ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 24 สัญญาต่อฟ้าว่าจะไม่รังแกเธอ
จ่านป๋ายเคาะนิ้วเรียวยาวของเขาไปที่โต๊ะน้ำชา “ขอแค่ผู้เฒ่าหลินจากไป สงครามภายในของตระกูลหลินก็จะเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นเมื่อใจคนไม่คงที่ ตอนที่เราอยากจะซื้อหุ้น ก็คงจะขายออกมาง่ายๆ พวกเราไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ดูสถานการณ์ไปก็พอครับ”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินดังนั้นจึงส่ายหัวออกมา “ดูจากคุณปู่หลินตอนนี้ร่างกายยังแข็งแรงดี คงจะไม่จากไปเร็วหรอก อยู่อีกสักสามปีห้าปีก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร” หรือพวกเขารอเวลานานขนาดนั้นไม่ได้? จากที่เธอเข้าใจจ่านป๋ายและฉินเฮ่า สองคนนี้คงไม่มีความอดทนรอนานถึงสามปีห้าปีแน่…
ไม่สิ ถ้าหากว่าเป็นเธอ เธอก็ไม่มีความอดทนรอนานขนาดนั้น ชีวิตคนเราสั้นแค่นิดเดียว จะรอไปถึงสามปีห้าปีเพื่ออะไร?
“ไม่ต้องรอนานขนาดนั้นหรอกครับ” จ่านป๋ายยิ้มนิ่ง
ฉินเฮ่าได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ซีเหมินจินเหลียนลองคิดดู ในใจก็เกิดความรู้สึกตกใจขึ้นมา การซื้อหุ้นบริษัทตระกูลหลิน เธอก็รับข้อนี้ได้ถ้ามาด้วยวิธีที่ถูกกฎหมาย แต่ถ้าใช้วิธีไม่ถูกกฎหมายและแลกมาด้วยคราบเลือดแล้วละก็ เธอไม่ขอรับฟังและยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งนั้น
“พวกคุณคิดจะทำอะไร?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างสีหน้าวิตกกังวล
“จินเหลียน คุณวางใจได้ครับ พวกเราไม่ทำอะไรทั้งนั้น” จ่านป๋ายรีบพูดปลอบใจเธอ เขาไม่ต้องทำอะไรจริงๆ เรื่องบางเรื่องขอแค่อดทนเฝ้ารอสถานการณ์อย่างเงียบๆ ก็พอแล้ว
“พวกคุณทำอะไรกันแน่” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“คุณปู่หลินอายุปูนนี้แล้ว” ฉินเฮ่ายิ้มออกมา “เขาคงต้านรับการถูกโจมตีครั้งนี้ไม่ไหวหรอกครับ”
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่คะ?” ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินเป็นเพียงบทนำของเรื่องเท่านั้น
“ผมได้ยินมาว่า หวังเซียงฉินท้องแล้วครับ” ฉินเฮ่ายิ้มออกมา
“อะไรนะ?” ซีเหมินจินเหลียนครุ่นคิด การที่หวังเซียงฉินท้อง สำหรับคุณปู่หลินแล้วคงจะเป็นของขวัญล้ำค่าที่ได้มาจากฟากฟ้า…
“เรื่องอะไรที่คุณไม่รู้ คุณปู่หลินก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าตัวของหลินเจิ้งนั้นรู้ดีว่าลูกในท้องของหวังเซียงฉินไม่ใช่ลูกของหลินเจิ้ง” ฉินเฮ่าเผยยิ้มขึ้นมาอีกรอบ
“คุณรู้ได้ยังไง” ซีเหมินจินเหลียนมองเขาด้วยสีหน้าสงสัย หรือว่าเขาเป็นคนทำให้หวังเซียงฉินท้อง ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้ เขาจะรู้มาได้จากที่ไหน?
“ในเมื่ออยากจะซื้อหุ้นของตระกูลหลิน ผมก็ต้องทำอะไรสักหน่อย ใช้เงินนิดหน่อยเท่านั้นเอง” ฉินเฮ่าพูดขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี จ่านป๋ายเลยขมวดคิ้วพูดว่า “ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ยังไงผู้เฒ่าหลินก็ต้องบังคับให้หลินเสวียนหลานแต่งงานกับลู่เฟยอวี๋…”
“เรื่องแบบนี้ ก็ต้องดูว่าคุณชายหลินจะจัดการยังไง” ฉินเฮ่าส่ายหัวเบาๆ ถ้าหากหลินเสวียนหลานอยากจะได้อำนาจของผู้เฒ่าหลินมาครอบครอง เขาก็ต้องยินยอมแต่งงานกับลู่เฟยอวี๋ การทำแบบนี้จะทำให้บริษัทตระกูลหลินหลุดพ้นจากวิกฤตได้ในตอนนี้ แต่ว่าตระกูลลู่จะยอมอดยากปากแห้งเหรอ?
ธุรกิจสายอัญมณี ได้กำไรมหาศาล ใครๆ ก็อยากจะมีส่วนร่วมอยากได้ผลประโยชน์
ไม่มีเพื่อนแท้ตลอดไป มีเพียงแต่ผลประโยชน์ตลอดกาล ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ก็มีแค่ใช้ผลประโยชน์กับถูกใช้ผลประโยชน์…
“จินเหลียน คุณมีเพื่อนที่ชื่อจินอ้ายกั๋วหรือเปล่าครับ” ฉินเฮ่าถาม
สีหน้าของจ่านป๋ายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ส่วนซีเหมินจินเหลียนก็มีท่าทีที่ผิดสังเกต จู่ๆ ทำไมฉินเฮ่าถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาได้?
“ผมรู้ว่า น้องสาวของเขากับคุณเป็นเพื่อนสมัยมหาลัย ความสัมพันธ์ของพวกคุณดีมาตลอดไม่ใช่หรือ?” ฉินเฮ่าพูด ครั้งแรกที่เขาเจอซีเหมินจินเหลียน เธอก็อยู่กับหญิงสาวที่กำลังกินไอศกรีม ภายหลังเขาถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือน้องสาวของจินอ้ายกั๋วชื่อว่าจินอ้ายหัว…
“ใช่แล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด “พี่ฉิน ถามถึงเรื่องนี้ทำไมคะ?”
“ให้จินอ้ายกั๋วช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ”
“คะ?” ใบหน้าของซีเหมินจินเหลียนเต็มไปด้วยอาการสงสัย เธอรู้ว่าฝีมือทางการแพทย์ของจินอ้ายกั๋วนั้นไม่ธรรมดา แต่ว่าฉินเฮ่ามีเงินตั้งมากมาย ถ้าหากป่วยก็ควรจะไปรักษาที่โรงพยาบาลเครือใหญ่สิ ไม่น่าจะมาโรงพยาบาลเล็กๆ แบบนี้ หรือว่าเขาจะเป็นโรคอะไรที่ไม่กล้าพูดออกมา?
“จินอ้ายกั๋วคนนั้น ไม่เพียงแต่ฝีมือทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่เขายังเป็นนักพนันชั้นหนึ่ง!” ฉินเฮ่ายิ้มออกมา คนที่ชอบการพนันไม่แบ่งแยกฐานะรวยจนหรอก
“ความหมายของคุณคือ?” จ่านป๋ายขมวดคิ้วขึ้นนิดหน่อย
“จ่านมู่หรง สำหรับคุณแล้ว การวางแผนเรื่องแค่นี้ คงไม่ยากหรอกนะ?” ฉินเฮ่าพูด
“จัดการกับหลินเจิ้ง เป็นเรื่องที่ง่ายมาก!” เส้นผมยาวของเขาลงมาปรกดวงตาของเขาพอดี บดบังสายตาพิฆาตที่วาบประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ถ้าอย่างนั้น เรื่องที่เหลือทั้งหมดก็ไม่น่ามีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว!” ฉินเฮ่ายิ้มออกมา ขอแค่จ่านป๋ายตอบตกลงในการเดิมพันครั้งนี้ เรื่องที่เหลือก็ตกอยู่ในกำมือของเขา เขารู้ว่าการปรากฏตัวของซีเหมินจินเหลียน ทำให้ชะตาชีวิตของเขามาถึงจุดเปลี่ยน เขาจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาจะต้องไม่ใช่คนทั่วไป
ซีเหมินจินเหลียนคิ้วขมวดขึ้นมาไม่คลาย เรื่องบางเรื่องมักจะไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลย หรือว่าเธอเกี่ยวข้องกับพวกคนรวยที่ชอบซ่อนสิ่งสกปรกๆ ไว้ในตัวอยู่?
“จินเหลียน กำไลที่อยู่บนข้อมือของคุณสวยมากเลยครับ” สายตาของฉินเฮ่าตกไปอยู่ที่ข้อมือที่สวมใส่กำไลประกายดาว หยกมรกตสีเขียวที่แสนสดใส เคียงคู่กับแสงดาวระยิบระยับ ทำให้สายตาเปล่งประกายขึ้นมา
ตั้งแต่เกิดมา เขาก็ไม่เคยเห็นหยกที่สามารถส่องแสงได้ราวกับดวงดาวเช่นนี้ เธอมักจะทำให้คนอื่นๆ ตื่นตาตื่นใจได้เสมอ…
“นี่คือประกายดาวค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด “สวยใช่ไหมล่ะคะ?” ระหว่างที่พูดนั้นเธอก็ยกข้อมือขึ้นมายื่นไปให้ฉินเฮ่าถึงข้างหน้า
“หยกที่สามารถส่องประกายได้หรือครับ?” ฉินเฮ่าดูอย่างละเอียดแล้วจึงถามออกไป “นี่คือ…อะไรกันแน่?”
ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า เธอและจ่านป๋ายศึกษามาทั้งวัน แต่ก็ไม่สามารถหาค้นตอบของมันได้อย่างชัดเจนว่าคืออะไร ฉินเฮ่าพูดเตือนสติเธออย่างเป็นห่วงว่า “จินเหลียน ของบางอย่างที่ใส่รังสีก็สามารถส่องประกายได้ มันจะไม่ส่งผลดีต่อร่างกายนะครับ”
“นี่ไม่ใช่รังสี!” จ่านป๋ายพูดอย่างมั่นใจ “นี่น่าจะจัดอยู่ในหมวดแหล่งกำเนิดแสงเย็นที่พวกเรายังไม่รู้จัก…”
“แหล่งกำเนิดแสงเย็นที่ทุกคนกำลังพูดถึงกัน?” สายตาของฉินเฮ่าเพ่งมองไปที่กำไลหยกที่ข้อมือของเธออีกครั้ง ประกายดาวนี้เป็นชนิดเดียวกับแสงของดาวที่อยู่บนท้องฟ้า…
ถ้าหากกำไลข้อมือหยกที่เธอใส่อยู่นี้เป็นแหล่งกำเนิดแสงเย็นจริงๆ ถ้าอย่างนั้นมูลค่าของมัน ก็แทบจะมหาศาล…
ฉินเฮ่าแทบที่จะยับยั้งหัวใจของตัวเองไม่ได้ เธอ…ไม่ใช่คนธรรมดา เบื้องบนต้องรักใคร่เมตตาเธอขนาดไหนกันถึงขนาดส่งของขวัญที่ล้ำค่ามาให้เธออย่างง่ายดาย
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เช่นนั้นผมก็ขอตัวกลับก่อนแล้ว จ่านมู่หรง หากคุณวางแผนเสร็จแล้วบอกผมด้วยนะ” ฉินเฮ่าลุกขึ้นมาแล้วส่งสายตาหันไปมองจ่านป๋าย
ซีเหมินจินเหลียนเห็นแล้วเข้าใจดี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงบอกให้จ่านป๋ายเดินไปส่งเขาเท่านั้น เรื่องบางเรื่อง ในเมื่อเธอไม่สามารถขัดขวางได้ ไม่สามารถทำอะไรได้ เช่นนั้นก็ทำได้เพียงแต่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง! จิตใจสงบจดจ่อกับการเล่นหวยหยกของเธอก็พอแล้ว…
จ่านป๋ายส่งฉินเฮ่าที่หน้าประตู ความรู้สึกของเขารู้ว่าซีเหมินจินเหลียนยังอยู่ที่ห้องรับแขกไม่ไปไหน จึงพิงกับกำแพงประตูถามเขาว่า “ฉินเฮ่า คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ คุณน่าจะรู้ว่าจินเหลียนไม่ชอบใช้วิธีการแบบนี้”
“วิธีแบบนี้เร็วที่สุด และได้ผลที่สุด!” ภายใต้รอยยิ้มของฉินเฮ่าแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และชั่วร้าย
“ใช่! ผมยอมรับว่าวิธีนี้เร็วที่สุดและได้ผลมากที่สุด แต่ผมอยากจะรู้ว่าเรื่องนี้คุณก็สามารถปิดบังเธอได้ แต่ทำไมคุณถึงอยากจะพูดต่อหน้าเธออยู่ได้” จ่านป๋ายถามด้วยน้ำเสียงโมโห
“คุณน่าจะรู้ว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ตระกูลหลินกำลังทำอะไร” ฉินเฮ่าพูดต่อ “คุณจะปกป้องเธอไปถึงเมื่อไหร่กัน คุณอาจจะคุ้มกันเธอได้แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือคุณคิดจะคุ้มกันเธอไปตลอดชีวิตอย่างนั้นเหรอ? คุณบอกผมมาสิว่าช่วงที่ผ่านมาที่ตระกูลหลินส่งพรรคพวกมาทำร้าย คุณก็จัดการไปกี่กลุ่มแล้ว? การคิดจะทำการใหญ่ แต่ไม่มีความคิดที่อันตรายอยู่ในหัว สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่ดี”
จ่านป๋ายไม่ได้พูดอะไรออกมา ฉินเฮ่าเลยพูดต่อว่า “ในเมื่อคุณอยากจะเป็นคนดี ถ้าอย่างนั้นผมจะเป็นคนเลวให้เอง!”
“โอเคๆ ผมเบื่อจะถกเถียงกับคุณแล้ว” จ่านป๋ายพยักหน้า “เรื่องของตระกูลฉิน ทำไมคุณถึงดึงเธอไปเกี่ยวข้องด้วย คุณคิดจะทำอะไร?”
“ทำไมคุณถึงใส่ใจเธอขนาดนี้ล่ะ” ฉินเฮ่ายิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “เพราะว่าเธอเคยช่วยชีวิตคุณไว้อย่างนั้นเหรอ?”
จ่านป๋ายไม่มีอะไรจะพูดอีก ในเมื่อเขากล้าพูดถึงเรื่องจินอ้ายกั๋ว เขาก็น่าจะรู้ความสัมพันธ์ของตนกับซีเหมินจินเหลียน เรื่องนี้ปิดบังอะไรไม่ได้
“ในเมื่อคุณใส่ใจเธอแบบนี้ อีกทั้งกำลังว่างอยู่…” ฉินเฮ่าพูด
“เดี๋ยวก่อน…” จ่านป๋ายสูดลมหายใจลึกๆ ด้วยอารมณ์ดุดัน “คุณต้องการให้ผมช่วยคุณจัดการกับฉินซิน?”
“ต้องมีสักวัน ที่ผมจะทำให้ฉินซินมาก้มลงแทบเท้าแล้วขอร้องผมด้วยตัวเอง คุณไม่จำเป็นต้องช่วยผม ผมแค่ต้องการให้คุณช่วยอีกเรื่องหนึ่ง”
“ว่ามา!” จ่านป๋ายไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธ เขาลากซีเหมินจินเหลียนเข้ามา นี่เป็นความรับผิดชอบชั่วชีวิตของเขา
“ฉินซวี่!” รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยรังสีแห่งความชั่วร้าย ทั้งๆ ที่ปกติกลับดูสุภาพอ่อนโยน
“คุณน่าจะรู้ว่าถ้าไม่มีข้อแลกเปลี่ยนผมก็ไม่ทำ!” ครั้งนี้จ่านป๋ายก็เสนอตัวให้เขารังแกแล้ว?
“คุณต้องการอะไร”
“ถ้าผมช่วยคุณในครั้งนี้ จากนี้ต่อไปคุณห้ามมายุ่งกับซีเหมินจินเหลียนอีก” จ่านป๋ายยังพูดต่ออีกว่า “เธอกับคุณอยู่ด้วยกัน มันก็อันตรายเกินไป คุณน่ากลัวกว่าฉินซินเป็นหลายเท่า”
“คนอย่างฉินเฮ่า ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่เคยตั้งใจทำอะไรเท่าครั้งนี้มาก่อน ความพยายามทั้งหมดของผมก็เพื่อเธอ ให้ผมปล่อยเธอไป นั่นก็เป็นไปไม่ได้” ฉินเฮ่าพูดต่อ “ผมให้คำสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเธอ เพราะฉะนั้นคำขอร้องของคุณ ผมไม่อาจยอมรับได้ คุณไม่ทำ ผมก็สามารถหาคนอื่นมาทำแทนได้”
“ทะเลาะกับครอบครัวเพื่อเพื่อนสาวคนสนิท?” จ่านป๋ายยิ้มแล้วพูดต่อ “ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นผมขอเปลี่ยนขอต่อรอง ผมขอหุ้นห้าเปอร์เซ็นของตระกูลฉิน เมื่อทำสำเร็จ!”
“ตกลง!” ฉินเฮ่าเหมือนไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไร รีบตอบตกลง
“แต่ขอให้คุณจำคำพูดของคุณวันนี้เอาไว้ ไม่อย่างนั้น…” จ่านป๋ายยังพูดไม่ทันจบ
ฉินเฮ่าหันหลังกลับไปแล้วเดินออกไปข้างนอก ไม่พูดไม่จาสักคำ เขาจะประสบความสำเร็จ ไม่มีใครมาห้ามเขาได้
จ่านป๋ายยืนพิงกำแพงบ้านข้างหน้าบ้าน ความคิดฟุ้งซ่านไปหมด…บางทีเรื่องบางเรื่อง เขาอาจจะทำผิดไปจริงๆ ระหว่างที่เหม่อลอยอยู่นั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมา เมื่อหยิบออกมาดูก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ซีเหมินจินเหลียน? เขายืนอยู่หน้าประตู เธอกลับโทรมาหาเขาเพื่ออะไร?