ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 209 ต้มตุ๋น
ภายในสมองของซีเหมินจินเหลียนฉุกคิดถึงข้อมูลเกี่ยวกับเหมืองแร่หมาเหมิงที่เคยท่องจำแทบตาย เคยได้ยินมาว่าเป็นเหมืองหยกเก่าแก่ที่สุดที่ถูกขุดมาจากช่องแม่น้ำใช่ไหมนะ? สีดีน้ำงาม แต่ชอบมีสีดำคั่น รอยดำหรือจุดสีขาวนี้ ความจริงก็คือการก่อตัวของรอยเกลื้อนที่ทำให้การเดิมพันมีสิทธิ์ชนะสูง
หินหยกของน้องชายเจียงเจิ้นก้อนนี้ มองจากเนื้อหยกที่เปลือยให้เห็นนั้นก็ต้องเป็นเนื้อแก้วอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ว่าสีเขียวสดที่บริสุทธิ์จะโปร่งใสมากเท่าไหร่ หากหินหยกดิบทั้งหมดเป็นสีเขียวสด อย่างนั้นแล้วเรื่องราคาคงทำให้คนทั่วไปคิดไม่ถึงแน่
“ที่แท้ก็สินค้าดีนี่นา!” นักค้าหยกคนหนึ่งที่ชื่อคุณหวงเอ่ยปากขึ้นมา ไม่สนใจคนอื่นรีบแย่งเดินไปก่อนหนึ่งก้าว เมื่อเดินไปที่หน้าหินหยกแล้วก็หยิบไฟฉายที่พกติดตัวส่องดูตามอำเภอใจ
คนที่เหลือก็ทำได้แค่หัวเราะ ส่วนน้องชายคุณจางนั้นเขาก็ไม่ได้โกรธกับการกระทำของฝ่ายตรงข้ามที่ดูจะไม่ค่อยเกรงใจ กลับกันใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มอย่างชอบพอ
คุณหวงมองแวบหนึ่งก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ รีบลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มอย่างขออภัย “โทษทีครับ ผมเสียมารยาทแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ” น้องชายคุณจางยิ้มกว้าง “ที่นี่ก็มีแต่คนชอบหยกทั้งนั้น คุณก็แค่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เท่านั้นเอง”
“ใช่เลยครับ” คุณหวงไม่ค่อยสูงนัก รูปร่างออกไปทางสันทัด ยิ้มทีก็ดูน่ารักน่าเอ็นดู ดังนั้นเลยไม่มีใครพูดอะไร
น้องชายคุณจางหันไปพูดกับเจียหยวนฮวาว่า “ผู้อาวุโสเจีย คุณลองไปดูสักหน่อยเถอะครับ อีกเดี๋ยวตอนที่ผ่าหินหยกนั้น ผมอาจจะต้องขอคำแนะนำจากคุณอีกมาก”
เจียหยวนฮวาพยักหน้าแล้วมองไปทางซีเหมินจินเหลียนพร้อมยิ้มน้อยๆ “คุณซีเหมินจะไม่ไปดูหน่อยเหรอ?”
“อ้อ?” ซีเหมินจินเหลียนเห็นหินหยกที่ลักษณะดีมากก้อนนี้แล้ว แน่นอนว่าต้องใจเต้นแรง แต่นี่เป็นของของคนอื่น เธอเลยไม่กล้าพูดจามากความ “ได้เหรอคะ?”
“แน่นอนสิ!” เจียหยวนฮวาพยักหน้าพูด
“ตกลงค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า ก่อนจะเดินไปทางหินหยกดิบก้อนเล็ก อยากจะเลียนแบบท่าทางของคุณหวงเวลายกไฟฉายและแว่นขยายขึ้นมาส่อง เอื้อมมือไปแตะก็เพิ่งคิดได้ว่าเมื่อสักครู่ที่จ่านป๋ายแกล้งแสดงตบตานั้น เขาก็ได้ยืมไฟฉายของเธอไปด้วย ยังไม่ได้คืนมาเลย
เวลานี้เธอก็ไม่กล้าไปยืมไฟฉายของใคร ตอนนั้นเลยใช้ตาเปล่ามองผิวหิน เอื้อมมือออกไปสัมผัส เพียงไม่นานก็ขมวดคิ้ว เม็ดทรายของหินไม่ได้ลื่นละเอียดเหมือนที่เธอจินตนาการไว้เท่าไหร่ แต่มันก็คือลักษณะของเนื้อแก้ว ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวอันตราย รอยเกลื้อนหยก จุดหยกขาวกลืนกินสีเขียวมรกต แต่อย่างน้อยเม็ดทรายของมันก็ถือว่าราบเรียบสะอาดตา
และเม็ดทรายของหินหยกดิบนี้ ผิวก็ไม่เหมือนกับเม็ดทรายเนื้อละเอียดของหยกเนื้อแก้วที่เคยดูมา ซีเหมินจินเหลียนพอที่จะมั่นใจได้ว่าลักษณะของหินหยกก้อนนี้คงสู้หน้าต่างหยกที่เปิดช่องโหวออกมาไม่ได้
เธอก้มหน้าก้มตามองหินหยกก้อนนั้น ก็ไม่ทันได้สังเกตว่านอกจากเจียงเจิ้นแล้ว สายตาของคนอื่นๆ ก็แอบมองอย่างสงสัย…
การเดิมพันสายนี้จะมีกี่คนที่สามารถมุงดูหินหยกพร้อมกันได้ การจัดลำดับก่อนหลังจึงเป็นเรื่องที่ยึดถือปฏิบัติอย่างถูกต้อง ด้วยท่าทีของคุณหวงเกรงว่าคงจะอาศัยที่ตัวเองคุ้นเคยกับเจ้าของเป็นอย่างดี เลยรีบชิงไปดูก่อน
โดยปกติแล้วจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมือฉมังในสายนี้เป็นคนดูก่อนคนแรก และในที่นี้ เจียหยวนฮวาที่เป็นราชาเดิมพันหยกคงต้องถูกเลือกอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนเขาเหมาะสมที่จะดูก่อน แต่เขากลับให้สิทธินั้นกับเด็กผู้หญิงหน้าใหม่นี่น่ะหรือ?
ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เธอยื่นมือไปสัมผัสหินหยกผิวอีกาดำ ไม่นานผิวของมันเลือนหายไปในดวงตา ส่วนเธออึ้งนิ่งไม่ได้สติอยู่นาน
แม้จะเคยได้ยินมานานว่า เมื่ออยากจะกำไรจึงส่งผลให้นักค้าหยกใช้วิธีไม่ใสสะอาด หยิบใช้เครื่องมือทันสมัยในปัจจุบันนี้ปลอมแปลงของขึ้นมา ปลอมไปถึงขั้นตัดหินหยกดิบแล้วข้างในมีแสงไฟเกิดขึ้น
หินหยกก้อนนี้เป็นของปลอม!
เรื่องนี้ทำให้ซีเหมินจินเหลียนไม่รู้จะร้องหรือยิ้มออกมาดี จุดที่เนื้อหยกเปิดเผยออกมา แน่นอนว่าไม่เหมือนกับส่วนอื่นๆ เนื้อหยกน้ำงามแตกต่างกันมาก และเมื่อใช้พลังในการมองทะลุผ่านดู เธอก็เห็นร่อยรอยของมีดจางๆ หินก้อนนี้ถูกเฉือนโปะทับ
ผิวสีดำอีกาทั้งก้อน แม้ผิวจะไม่ถึงขั้นหยาบกระด้าง แต่คงไม่ถึงชนิดเนื้อแก้ว และเนื้อหยกที่โผล่ออกมาก็เป็นชนิดเนื้อแก้วตามมาตรฐาน คนที่ปลอมแปลงนี้คงต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากแน่ๆ หากอาศัยดูแค่ผิวหินแล้ว คงดูไม่ออกแม้แต่น้อย
ซีเหมินจินเหลียนใช้พลังมองทะลุผ่าน นอกจากเนื้อหยกสีเขียวเล็กน้อยที่เปลือยออกมาแล้ว ข้างในก็มีแต่หินสีขาวเท่านั้น ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย
เพียงแต่เธอรู้สึกแปลกใจว่าเนื้อหยกเปลือยก้อนนี้ถูกตัดแปะปลอมแปลง ส่วนที่อื่นไม่ว่าจะเป็นจุดหยกหรือเส้นลายหยกก็ปลอมได้เหรอ?
ไม่อย่างนั้นหินหยกดิบที่ลักษณะดูดีขนาดนี้ ก่อนที่ยังไม่ได้ลงมือตัดทั้งหมด ใครจะไปรู้ว่าข้างในอาจจะมีหยกเนื้อดีก็ได้?
ถ้าสามารถเผยสีเขียวออกมาได้ ถึงแม้ไม่ใช่เนื้อแก้ว ก็ไม่มีเหตุผลต้องทำถึงขั้นนี้สิ? น้องชายคุณจางคนนั้นที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติยินดี เกรงว่าคงต้องผิดหวังแน่ อย่างน้อยผิวสีอีกาดำก้อนนี้เขาต้องผิดหวังมากแน่ๆ
เธอคิดจะเก็บมือเพื่อเลิกดู แต่ในเวลานี้ซีเหมินจินเหลียนก็มีความรู้สึกวิตกแปลกๆ หรือว่าหินผิวสีดำอีกาก้อนเล็กนี้จะถูกคนปลอมแปลงเหมือนกัน? เดิมทีตรงกลางมีรอยตัด เนื้อที่ตัดราบเรียบมาก เห็นได้ชัดว่ามีคนตั้งใจตัดจากตรงกลางเพื่อดูก่อน พอเห็นว่าไม่เผยสีเขียวก็เลย…ใช้จังหวะนี้โกง ด้วยการโปะทับ
ทำแบบนี้ก็ช่างไร้คุณธรรมจริงๆ
แต่หลังจากนั้นซีเหมินจินเหลียนก็ไม่กล้าเชื่อในสายตาของตัวเอง สีเขียวเข้ม ทันใดนั้นสะท้อนกลับเข้าในดวงตา ตรงที่เนื้อหยกความลึกไม่ถึงสามเซนติเมตรพบสีเขียวมหัศจรรย์…
ไม่ใช่ชนิดเนื้อแก้ว แต่เป็นเนื้อน้ำแข็ง เป็นสีเขียวขจีบริสุทธิ์ เหมือนถั่วเขียวที่เพิ่งปอกเปลือกสดใหม่ๆ สีสดใสน้ำงาม แต่เสียดายว่าขนาดแค่ครึ่งฝ่ามือ ความหนาไม่ถึงสองเซนติเมตร
แต่มีก้อนเล็กแค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว
และลึกลงไปก็มีรอยตัดอีกสองครั้ง แน่นอนทั้งสองนี้ไม่เผยสีเขียวและถูกย้อมสีจากเจ้าของสินค้าที่นิสัยคดโกง และเอาออกมาขายอีกครั้ง
เจ้าของคนนี้ก็สมควรตายนัก…ซีเหมินจินเหลียนแอบด่าอยู่ในใจ
หลังจากดูอีกรอบ เธอก็ลุกขึ้นยืนอย่างใจเย็น เดินไปทางหินหยกก้อนใหญ่ ส่วนเจียหยวนฮวาสลับมาดูหินก้อนเล็ก
ก้อนใหญ่หนักประมาณห้าถึงหกสิบกิโลกรัม ผิวสีเหลืองธรรมดา จุดหยกเส้นลายหยกหนาแน่น ดูจากสีผิวแล้วน่าจะมาจากเหล่าพะกัน
ซีเหมินจินเหลียนยื่นมือออกไปแตะ สัมผัสไม่เลว เม็ดทรายละเอียดยิบ หากข้างในลักษณะใช้ได้ คุณจางท่านนี้ก็ตกถังข้าวสารแล้ว
เมื่อขี้เกียจวิเคราะห์ เธอก็เลยยื่นมือไปสัมผัสด้านบนตรงๆ ผิวสีเหลืองค่อยๆ เลือนหายไปในดวงตาของเธอ…แต่ผิดกับที่เธอคาดไว้ ลักษณะข้างในไม่ได้ดีเหมือนที่เธอคิด
สีเขียวมรกตสะท้อนเข้าไปที่เปลือกตา แต่ที่น่าเสียดายคือสีมืดไปหน่อย ค่อนข้างไปทางดำ ตรงกลางมีจุดสีขาวมาคั่นกลางไว้ โชคดีที่พื้นที่สีเขียวอยู่ในส่วนเล็กครึ่งก้อนของหินหยก ขนาดมันใหญ่เพียงพอ เมื่อเจียระไนออกมาเสร็จ แม้แต่จะทำเป็นเครื่องประดับดีๆ ก็คงไม่มีทาง แต่ก้อนใหญ่ทำเป็นของตกแต่งก็ไม่เลวเลย
ซีเหมินจินเหลียนคิดในใจ ความจริงหินหยกก้อนนี้สู้หินหยกก้อนเล็กขนาดเท่าฝ่ามือที่เผยสีเขียวสดเนื้อน้ำแข็งไม่ได้เลย
หลังจากที่ดูเสร็จ เธอก็รวบมือกลับมาไม่พูดไม่จา
ผู้คนอื่นๆ พลัดกันมาดู แต่ไม่มีใครมีแววขึ้นเสียงคัดค้าน ซีเหมินจินเหลียนสงสัยในใจ หรือพวกเขาดูไม่ออกว่าผิวสีดำอีกานั้นมีคนย้อมแมวมา?
เมื่อหวนคิดไปมาแล้ว หากเธอไม่ใช้พลังทะลุผ่าน เพียงดูแค่ผิวอย่างเดียว เธอก็คงแยกไม่ออกเหมือนกันว่ามีคนทำอะไรกับหินหยกก้อนนั้น
เมื่อเห็นว่าทุกคนดูกันครบรอบหนึ่งแล้ว คุณจางก็ยิ้มแห้งม้วนพับแขนเสื้อขึ้น เพราะว่าผิวสีดำอีกาก้อนนั้นดูดี เขาเลยเตรียมตัวที่จะเจียระไนเป็นก้อนแรก
เขาหยิบเครื่องเจียระไนมาอย่างระมัดระวังและตั้งใจที่จะเจียหิน
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มมุมปาก เกรงว่าอีกเดี๋ยวคุณจางคงยิ้มไม่ออกแน่ แม้ว่าผิวปลอมๆ ของหินก้อนนี้จะดีสักแค่ไหน แต่พอเจียออกมาแล้วก็จะเห็นร่องรอยของการตัดแปะข้างใน ไม่มีทางปิดบังได้หรอก
ไม่ว่าใครซื้อหินหยกแบบนั้นไป หลังจากนั้นในใจของเขาคงต้องทุกข์ระทมแน่ไม่ใช่หรือ?
ซีเหมินจินเหลียนแค่หวังว่าคุณจางคนนั้นจะมีความอดทนมากพอ และสามารถเจียหินหยกทั้งหมดออกมาดู เหมือนที่จ่านป๋ายตัดออกมาเป็นก้อนเต้าหู้ ทำให้สีเขียวที่ซ่อนไว้อยู่ลึกนั้นถูกค้นพบ ไม่อย่างนั้นคืนนี้เขาต้องเสียใจเจียนตายแน่
“จินเหลียน” สายตาของผู้คนให้ความสนใจไปที่การเจียระไนหิน เจียหยวนฮวาจึงถอยหลังและเรียกซีเหมินจินเหลียนขึ้น เมื่อสักครู่ที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ นั้น เขาก็ตั้งใจเรียกเธอว่าคุณซีเหมิน เพราะกลัวว่าคนอื่นจะคาดเดาสถานะเธอออก จะได้ไม่สร้างความลำบากกับเธอ
“คุณเจีย” ซีเหมินจินเหลียนถอยหลังไปเล็กน้อยและกระซิบพูดขึ้น “คุณมาที่เจียหยางตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ผมมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว” เจียหยวนฮวากระซิบพูด “ตระเวนไปทั่วเจียหยางเพื่อหาสินค้าชั้นดี แต่น่าเสียดายที่ว่าตลาดเจียหยางก็หาสินค้าดีๆ ไม่ได้เลย! ผมคิดจะไปดูที่พม่าน่ะ ก็เลยอยากจะถามคุณว่าสนใจที่จะไปด้วยกันไหม ผมค่อนข้างคุ้นเคยกับที่นั่น”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเรื่องที่น่ายินดีแล้ว เธอก็อยากจะไปพม่าเหมือนกัน และยังหาคนชำนาญเส้นทางไม่ได้ด้วย ถ้าได้ไปพร้อมกันกับเจียหยวนฮวาต้องไม่เลวแน่ๆ
“ฉันก็อยากไปพม่าอยู่พอดีเลยค่ะ กำลังกังวลอยู่เลยว่าจะไม่มีใครไปเป็นเพื่อน มีคุณไปด้วยกันก็ช่างดีจริงๆ!” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้นแผ่วเบา
“อืม คุณพักอยู่แถวไหนครับ” เจียหยวนฮวาถาม
ซีเหมินจินเหลียนบอกชื่อโรงแรมกับเขา เจียหยวนฮวาก็ยิ้มน้อยๆ พร้อมพูดว่า “บังเอิญจังเลยนะ ผมก็พักอยู่ที่นั่นพอดี จริงสิ คุณว่าสินค้าทั้งสองนี้เป็นยังไง”
“เรื่องนี้…” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วเบาบางพร้อมกระซิบพูด “เกรงว่าคงไม่ได้ดีอย่างที่คุณจางท่านนี้คิดไว้”
“ผมก็ไม่ได้ชอบเหมือนกัน” เจียหยวนฮวาส่ายหน้าพูด “ผิวสีดำอีกาก้อนนั้น ถูกคนย้อมแมวมา ส่วนเนื้อหยกเปลือยก้อนนั้นก็ไม่เหมือนที่อื่น เกรงว่า…” พูดจบเขาก็เงียบปากลง
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มแย้ม เจียหยวนฮวาราชาแห่งนักเดิมพันหยก ฉายานี้เขาก็ไม่ได้ซื้อมาจริงๆ เธออาศัยพลังในการมองทะลุผ่านถึงดูออกว่าหินหยกก้อนนี้มีคนย้อมแมว แต่เขาดูจากเนื้อแท้ของหิน