ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 378-5 กำรโจมตีเฮือกสุดท้ำย กำรตำยของ เยี่ยอิ๋ง
บางทีอาจเป็นเพราะความเจ็บปวดที่ส่งผ่านมาจาก บริเวณช่องท้องเป็นระลอกๆ ท าให้ม่อจิ่งหลีหงุดหงิด ร าคาญใจ และอาจเป็นเพราะการสูญเสียบุตรไปอย่าง กะทันหันเมื่อครู่ไปกระตุ้นอารมณ์เข้า ม่อจิ่งหลีจึงจ้อง เยี่ยอิ๋งอย่างเหี้ยมโหด แววตาสาดประกายความโหดร้าย ออกมา
“เยี่ยอิ๋ง ข้าจะให้เจ้าอยู่มิสู้ตาย! เจ้าอยากจะ ช่วยชีวิตม่อซู่อวิ๋นหรือ หืม” ม่อจิ่งหลีลุกขึ้นยืนโดยไม่ สนใจบาดแผลบนร่างกาย ทันใดนั้นเขาก็เดินเข้าไปคว้า หมับเข้าที่ม่อซู่อวิ๋น ม่อซู่อวิ๋นนั้นถูกสถานการณ์เบื้อง หน้าท าให้ตกใจจนนิ่งไปนานแล้ว ทั้งยังถูกคนที่เขา หวาดกลัวที่สุดจับเอาไว้ในมือเช่นนี้อีก จึงอดไม่ได้ที่จะ ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา
书呆子
เยี่ยอิ๋งหน้าเปลี่ยนสี “ม่อจิ่งหลี ท่านมันไม่ใช่คน!”
ม่อจิ่งหลีแสยะยิ้ม “ข้าจะให้เจ้าเห็นว่าสิ่งใดที่ เรียกว่าไม่ใช่คน!” กล่าวจบเขาก็โยนม่อซู่อวิ๋นลงไปจาก ต าหนักใหญ่ต่อหน้าทุกคนทันที ชายารองจ้าวที่กลิ้งตก ลงมาจากบันไดต าหนักยังแท้งลูกทันที ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง เด็กที่สภาพร่างกายอ่อนแอคนหนึ่งอย่างม่อซู่อวิ๋น เขา ถูกม่อจิ่งหลีโยนขึ้นไปกลางอากาศแล้วร่วงหล่นลงมา หากว่าร่างเขากระแทกลงกับพื้น เกรงว่าชีวิตของเด็กคน นี้คงจะสูญสิ้นแล้วจริงๆ
เงาด าสายหนึ่งพุ่งเข้ามาจากด้านนอกต าหนักใหญ่ ลอยตัวอยู่กลางอากาศเล็กน้อย และรับม่อซู่อวิ๋นเอาไว้ได้ พอดี เดิมม่อซู่อวิ๋นที่ร้องไห้เสียงดัง เมื่อถูกม่อจิ่งหลีจับ โยนแบบนี้ เสียงร้องไห้จึงถูกกักกั้นเอาไว้ในล าคอ ร้องไห้ ไม่ออกจนดวงหน้าเล็กเริ่มซีดเขียว
书呆子
ทุกคนล้วนตะลึงค้างที่กลางต าหนักใหญ่ถูกคนผู้ หนึ่งบุกเข้ามากะทันหัน แต่เมื่อจ้องมองดูแล้วกลับเป็น ดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้า แม้ว่านางจะสวมชุด ปฏิบัติการในยามราตรี แต่ใบหน้าได้รูปของสตรีผู้นี้กลับ เต็มไปด้วยโทสะ นัยน์ตากลมโตงดงามถลึงใส่ม่อจิ่งหลี คล้ายกับว่าสามารถสาดเปลวเพลิงออกมาได้ตลอดเวลา
“เสี่ยวอวิ๋นเด็กดี ไม่กลัวนะ ไม่กลัว…กินลูกกวาด …” อวิ๋นเกอปล่อยม่อซู่อวิ๋นลงกับพื้นด้วยความ ระมัดระวัง หยิบยาลูกกลอนที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ ออกมาจากแขนเสื้อ ยัดใส่ปากม่อซู่อวิ๋น เสร็จก็วุ่นวาย อยู่กับการจับชีพจร เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่เป็นอะไรมาก ถึง ได้วางใจ ลุกขึ้นยืนแล้วหันมาขึงตาใส่ม่อจิ่งหลี พลางเอ่ย ว่า “เหตุใดท่านถึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้ เสี่ยวอวิ๋นยังเป็น เด็กตัวเท่านี้อยู่เลย ท่านเกือบท าให้เขาตายแล้ว ท่านรู้ หรือไม่”
书呆子
ม่อจิ่งหลีที่เพิ่งจะโยนม่อซู่อวิ๋นออกไปข้างนอก ต้องกลับลงไปนั่งใหม่ เพราะบาดแผลบริเวณท้องของตน ปริออก เขามองไปยังอวิ๋นเกอที่ยืนอยู่กลางต าหนัก พลาง เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเป็นใคร? สมัครพรรคพวกของ เจ้าคือใคร ถึงกล้าบุกต าหนักหลีอ๋องในยามค่ าคืนเช่นนี้!” ดรุณีน้อยผู้นี้บุกเข้ามาทางประตูหลัก แต่กลับไม่มี องครักษ์เข้ามารายงานสักคน หากไม่ใช่เพราะวรยุทธ์ ของนางสูงส่งจนสามารถหลบเลี่ยงหูตาขององครักษ์ ทั้งหมดได้ เช่นนั้นด้านนอกก็มีคนจัดการกับองครักษ์ แทนนาง
อวิ๋นเกอกะพริบตา เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ข้า ไม่รู้จักท่านสักหน่อย ท่านพ่อบอกว่าไม่สามารถบอกชื่อ ตนเองกับผู้อื่นตามใจชอบได้”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เห็นได้ ชัดว่าค าถามของหลีอ๋องนั้นปกติมาก แต่ถูกสตรีผู้นี้พูด
书呆子
จนท าให้ผู้คนรู้สึกว่าหลีอ๋องคล้ายกับเติงถูที่ข่มเหงสตรี จากตระกูลผู้ดีอย่างไรอย่างนั้น
“แม่นาง ความหมายของหลีอ๋องคือท่านมาที่นี่ได้ อย่างไร?” เหยาจีกระแอมไอเสียงเบา พลางเอ่ยยิ้มๆ
อวิ๋นเกอถึงได้เข้าใจ ยิ้มหวานมองไปทางเหยาจี แล้วเอ่ยว่า “พี่สาวงดงามมากจริงๆ ข้ามากับพี่หลี”
“พี่หลี?!”
ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นล้วนตกใจไปตามๆ กัน แม้ว่า ก่อนหน้านี้เยี่ยอิ๋งจะกล่าวถึงเรื่องที่เยี่ยหลีมาแล้ว แต่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในภายหลังล้วนท าให้ ทุกคนอดคิดไม่ได้ว่า เยี่ยอิ๋งใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวง เพื่อ ลอบฆ่าม่อจิ่งหลี แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเยี่ยหลีจะมาที่เจียง หนานแล้วจริงๆ และยังเข้ามาในต าหนักหลีอ๋องอย่าง ไร้สุ้มเสียงแล้วอีกด้วย เรื่องนี้ท าให้เหล่าคนสนิทของม่อ จิ่งหลีรู้สึกหนาววูบในใจ คนของต าหนักติ้งอ๋องสามารถ
书呆子
เข้ามาในต าหนักหลีอ๋องได้อย่างง่ายดาย ทั้งๆ ที่ทั่วแคว้น อยู่ในสถานการณ์ที่ประกาศกฎอัยการศึก เช่นนั้นหาก ต้องการชีวิตของพวกเขาก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ง่ายราวกับ พลิกฝ่ามือเช่นกัน
“เยี่ยหลี?! เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” ม่อจิ่งหลีค าราม ด้วยน้ าเสียงเฉียบขาด
ด้านนอกประตู เยี่ยหลีถอนหายใจด้วยความ โศกเศร้า และเดินน าพวกฉินเฟิงเข้ามา เมื่อเห็นเยี่ยหลีที่ สวมชุดด า และมีท่าทางสงบเยือกเย็นแล้ว ม่อจิ่งหลีก็ โกรธจนนัยน์ตาแดงก่ าทันที เยี่ยหลีเอ่ยขัดโทสะของเขา ด้วยน้ าเสียงราบเรียบว่า “หลีอ๋องจัดการบาดแผลให้ เรียบร้อยก่อนเถิด ชายารองท่านนี้ของท่านยังรอหมออยู่ นะ” ชายารองจ้าวถูกคนประคองไปนั่งบนเก้าอี้อีกด้าน หนึ่งนานแล้ว แม้ว่าหมอหลวงจะยังมาไม่ถึง แต่นางก็รู้ แล้วว่ารักษาเด็กคนนี้เอาไว้ไม่ได้ ในใจจึงยิ่งเกลียดเยี่ยอิ๋ง
书呆子
มากขึ้นไปอีก “ท่านอ๋อง…ท่านจะต้องจัดการให้กับหม่อม ฉันและลูกนะเพคะ…”
เยี่ยหลีกวาดตามองผ่านนางไปแวบหนึ่ง “ภัยพิบัติ ที่เกิดขึ้นโดยมิได้คาดคิดมาก่อนนั้นยังสามารถหลบเลี่ยง ได้ แต่บาปที่ตนเองเป็นผู้ก่อ ไร้ซึ่งหนทางในการ หลบหนี” แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้ามา แต่ขณะที่อยู่ด้าน นอกก็ได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจน ถ้าหากไม่ใช่เพราะ ชายารองจ้าวดีใจจนลืมตัว ยั่วยุให้ม่อจิ่งหลีลงมือกับม่อ ซู่อวิ๋น สุดท้ายก็คงไม่ถูกเยี่ยอิ๋งลากให้ร่วงลงมาจาก ต าหนักจนต้องแท้งเช่นนี้
“ท่าน…แม้ว่าท่านจะเป็นชายาเอกติ้งอ๋อง แต่นี่ก็ เป็นเรื่องของต าหนักหลีอ๋อง! พระชายาติ้งอ๋องไม่คิดว่ายุ่ง เรื่องที่เกินขอบเขตของตนเองไปหน่อยหรือเพคะ” ชายา รองจ้าวขึงตามองเยี่ยหลีด้วยความโกรธแค้น ตั้งแต่ที่นาง เข้ามาในต าหนักหลีอ๋อง มิมีวันใดที่ไม่ใช้ชีวิตโดยไม่
书呆子
ระมัดระวัง อย่างแรกคือปรนนิบัติรับใช้เสียนเจาไท่เฟย จากนั้นก็ถูกองค์หญิงซีสยาหาเรื่องทุกเวลา ในภายหลังก็ มีตงฟางโยวที่ยากจะรับมือเพิ่มขึ้นมาอีกคน จึงท าได้ เพียงใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความหวาดระแวง ยามนี้ไม่ ง่ายเลยที่จะได้หลุดพ้นจากสภาพความเลวร้ายนั้น ถึงได้ ล าพองใจอย่างอดมิได้ ตอนนี้กลับกลายเป็นนางคว้าน้ า เหลว เสียแรงเปล่าเสียอย่างนั้น
“ฮือๆ…ท่านอ๋อง หม่อมฉันถูกใส่ความ สงสาร หม่อมฉันและลูกน้อยที่ยังไม่ได้ถือก าเนิดด้วยนะเพคะ …”
“อาการบาดเจ็บของเจ้าก็ไม่ได้หนักหนาอันใด ไม่ ตายหรอก” เมื่อเห็นนางร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าปาน นั้น อวิ๋นเกอที่นั่งยองๆ ตรวจดูอาการบาดเจ็บของเยี่ยอิ๋ง อยู่อีกด้านจึงเงยหน้าขึ้นมาเอ่ย “อีกอย่าง ในเมื่อเจ้ารัก ลูกของตนเองแล้วเหตุใดยังต้องท าร้ายเสี่ยวอวิ๋นด้วยเล่า
书呆子
ด้วยสภาพร่างกายของเขา หากดื่มสุราที่ผสมยาพิษลงไป อย่างไรก็ช่วยให้ชีวิตเขาฟื้นกลับมามิได้แล้ว” ชายารอง จ้าวที่ร้องไห้ด้วยท่าทางระทมทุกข์เมื่อถูกอวิ๋นเกอตัดบท จึงมีท่าทางน่าขบขันอย่างเห็นได้ชัด ปากอ้าพะงาบ หยด น้ าตายังคงรินไหลอยู่บนใบหน้า ใบหน้าที่เดิมเรียกได้ว่า งดงาม ประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวม่วง บิดเบี้ยวจนไม่น่า มอง
ในที่สุดหมอหลวงก็มาถึง เยี่ยหลีและคนอื่นๆ ไม่ รีบร้อนที่จะจากไป ม่อจิ่งหลีถูกคนประคองเข้าไปพัน แผล ส่วนเสียนเจาไท่เฟยกลับรั้งอยู่ในต าหนัก จ้อง มองเยี่ยหลีด้วยสีหน้าซับซ้อนยากที่จะแยกแยะได้ ในใจ ของเหล่าขุนนางเบื้องล่างกลับลอบพร่ าบ่นด้วยความคับ ข้องใจเงียบๆ แม้ทุกคนที่รู้ว่าหลีอ๋องคิดจะจัดการฮ่องเต้ จนถึงแก่ความตาย จะไม่มีความเห็นอันใด แต่ทว่าการได้ รับรู้ว่าที่แท้ฮ่องเต้เป็นบุตรชายของหลีอ๋อง และหลีอ๋อง
书呆子
ถึงขั้นลงมือโยนฮ่องเต้ออกไปเพื่อต้องการให้ถึงชีวิตด้วย ตนเองนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เกรงว่าหลังจากนี้ หลีอ๋อง คงจะมีปมในใจกับพวกเขาเสียแล้ว
“พระชายาติ้งอ๋อง เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” เสียน เจาไท่เฟยเอ่ย ขณะที่จ้องมองเยี่ยหลี
เยี่ยหลีเอ่ยยิ้มๆ “หม่อมฉันมาโดยไม่ได้รับเชิญ ไท่ เฟยโปรดยกโทษให้ด้วยเพคะ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันคุณชาย ชิงเฉิน ญาติผู้พี่ของหม่อมฉันได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ ร่องรอยที่ทางใต้ หม่อมฉันจึงตั้งใจมาตามหาญาติผู้พี่เป็น การเฉพาะ และบังเอิญได้ยินว่า…น้องสาวถูกปฏิบัติอย่าง โหดเหี้ยมทารุณในต าหนักหลีอ๋อง ถึงได้อดมิได้ที่จะมา เยี่ยมเยียน แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า…”
เสียนเจาไท่เฟยสะอึกอย่างอดมิได้ เยี่ยอิ๋งเป็นญาติ ผู้น้องของเยี่ยหลีนั้นเป็นความจริงที่มิอาจโต้เถียงได้ ไม่ ว่าเบื้องหลังความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเป็นเช่นไร แต่
书呆子
เพียงแค่เยี่ยหลีกล่าวว่าตนมาเยี่ยมน้องสาวที่ได้รับความ ไม่เป็นธรรม ใครก็พูดอะไรไม่ออกสักค า ในทางตรงกัน ข้าม ยังต้องชื่นชมพระชายาติ้งอ๋องที่มีความรักใคร่ ปรองดองระหว่างพี่สาวกับน้องสาวอีกด้วย พวกนาง อยากจะกล่าวแก้ตัวว่าไม่ได้ปฏิบัติต่อเยี่ยอิ๋งด้วยความ โหดเหี้ยมทารุณ แต่เมื่อเยี่ยอิ๋งที่อยู่เบื้องหน้าในยามนี้มี สภาพน่าเวทนาเช่นนี้ เป็นใครก็คิดว่านางถูกต าหนักหลี อ๋องปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมทารุณจริงๆ
เสียนเจาไท่เฟยแค่นเสียงเย็น “ถูกปฏิบัติอย่าง โหดเหี้ยมทารุณเช่นนั้นรึ เยี่ยอิ๋งลอบแทงท่านอ๋องมีโทษ ถึงประหารเชียวนะ”
เยี่ยหลียิ้มหวาน พลางเอ่ยว่า “อย่างนั้นหรือ เช่น นั้น…หลีอ๋องที่คิดจะโยนฮ่องเต้ให้ตกลงมาตายกลาง ต าหนัก จะมีโทษใดหรื