ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 2154 ท่านแม่ ข้ารักท่านนะเจ้าคะ (4) / ตอนที่ 2155 ท่านแม่ ข้ารักท่านนะเจ้าคะ (5)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 2154 ท่านแม่ ข้ารักท่านนะเจ้าคะ (4) / ตอนที่ 2155 ท่านแม่ ข้ารักท่านนะเจ้าคะ (5)
ตอนที่ 2154 ท่านแม่ ข้ารักท่านนะเจ้าคะ (4)
หลังจากผ่านไปสักพัก…
เสียงครวญครางของมังกรเพลิงปีกก็ดังไปทั่วฟ้า
“ถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะเป็นมังกรเพลิง ข้าก็จะเผาเจ้าด้วยเปลวไฟ”
ด้วยวิธีนี้พวกมันก็จะทรมานกับความพ่ายแพ้อย่างน่าอับอายและตายโดยไร้ซึ่งเกียรติยศ!
พูดจบอวิ๋นลั่วเฟิงบินลงมาจากท้องฟ้า นางก้มลงดึงอวิ๋นชูเทียนจากพื้นเข้ามาในอ้อมกอดด้วยหัวใจที่รวดร้าว
“เทียนเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงโง่นัก”
อวิ๋นชูเทียนฝืนยิ้ม “เพราะว่าท่านเป็นท่านแม่ของเทียนเอ๋อร์ และเป็นคนที่ดูแลเทียนเอ๋อร์ดีที่สุดในโลกเจ้าค่ะ”
ก่อนที่จะได้พบอวิ๋นลั่วเฟิง นางไม่เคยรู้ว่าความรักของมารดาคืออะไร แต่หลังจากที่ได้มีความสุขกับสิ่งนั้นแล้วนางจะยอมทิ้งไปได้อย่างไร
“เทียนเอ๋อร์…”
ร่างของอวิ๋นชูเทียนค่อยๆ โปร่งแสงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่านางสามารถหายไปจากมือของอวิ๋นลั่วเฟิงได้ทุกเมื่อ อวิ๋นลั่วเฟิงกอดร่างเล็กๆ ของนางไว้แน่นแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา “เทียนเอ๋อร์ เจ้าจะต้องไม่ตาย ข้าจะหาวิธีช่วยเจ้า! เสี่ยวโม่ เสี่ยวโม่ออกมา!”
ก่อนที่เสียงของนางจะหายไป เสี่ยวโม่ก็มาปรากฏตัวที่ข้างอวิ๋นลั่วเฟิง เขาเม้มริมฝีปากบางของเขาแน่นและดวงตาของเขาก็อับจนหนทาง
“เสี่ยวโม่ บอกข้ามาว่าข้าจะช่วยเทียนเอ๋อร์ได้อย่างไร” อวิ๋นลั่วเฟิงกอดร่างที่โปร่งแสงของอวิ๋นชูเทียนแล้วพูดด้วยเสียงสั่นสะท้าน “เร็วเข้า บอกข้ามา! ถ้าข้ายกหัวใจให้นางจะช่วยได้หรือไม่”
“นายหญิง…” หัวใจของเสี่ยวโม่เจ็บปวด “ร่างกายของนางพิเศษและหัวใจของท่านก็ใช้กับนางไม่ได้ ดังนั้นท่านควรระงับความโศกเศร้าแล้วยอมรับชะตากรรมดีกว่า…”
ระงับความโศกเศร้าแล้วยอมรับชะตากรรมงั้นหรือ
ร่างของอวิ๋นลั่วเฟิงแข็งค้าง แม้แต่เสี่ยวโม่ก็ไม่มีหนทางช่วยชีวิตเทียนเอ๋อร์ นางทำได้แค่มองอีกฝ่ายตายไปงั้นหรือ
“ถ้าข้ารักษาครอบครัวตัวเองไม่ได้แล้วข้าจะต้องการพลังไปทำไม ข้าฝักพลังฌานอย่างหนักก็เพียงแค่เพื่อปกป้องคนรอบตัวข้า แต่…
…สุดท้ายข้าก็ปกป้องนางไม่ได้”
ตอนที่นางพาอวิ๋นชูเทียนมากับนาง นางสาบานไว้ว่าจะปกป้องคุ้มครองอีกฝ่าย
แต่สุดท้าย ก็เป็นเทียนเอ๋อร์ที่เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องนาง
“ท่านแม่ อย่าร้องไห้เลยเจ้าคะ” อวิ๋นชูเทียนยิ้มจนเผยฟันเขี้ยวของนาง นางยกมือขึ้นแล้วลูบแก้มของอวิ๋นลั่วเฟิง “เทียนเอ๋อร์จะอยู่กับท่านตลอดไป”
“ไม่นะ!”
เสียงของอวิ๋นลั่วเฟิงสั่น ดวงตาของนางแดงก่ำจากความเสียใจและแขนของนางก็กอดร่างอวิ๋นชูเทียนไว้แน่นราวกับว่านางพยายามจะรั้งไม่ให้อวิ๋นชูเทียนหายไป
“ท่านแม่ เทียนเอ๋อร์ต้องไปแล้วเจ้าคะ…” อวิ๋นชูเทียนกะพริบแพขนตายาวของนางขึ้นแล้วน้ำตาก็คลออยู่ที่หางตา “เทียนเอ๋อร์อยากบอกท่านว่า…ท่านแม่ ข้ารักท่านนะเจ้าคะ”
ท่านแม่ ข้ารักท่านนะเจ้าคะ…
ร่างของอวิ๋นชูเทียนที่อยู่ในอ้อมแขนของอวิ๋นลั่วเฟิงยิ่งโปร่งแสงขึ้นเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายก็แตกสลายกลายเป็นแสงดาวและหายไปจากอ้อมแขนของนาง อวิ๋นลั่วเฟิงค้างนิ่งอยู่ในท่ากอดร่างของอวิ๋นชูเทียนอยู่นาน กว่าที่นางจะส่งเสียงโหยหวนออกมา “เทียนเอ๋อร์!”
แต่คำตอบเดียวที่นางได้ยินก็คือเสียงของสายลมและเสียงโอดครวญของมังกรเพลิงบนท้องฟ้า…
“นายหญิง!”
เสี่ยวโม่รีบก้าวมาพยุงร่างของอวิ๋นลั่วเฟิง “ไม่มีใครสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากหัวใจ และอวิ๋นชูเทียนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หลังจากที่สูญเสียหัวใจไปการที่นางพูดกับนายหญิงได้มากขนาดนั้นก็เป็นเรื่องยากสำหรับนางแล้ว ดังนั้น…”
อวิ๋นลั่วเฟิงมองไปยังทิศทางที่อวิ๋นชูเทียนหายไปด้วยสายตาว่างเปล่า และหัวใจของนางก็เจ็บปวดจนชาหนึบ
ถ้า…นางไม่ได้พาเทียนเอ๋อร์มาด้วย เทียนเอ๋อร์ก็จะยังมีชีวิตอยู่ใช่หรือไม่
ตอนที่ 2155 ท่านแม่ ข้ารักท่านนะเจ้าคะ (5)
ตอนนั้นเองเฟิงจิ่นเดินลงมาจากท้องฟ้า เขาในชุดคลุมสีขาวดูราวกับเทพเซียนที่ถูกเนรเทศลงมา
“เหตุใดเมื่อครู่เจ้าถึงไม่หยุดนาง” อวิ๋นลั่วเฟิงเอ่ยเสียงสะอื้น นางยังคงจ้องไปยังจุดที่อวิ๋นชูเทียนหายไปโดยไม่ละสายตาไปไหน
เฟิงจิ่นเงียบไปชั่วครู่ “นี่เป็นทางเลือกของนาง การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องเจ็บปวดยิ่งกว่าสำหรับนาง นางยินดีเสียสละเพื่อคนที่นางรัก”
“แต่นางเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ข้าจะปล่อยให้นางเสียสละตัวเองเพื่อการต่อสู้ของพวกเราได้อย่างไร”
“อย่างที่ข้าพูด นางไม่ใช่คนธรรมดา และอันที่จริงในแง่ของอายุนางก็มีอายุมากกว่าแคว้นเจ็ดเมืองเสียอีก”
“แต่ในใจของข้า นางเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเสมอ…” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น
นางจำได้เสมอว่านางพบอวิ๋นชูเทียนครั้งแรกในห้องลับได้อย่างไร…
เด็กหญิงตัวน้อยที่ไร้อาภรณ์จ้องนางด้วยดวงตาใสซื่อ ว่างเปล่า และบริสุทธิ์เพียงใด
“นางตายแล้วก็จริงแต่นางก็สามารถมีชีวิตได้เหมือนกัน” เฟิงจิ่นมองอวิ๋นลั่วเฟิง “ห้าปีต่อจากนี้ นางจะปรากฏตัวขึ้นที่นครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าสามารถไปที่นั่นเพื่อตามหานางได้ แต่ข้าขอเตือนเจ้าไว้ว่าหลังจากที่นางกลับมาเกิดใหม่ ความทรงจำของนางทั้งหมดก็จะหายไปและไม่สามารถจำเจ้าได้ นางอาจจะไม่อยากมากับเจ้าแล้ว”
ในที่สุดใบหน้าซีดเผือดของอวิ๋นลั่วเฟิงก็เปลี่ยนเล็กน้อย นางเลื่อนสายตาขึ้นช้าๆ “ห้าปีต่อจากนี้งั้นหรือ นครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ใช่หรือไม่ เข้าใจแล้ว ข้าจะไปที่นั่นเพื่อตามหานางและถ้านางไม่อยากมากับข้า ข้าก็จะปกป้องนางไปตลอดชีวิต!”
เฟิงจิ่นยิ้มแล้วหันหลังหายไปจากสายตาของอวิ๋นลั่วเฟิงราวกับสายลม
ถึงเวลา…ที่เขาจะไปตามหาความรักทั้งสองชีวิตของเขาแล้ว! ถึงแม้ว่าเขาจะคลาดกับอีกฝ่ายถึงสองชีวิต เขาก็ไม่มีทางยอมแพ้อีก ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นบุรุษหรือสตรี!
“อวิ๋นเซียว”
อวิ๋นลั่วเฟิงลุกขึ้นจากพื้นช้าๆ แล้วเดินไปหาอวิ๋นเซียวก่อนจะก้มลงจูบตรงหว่างคิ้วของเขา “ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างข้า ปกป้องข้าและตามใจข้ามาทั้งชีวิต…ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะปกป้องท่านเอง”
“นายหญิง…” เสี่ยวโม่ตั้งใจจะพูดบางอย่างแต่ก็ถูกอวิ๋นลั่วเฟิงขัดขึ้น
นางไม่มองมังกรเพลิงปีกคู่ที่ถูกขังอยู่ในกรงไฟแล้วพูดอย่างเฉยชาว่า “พวกเรากลับไปที่ตระกูลจวินกันเถอะ สงครามจบลงแล้ว”
ทั่วทั้งโลกตกตะลึงกับการให้กำเนิดผู้ฝึกฌานขั้นเซียนที่แท้จริง!
เพราะข่าวการผ่านด่านเป็นเซียนที่แท้จริงของอวิ๋นลั่วเฟิงแพร่ออกไปทั่วแคว้นเจ็ดเมือง คนจำนวนมากจึงมาที่ตระกูลจวิน และเพราะอวิ๋นลั่วเฟิงมีบุตรชายอยู่คนหนึ่ง ตระกูลที่มีบุตรสาววัยเยาว์ทั้งหมดจึงพยายามอย่างที่สุดเพื่อสร้างสัมพันธ์กับตระกูลจวิน
แต่ว่าสุดท้ายพวกเขาก็ถูกตระกูลจวินหยุดไว้…
ส่วนมังกรเพลิงปีกคู่ที่ส่งเสียงร้องโหยหวนอยู่ทั้งวันทั้งคืนก็ไม่มีใครสนใจเพราะถึงอย่างไรชะตาพวกมันก็ไม่พ้นความตายอยู่แล้ว
…
ห้าปีต่อมาที่ด้านหลังหุบเขาตระกูลจวิน
ท้องฟ้าอันสงบเงียบถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยแสงสีเลือด หลังจากที่บัลลังก์สีแดงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเมื่อห้าปีก่อน บัลลังก์งดงามอีกหลังก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและทำให้ทั่วทั้งแคว้นเจ็ดเมืองตะลึงอีกครั้ง
“ท่านแม่ ท่านแม่…”
เด็กชายตัวเล็กน่ารักคนหนึ่งรีบวิ่งมาเกาะแขนของอวิ๋นลั่วเฟิง เขาเงยใบหน้าน่าเอ็นดูของเขาขึ้นแล้วยิ้มอย่างสดใส “ท่านพ่อเพิ่งผ่านด่านหรือขอรับ”
อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้าขณะที่มองไปยังจุดที่บัลลังก์ปรากฏขึ้นแล้วดวงตาของนางก็อ่อนลง “ใช่แล้ว ท่านพ่อของเจ้าเป็นเซียนที่แท้จริงแล้วเหมือนกัน”
บนแคว้นนี้การเป็นเซียนที่แท้จริงนับเป็นเรื่องยากมาก ไม่มีใครสามารถมาถึงจุดนี้ได้