ยอดหญิงอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 276.2 กัดฟันทำ (2)
หวงน้าสี่ดวงตากลอกกลิ้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “เจ้ารอง อย่างไรเสียพวกเราก็ครอบครัวเดียวกัน มีเรื่องใดก็อย่าได้ปิดบังพวกเราเลย ท่านแม่เป็นคนมาหาเอง ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่ในบ้านเราอีก พวกเจ้าสองคนหากมีปัญหาคาใจใด ท่านแม่ก็สามารถไกล่เกลี่ยให้ได้”
อวิ๋นเสวียนฉั่งเห็นสะใภ้ใหญ่ใส่สีตีไข่อยู่ด้านข้าง จะซักจนถึงต้นตอให้ได้ ก็โมโหขึ้นมาเล็กน้อย น้ำเสียงกลับพยายามเกรงอกเกรงใจที่สุด “พี่สะใภ้ใหญ่เป็นห่วงเกินไปแล้ว ไม่มีอันใดจริงๆ”
เพิ่งจะเอ่ยขึ้น ก็มีเสียงล้มลง ทำเอาทั้งสามตกใจหันไปมอง
ไป๋เสวี่ยฮุ่ยที่เดิมทีเป็นคนมีครรภ์ เพิ่งจะโดนบีบโดนตบไป ยามนี้รับมือกับแม่สามีและพี่สะใภ้ด้วยกันกับสามีอย่างตื่นตระหนก ไหนเลยจะทนรับความทรมานนี้ไหว จู่ๆ เบื้องหน้าก็มืดมิด รอให้แม่สามีกับพี่สะใภ้จากไปก่อนไม่ไหว ล้มลงกับพื้นทันใด
ถงฮูหยินตกใจยกใหญ่ ไม่รอให้เจ้ารองมีปฏิกิริยาขึ้นก็เข้าไปดูแล้ว นางมือไวเลิกชุดคุลมตัวนอกหนาเตอะของไป๋เสวี่ยฮุ่ยขึ้น
ไป๋เสวี่ยฮุ่ยมือไม้แข้งขาอ่อนแรง ไร้กำลัง ไหนเลยจะห้ามทัน
พอเลิกขึ้น ถงฮูหยินกับหวงน้าสี่ก็ร้องตกใจกันขึ้น เห็นไป๋เสวี่ยฮุ่ยท้องโตเหมือนเนินเขา อย่างน้อยๆ ต้องมีสี่ห้าเดือนได้แล้ว
อวิ๋นเสวียนฉั่งปิดบังไว้ไม่ได้ก็แอบกระทืบเท้า จำต้องกัดฟันทำต่อ
“เจ้ารอง นี่…มีครรภ์รึ!” ถงฮูหยินตัวสั่น ชี้ไปที่ท้องของสะใภ้รอง “ท้องไส้เรื่องใหญ่เช่นนี้ เหตุใดจึงปิดบังซ่อนไว้!”
หากพูดความจริงไป เกรงว่าท่านแม่ได้โมโหขึ้นมาตรงนี้แน่ ยิ่งไปกว่านั้นข้างๆ นี่ยังมีสะใภ้ใหญ่อยู่ด้วยอีก อวิ๋นเสวียนฉั่งทนขายหน้าที่โดนสวมหมวกเขียวไม่ได้ ในเมื่อแรกเริ่มก็ตัดสินใจปิดบังเอาไว้มิดชิดแล้ว ยามนี้ก็ได้เตรียมการไว้แต่แรกแล้วเช่นกัน เขากัดฟันเอ่ยว่า “เพิ่งจะมาพักได้ไม่กี่วันนี้เอง จึงไม่ทันได้บอกท่านแม่ ไม่ได้จงใจจะปิดบังไว้ แค่มีสตรีมีครรภ์เพิ่มมาคนหนึ่ง บ้านก็ต้องยุ่งยากกันแน่ กลัวว่าจะมีคนเพิ่มขึ้นมาในบ้านอีก พี่ใหญ่พี่สะใภ้จะกลัดกลุ้ม จึงไม่ได้บอกให้ไวกว่านี้”
ถงฮูหยินปรีดายิ่ง ไม่ได้สงสัยอะไรมากอีก นางประคองแม่นางไป๋ขึ้นมาให้นั่งบนเตียง เอาเบาะนุ่มรองหลังเอวนางไว้ เอ่ยว่า “เจ้าเป็นคนเดียวในบ้านเราที่เคยร่ำเรียน แล้วนี่เจ้าพูดอันใดน่ะ!” สีหน้ามีความยินดีเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สายตาที่มองไป๋เสวี่ยฮุ่ยก็อ่อนโยนขึ้นมามาก ความไม่ชอบใจแต่เก่าก่อนกระทั่งความเคียดแค้นล้วนลดลงไปกว่าครึ่ง นางเอ่ยถามอายุครรภ์และการกินอยู่ในยามนี้ขึ้นมา
เดิมทีไป๋เสวี่ยฮุ่ยก็วิตกอยู่แล้ว เห็นสายตาอวิ๋นเสวียนฉั่งที่ส่งมาก็จำต้องรับคำไป
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป งานบ้านงานเรือนกับงานไร่นาเจ้าก็อย่าทำอีกเลย” ถงฮูหยินเอ่ยสั่งเด็ดขาด สายตาตกลงบนหน้าท้องของสะใภ้รองอีกครั้ง แย้มยิ้มเต็มแก้ม “ข้าดวงตาแหลมคมนัก ตอนสะใภ้ใหญ่ท้องลูกชาย ก็เป็นข้าที่ดูออก ดูท้องเจ้าแหลมเช่นนี้ ไหนจะหน้าตาเจ้าตอนนี้ ท้องนี้เป็นผู้ชายแน่นอน”
อวิ๋นเสวียนฉั่งเคียดแค้นจนรูจมูกขยายใหญ่ขึ้น หมัดกำแน่น แต่เห็นมารดาหันหน้ามาหา “เจ้ารอง เจ้าโมโหอันใดกับเมียตั้งท้อง เรื่องลงมือลงไม้ในวันนี้หากข้าเห็นอีก ข้าจะเรียกเจ้ามาถาม ระยะนี้ต้องดูแลวสะใภ้รองให้ดี เข้าใจหรือไม่ ก่อนหน้านี้สะใภ้รองแท้งลูกไปครั้งหนึ่งแล้ว ครานี้ต้องจับตาดูให้ข้าดีๆ หากเสียหลานชายสกุลอวิ๋นของข้าไปอีก ข้าจะมีหน้าไปบอกท่านปู่อย่างไร”
สำหรับด้านการสืบสกุลนั้น ถงฮูหยินชัดเจนแจ่มแจ้งดี แทบจะสำคัญกว่าชีวิต โดยเฉพาะบ้านเจ้ารองที่เดิมทีก็มีทายาทน้อยนิดอยู่แล้ว จากสุขภาพร่างกายของเจ้ารอง เกรงว่าภายหน้าจะมีลูกยากแล้ว ยามนี้จึงยิ่งเห็นครรภ์ไป๋เสวี่ยฮุ่ยล้ำค่าดั่งทอง ดังนั้นน้ำเสียงที่สั่งกำชับลูกชายจึงไม่ได้ล้อเล่น
อวิ๋นเสวียนฉั่งราวกับว่าลูกกระเดือกคาคอ จำต้องปล่อยเลยตามเลย รับคำอย่างขอไปที
ถงฮูหยินเห็นเขาขานรับเสียงเบาเหมือนยุง ก็คิดว่าชายชาตรีอย่างเขาจะดูแลสตรีมีครรภ์ได้อย่างไร ยามนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน ลูกชายคนนี้กลับบ้านเกิดมารักษาตัว กระทั่งคนใช้ข้างกายยังไม่มีสักคน แม่นางไป๋ผู้นี้เดิมทีก็เป็นคนไม่ละเอียดอ่อน คราก่อนก็แท้งไปแบบไม่รู้อีโหน่อีแหน่ เกิดแท้งขึ้นมาอีก ไม่สู้ให้ตนขาดใจตายดีกว่า นางคิดไปคิดมาก็ไม่ค่อยวางใจ เอ่ยขึ้นอีกว่า “ไม่ได้ ไม่กี่เดือนนี้ ข้าย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านพวกเจ้าแล้วดูแลด้วยตัวเองดีกว่า”
อวิ๋นเสวียนฉั่งตระหนกขึ้นมา “ได้อย่างไรกันเล่า ไหนเลยจะต้องรบกวนท่านแม่ที่เป็นแม่สามีมาดูแลสะใภ้”
“จะเป็นอันใดไป” ถงฮูหยินเลิกคิ้ว “ตอนพี่สะใภ้เจ้าท้องเม่าเกอร์อ้วกไปสามเดือน กระทั่งเตียงยังลงไม่ได้ ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้ว เจ้าคิดว่าพี่ใหญ่เจ้ามีปัญญาดูแลรึ หากไม่ได้ข้าที่เป็นแม่สามีคอยดูแล ไหนเลยจะเลี้ยงเม่าเกอร์เด็กอ้วนท้วมคนนี้ได้”
อวิ๋นเสวียนฉั่งเดิมทีคิดจะรับมือกับมารดาและพี่สะใภ้ก่อน ค่อยกลับไปแอบจัดการมารหัวขนในท้องแม่นางไป๋ แต่มาแบบนี้ ตนไหนเลยจะยังลงมือได้ ดูท่าทางปลาบปลื้มยินดีของท่านแม่ หากมารหัวขนไม่มีแล้ว เกรงว่าจะได้รับความสะเทือนใจหนัก เขาจำต้องกล้ำกลืนฝืนทนไม่ให้รู้ ยอมตกลงไปก่อนชั่วคราว ภายหน้าค่อยหาวิธีใหม่
ไป๋เสวี่ยฮุ่ยเห็นทุกคนในบ้านเห็นเด็กในท้องตนเป็นทายาทสกุลอวิ๋น แม้จะตกใจอยู่บ้าง แต่ก็รู้ดี นายท่านต้องไม่กล้าเปิดโปงความจริงแน่ ขอแค่มีแม่สามีคอยปกป้องอยู่ ตนก็จะไม่ต้องกินยาทำลายครรภ์อันน่ากลัวนั่นแล้ว อารมณ์จึงผ่อนคลายลง สีหน้าก็ปรากฏความยินดี
ถงฮูหยินช่วยไป๋เสวี่ยฮุ่ยถอดเสื้อผ้าหนาเตอะออก แล้วเอ่ยว่า “เจ้ารอง หมู่นี้พวกเจ้าสองสามีภรรยาก็คงร่วมนอนห้องเดียวกันไม่สะดวกแล้ว เสวี่ยฮุ่ยย้ายไปห้องด้านข้าง ข้าอยู่ห้องติดกับเจ้าก็พอ” แล้วสั่งหวงน้าสี่ว่า “ซื่อกู เจ้าไปเอาที่หลับที่นอนหมอนมุ้งและเสื้อผ้าของข้ามาไป จริงสิ บอกเจ้าใหญ่ว่าพรุ่งนี้ตอนเขาไปในเมืองให้เขาไปร้านเหยียนจี้เอายาบำรุงครรภ์มาด้วย”
ไป๋เสวี่ยฮุ่ยยิ่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าวเปลือก
หวงน้าสี่เห็นน้องสะใภ้ขึ้นสวรรค์ตาไม่กะพริบ ก่อนหน้านี้ยังซักผ้าอย่างเดียวดายอยู่ที่ลานบ้าน ไม่มีใครเอ่ยปากช่วยอยู่เลย ยามนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวไปแล้ว ตนกลับกลายเป็นคนรับใช้วิ่งไปโน่นมานี้ให้นาง ในใจก็ริษยาขึ้นมา เดิมทีคิดจะฟ้องเรื่องที่เจ้ารองกรอกยาทำแท้งให้แม่นางไป๋ให้ท่านแม่ฟัง คำพูดติดอยู่ปลายลิ้นก็กล้ำกลืนลงไปอีก
เรื่องนี้ไม่ธรรมดา
เจ้ารองมีทายาทน้อยนิด ต่อให้แม่นางไป๋ทำผิดต่อเขาจนโกรธมากเพียงใดก็ไม่ถึงขั้นแทบอยากจะให้นางแท้งได้หรอก
บุรุษคนหนึ่งไม่ต้องการทายาทจะมีสาเหตุอันใดได้
หวงน้าสี่ใจสั่น ฝ่ามือชื้นเหงื่อชุ่ม สมองคาดเดาบางอย่างที่บังอาจ ทว่าก็ไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นนางไร้หลักฐาน ซี้ซั้วพูดออกไป ต่อให้สามีตนไม่ตำหนิ แม่สามีก็คงฉีกปากตนอยู่ดี จึงรีบกลืนมันลงไป
วันนั้น ถงฮูหยินย้ายมาอยู่ในบ้านลูกชายคนรองที่สร้างใหม่ถัดจากบ้านบรรพบุรุษ
ถงฮูหยินคิดว่าเมื่อก่อนไป๋เสวี่ยฮุ่ยเคยสุขสบาย ร่างกายบอบบาง ไม่เหมือนสะใภ้ใหญ่ที่อ้วนท้วม อีกทั้งยังเคยแท้งมาแล้วครั้งหนึ่ง กลัวว่าจะพลาดอีก ดังนั้นจึงดูแลอย่างละเอียดรอบคอบ ทางด้านลูกชายคนโตทำเนื้อปลาบำรุงครรภ์มาให้เป็นอาหารอยู่บ่อยๆ ตั้งอกตั้งใจไม่น้อย วันนี้เป็นแกงปลาคาร์ปเต้าหู้ พรุ่งนี้เป็นบะหมี่ไข่ใส่ถั่วลิสง เครื่องดื่มบำรุงครรภ์ยิ่งขาดไม่ได้ ในบรรดาสตรีรอคลอดในชนบท เรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เลว
ตั้งแต่วันนั้นมาหวงน้าสี่ก็รับภาระงานบ้านอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถงฮูหยินไปพักอยู่บ้านรอง งานบ้านงานเรือนจึงยิ่งกองอยู่ในมือนางคนเดียว กระทั่งคนแบ่งเบายังไม่มี เห็นคนผู้นั้นที่บ้านข้างๆ มีชีวิตอยู่ดีกินดี ตอนตนตั้งครรภ์ แม่สามียังไม่เอาใจใส่เพียงนี้เลย ก็บ่นพึมพำข้างหูสามีอย่างอดไม่ได้ ให้สามีหาวิธีเอาตัวมารดากลับมา