่านั น เวลานี้พันธมิตรเป็นเพียงแค่ชื่อไปแล้ว ไม่มีใครยอมทอดทิ้งฐานที่มั่นของตัวเอง แล้วไปช่วยปกป้องฐานที่มั่นของโรงเรียนพันธมิตรเลย
หลิงหลานที่แยกพันธมิตรเขต Q สำเร็จก็ฉวยโอกาสบุกยึดฐานที่มั่นเล็กๆ สองแห่ง…
ในที่สุดการต่อสู้ประจัญบานก็สิ้นสุดลง โรงเรียนทหารในเขต Q ที่ปกป้องฐานที่มั่นสำเร็จจนถึงตอนสุดท้ายต่างโล่งอก พวกเขากลับไม่รู้เลยว่า หลิงหลานที่ดูเหมือนสงบนิ่งก็โล่งใจเช่น นกัน
ถึงแม้จะย้ายฐานที่มั่นสำเร็จ แต่ก็สร้างศัตรูรอบๆ ฐานที่มั่น ถึงแม้มีเฉียวถิงนั่งรักษาการณ์ข่มขู่ แต่จำนวนคนของพวกเขายังคงน้อยมาก ถ้าเกิดฐานที่มั่นรอบๆ ร่วมมือกันขึ้นมา และใ ใช้จำนวนคนมาผลาญเรี่ยวแรงของหน่วยรบเฉียวถิง เกรงว่าฐานที่มั่นนี้คงเกิดหายนะแล้ว
แน่นอนว่าหลิงหลานสามารถย้ายฐานที่มั่นต่อได้ แต่หลิงหลานไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นสุนัขเร่ร่อน วิ่งหนีไปตลอดทาง เธอจำได้ว่าพ่อของเธอกำลังดูเธออยู่…ถึงแม้ปากของหลิงหลา านจะไม่พูด แต่ความจริงแล้วเธอเห็นหลิงเซียวเป็นพ่อตัวเองจริงๆ และเธอไม่อยากให้หลิงเซียวขายหน้า
……
ภายในห้องสังเกตการณ์ เมื่อเห็นการต่อสู้ประจัญบานสิ้นสุดลง ทุกคนก็เด้งตัวขึ้นมา
“ดูคะแนนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งเร็วเข้า” พวกเขาเร่งให้เจ้าหน้าที่รีบคำนวณ ในฐานะที่เป็นผู้ชนะของการต่อสู้ประจัญบานในครั้งนี้ ทุกคนต่างอยากรู้ว่าพวกเขาจะมีคะแนนรวมในตอ อนสุดท้ายมากแค่ไหน
“คะแนนรวม 17894!” เมื่อตัวเลขปรากฏออกมา ทุกคนก็สูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง
“ได้คะแนนมากกว่าครึ่งของการต่อสู้ประจัญบาน นี่มันเป็นไปได้ยังไง” ถึงแม้ผลงานของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งจะยอดเยี่ยมมาก แต่ยึดครองคะแนนเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์ นี่ก็โอเวอร์มากเกินไ ไปหน่อยเหมือนกัน
“ข้อมูลรายละเอียดออกมาแล้ว” คะแนนประเมินผลงานด้านต่างๆ ของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งโดยออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักปรากฏขึ้นบนหน้าจอใหญ่
เนื้อหาด้านหน้าอยู่ในขอบเขตการคาดการณ์ของทุกคน เมื่อลากลงมาถึงรายการสุดท้าย ข้อสงสัยของทุกคนก็หายไปแล้วไม่ได้มีความคิดยึดติดเพราะกฎของการต่อสู้ประจัญบาน ค้นพบความลับที่แท้จ จริงของฐานที่มั่น และย้ายฐานที่มั่นสำเร็จหนึ่งครั้ง มอบรางวัลคะแนนพิเศษ: 10000! (มีผลแค่การค้นพบครั้งแรก)’
ทุกคนถึงค่อยเข้าใจว่าทำไมโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งถึงมีคะแนนที่สูงจนน่ากลัวนี้ เป็นเพราะว่าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งค้นพบความลับของฐานที่มั่นเป็นคนแรก และย้ายฐานที่มั่นสำเร็จ จหนึ่งครั้งถึงได้มีคะแนนพิเศษสูงแบบนี้