ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1654 ทำให้ตระกูลเยี่ยขับไล่อวิ๋นลั่วเฟิงออกไปงั้นหรือ (4) / ตอนที่ 1655 การมาถึงของอวิ๋นลั่วเฟิง (1)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1654 ทำให้ตระกูลเยี่ยขับไล่อวิ๋นลั่วเฟิงออกไปงั้นหรือ (4) / ตอนที่ 1655 การมาถึงของอวิ๋นลั่วเฟิง (1)
ตอนที่ 1654 ทำให้ตระกูลเยี่ยขับไล่อวิ๋นลั่วเฟิงออกไปงั้นหรือ (4)
เมื่อเห็นว่าหรูอี้ไม่มีการตอบสนอง หญิงสาวก็เรียกนางอย่างกังวลอีกครั้ง
“ข้าจะทำอะไรได้” หรูอี้ส่งเสียงขึ้นจมูก “อย่างแรกคือตอนนี้พวกเราควรรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนเพื่อเตรียมตัวตั้งรับเหตุฉุกเฉิน อีกอย่างตระกูลเยี่ยไม่ใช่ตระกูลที่ไม่มีเหตุผล ถ้ามีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้น พวกเราก็แค่ต้องทำให้กระจ่าง”
หลังจากที่หรูอี้พูดจบ ร่างงงดงามร่างหนึ่งก็ปีนขึ้นหลังเหยี่ยวแล้วบินขึ้นบนท้องฟ้า
หญิงสาวในชุดสีเหลืองดูสวยและสง่างามมาก เส้นผมยาวสีดำขลับของนางปลิวไปตามสายลมเอื่อย แล้วใบหน้าอ่อนหวานของนางบางส่วนก็ดูคล้ายอวิ๋นรั่วสุ่ย
หรูอี้สูดหายใจเขาลึกๆ แล้วเงยหน้ามองสตรีที่อยู่บนท้องฟ้าแล้วถามเสียงดังว่า “ท่านมาจากตระกูลเยี่ยงั้นหรือ”
หนิงซินมองหรูอี้ “ข้าไม่ได้มาจากตระกูลเยี่ยแต่…หลานสาวของข้าเป็นหลานสะใภ้ของตระกูลเยี่ย…”
หรูอี้ที่กำลังเคร่งเครียดก็โล่งอกเมื่อได้ยินอย่างนั้น กลายเป็นว่าสตรีผู้นี้ไม่ได้มาจากตระกูลเยี่ย นางแค่วางท่าใหญ่โตจากนามที่ยืมคนอื่นมา…
นางไม่ได้มาจากตระกูลเยี่ยก็หมายความว่าหรูอี้ไม่ได้ไปยั่วโมโหตระกูลเข้า เป็นเรื่องน่าขบขันที่หรูอี้ไม่แม้แต่จะนึกถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ตระกูลเยี่ยมีหลานชายแค่คนเดียวที่แต่งงานแล้วซึ่งก็คืออวิ๋นเซียวดังนั้นก็ชัดเจนว่าหนิงซินเป็นภรรยาของอารองของอวิ๋นลั่วเฟิง…
เมื่อเทียบกับอำนาจของตระกูลเยี่ยแล้วอวิ๋นลั่วเฟิงน่ากลัวกว่ามาก ไม่อย่างนั้นนางคงไม่ถูกเรียกว่าเทพแห่งหายนะ! แต่หรูอี้กลับคิดไม่ถึงแล้วทำพลาดในสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้
“แม่นาง พวกเราน่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันใช่หรือไม่” หรูอี้ยิ้ม “ดูสิ เจ้าพยายามจะทำให้ข้าหวาดกลัวด้วยสัตว์วิญญาณอสูรของตระกูลเยี่ย ถ้าตระกูลเยี่ยรู้เรื่องนี้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะอธิบายให้พวกเขาฟังไม่ได้ใช่หรือไม่”
สตรีผู้นี้ไม่ได้เป็นคนจากตระกูลเยี่ยแต่กลับใช้สัตว์วิญญาณอสูรของพวกเขามาโอ้อวด แล้วตระกูลเยี่ยจะยอมทนกับพฤติกรรมแบบนี้ได้อย่างไร
“ระหว่างเจ้ากับข้าไม่มีเรื่องเข้าใจผิดหรอกนะ” หนิงซินมองหรูอี้ด้วยใบหน้างดงามแต่เย็นชา “ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาบุตรสาว”
บุตรสาว?
หรูอี้ชะงัก ดวงตาของนางเป็นประกายก่อนจะเผยยิ้มแห้งๆ “แม่นาง ข้าคิดว่าเจ้าเข้าใจผิดแล้ว บุตรสาวของท่านไม่ได้อยู่ที่นี่ เจ้าไปตามหานางที่อื่นเถอะ”
หนิงซินก้มลงมองหรูอี้และคนอื่นก่อนจะยกมือขึ้นช้าๆ…
“แม่นาง!” ใบหน้าของหรูอี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “เจ้าพาสัตว์วิญญาณอสูรของตระกูลเยี่ยมา ยอดฝีมือของตระกูลไม่รู้เรื่องนี้ใช่หรือไม่” ขณะที่พูดนางก็มองหนิงซินด้วยหางตา เมื่อเห็นหนิงซินค่อยๆ เอามือลงนางก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“ตระกูลที่ทรงอำนาจอย่างตระกูลเยี่ยไม่มีทางชอบคนที่รังแกคนอื่นด้วยชื่อของพวกเขา ถ้าวันนี้เจ้าโจมตีพวกเราไม่แน่ผู้เฒ่าเยี่ยอาจจะให้หลานชายของเขาหย่าขาดกับหลานสาวของเจ้าแล้วขับไล่นางออกจากตระกูลเยี่ยก็ได้ถ้าพวกเขารู้เรื่องที่เจ้าทำ”
หนิงซินลูบคางแล้วยกยิ้ม “เจ้าพูดมีเหตุผล…ดังนั้นข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าตระกูลเยี่ยจะขับไล่เฟิงเอ๋อร์หรือไม่”
เดี๋ยวก่อนนะ…
หรูอี้ตัวสั่น
ตระกูลเยี่ยมีหลานกี่คนที่แต่งงานอกไปแล้ว แล้ว…
นางพึ่งเรียกหลานตัวเองว่า…เฟิงเอ๋อร์ใช่หรือไม่
ใบหน้าของหรูอี้ซีดเผือดและคำตอบที่ชัดเจนปรากฏขึ้นในหัวแต่ก็ถูกนางปิดกั้นเอาไว้ ริมฝีปากของนางสั่นและไม่อาจเอ่ยอะไรออกมาได้อีก…
…………………………………..
ตอนที่ 1655 การมาถึงของอวิ๋นลั่วเฟิง (1)
“เจ้า…เจ้าเป็นใครกัน” เสียงของหรูอี้สั่นและไม่ลงเหลือการเหยียดหยามและหยิ่งยโสอีกต่อไป
หนิงซินยิ้ม “ข้าบอกว่าหลานสาวของข้าเป็นหลานสะใภ้ของตระกูลเยี่ย เจ้าไม่ได้พึ่งพูดว่าจะทำให้ตระกูลเยี่ยหย่ากับหลานสาวข้าหรอกหรือ”
เมื่อหรูอี้ได้ยิน นางก็อ้าปากแล้วต้องการจะยืนยันสิ่งที่นางสงสัยแต่ว่าก่อนที่นางจะได้พูดก็มีเสียงของเด็กดังขึ้นจากบนฟ้า
“ท่านพี่สะใภ้ พวกเขาซ่อนสุ่ยเอ๋อร์ไว้ที่นี่เจ้าค่ะ”
ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นมาก
หรูอี้เงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบากแล้วนางก็เห็นร่างสองร่างพุ่งผ่านท้องฟ้าตรงมาที่นี่ด้วยความเร็ว
เหนือสุดขอบฟ้ามีหญิงสาวที่งดงามมากในชุดสีขาวอยู่ นางอุ้มเด็กหญิงอายุราวห้าปีไว้ในอ้อมแขนและเด็กคนนี้ก็ดูน่าเอ็นดูมากแต่ดวงตาของมีจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ
“เยี่ยจวิน ไม่ใช่ว่านาง…” ไม่ใช่ว่านางถูกส่งไปที่ตระกูลชวีหรอกหรือ เหตุใดนางถึงมาอยู่ที่นี่ อีกอย่างสตรีชุดขาวคนนั้นเป็นใครกัน
“หนิงซิน?” อวิ๋นลั่วเฟิงกวาดสายมองก็เห็นสตรีในชุดสีเหลืองยืนอยู่บนหลังของเหยี่ยวไม่ไกลแล้วดวงตานางก็ปรากฏร่องรอยความสงสัย
เวลาเดียวกันหนิงซินก็เห็นอวิ๋นลั่วเฟิง…ริมฝีปากของนางขยับขณะที่ดวงตาเป็นประกายเหมือนว่านางคำพูดเป็นพันๆ คำที่อยากจะพูด แต่หลังจากที่เห็นอวิ๋นลั่วเฟิงนางก็พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว…
“ท่านป้าหนิงซิน” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเยี่ยจวิน “ในที่สุดท่านก็มาที่นี่ สุ่ยเอ๋อร์ถูกคนพวกนี้จับไว้เจ้าค่ะ”
ท่านป้าหนิงซิน? เยี่ยจวินเรียกสตรีคนนี้ว่าท่านป้าก็หมายความว่า…เยี่ยจวินเป็นคนของตระกูลเยี่ยน่ะสิ
หวืด!
ทันใดนั้นสีหน้าของหรูอี้ก็ยิ่งซีดเผือดแล้วร่างของนางก็ใกล้จะทรุดลงไปที่พื้น
“เฟิงเอ๋อร์” หนิงซินยิ้มแล้วถาม “เหตุใดเจ้าถึงกลับมา”
อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่ “ข้าไปมีปัญหากับใครบางคนมาแล้วพวกเขาต้องการโจมตีเจ้าเพื่อจัดการกับข้าดังนั้นข้าก็เลยกลับมาจัดการกับพวกเขา อ้อ จริงสิ ช่วงนี้มีใครมาสร้างปัญหาให้ตระกูลเยี่ยบ้างหรือไม่”
หนิงซินคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า “ไม่มีใครมาสร้างปัญหานะ”
ได้ยินอย่างนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็โล่งอก ดูเหมือนว่านางจะมาทันและเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยังมาไม่ถึงตระกูลเยี่ย
“เจ้า…เจ้าเป็นใคร” ขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังบ่นกับตัวเอง เสียงสั่นๆ ก็ดังขึ้นจากด้านล่าง
หรูอี้จ้องใบหน้าดงดงามไร้ที่ติของนางแล้วร่างของนางก็สั่นอย่างควบคุมไม่ได้เพราะเกรงว่านางจะได้ยินคำตอบที่ตัวเองกลัวมากที่สุด
“เจ้าถามชื่อข้างั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “ช้าชื่ออวิ๋นลั่วเฟิง”
ตูม!
ทันใดนั้นก็เหมือนมีอสนีบาตจนทำให้ร่างของหรูอี้สั่นมากขึ้น บั้นท้ายของนางกระแทกพื้นอย่างแรงจนเกิดเสียงดังและสีหน้าของคนอื่นๆ ก็ซีดเผือดอย่างต่อเนื่องแล้วมองญิงสาวที่ยืนต้านสายลมอยู่อย่างสิ้นนหวัง
“อวิ๋นลั่วเฟิง? นางคืออวิ๋นลั่วเฟิงงั้นหรือ”
“ไม่นะ นางเป็นเหมือนพระเจ้า ครั้งนี้กลุ่มโจรพยัคฆ์ดุร้ายของพวกเราไปยั่วยุศัตรูแบบไหนกันนี่!”
ห้าปีที่ผ่านมาพูดได้ว่ามีแนวคิดบางอย่างในแดนลับแล
ทุกคนยอมมีปัญหากับราชาแห่งนรกดีกว่ามีปัญหากับอวิ๋นลั่วเฟิง ไม่อย่างนั้นเจ้าจะพบจุดจบแบบเดียวกับตระกูลทั้งสามของนครอนันต์!
ไม่คิดเลยว่าคนที่พวกเขาลักพาตัวมาครั้งนี้จะเป็นญาติของอวิ๋นลั่วเฟิง!
เยี่ยจวินกวาดสายตามองกลุ่มคนที่กำลังก้มหน้าด้วยใบหน้าซีดขาว
“ก่อนหน้านี้ สุ่ยเอ๋อร์บอกว่านายหญิงของหอแพทย์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนางแต่เจ้าจำได้หรือไม่ว่าเจ้าพูดอะไรไว้” เยี่ยจวินหยุดก่อนจะยิ้มอย่างสดใส “เจ้าบอกว่าถ้านายหญิงของหอแพทย์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนางจริง ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เป็นสามีของนายหญิงของหอแพทย์”