Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 119
ICSS บทที่ 119: ช่างมันเถอะ ฉันจะวางสาย (ตอนเพิ่ม)
“ในที่สุดมันก็จบซะที”
ในเวลาตี 2 วัวมากกว่าพันตัวในที่สุดก็ถูกหนิงเทียนหลินเฉือดจนหมดซึ่งต้องใช้เวลาทั้งหมด 13-14 ชั่วโมง ตึกในโรงงานมีเพียงเขาและกลิ่นเหม็นคลุ้งไปหมด
“สตาร์วอร์ส ฉันเก็บคะแนนได้เท่าไรแล้ว?” หนิงเทียนหลินถามออกไปด้วยความคาดหวัง
“2,232 คะแนน!” สตาร์วอร์สตอบ
“เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หนิงเทียนหลินถึงกับตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ เขารู้ดีว่าการฆ่าคนจะได้พลังงานโดยเฉลี่ยแต่ตอนนี้การฆ่าวัวไป 1,000 ทำให้เขาได้ตั้ง 2,232 คะแนนเลยทีเดียว!
ในอีกแง่ก็คือการฆ่าวัวได้คะนนพลังงานมากกว่าการฆ่าคนซะอีก!
“ใช่แล้ว!” ระบบการต่อสูอธิบาย “คะแนนพลังงานที่นายได้มาเกี่ยวข้องกับเรื่องพลังในการต่อสู้ของอีกฝ่ายด้วยอย่างมาก ยิ่งพลังในการต่อสู้มากเท่าไรก็ยิ่งได้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น”
“วัวพวกนี้สามารถจัดการมนุษย์ 2 คนได้อย่างสบายๆ ร่างกายของมนุษย์ธรรมดาๆตอนนี้เทียบอะไรกับมันไม่ได้เลย”
“โอ้” หนิงเทียนหลินพยักหน้าซึ่งนี่ทำให้เขารู้ว่าคะแนนพลังงานเกี่ยวข้องกับพลังในการต่อสู้ของคู่ต่อสู้อย่างมาก
“ขออัพเกรด!”
“ขออัพเกรดคะแนนพลังงานทั้ง 2,232 คะแนน ทั้งหมดเลย!”
หนิงเทียนหลินตัดสินใจโดยไม่ลังเลเลย สิ่งที่เขาต้องการที่สุดตอนนี้คือการอัพเกรดไปให้ถึงระดับ 25 และเพื่อจะได้เห็นว่าเครื่องบินเอฟ-คลาสที่ระบบการต่อสู้จะให้เป็นรางวัลมันหน้าตาเป็นอย่างไรและในระดับที่ 25 พลังการต่อสู้ทางกายภาพของเขาเองจะสูงถึง 100
เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะขึ้นฝั่งไปที่จงหนานไห่และจัดการเรื่องใบอนุญาตการฆาตกรรม!
ถ้าไม่ มีบางสิ่งที่จะพูดเกี่ยวกับการแสดงในดินแดนของจีนเสมอ
“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ขึ้นมาได้ถึงระดับที่ 21”
“ติ่ง! ยินดีด้วยนะเจ้านายที่ขึ้นมาได้ถึงระดับที่ 22”
ทันทีที่หนิงเทียนหลินพูดจบ เสียงของระบบการต่อสู้ก็ดังขึ้นมาในหูของเขา บอกให้เขารู้ว่าระดับของเขาขึ้นจาก 20 มาที่ 22 แต่เขาก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เขาจำได้ว่าครั้งล่าสุดระดับของเขาขึ้นมาได้ตั้งหลายระดับ
แต่ตอนนี้มีคะแนนพลังงานมากกว่า 2,000 คะแนน เขาน่าจะได้อัพเกรดมากกว่า 2 ระดับสิ!
ก่อนหน้านี้ เขาได้ขึ้นมาตั้งเกือบ 10 ระดับ!
“ดูเหมือนว่ายิ่งมาไกลเท่าไรก็ยิ่งอัพเกรดได้ยากขึ้นเท่านั้นเลยนะ” หนิงเทียนหลินขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองไปที่กองศพที่กองอยู่เต็มตา แล้วจิตเขาก็มีเสียงร้องออกมา “อยากออกแล้ว”
“โอ้!”
เจ้าหนูตัวเล็กขนาดเท่านิ้วก็ค่อยๆคลานออกมาจากรูหูเขาแล้วจึงลอยลงมา ตัวเริ่มใหญ่ขึ้นๆ เมื่อมันลงถึงพื้นมันก็มีขนาดประมาณผ่ามือแล้ว โดยไม่รีรอเจ้าตัวนี้ก็รีบตรงเข้าไปที่กองศพของวัวตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที
ซากศพวัวหลายพันปอนด์ถูกกลืนเข้าไปภายในเวลาไม่นาน
“อร่อยเลยใช่ไหมล่ะ”
เมื่อหนิงเทียนหลินเห็นแบบนี้เขาก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมา แม้แต่กระดูกก็ถูกกินจนไม่เหลือซึ่งต้องใช้ฟันที่คมกริบและระบบย่อยที่แข็งแกร่งอย่างมาก
“ว่าไง?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
แต่สิ่งที่ทำให้หนิงเทียนหลินไม่อย่างจะเชื่อก็คือหลังจากที่ร่างทั้งร่างของวัวได้ถูกกลืนไปจนหมด มันก็เริ่มที่จะกินตัวถัดมา ในการต่อสู้ที่เจ็บปวดของอีกฝ่ายมันใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีในการกินวิญญาณนี้ ทั้งหมดถูกกืนกินทั้งเป็น!
“มันกลืนวิญญาณได้ด้วย!”
แค่ตะลึงยังอธิบายถึงอาการของหนิงเทียนหลินไม่ได้เลยเพราะสิ่งนี้บอกได้ว่าเจ้าตัวนี้มีดวงตาหยินและหยางด้วยเหมือนกันและยังสามารถเห็นผีเหล่านี้ได้! แม้แต่ผีที่ไม่มีตัวตนที่มองไม่เห็นเหล่านี้ก็ยังสามารถกลืนกินเข้าไปได้!
นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกินวิญญาณได้!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หนิงเทียนหลินก็มองไปที่ร่างของวานซูด้วยความสุขอย่างยิ่ง! เพราะหนึ่งในผู้ช่วยของเขาเอง วานซูจิน เขาเพิ่งฆ่ายมฑูต 2 คนและวิญญาณมากกว่าร้อยดวงและบางทีเขาจะทำงานกับวิญญาณในอนาคต ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่คาดคิด!
“กรุบกรับ!”
“กรุบกรับ!”
หลังจากกินจนหมด วานซูก็รีบคลานไปหาซากวัวอีกตัว และก็แบบเดียวกันมันกลืนร่างทั้งร่างของวัว รวมทั้งกระดูกและแม้แต่วิญญาณก็ด้วยเข้าไป ไม่เหลือเลย
“ว้าว!”
หลังจากที่ซากวัว 5 ตัวได้ถูกกินเข้าไปแล้วก็ปรากฎอากาศสีเทาก่อตัวขึ้นมาในอากาศห่อวิญญาณที่เพิ่งถูกฆ่าแล้วก็หายไป
“ขอบฟ้าอันกว้างใหญ่คือที่รักของฉัน…”
หลังจากเวลานานกว่า 30 นาที ทันทีหลังจากที่วานซูเพิ่งจะกินซากวัวไปมากกว่าครึ่ง โทรศัพท์ของหนิงเทียนหลินอยู่ดีๆก็ดังขึ้นมาและเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตะลึง นี่มันดึกมากแล้วประมาณตี 2 หรือตี 3
เบอร์นี้เป็นเบอร์ที่เขาใช้ตอนปีหนึ่ง เขาเพิ่งจะเปิดใช้ใหม่เมื่อเช้านี้เอง เมื่อมีระบบการต่อสู้แล้ว โทรศัพท์ก็เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ไปเลยแต่ทุกครั้งที่มีคนถามเขาเรื่องเบอร์โทรนี้เขาก็ปฎิเสธไปตลอดและเขาไม่สามารถที่จะรับโทรศัพท์ต่อหน้าคนมากมายได้
เขาจ้องไปที่ชื่อที่แสดงขึ้นมาและต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะเขาไม่รู้จักเบอร์นี้เลย อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายที่โทรมาจากเมืองจิงเปย เขาลังเลอยู่สักพักและกดรับสายไป
“สวัสดีค่ะ”
หลังจากที่รับสายเสียงของอีกฝ่ายก็ต้องทำให้หนิงเทียนหลินรู้สึกขนลุกเล้กน้อย เสียงปลายสายเหมือนเด็กสาวอายุประมาณ 17-18 แต่ไม่เกิน 20 เขาไม่แน่ใจ
“นี่ใคร? มีอะไร?”
หนิงเทียนหลินไม่ได้พูดดีๆกับอีกฝ่าย เขารู้สึกว่าการที่เขาพูดแบบนี้ทำให้อีกฝ่ายเป็นกังวลมากๆ! และยิ่งขนลุกมากขึ้นไปอีก
“สวัสดีค่ะ”
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายตกใจมากเพราะเธอเคยโทรมาหลายสายแล้ว แต่ผู้ชายทุกคนที่ได้ยินเสียงของเธอจะต้องรู้สึกตื่นเต้นและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงสุภาพ เอถึงขนาดรู้สึกว่าเสียงของเธอมันเซ็กซี่มาก
แต่ในครั้งนี้อีกฝ่ายทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวมาก
แต่ตอนนี้ที่เธอกำลังอยู่ในสาย หลายคนที่กำลังดูอยู่และมีคอมเม้นมากมายขึ้นมาที่หน้าจอที่คอมพิวเตอร์ของเธอ
“555! เปิดเลย! ลองดูว่าเพื่อนเราจะจะหยุดได้ไหม! สุดยอดเลย!
“จัดการเลยคนสวย หากคุณสามารถขอให้อีกฝ่ายขอให้คุณไม่วางสายคืนนี้ พี่ชายฉันจะส่งของขวัญไปให้เลย!”
“ฮ่าฮ่า ชายคนนี้คืนนี้ต้องนอนไม่หลับแน่ๆ เมื่อได้รู้ว่ามีมีนางฟ้าร่วงลงมาจากสวรรค์แล้ว!”
“เฮ้ ไม่ใช่แหละ ฉันคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับทัศนคติของผู้ชายคนนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันไม่ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ อาซิชอบเพศเดียวกันไม่ใช่เหรอ เกิดความรักแล้ว!
…
คอมเม้นมากมายที่เลื่อนขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าเธอทำให้เธอรู้ว่าอย่างน้อยก็มีคน 1,000 คนที่กำลังดูเธอถ่ายทอดสดอยู่ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดไม่ดีแต่เธอก็ยังพูดต่อ “สวัสดีค่ะ ฉันกวนเวลานอนคุณหรือเปล่า?”
น้ำเสียงสุภาพและมีเสน่ห์สุดๆ
“มีอะไรก็ว่ามาเร็วเข้าไม่งั้นฉันจะวางสายแล้วนะ”
หนิงเทียนหลินมั่นใจมากว่าอีกฝ่ายไม่รู้จักเขาเลยและพร้อมที่จะวางสายแล้ว