(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล - ตอนที่ 73-74
ตอนที่ 73 ตำนานรักพันปีตอนเจ้าเป็นใครสำหรับข้า
“ท่านประมุข หลังจากราชสำนักก็ถึงคราวเขาเทียนปี้” หลานเจ๋อพูดกับหลานเซียว
“ดังนั้นเล่า?”
“ท่าน มั่นใจจริงหรือว่าชิวจือเว่ยจริงใจต่อท่าน มั่นใจจริงหรือว่าตนเองจะสามารถลงมือได้ในนาทีสุดท้าย?”
“ความรู้สึกขึ้นอยู่กับข้า เหมือนเมฆหมอกที่บังตา จริงใจก็ดี จะหลอกลวงก็ดี ข้าไม่เคยคิดสนใจจริงมาก่อน ข้าจะให้ชิวจือเว่ยจัดการเขาเทียนปี้ จากนั้น” จากนั้นเป็นอย่างไร หลานเซียวไม่ได้พูดต่อไป
“ท่านประมุขสั่นคลอนแล้วหรือ ตอนนี้คำพูดของท่านไม่ได้มุ่งมั่นเหมือนตอนแรกแล้ว”
“หากเป็นเจ้า เจ้าจะทำเช่นไร?”
“ข้าจะปล่อยวางแผ่นดินนี้ ตั้งใจอยู่กับเขา ต่อให้ทำได้เพียงชาตินี้เท่านั้น”
“ชาตินี้” หลานเซียวขมวดคิ้ว “ชาตินี้ยาวเกินไป ยาวจนข้าไม่กล้ารับปากง่ายๆ บางทีมีเพียงคนที่คิดได้เท่านั้นที่สามารถพูดคำว่าชาตินี้ออกมาได้”
“ทั้งข้า ทั้งเจ้า มีเวลาแค่เพียงร้อยปีเท่านั้น ใช้เวลาร้อยปีไปกับคนคนคนหนึ่งเป็นเรื่องที่คุ้มค่าหรือสิ้นเปลือง ข้าเองก็ไม่มั่นใจ”
“ข้าเอาใต้หล้าเป็นเพียงหมากของข้า ทุกคนล้วนเป็นหมากของข้า ตระกูลหลานตระกูลเยี่ยทั้งสองตระกูลไม่อาจแต่งงานกันได้เป็นเพียงข้ออ้างของข้าเท่านั้น แม้ว่าปกติแล้วเขาจะดูเปิดเผย แต่แท้จริงแล้วคิดอย่างไรข้าเองก็ไม่รู้ เขาเป็นคนฉลาดเฉลียว บางทีเขาอาจคิดได้นานแล้วว่าข้าเพียงแค่หลอกใช้เท่านั้น”
“แต่ท่านประมุข ต่อให้รู้สึกถึงจุดประสงค์ของท่าน แต่ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ท่านยังจะคาดหวังอะไรอีกเล่า? ชีวิตนี้ชาตินี้ครองคู่กันสองคน นี่ไม่ใช่เรื่องที่มีความสุขที่สุดอย่างนั้นหรือ?”
“บางทีความรู้ความเข้าใจของพวกเราคงไม่เหมือนกัน ความสุขของเจ้า ข้าเหมือนว่าไม่อาจเข้าใจได้เลย บางทีรอจนวันที่สูญเสียทุกอย่างไปถึงจะสามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริงกระมัง แต่ถึงตอนนั้นทุกอย่างล้วนไร้ประโยชน์”
“คนเช่นข้า บางทีอาจเหมาะที่จะอยู่อย่างเดียวดายทั้งชีวิตกระมัง!” หลานเซียวพูดทอดถอน
“ใครบอกว่าภรรยาต้องเดียวดายทั้งชาติ ไม่ใช่ว่ายังมีข้าหรอกหรือ” ชิวจือเว่ยเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับแต่ก่อนที่เคยเป็นมา
“เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไร” หลานเซียวจับแขนรองเก้าอี้แน่น ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อชื้น
“สามีเพิ่งมา ยังไม่ทันจะพ้นวันที่ไม่ได้พบกันสามีก็คิดถึงภรรยาเป็นอย่างมากแล้ว พอมาแล้วพูดกับเจ้ามากมายขนาดนี้ก็ยังมีคนมารบกวน สามีไม่พอใจจัง” ชิวจือเว่ยวิ่งไปอยู่ข้างกายหลานเซียวพลางแสดงท่าทีออดอ้อน
“ข้าน้อยขอตัว”
“อืม”
“พอแล้ว คนออกไปแล้ว พูดมาเถิด เจ้ามาทำอะไร”
“ไม่มีเหตุอันใดแล้วจะมาไม่ได้หรือ? เสียใจจริงเชียว ภรรยาไม่รักข้าแล้ว”
หลานเซียวเงยหน้ามองฟ้า
“จงแสดงต่อไป”
เมื่อเห็นว่าการออดอ้อนไม่ได้ผล ชิวจือเว่ยจึงนั่งลงบนเก้าอี้อย่างว่าง่าย
“หลังจากนี้สามวันก็เป็นคราวของเขาเทียนปี้แล้ว ภรรยา เซียว เจ้าคิดว่าอย่างไร” น้อยครั้งที่ชิวจือเว่ยจะเรียกชื่อของเขา แต่เมื่อเอ่ยออกมาก็ถือเป็นการอธิบายว่าเขาสับสนอย่างมาก
“ข้าจะคิดอะไรได้อีก?” แม้ใบหน้าของหลานเซียวจะแสดงความสงบนิ่งออกมา แต่ในใจนั้นสับสนตีกันมั่ว
“ข้าไม่อยากทำศึกแล้ว สามารถใช้วิธีสันติจัดการเขาเทียนปี้ได้หรือไม่?”
“วิธีสันติหรือ? ขู่ขวัญอย่างนั้นหรือ?”
“จะเข้าใจเช่นนั้นก็ได้
“ตัดรากถอนโคลนไม่ใช่ความเคยชินของเจ้าอย่างนั้นหรือ? ทำไมถึงได้ใจอ่อนเช่นนี้?”
ชิวจือเว่ยนิ่งเงียบไปนาน นานจนหลานเซียวคิดว่าเขาพล่อยหลับไป
“ข้าไม่อยากกลายเป็นศัตรูของอวิ๋นเซียว” ชิวจือเว่ยพูดออกมาเรียบๆ แต่กับพุ่งเข้าตรงหัวของหลานเซียวเหมือนสายฟ้าฟาด หากทำลายเขาเทียนปี้ เขาจะรอดจากการเป็นศัตรูของอวิ๋นเซียวได้อย่างไร
“จือเว่ย ข้า…”
“แต่ภรรยาคิดจะทำเช่นไร สามีก็จะทำเช่นนั้น ล้วนฟังภรรยาทั้งสิ้น” ชิวจือเว่ยยิ้มแย้มทำหน้าทะเล้น แต่ครั้งนี้หลานเฟิงกลับตะโกนเสียงดังเหมือนบ้าไปแล้ว
“เผชิญหน้ากับความตั้งใจของตนเองให้ดีเสีย” ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงใครอยู่ หลานเซียวร้องไห้ออกมา ชิวจือเว่ยลนลานในทันใด
“ภรรยา? เจ้าเป็นอะไรไป? สามีทำผิดเช่นนั้นหรือ ขอโทษด้วย ล้วนเป็นความผิดของสามี เจ้าตีข้าเถิด”
หลานเซียวจับชิวจือเว่ยไว้แน่น จูบเข้าไปบนริมฝีปากของเขาอย่างแรง
ตอนที่ 74 ตำนานรักพันปีตอนกลายเป็นมาร
สามวันให้หลังหลานเซียวและชิวจือเว่ยก็มาถึงเขาเทียนปี้ แม้ว่าประตูใหญ่จะไม่เปิดให้เข้า แต่ก็ขัดขวางพวกเขาไว้ไม่ได้
“ตาเฒ่า อย่าดิ้นรนอีกเลย ทำตามที่ข้าพูดเสียดีกว่า มอบเขาเทียนปี้มา ประกาศให้ใต้หล้ารู้ว่าเขาเทียนปี้เป็นของตระกูลเยี่ย บางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตท่านอีกสักสองสามปี มิเช่นนั้นอย่าได้โทษข้า จะพูดยังไงท่านก็ถือเป็นลุงของข้า” ชิวจือเว่ยหัวเราะอย่างไม่มีอะไรแอบแฝง
“ถุย เจ้าหัวขโมย ใครเป็นลุงของเจ้า อย่าได้คิดไปเอง ต่อให้ข้าตายก็ไม่มีทางยกเขาเทียนปี้ให้เจ้า”
“ไอยา จริงหรือ แต่หากท่านตายไป เขาเทียนปี้ก็จะกลายเป็นของข้า นี่จะทำเช่นไร?” ชิวจือเว่ยหมดหนทาง
หลานเซียวที่อยู่นอกห้องพยายามกลั้นขำไว้ อดที่จะคิดถึงภาพเหตุการณ์เมื่อวานขึ้นมาไม่ได้ ปล่อยให้เขาได้ทรมานไปเลยยกหนึ่ง
“เจ้า…”
อวิ๋นเฉินโมโหจนพูดไม่ออก
“อืม ข้าสบายดี ท่านมีอะไรต้องการพูดอีกข้าจะรับฟังเป็นอย่างดี ไม่พูดตอนนี้หลังจากนี้จะไม่มีโอกาสแล้วนะ”
อวิ๋นเฉินปรายตามองด้านนอก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนหันไปมองชิวจือเว่ยด้วยความโมโห
“ข้ามีข้อแม้ข้อหนึ่ง”
“เชิญท่านพูด”
“เขาเทียนปี้จะเป็นของเจ้าก็ได้ แต่เกียรติยศและสมบัติที่ข้าเคยครอบครองก่อนหน้านี้เจ้าไม่อาจริบของข้าไป มิเช่นนั้นต่อให้ข้าต้องใช้ชีวิตอันแก่เฒ่า ข้าเองก็ต้องทำให้เจ้าตายอย่างไร้ดินกลบหน้า”
“ดี นี่ยังไม่ใช่เรื่องง่ายหรืออย่างไร ขอแค่ท่านลงนามตรงนี้ ประทับตรา เกียรติยศและสมบัติล้วนให้ท่านไม่ขาดตกบกพร่อง”
ชิวจือเว่ยช่วยปลดผนึกบนไหล่ของอวิ๋นเฉิน ให้เขาได้ลงชื่อประทับตรา
“นี่ถูกต้องแล้ว” ชิวจือเว่ยหัวเราะ “ภรรยา เข้ามาเร็ว”
หลานเซียวเข้ามาจากด้านนอก
“ดูสิ ภรรยา ได้มาครอบครองแล้ว ยังมีเหล่านี้ให้เจ้าทั้งสิ้น” ชิวจือเว่ยเอาใบหลักฐานของตระกูลเยี่ย เขาเทียนปี้และราชวงศ์ส่งให้หลานเซียวทั้งหมด
“ภรรยาหรือ? พวกเจ้า? ดีเหลือเกิน หลานเซียว เสียดายที่ข้าเห็นเจ้าเป็นเหมือนลูกชายแท้ๆ ของข้า เจ้ากลับเข้าร่วมกับตระกูลเยี่ยมาหลอกลวงข้า ดูซิว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”
อวิ๋นเฉินซัดเข้าไปฝ่ามือหนึ่ง หลานเซียวไม่ทันคาดคิดจึงหลบไม่ทัน ภายในเสี้ยววินาทีนั้นเองหลานเซียวหลับตาลง แต่ความเจ็บที่คาดคิดเอาไว้กลับไม่เกิดขึ้น
หลานเซียวลืมตาขึ้นมาต้องพบว่าชิวจือเว่ยอยู่เบื้องหน้าตน แขนทั้งสองข้างแสดงท่าทีปกป้องตนเอง และมุมปากก็ยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด แต่เขายังคงยิ้ม
“จือเว่ย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หลานเซียวรีบพาชิวจือเว่ยหลบไปอยู่อีกข้าง แล้วยกมือซัดอวิ๋นเฉินออกไปไกล
ชิวจือเว่ยอยากพูดแต่ก็ต้องสำรอกออกมาเป็นเลือดอย่างทนไม่ไหว
หลานเซียวประคองเข้าขึ้นไปนั่งบนตำแหน่งที่นั่ง ให้เขาได้หายใจ จากนั้นก็ยกน้ำมาให้เขาแก้วหนึ่ง
หลานเซียวป้อนน้ำให้ชิวจือเว่ยดื่มลงไป เพิ่งจะดื่มชิวจือเว่ยก็สำรอกออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง
เหมือนคิดอะไรได้ หลานเซียวลนลานเป็นอย่างมาก
“จือเว่ย รีบสำรอกออกมา เอาชาที่ดื่มไปเมื่อครู่สำรอกออกมา” หลานเซียวร้อนใจจนแทบจะเป็นบ้า การที่ชิวจือเว่ยอยู่ในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ต่อหน้าเขา นี่เป็นครั้งแรก
ด้วยเหตุการณ์เร่งร้อน หลานเซียวขับกระแสพลังให้เขา เพิ่งจะถ่ายกระแสพลังเข้าไปในร่างของชิวจือเว่ย เขาก็รู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก
จู่ๆ หลานเซียวก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ รีบหยุดมือในฉับพลัน
ฝ่ามือของอวิ๋นเฉินเมื่อครู่นี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้ว่ากระแสพลังของชิวจือเว่ยจะสูงมากเพียงใดก็ไม่มีทางที่จะสลายพลังที่เป็นของเขาเทียนปี้ที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย
หลานเซียวรีบพาเขากลับตระกูลเยี่ยโดยเร็ว ตอนนี้มีเพียงชิวฉือแห่งตระกูลเยี่ยเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้
แต่เพิ่งจะก้าวข้ามประตูไปชิวจือเว่ยก็แสดงท่าทีผิดปกติออกมา ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ใบหน้าเหลืองซีด จู่ๆ เขาก็ผลักหลานเซียวออก
“จือเว่ย?”
“อย่าเข้ามา ข้ากลัวว่าควบคุมไม่ได้แล้วจะทำร้ายเจ้า”
หลานเซียวคิดไม่ถึงว่าชิวจือเว่ยจะมีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้
“จือเว่ย ข้าขอโทษ เป็นความผิดของข้าทั้งนั้น ให้ข้าพาเจ้ากลับตระกูลเยี่ยเถิด ขอร้องเจ้าล่ะ”