พันธกานต์ปราณอัคคี - ตอนที่ 645 ฟ้าดินมีรักแท้
“พวกเจ้า หลบไม่พ้นหรอก!” เจ้าปีศาจลั่วเฟิงพูดเน้นทีละคำ เสียงเบามาก แต่กลับหนักดุจค้อนพันชั่งทุบเข้าที่หัวใจของเยี่ยเทียนหยวน
“เช่นนั้นก็ลองดูสักหน่อยเถิด” เยี่ยเทียนหยวนเม้มริมฝีปากบางแน่น พลันยกมือขึ้นฟาดใส่หน้าอกตนเองอย่างแรง
เสียง พรวด ดังขึ้นคราหนึ่ง โลหิตคำหนึ่งพ่นออกจากปาก สาดใส่ม่านกั้นชั้นสุดท้าย
ม่านกั้นซึ่งเดิมทีมีรอยร้าวปรากฏ ถูกย้อมเป็นสีโลหิตในพริบตา รอยร้าวเหล่านั้นพลันจางหายไป ผนังแสงคืนสภาพดังเดิม
เจ้าปีศาจลั่วเฟิงหัวเราะเย็นชาออกมา “นึกว่าทำเช่นนี้แล้ว จะได้ผลหรือ วันนี้ให้เจ้าได้เปิดหูเปิดตาหน่อยก็แล้วกันว่า อะไรคือผู้บำเพ็ญเพียรระดับถอดดวงจิตที่แท้จริง!”
สิ้นเสียง มือเรียวยาวขาวเนียนทั้งสองข้างนั่นดูเหมือนค่อยๆ วาดไปมากลางอากาศ ชักนำให้เกิดเงามือพันชั้น
เงามือพันชั้น…จู่โจมใส่ผนังแสงสีโลหิต
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…
เสียง กรอบแกรบ ของผนังแสงซึ่งเกิดจากการฟาดของเงามือดังสะท้อนไปมารอบทิศไม่หยุด
โลหิตสดๆ ไหลคดเคี้ยวออกจากมุมปากของเยี่ยเทียนหยวน
สีหน้าของเขาขาวกว่าหิมะ แต่ความแน่วแน่ในดวงตากลับไม่ลดลงแต่อย่างใด
ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะยืนขวางอยู่ตรงหน้าศิษย์น้อง!
“ลั่วหยางเจินจวิน…” เสียงกระวนกระวายใจของอีกาไฟดังมาจากด้านหลัง
“อู๋เย่ว์…” เยี่ยเทียนหยวนยืดตัวให้ตรง “รอจนเคราะห์อัสนีแปลงกายผ่านพ้น เจ้ารีบพามั่วชิงเฉินไป…”
อีกาไฟมองดูมั่วชิงเฉินที่กำลังต้านทานเคราะห์อัสนี แล้วหันมองเยี่ยเทียนหยวนที่โลหิตเริ่มไหลออกจาก ตา หู จมูก ปาก ดวงตาเล็กๆ ของมันค่อยๆ มีไอปรปักษ์ปกคลุมขณะจ้องมองเจ้าปีศาจลั่วเฟิงเขม็ง
เจ้าปีศาจลั่วเฟิงหัวเราะเยาะ “ทำไม ร้อนใจละสิ วางใจ รอให้ข้าจัดการพวกมันทั้งสองเสร็จ อีกไม่ช้าก็ถึงคราวเจ้าแล้ว ครั้งนี้ ข้าจะไม่ปล่อยแม้แต่คนเดียว!”
อีกาไฟเหินบินขึ้นมา
เยี่ยเทียนหยวนโบกมือ วิญญาณอัคคีพุ่งเข้าสกัดกั้นตรงหน้าอีกาไฟ
“ลั่วหยางเจินจวิน!” อีกาไฟตะโกนอย่างเดือดดาล
เยี่ยเทียนหยวนปล่อยวิญญาณอัคคีออกมาอย่างยากลำบาก ตอนนี้จึงไม่กล้าเคลื่อนไหวอีก กัดริมฝีปาก แล้วว่า “อู๋เย่ว์ ลั่วหยาง…ลั่วหยางขอร้องเจ้า…”
อีกาไฟร้อนรนจนอยากพุ่งชนกำแพง
พอไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากอีกาไฟ ร่างเยี่ยเทียนหยวนก็ซวนเซ พูดพลางหอบหายใจ “อู๋เย่ว์…เจ้าต้อง ต้องจำเอาไว้ว่า พาชิงเฉินไป ไม่เช่นนั้น…ลั่วหยางตายตาไม่หลับ…”
ขณะมองร่างที่โงนเงนเหมือนจะล้มของเยี่ยเทียนหยวน อีกาไฟก็ทนไม่ไหว ร้องไห้แล้ว “ได้ ได้ ข้ารับปากท่าน ขอเพียงเคราะห์อัสนีแปลงกายผ่านพ้น ข้าจะรีบพานายท่านไป…ลั่วหยางเจินจวิน ท่านวางใจ…”
พูดจบก็บินดุจธนูหลุดออกจากแหล่งไปอยู่ข้างกายมั่วชิงเฉิน
ตอนนี้เงามือชั้นสุดท้ายตกลงบนผนังแสง หนักร่วมหมื่นชั่ง
ผนังแสงส่งเสียงดัง ปัง แหลกละเอียด
ดาบยาวที่มีเปลวไฟสีม่วงเผาไหม้เล่มหนึ่งพลันปรากฏ แทงเข้าใส่เจ้าปีศาจลั่วเฟิงตรงๆ
“ความแกร่งที่ถดถอย!” เจ้าปีศาจลั่วเฟิงยิ้มเย็นชา ก่อนทะยานร่างขึ้น
ดาบยาวสีม่วงดีดตัวขึ้นทันที กลายเป็นมังกรพิโรธสีม่วงตัวหนึ่ง พุ่งเข้าใส่เจ้าปีศาจลั่วเฟิง
รักแท้ตัดสะบั้น!
เจ้าปีศาจถอยหลังไปหลายจั้ง สะบัดแขนเสื้อ วงแหวนลมสีเขียวอ่อนปรากฏวงแล้ววงเล่าล้อมรอบด้วยพลังลมปราณหันไปทางมังกรพิโรธสีม่วง
มังกรพิโรธกับวงแหวนลมยันกันอยู่นาน ราวหนึ่งเค่อเต็มๆ ก่อนที่มังกรพิโรธจะเริ่มสลายตัวจากส่วนหัว เยี่ยเทียนหยวนพ่นโลหิตออกมาคำหนึ่ง แล้วล้มตึง
“ฮ่าๆๆ…” เจ้าปีศาจหัวเราะยาว ก่อนประกบปลายนิ้วเข้าหากันเบาๆ วงแหวนลมพุ่งเข้าหาเยี่ยเทียนหยวนต่อ ส่วนตัวเขา ก้าวยาวๆ เข้าหามั่วชิงเฉิน
มั่วชิงเฉินรู้สึกได้ จึงลืมตาขึ้นทันที เห็นเยี่ยเทียนหยวนกระอักโลหิตล้มลงพอดี พลันรู้สึกเหมือนถูกลูกธนูหมื่นดอกแทงทะลุหัวใจ ร้องเรียกศิษย์พี่เสียงดัง
สายฟ้าฟาดผ่าลงมาในเวลาเดียวกับที่ใจเจ็บปวด จึงกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่งเช่นเดียวกัน
เยี่ยเทียนหยวนขยับเปลือกตาขณะนอนอยู่บนพื้น พยายามลืมตาขึ้นมามองมั่วชิงเฉิน แล้วตลอดทั้งร่างก็พลันไม่มีความรู้สึกใดๆ
เจ้าปีศาจชะงักฝีเท้า หันควับ เห็นวิญญาณอัคคีกลางอากาศพุ่งเข้าสู่ร่างเยี่ยเทียนหยวนอย่างรวดเร็วปานดาวตก
ทั้งๆ ที่เยี่ยเทียนหยวนเลือดออกเจ็ดทวาร ร่างกายบาดเจ็บสาหัส แต่กลับเหมือนคนที่นั่งขึ้นมาโดยไม่เป็นอะไรเลย ตามด้วยการเหาะขึ้นฟ้า ร่างพลันเผาไหม้ขึ้นมา
ถึงคราววงแหวนลมตรงหน้าพลันถูกเปลวไฟบีบให้ถอยแล้ว
เจ้าปีศาจตกใจเป็นอย่างยิ่ง ครุ่นคิดสักพัก ค่อยยกมือขึ้นอย่างไม่ลังเลใจ ทำการโจมตีอย่างดุเดือด
เยี่ยเทียนหยวนถูกเปลวไฟสีม่วงห่อตัวไว้ปิดตาครึ่งหนึ่ง คล้ายมองไม่เห็นการโจมตีของเจ้าปีศาจ ประกบมือเข้าด้วยกัน
ในตอนนี้เอง วิญญาณอัคคีก็พุ่งออกจากกระหม่อมของเขาขึ้นสู่ท้องฟ้า ไปยังที่สูงอย่างรวดเร็วดุจดาวตก
เมฆดำที่หนาและหนักถูกมังกรไฟชนทะลุ พริบตาเดียว วิญญาณอัคคีก็พุ่งไปยังแสงแดดแผดจ้าที่อยู่ด้านหลังเมฆดำ
วิญญาณอัคคีกลายเป็นจุดดำจุดหนึ่ง โดยไม่ได้เข้าไปในแสงแดด แสงแดดร้อนแรงพลันสว่างจ้าสุดจะเปรียบ เปล่งแสงสว่างหมื่นสาย
แสงสว่างหมื่นสายพุ่งผ่านมวลหมู่เมฆดำ เคลือบชั้นสีทองหนึ่งชั้นให้เมฆหนาสีดำราวน้ำหมึก จากนั้นทั้งหมดก็คืนกลับสู่กระหม่อมของเยี่ยเทียนหยวน
เสื้อสีเขียวขยับเองโดยไม่มีลม เสียงดังแกรกๆ
ลูกไฟสีแดงม่วงลูกหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าอกเยี่ยเทียนหยวน ก่อนกลิ้งเข้าหาเจ้าปีศาจ
เจ้าปีศาจลั่วเฟิงหน้าถอดสี รีบถอยหนี
แต่ลูกไฟกลับกลิ้งเร็วขึ้นเรื่อยๆ เจ้าปีศาจลั่วเฟิงหนีไม่ทัน จึงได้แต่เอี้ยวตัวหลบ
ได้ยินเสียงดัง ปัง ลูกไฟชนถูกไหล่ซ้ายของเจ้าปีศาจ ส่งเสียงสะเทือนเลือนลั่น
ในแสงเพลิง เยี่ยเทียนหยวนหันมามองมั่วชิงเฉิน ความรักลึกซึ้งในดวงตาเช่นนี้เองที่ทำให้ฟ้าดินสูญเสียสีสันไป
“ศิษย์พี่!” มั่วชิงเฉินสลัดอำนาจสวรรค์ไม่หลุด จึงร้องเสียงดัง
“ศิษย์น้อง ใช้ชีวิตให้ดีๆ นะ…” เยี่ยเทียนหยวนอ้าหุบริมฝีปาก
เขาไม่รู้ว่ามั่วชิงเฉินได้ยินประโยคนี้หรือไม่ และไม่รู้ว่าอิทธิฤทธิ์ที่เพิ่งตระหนักรู้นี้จะทำร้ายเจ้าปีศาจได้มากแค่ไหน เรื่องที่เขาไม่แน่ใจยังมีอีกมากต่อมาก
ถ้า ถ้ายังมีโอกาส เขาจะบอกชิงเฉินว่า ผู้บำเพ็ญเพียรระดับก่อกำเนิดก็สามารถชักนำอำนาจฟ้าดินมาเป็นอิทธิฤทธิ์ได้
และอิทธิฤทธิ์นี้มีชื่อว่า ฟ้าดินมีรัก…
เยี่ยเทียนหยวนล้มลงเงียบๆ ทารกปราณตัวเล็กๆ หลุดออกจากร่าง พุ่งเข้าไปในเปลวไฟสีม่วง
หลังจากเผาไหม้สักพัก เปลวไฟสีม่วงก็ค่อยๆ กลายเป็นดาวดวงเล็กๆ จมเข้าสู่ร่างของเขา
แสงแดดแผดจ้าถูกเมฆดำบดบังในพริบตาอีกครั้ง แล้วสายฟ้าที่ควบแน่นจากพลังอันไร้ขีดจำกัดก็ผ่าลงมาอีก
มั่วชิงเฉินเห็นแล้วก็ใจสลาย กัดริมฝีปากต้านทานสายฟ้าค้างอยู่อย่างนั้น
ศิษย์พี่ ท่านต้องไม่เป็นไร จะเป็นอะไรไม่ได้!
มั่วชิงเฉินไม่กล้าคิดไปไกลกว่านี้ ในสมองว่างเปล่า เพียงให้สัญชาตญาณต้านทานสายฟ้าไว้ ขนาดเจ้าปีศาจลั่วเฟิงกุมไหล่ซ้ายที่บาดเจ็บเดินเข้ามาทีละก้าว ก็ล้วนไม่สนใจ
เจ้าปีศาจลั่วเฟิงจ้องมองมั่วชิงเฉิน ภาพเหตุการณ์ในมิติแปรปรวนเมื่อหลายปีก่อนพลันกะพริบวาบผ่านหน้า
ถ้า ถ้าการบำเพ็ญเพียรของพวกเขาทั้งสองไม่พลิกฟ้าเหนือโชคชะตาขนาดนี้ จะปล่อยไปก็ไม่เป็นไร…
คิดถึงตรงนี้ จิตใจของเจ้าปีศาจลั่วเฟิงก็สั่นไหว ลอบด่าในใจประโยคหนึ่ง
เขาเป็นเจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ เคยใจอ่อนที่ไหนกัน ต้องเป็นจิตของตู้รั่วแน่ที่ทำให้ความคิดจิตใจปั่นป่วน!
คิดได้เช่นนี้ รังสีฆ่าฟันพลันปะทุ จึงยกมือขึ้น ก่อแสงวิญญาณสายหนึ่ง ยิงไปทางมั่วชิงเฉิน
ผู้ที่สามารถสร้างผลกระทบให้เขา ไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกเป็นอันขาด!
ร่างสีดำสายหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า เข้าขวางการจู่โจมของเจ้าปีศาจ
เจ้าปีศาจลั่วเฟิงเลิกคิ้ว มองผู้มาด้วยท่าทีกึ่งยิ้ม “เจ้าก็มาแล้ว เช่นนี้ดีที่สุด ทุ่นแรงข้า…ไปตามหา เมื่อพวกเจ้ารีบเร่งรนหาที่ตาย เช่นนั้นข้าก็จะสนองให้!”
หลัวอวี้เฉิงหน้าซีด หอบหายใจเล็กน้อย เห็นชัดว่ารีบเร่งเดินทางจนเสียพลังไปมาก พอได้ยินคำพูดของเจ้าปีศาจ กระดูกสันหลังก็ตั้งตรง ยิ้มน้อยๆ “หยุดพูดไร้สาระ เข้ามาเลย”