ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 368-3 ควำมอำลัยรักของทั้งคู่ ข่ำวด่วนจำก เจียงหนำน
“อาหลี ก็ข้าโกรธนี่นา…หากเจ้าถูกเฮ่อเหลียนเผิง
จับไปจริงๆ จะท าเช่นไร ตอนนั้นข้าคิดแต่จะฆ่าเฮ่อ
เหลียนเผิงแล้วค่อยฆ่าเฮ่อเหลียนเจินกับเยียหยี่ว์เหยี่ย
ท าเช่นนี้ก็จะไม่มีใครกล้ามาท าร้ายอาหลีอีก” ม่อซิวเหยา
ไม่สนใจที่เยี่ยหลีดิ้น เขากอดนางไว้แนบอกอย่างแน่น
หนา เอ่ยด้วยน้ าเสียงทุกข์ใจกลัดกลุ้ม ฟังดูแล้วคล้ายกับ
แฝงไว้ด้วยความน้อยใจและหวาดหวั่น เยี่ยหลีรู้สึกว่า
ดวงใจพลันกระตุกอย่างเจ็บปวด ไหนเลยจะยังสามารถ
โกรธเคืองต่อไปได้อีก
นางยกมือขึ้นลูบผมยาวสีเงินที่ตกลงบนหน้าอกตน
เบาๆ แล้วแอบทอดถอนใจเงียบๆ เชยใบหน้าเขาที่พิงอยู่
บนตัวของตนขึ้น สบตากับดวงหน้านั้น แล้วเอ่ยเสียงเบา书呆子
ว่า “ข้ามีคนคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายมากมาย เฮ่อเหลียน
เผิงไหนเลยจะมาจับข้าไปได้”
“แต่พอข้าได้ฟังเช่นนั้นก็หวาดกลัวมาก ข้าคุม
ความรู้สึกนั้นไว้ไม่อยู่…คิดแต่อยากจะมีอาหลีอยู่ข้างกาย
ข้าตลอดไป ไม่อยากให้จากไปแม้เพียงชั่วขณะเดียว”
น้ าเสียงทุ้มต่ าของม่อซิวเหยาฉาบความจริงจังของเขา
เอาไว้ เยี่ยหลีรู้สึกได้เพียงขอบตาตนแดงก่ า คล้ายว่ามี
บางอย่างจะไหลออกมา จึงต้องก้มหน้าซบไหล่เขาไว้ เอ่ย
เสียงเบาว่า “ท่านไม่เคยคิดเลยหรือว่า เกิดท่านเป็นอัน
ใดขึ้นมาแล้วข้าจะท าเช่นไร ตัวน้อย หลินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์
จะท าเช่นไร”
หากเกิดเรื่องกับท่านขึ้นมา ข้าจะท าเช่นไร ม่อซิว
เหยารู้สึกว่านี่คือค าพูดที่กินใจคนมากที่สุดในโลกหล้านี้
ท าให้เขาปีติยินดีได้มากเสียยิ่งกว่าค าว่าชอบค าว่ารักเป็น
หมื่นเท่า อาหลีเป็นตัวของตัวเองและเข้มแข็งมาโดย书呆子
ตลอด ค าพูดเช่นนี้ ม่อซิวเหยากลับฟังแล้วรู้สึกว่าเป็น
ค าพูดที่อ่อนแอที่สุดที่นางเคยพูดมา
“ข้าไม่มีทางเป็นอันใดไปแน่นอน ต่อให้เพื่ออาหลี
ข้าก็จะไม่มีทางเป็นอันใดไปเด็ดขาด” ม่อซิวเหยารับปาก
ด้วยอารมณ์เบิกบาน หากราบรื่นล่ะก็ กระทั่งเรื่องที่เขามี
หนึ่งหอกหนึ่งม้าบุกเข้าค่ายทหารใหญ่เป่ยหรงก็สามารถ
หลอกล่อผ่านมันไปได้ จากนั้นเขากับอาลีก็จะ…
“ถ้าข้าบอกว่าข้าไม่มีทางเป็นอันใดแน่นอน ให้ท่าน
วางใจ ท่านจะเชื่อหรือไม่” เยี่ยหลีเงยหน้าขึ้นมองเขา
เรียบนิ่ง แล้วก็ทันได้เห็นคนบางคนที่ไม่ทันจะได้หุบยิ้ม
ล าพองใจจากใบหน้าไปพอดี สีหน้าหล่อเหลาของม่อซิว
เหยาพังทลายลง “อาหลี ข้าผิดไปแล้ว…ต่อไปจะไม่ท า
เรื่องเช่นนี้อีกแล้ว เจ้าอย่าโกรธข้าเลยได้หรือไม่”
เยี่ยหลีเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขาก็จ าต้องถอนใจ
อย่างจนใจ นิสัยเช่นนี้ของม่อซิวเหยาไม่รู้ว่าไปเอามาจาก书呆子
ไหน ตอนอยู่ต่อหน้าผู้คนมีท่าทางเผด็จการเคร่งขรึมและ
น่าเกรงขามไปทั่วทุกสารทิศแท้ๆ แต่พอลับหลังกลับมีสี
หน้าไร้เดียงสาจนขนาดตัวน้อยยังสู้มิได้ ทว่าแม้จะเป็น
เช่นนี้ เยี่ยหลีก็ยังรู้อย่างชัดเจนว่าท่าทางออดอ้อน
ออเซาะเช่นนี้ที่ปรากฏลับหลังผู้คนเท่านั้นไม่ได้เป็นเนื้อ
แท้ที่ดีของเขาอย่างแท้จริง เนื้อแท้ของม่อซิวเหยาได้รับ
ผลกระทับที่ชั่วร้ายโหดเหี้ยมจากเหตุการณ์โหดร้ายลั่น
ฟ้าสะเทือนดินเมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่ว่าในอนาคตจะเป็น
อย่างไร คนทั่วหล้าจะไม่ได้เห็นโอรสคนโปรดของสวรรค์
ที่กระท าผิดอย่างก าเริบเสิบสานแต่อุปนิสัยใจคอกลับ
ซื่อตรงในต านานตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว
ก็เหมือนกับเรื่องในครานี้เช่นกัน จากสติปัญญา
ของม่อซิวเหยาแล้วเหตุใดจะคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มาแก้ไข
ไม่ได้ แต่เขากลับเลือกใช้วิธีที่ตรงไปตรงมาและรวดเร็ว
ที่สุดโดยไม่ลังเล ไม่เพียงแต่เพื่อท าให้ข้าศึกตกใจกลัว书呆子
แล้ว แต่ยังเพื่อให้ตนได้มีข้ออ้างระบายไอสังหารในจิตใจ
ออกไปด้วย เยี่ยหลีรู้จักม่อซิวเหยาดีมากพอ ดังนั้นหลาย
ครั้งหลายครานางจึงยินดีให้ท้ายส่งเสริมเขา ทว่าใน
ขณะเดียวกันก็อดจะกังวลขึ้นมาไม่ได้ว่าคงมีสักวันที่เขา
จะท าร้ายทั้งคนอื่นและตัวเองไปด้วยแน่
“อาหลี เจ้าเกลียดข้าหรือไม่” เห็นเยี่ยหลีไม่พูด
อะไรอยู่นาน ม่อซิวเหยาจึงโพล่งถามขึ้น ใบหน้าหล่อ
เหลาที่ก้มลงมาปรากฏเป็นความน้อยใจและเจ็บปวด
แต่เยี่ยหลีกลับแยกออกอย่างชัดเจนว่าครานี้ไม่เหมือนสี
หน้าเมื่อครู่ที่จงใจท าให้นางหายโกรธ
ม่อซิวเหยาเงยหน้าขึ้นมาสบกับดวงตาของเยี่ยหลี
ที่อึมครึมอยู่เล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นกลับซ่อนความไม่
สบายใจเอาไว้ในแววตา “อาหลีเกลียดข้าไม่ได้หรอก ใต้
หล้านี้ ใครก็เกลียดข้าได้ทั้งนั้น ยกเว้นแต่อาหลีเพียงคน
เดียว อาหลีอย่าได้คิดจะจากข้าไปเชียว!” เยี่ยหลีรู้จักม่อ书呆子
ซิวเหยาดี พวกเขาอยู่เคียงข้างกันมาสิบปีม่อซิวเหยาก็
ย่อมรู้จักเยี่ยหลีดีเช่นกัน แม้ว่ายามปกติแล้วเยี่ยหลีท า
การใดล้วนไม่เยิ่นเย้ออืดอาด ตัดสินใจว่องไวเด็ดขาด
อุปนิสัยใจคอยืนหยัดหนักแน่นกว่าบุรุษมาก แต่ให้พูด
จากเนื้อแท้แล้วนางไม่ใช่คนกระหายเลือดชอบเข่นฆ่า
สังหารเยี่ยงนั้น หากไม่มีเรื่องพวกนี้ในหลายปีที่ผ่านมา
ม่อซิวเหยาเชื่อว่านางจะเป็นเพียงนายหญิงของ
ต าหนักติ้งอ๋องที่ธรรมดาคนหนึ่ง เยี่ยหลีสามารถเป็น
ภรรยาที่ดีเป็นมารดาที่เยี่ยมได้เช่นกัน นางไม่กลัวการฆ่า
คน แต่ในใจกลับนุ่มนวลไร้ซึ่งไอสังหารและเจตนาเข่นฆ่า
ใดๆ เพราะฉะนั้นแล้ว ในใจลึกๆ แล้วม่อซิวเหยากลับไม่
อยากให้เยี่ยหลีทราบถึงความคิดที่แท้จริงของตัวเอง
แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเรื่องพวกนี้ปิดบังอะไรเยี่ยหลีไม่ได้
ดังนั้นในยามปกติจึงได้เผยให้เยี่ยหลีเห็นโฉมหน้าอันไร้
เดียงสาสุดจะบรรยายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อหวังให้มันมา
ปิดบังโฉมหน้านั้นที่ตนไม่อยากจะเผยให้ใครเห็นออกไป书呆子
ในความเป็นจริงแล้ว แม้ยามนี้ม่อซิวเหยาจะร้องไห้งอแง
ต่อหน้าธารก านัลมากมาย แต่กระนั้นทุกคนก็ไม่มีทางคิด
ว่าติ้งอ๋องจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กไปจริงๆ ต่างคิดแต่
เพียงว่าเขามีจุดประสงค์บางอย่างที่ไม่อาจบอกคนอื่นได้
เท่านั้น
น้อยครั้งนักที่ม่อซิวเหยาจะเผยโฉมหน้าอัน
โหดเหี้ยมอ ามหิตของตัวเองต่อหน้าเยี่ยหลี ดังนั้นแม้ว่า
จะเป็นเยี่ยหลีก็เลี่ยงที่จะรู้สึกเหน็บหนาวในค าพูดอันน่า
กลัวของเขาไม่ได้ ทว่าเยี่ยหลีกลับรู้ดีแก่ใจว่าม่อซิวเหยา
ไม่ท าร้ายตนแน่นอน นางอมยิ้มลูบใบหน้าหล่อเหลาของ
เขาที่ยังอึมครึมอยู่ไม่จางหาย เอ่ยว่า “พูดเหลวไหลอันใด
กัน เรื่องราวมากมายในตอนนั้นได้ผ่านพ้นไปหมดแล้ว
ยามนี้เห็นแต่ความผาสุกที่ต้องดื่มด่ าเท่านั้น หากข้าหนี
ท่านไปจะมิใช่คนโง่รึ”书呆子
ม่อซิวเหยาเห็นรอยยิ้มของเยี่ยหลี อีกทั้งแววตา
นางก็ไร้ซึ่งความไม่พอใจและรังเกียจอย่างสิ้นเชิง สีหน้า
เขาจึงได้อ่อนโยนขึ้นมาไม่น้อย เขายกมือขึ้นจับมือเยี่ย
หลีไว้ เอ่ยเสียงต่ าว่า “อาหลี ขอแค่อาหลีอยู่เคียงข้าง
กายข้าตลอดไป ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใดข้าล้วนให้เจ้าได้
ทั้งสิ้น”
เยี่ยหลีหยิกเขาคราหนึ่งอย่างหมั่นไส้ “ท่านอยู่
เฉยๆ ไม่ไปก่อเรื่องก่อราวให้ข้าเป็นห่วงก็พอแล้ว ท่านยัง
กล้าพูดว่าหากข้าอย่างนั้นอย่างนี้ท่านจะเอาตัวน้อยไปทิ้ง
ให้เป็นขอทานอยู่เลย แต่หากเกิดเรื่องขึ้นกับท่าน ท่านรู้
หรือไม่ว่าข้าจะท าอันใด”
ม่อซิวเหยาเงยหน้ามองนาง เยี่ยหลีแย้มยิ้มเอ่ยว่า
“หากเกิดเรื่องขึ้นกับท่าน ข้าจะเอาทรัพย์สมบัติทั้งหมด
ของต าหนักติ้งอ๋องไปแต่งงานใหม่ ถึงเวลานั้นตัวน้อยก็ไม่
ต้องไปเป็นขอทานแล้ว นี่…ท่านเข้าใจหรือไม่”书呆子
ม่อซิวเหยาสีหน้าพลันเปลี่ยน ไม่สนใจว่าเยี่ยหลี
ก าลังโกรธเคืองตนอยู่ด้วยซ้ า เขาโน้มกายลงไปกดนางไว้
กับตั่ง “ไม่อนุญาต! ต่อให้ข้าตายก็ไม่อนุญาตให้เจ้า
แต่งงานกับคนอื่น มิฉะนั้นข้าจะฆ่าทุกคนให้หมด!”
เยี่ยหลีเลิกคิ้ว “ท่านตายไปแล้วยังคิดจะฆ่าใครได้
อีก”
ม่อซิวเหยานิ่งงันไปพักหนึ่ง สีหน้าแววตาเปลี่ยน
แปรไม่นิ่ง จ้องเยี่ยหลีอยู่เนิ่นนานในที่สุดจึงได้สงบลง เขา
ซบลงบนซอกคอนางเอ่ยอย่างกลัดกลุ้มว่า “ข้าไม่ตาย
หรอก คนที่ตายต้องเป็นพวกมัน ข้ากับอาหลีจะอยู่เคียง
คู่กันไปจนผมหงอกขาว”
เยี่ยหลีเห็นคนบางคนมีสีหน้าทุกข์ใจก็หัวเราะ
ออกมาเบาๆ อย่างอดไม่อยู่ นางยกมือขึ้นลูบผมสีเงินของ
เขา ยิ้มเอ่ยว่า “ท่านอ๋องยามนี้มิใช่ว่าผมหงอกขาวแล้ว
หรือ” ม่อซิวเหยาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้างามที่ก าลังอม书呆子
ยิ้มสดใสอยู่ เอ่ยว่า “ข้าจะรอให้อาหลีผมหงอกขาว
เช่นกัน จึงจะนับว่าอยู่เคียงคู่กันไปจนผมหงอกขาวได้ อา
หลี เจ้าไม่โกรธแล้วใช่หรือไม่”
เยี่ยหลีถอนใจเบาๆ เอ่ยว่า “ท่านต้องพูดค าไหนค า
นั้นจึงจะได้ หากมีครั้งหน้าอีก ข้าจะไม่เพียงแค่โกรธ
เท่านั้นแล้ว ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนที่ข้าได้ยินเฮ่อเหลียนเผิง
บอกว่าท่านบุกเข้าไปในค่ายใหญ่เป่ยหรง ใจข้าหวาดกลัว
มากเพียงใด” ประโยคนี้ไม่ใช่เยี่ยหลีต้องการท าให้ม่อซิว
เหยาตกใจ ตอนที่นางได้ยินค าพูดของเฮ่อหลียนเผิง นาง
ตกใจอยู่มากจริงๆ แม้จะรู้ว่าม่อซิวเหยาปลอดภัยดี แต่
ยามนี้ม่อซิวเหยาสามารถบุกเข้าไปยังค่ายใหญ่เป่ยหรง
เพราะเรื่องที่เฮ่อเหลียนเผิงจับตัวนางไป วันหน้าก็อาจจะ
ท าเรื่องที่อันตรายยิ่งกว่านี้ได้ เว้นแต่ว่าเยี่ยหลีจะไม่ท า
อะไรสักอย่าง แต่นี้ไปเพียงรออยู่ข้างกายม่อซิวเหยาไม่书呆子
ห่างไปไหน แต่พวกนางต่างรู้ดีว่า นี่เป็นเรื่องที่เป็นไป
ไม่ได้ กระทั่งยามนี้ก็ยังเป็นไปไม่ได้