ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 2217 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (58) / ตอนที่ 2218 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (59)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 2217 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (58) / ตอนที่ 2218 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (59)
ตอนที่ 2217 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (58)
“ความจริงแล้วเป็นเพราะฉันโชคดีที่ได้โอกาส” อวิ๋นเทียนฉียิ้มอย่างพึงพอใจ “บางทีเธออาจจะไม่รู้ว่าใครเป็นแพทย์ประจำบ้านของร้านยาหมอหัตถ์เทวดา คนคนนั้นคือฟู่หรูที่ตอนนั้นชื่อเสียงของเขาถูกลากลงโคลน ฉันก็เลยเปิดเผยเรื่องนี้สู่สาธารณะ และฉันก็ติดสินบนนักข่าวไว้ด้วย ฉันอยากจะเห็นว่าครั้งนี้ร้านยาหมอหัตถ์เทวดาจะฟื้นกลับมาได้อย่างไร”
หลี่ชุ่ยชุ่ยถอยหลังไป เธอไม่คิดเลยว่าฟู่หรูจะยังสามารถทำงานอยู่ในร้านยาหมอหัตถ์เทวดาได้ มีคนยอมรับคนที่มีประวัติฉาวโฉ่แบบนั้นด้วยเหรอ
เธอนึกไปถึงการนัดเจอกับหลินฉิงพรุ่งนี้ และความคิดของเธอก็เปลี่ยนเป็นวิตกกังวลและกระสับกระส่ายโดยไม่รู้ตัว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไมก็ตาม เธอไม่น่าปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่มาตั้งห้าปีเลย
แต่ว่าห้าปีมานี้เธอก็ไม่ได้เสียเปล่า เธอสืบเรื่องหลินฉิงมาหมดแล้วและพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีเพื่อนสนิทและไม่มีครอบครัว ดังนั้นอีกฝ่ายจะไปซ่อนหลักฐานไว้ที่ไหน
เธอคงไม่สนใจหลินฉิงถ้าหากอีกฝ่ายยังอยู่ในขอบเขต แต่เด็กคนนั้นกล้าขู่เธอ! หลินฉิงรนหาที่ตายแล้ว!
“ที่รัก ในเมื่ออีกไม่นานร้านยาหมอหัตถ์เทวดาก็จะเป็นของคุณแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็สบายใจ” ดวงตาของหลี่ชุ่ยชุ่ยเป็นประกายแล้วเธอก็เอนตัวพิงแขนของอวิ๋นเทียนฉี นิ้วของเธอค่อยๆ ไต่ไปตามหน้าอกของเขาแล้วพูดอย่างยั่วยวนว่า “นี่ก็นานมากแล้วตั้งแต่ที่พวกเรา…”
คิ้วของอวิ๋นเทียนขมวดเข้าหากันจนเป็นรอยย่นแล้วดวงตาของเขาก็ฉายแววรังเกียจ
หลี่ชุ่ยชุ่ยอายุเยอะและร่วงโรยแล้ว เธอจะเทียบกับความอ่อนเยาว์และความสวยของแฟนสาวตัวน้อยๆ ของเขาได้อย่างไร
ดังนั้นเขาจึงสะบัดหลี่ชุ่ยชุ่ยออกไปอย่างหมดความอดทน “หลายวันมานี้ฉันยุ่งมาก ฉันไม่มีพลังงานพอมาคิดเรื่องนี้หรอก”
ยุ่งมากงั้นเหรอ
สีหน้าของหลี่ชุ่ยชุ่ยเปลี่ยนไปแล้วเธอก็ยืนขึ้นเอามือเท้าเอว “อวิ๋นเทียนฉี บอกความจริงฉันมา คุณมีเมียน้อยใช่ไหม”
หลายปีหลังมานี้เธอนับครั้งที่อวิ๋นเทียนฉีแตะต้องเธอได้ด้วยนิ้วมือเดียว คนทั่วไปเขาพูดกันว่าผู้ชายอายุสามสิบเหมือนหมาป่าและอายุสี่สิบก็เหมือนเสือ ด้วยอายุของเขา อวิ๋นเทียนฉีทนได้อย่างไร
หลี่ชุ่ยชุ่ยคิดเหตุผลอื่นไม่ออกนอกจากเรื่องที่ว่าเขามีเมียน้อย
“เธอพูดอะไรไร้สาระทั้งวันเนี่ย” อวิ๋นเทียนฉีมองหลี่ชุ่ยชุ่ย “ฉันทำงานหนักแทบตายอยู่ที่บริษัททุกวันแต่เธอยังสร้างปัญหาเอาแต่ใจ ให้ฉันพักบ้างไม่ได้หรือไง”
“คุณ…”
ตอนที่หลี่ชุ่ยชุ่ยตั้งใจจะพูดบางอย่างอีก ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากชั้นบน “พ่อ แม่ ทำอะไรกันอยู่คะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยจ้องอวิ๋นเทียนฉีอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนกอดตุ๊กตาหมีอยู่บนบันไดขั้นบนสุด
เด็กหญิงตัวน้อยน่าเอ็นดูมาก เธอดูเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบและชุดกระโปรงเจ้าหญิงสีชมพูอ่อนของเธอก็ยิ่งขับความน่ารักของเธอให้เพิ่มขึ้นไปอีก
“พรุ่งนี้หนูยังต้องไปโรงเรียน ทำไมพ่อกับแม่ถึงทะเลาะกันล่ะคะ” เด็กหญิงตัวน้อยพองแก้มอย่างโกรธๆ แล้วใช้มือเล็กๆ ของเธอขยี้ตาที่ง่วงงุน ใบหน้าของเธอแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
หลี่ชุ่ยชุ่ยหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน “เสวี่ยเอ๋อร์ แม่แค่คุยกับพ่อหนูเฉยๆ จ้ะ พวกเรารบกวนลูกเหรอ รีบกลับไปนอนเร็วเข้า พรุ่งหนูยังต้องไปโรงเรียนนะจ๊ะ”
“ค่ะ” หลังจากที่มองอวิ๋นเทียนฉีและหลี่ชุ่ยชุ่ยอีกครั้ง อวิ๋นเสวี่ยเหลียนก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟังและกลับไปที่ห้องก่อนจะปิดประตูด้านหลังเธอเบาๆ
หลี่ชุ่ยชุ่ยหยิกอวิ๋นเทียนฉีอย่างแรง “ถ้าฉันรู้ว่าคุณมีผู้หญิงคนอื่นฉันจะไม่ให้อภัยคุณแน่!”
อวิ๋นเทียนฉีแค่ขมวดคิ้วขณะที่มองเธออย่างมาดร้ายแล้วไม่ได้พูดอะไรออกมา
ตอนที่ 2218 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (59)
เช้าวันต่อมาอวิ๋นเนี่ยนเฟิงรับกระเป๋าสะพายหลังมาจากอวิ๋นลั่วเฟิง แต่สีหน้าของเขากลับดูไม่สบอารมณ์
“ท่านแม่ ข้าไม่อยากไปโรงเรียนขอรับ”
ทำไมไอ้สถานที่ที่ว่านี่ถึงได้สร้างปัญหานักนะ เด็กๆ ต้องไปโรงเรียนด้วยเหรอ เขาไม่ชอบพวกเด็กผู้หญิงที่โรงเรียนนั่นเลยนี่นา
มุมปากของอวิ๋นลั่วเฟิงขยับโค้งเป็นรอยยิ้ม “ทนๆ ไปอีกสักสองสามวันเถอะนะ เดี๋ยวเราก็จะได้กลับไปกันแล้ว”
เป็นฟู่หรูนั่นแหละที่ตัดสินใจให้อวิ๋นเนี่ยนเฟิงและอวิ๋นชูเทียนไปโรงเรียน นางยังจำได้ถึงสีหน้าของอาจารย์เมื่อได้รู้ว่าลูกๆ ของนางไม่เคยไปโรงเรียนมาก่อนเลย มันเหมือนกับว่าเขากำลังมองแม่เลี้ยง พวกเด็กๆ ก็โตขนาดนี้แล้ว ทว่านางกลับไม่ได้ให้พวกเขาไปเรียนหนังสือ
ด้วยเหตุนี้ อวิ๋นลั่วเฟิงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมส่งทั้งสองไปโรงเรียน อวิ๋นเนี่ยนเฟิงนั้นไม่มีความสนใจต่อเด็กคนไหนในโรงเรียนทั้งสิ้น
“ท่านแม่ขอรับ ต่อให้ท่านแม่จะส่งข้าไปโรงเรียน แต่ท่านแม่ก็น่าจะหาโรงเรียนที่มีผู้หญิงสวยๆ เยอะๆ หน่อยนะขอรับ โรงเรียนนี้ไม่มีใครหน้าตาดีเลยไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือครู” อวิ๋นเนี่ยนเฟิงทำหน้าบูด สีหน้าละห้อยของเขาทำเอาหลายคนอดเห็นใจไม่ได้
แต่ไม่รู้ว่าทำไม…คำพูดของเขามันฟังแล้วน่าหวดให้สักตุ้บสองตุ้บก็ไม่รู้สินะ!
สำหรับอวิ๋นเนี่ยนเฟิงแล้ว ถ้าเพื่อนนักเรียนของเขาไม่มีใครหน้าตาดีเท่าอวิ๋นชูเทียน ส่วนคุณครูก็สวยไม่ได้หนึ่งในพันของอวิ๋นลั่วเฟิงแบบนี้ การต้องมาเรียนที่นี่จะมีความหมายอะไร
“ข้าจะรีบจัดการธุระของข้าที่นี่ให้เรียบร้อยภายในสองวัน” อวิ๋นลั่วเฟิงตาเป็นประกายวาววับ
ตลอดปีที่ผ่านมานี้นางไม่ได้ใช้สูญเปล่าเลย นางขุดหาหลักฐานที่เกี่ยวกับการก่อคดีของอวิ๋นเทียนฉีและหลี่ชุ่ยชุ่ยจากอดีตมาได้ว่าบิดามารดาของนางถูกฆ่าโดยไฮยีน่าพวกนี้! ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของนางก็บิดเร่าด้วยความเจ็บปวด จนต้องระบายลมหายใจยาวออกมาอย่างมีโทสะ
“เอาละ ได้เวลาออกเดินทางแล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงตบไหล่อวิ๋นเนี่ยนเฟิงและบอกว่า “เนี่ยนเฟิง เจ้าเป็นพี่ชาย จะต้องคอยดูแลชูเทียนให้ดี เข้าใจรึเปล่า”
“ท่านแม่อย่าห่วง ข้าจะไม่ยอมให้เทียนเอ๋อร์โดนรังแกหรอกขอรับ” อวิ๋นเนี่ยนเฟิงหันไปมองมือของอวิ๋นชูเทียนที่อยู่ในมือเขา ก่อนจะรีบจูงนางออกจากห้องไป
หลังจากที่ทั้งคู่ไปแล้ว อวิ๋นลั่วเฟิงก็หันกลับมาหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ “อวิ๋นเซียว ธุระของข้าที่นี่จะเสร็จสิ้นลงในอีกไม่กี่วัน ก่อนที่เราจะไปกัน ข้าอยากให้เจ้าไปที่แห่งหนึ่งกับข้าหน่อย”
…
เมืองผิง
เมืองผิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปไม่กี่ร้อยเมตร แต่ก็เป็นเพียงเมืองเล็กๆ ที่เทียบไม่ได้เลยกับเมืองหลวง มันคือเมืองอันเป็นที่อยู่ของบ้านเก่าของอวิ๋นลั่วเฟิงนั่นเอง
“อวิ๋นเซียว คฤหาสน์และทรัพย์สมบัติทั้งหลายของข้าที่อยู่ในเมืองหลวงตกเป็นของอวิ๋นเทียนฉีไปแล้ว เหลืออยู่แค่บ้านหลังเก่าเท่านั้น แต่ถึงยังไง…ข้าก็ได้ยินมาว่าบ้านเก่าๆ แถบนั้นกำลังจะถูกทำลายทิ้งและอพยพคนไปอยู่ที่อื่น เพราะฉะนั้น ถ้าวันนี้เราไม่ไปกันวันนี้ ต่อไปก็จะไม่มีโอกาสอีก”
เมื่อยี่สิบปีก่อน พ่อแม่พานางมายังบ้านเกิดเพื่อแสดงความเคารพหลุมศพบรรพบุรุษ และที่นี่ยังกลายเป็นที่ตายของพวกเขาด้วย
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว อวิ๋นเทียนฉีและภรรยาคงจะไม่ยอมคืนคฤหาสน์ที่พ่อและแม่ของนางทิ้งเอาไว้ให้ในเมืองหลวงง่ายๆ เพราะเหตุนี้ พวกนั้นถึงได้รอพวกท่านกลับมายังเมืองที่เป็นบ้านเกิดเสียก่อนจึงค่อยลงมือ…
ต้องขอบคุณที่นางสู้อุตส่าห์รอดชีวิตมาได้จนถึงวันนี้!
อวิ๋นลั่วเฟิงเดินไปตามถนนสายเก่า เหลียวมองดูตัวหนังสือ “ทุบทิ้ง” ซึ่งถูกเขียนเอาไว้บนบ้านทุกหลังรอบตัว ใบหน้ามีรอยยิ้มขมขื่นผุดขึ้นมา
“ไม่ว่าจะยังไง ข้าก็มาที่นี่แล้ว”
เขาจะอยู่เคียงข้างนางเสมอและไม่มีวันทอดทิ้งนาง
“เรามาที่นี่แล้ว…” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดเดิน นางค่อยๆ แง้มประตูบานเก่าโกโรโกโส ก่อนจะเดินเข้าไปช้าๆ
คราบเลือดแห้งๆ ยังคงเกรอะกรังอยู่บนพื้น สภาพห้องกระจัดกระจายเผยให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อน วันนั้น นางซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงนอน มองดูพ่อและแม่ที่ล้มลงจมกองเลือดอย่างไม่อาจทำอะไรได้ ความกลัวทำให้นางไม่กล้าส่งเสียงใดทั้งสิ้น