แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1074 นี่แหละแม่ยายสุดประเสริฐ
“เชี่ยนเอ๋อ แกกับหมิงหลาง…ไม่ได้ทะเลาะกันใช่ไหม?”
“ทะเลาะอะไร? พวกเราโอเคกันดี”
ไม่ใช่ช่วงเทศกาล อยู่ๆลูกสาวก็กลับมาบ้าน เจี่ยซิ่วฟางก็เลยคิดว่าลูกสาวทะเลาะกับลูกเขย เธอไม่กล้าถามตรงๆกลัวลูกสาวจะสะเทือนใจ เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องเสี่ยวเชี่ยนอยู่นานพลางเงี่ยหูฟัง
นี่ก็กลับมาได้หนึ่งวันหนึ่งคืนแล้วทำไมไม่เห็นลูกเขยโทรมา?
“ถ้าพวกแกไม่ได้ทะเลาะกัน แล้วทำไมถึงทิ้งการเรียนแล้วหนีกลับมาบ้าน?” อยู่ๆลูกสาวก็กลับมาเจี่ยซิ่วฟางเลยไม่เป็นอันกินอันนอน
ตอนนี้ลูกชายไปเป็นทหารแล้ว ฟู่กุ้ยก็แต่งงานย้ายออกไปแล้ว ในบ้านเหลือแค่เธอกับสามีใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ว่างๆก็นั่งคิดถึงลูกๆ กลัวลูกๆไปเจอความลำบากข้างนอกแล้วจะไม่กล้าบอกพ่อแม่
ลูกสาวกลับบ้านมาโดยไม่บอกไม่กล่าว อาการวิตกกังวลของผู้หญิงวัยทองอย่างเจี่ยซิ่วฟางเลยยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
เวลานี้พ่อเลี่ยวที่แสนเอาใจใส่กลับไปประชุมที่อื่นไม่อยู่บ้าน เจี่ยซิ่วฟางฟุ้งซ่านอยู่คนเดียวแทบจะเป็นบ้า
“หนูมีธุระทางนี้นิดหน่อย—เดี๋ยวนะแม่ คงไม่ได้เครียดเรื่องหนูกับเสี่ยวเฉียงหรอกนะ?”
เก๋าลัดเกือบติดคอเสี่ยวเชี่ยน
เธอไปจัดการปัญหาชีวิตรักให้คนอื่นออกจะราบรื่น แต่พอกลับมาบ้านแม่วัยทองของเธอกลับกังวลเรื่องชีวิตคู่ของเธอ ความรู้สึกนี้มัน…ยากจะบรรยายจริงๆ
“ลูกคนนี้นี่! ฉันเป็นห่วงแกมันผิดด้วยเหรอ?!” เจี่ยซิ่วฟางเขกหัวเสี่ยวเชี่ยนโดยไม่ได้ออกแรง
“วางใจเถอะ แม่ก็เห็นนิสัยลูกเขยตัวเองแล้ว หนูกลับมาแค่ไม่กี่วัน เขาคงไม่เลวถึงขั้นพาเมียน้อยเข้าบ้านหรอก”
เสี่ยวเชี่ยนไว้ใจอวี๋หมิงหลางสุดๆ เธอคิดว่าแม่เป็นห่วงว่าเธอไม่อยู่บ้านแล้วอวี๋หมิงหลางจะแอบไปนอกใจ
ใครจะไปคิดว่าเจี่ยซิ่วฟางกลับถลึงตาใส่เสี่ยวเชี่ยนพลางพูด “ฉันไม่กังวลเรื่องหมิงหลางหรอก หมิงหลางออกจะเป็นคนดี ฉันเป็นห่วงแกนี่แหละ! เฉินเสี่ยวเชี่ยน ดึกดื่นไม่หลับไม่นอนเปิดคอมวิดีโอคอลอะไรนักหนา แกแอบกิ๊กใครในเน็ตหรือเปล่า? ฉันจะบอกแกให้นะ แกห้ามทำให้หมิงหลางเสียใจเด็ดขาด รีบๆไปเลิกซะ ถ้าฉันรู้ว่าแกหักหลังคู่ชีวิตนะ ฉันจะตีให้ขาหัก!”
นี่ นี่ นี่มันอะไรวะเนี่ย! เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่ได้ฟังแม่พูดแบบนี้ เป็นแม่ยายที่ประเสริฐจริงๆ!
เมื่อคืนเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้วิดีโอคอลกับใคร เธอคุยโทรศัพท์กับพี่ใหญ่พลางเปิดคอมพิวเตอร์ดูภาพกล้องวงจรปิด
เจี่ยซิ่วฟางเดินวนเวียนอยู่หน้าห้อง อย่างอื่นไม่ได้ยินได้ยินแต่เรื่องวิดีโอ แล้วก็คิดเป็นตุเป็นตะเชื่อมโยงกับเรื่องรักๆใคร่ๆในเน็ตที่กำลังนิยมกันในช่วงนี้
จากนั้นก็หาข้ออ้างเอาผลไม้เข้าไปให้ในห้องแล้วก็เห็นลูกสาวกอดคอมพิวเตอร์เอาแต่จ้องหน้าจออยู่อย่างนั้น
รักในเน็ต!
คำๆนี้ปรากฏเป็นตัวอักษรสีแดงโตๆในสมองเจี่ยซิ่วฟาง
เรื่องใหญ่แล้ว!
ครั้นแล้ววันนี้เธอจึงได้เตือนลูกสาวแบบอ้อมๆเพื่อไม่ให้ลูกสาวเสียใจ และก็อยากจะไว้หน้าลูกสาว และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือจะปล่อยให้ลูกสาวทำผิดไม่ได้
เสี่ยวเชี่ยนทั้งอยากขำและร้องไห้ เธอไม่รู้ว่าควรซึ้งใจที่แม่เป็นห่วงลูกสาวขนาดนี้หรือจะร้องไห้ที่ถูกแม่ด่าดี
“หนูต่างหากที่เป็นลูกแม่นะ ทำไมไม่เป็นห่วงว่าหนูจะถูกอวี๋หมิงหลางรังแกบ้างล่ะ ทำไมวันๆเอาแต่กำชับว่าอย่ารังแกอวี๋หมิงหลาง?”
นี่หน้าตาเธอเหมือนคนมีชู้เหรอ?!
“ก็เพราะว่าแกเป็นลูกฉันไงล่ะ ฉันถึงได้กำชับแกแบบนั้น ฉันคลอดแกที่บ้านด้วยความยากลำบากอยู่ทั้งคืน เกือบตายเลยด้วยซ้ำ ร่างกายแกอ่อนแอตั้งแต่เด็กเกือบไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วฉันจะปล่อยให้แกทำผิด เดินไปสู่ทางที่อันตรายได้ยังไง?”
ชีวิตคู่ครั้งก่อนของเจี่ยซิ่วฟางต้องจบลงไปก็เพราะเมียน้อย เธอเลยกลัวว่าลูกสาวจะหลงผิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบจึงหาโอกาสเตือน
“เอ๊ะแม่ ตอนเด็กๆหนูร่างกายอ่อนแอเหรอ?” เรื่องพวกนี้เสี่ยวเชี่ยนจำไม่ได้ เธอจำได้แค่ว่าเธอเป็นเด็กที่แข็งแรง ไม่ค่อยป่วย
“ก็ใช่น่ะสิ ช่วงก่อนสามขวบแกป่วยบ่อยจะตาย ถ้าไม่ได้—” เจี่ยซิ่วฟางติดลมเผลอพูดออกมาเยอะ แต่ทันใดนั้นก็หยุดพูด
เรื่องบางอย่างไม่ให้เสี่ยวเชี่ยนรู้จะดีกว่า ถ้าเชี่ยนเอ๋อรู้ว่าตอนนั้นเธอไปหาแม่หมอให้ช่วยชีวิตเชี่ยนเอ๋อไว้ด้วยการให้ดื่มยาบางอย่าง เชี่ยนเอ๋อจะต้องโมโหแน่
“ถ้าไม่ได้อะไร?” เรื่องพวกนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่เคยได้ฟังมาก่อน
เมื่อชาติก่อนความสัมพันธ์ของเธอกับแม่ไม่ดีเท่าไร ไม่มีโอกาสได้คุยกัน
“เปล่าๆ~ เก๋าลัดนี่อร่อยใช่ไหม เอากลับไปเยอะๆสิ เมื่อวานซืนฉันโทรคุยกับแม่ผัวแกเห็นเขาบอกว่าต้าอีท้องไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไร เก๋าลัดช่วยได้นะ เอาไปให้กินเหมาะที่สุดแล้ว”
“ในต้องกินตอนร้อนๆ เย็นชืดแล้วจะกินไง? พี่รองต้องซื้อแบบร้อนๆให้กินอยู่แล้วหนูจะเอาไปทำไม?”
“เก๋าลัดของเมืองเราไม่เหมือนของที่อื่นนะ รสชาติดีกว่า ไม่เป็นไร ถ้าเย็นแล้วก็เอาไปอุ่นในไมโครเวฟ ใช้ไฟแรงสองนาทีแล้วเปลี่ยนไปใช้ไฟปานกลาง รสชาติจะสดใหม่เหมือนเพิ่งทำเลยล่ะ เวลาที่ใช้ก็ต้องดูว่าปริมาณเก๋าลัดมีมากน้อยแค่ไหน เพิ่มลดเวลาให้พอเหมาะ”
เสี่ยวเชี่ยนพอได้ยินเรื่องเกี่ยวกับงานครัวก็มึนทันที เรื่องพวกนี้ยากยิ่งกว่าให้เธอไปแก้วิกฤติชีวิตคู่คนอื่นเสียอีก
“ไม่ต้องมาบอกหนู เดี๋ยวหนูโทรหาต้าอีแล้วแม่บอกเขาเอง!” เสี่ยวเชี่ยนกดโทรเบอร์ของต้าอี
เจี่ยซิ่วฟางยังไม่ลืมเหน็บลูกสาวที่ทำงานครัวไม่เป็น
“ทำไมแกถึงไม่อดตายนะ? ทำกับข้าวไม่เป็นยังไม่เท่าไร แต่นี่อะไรอุ่นเก๋าลัดก็ยังไม่เป็น จริงๆเลย ถ้าหมิงหลางไม่อยู่กับแกแล้วช้าเร็วแกก็ต้องอยู่ไม่รอด อดตายแน่—ฮัลโหลต้าอีเหรอลูก นี่น้าเจี่ยนะ ช่วงนี้เป็นไงบ้างจ๊ะ ยังอ้วกอยู่ไหม?”
เปลี่ยนอารมณ์ในเสี้ยววินาที จากน้ำเสียงเหน็บแนมกลายเป็นเป็นห่วง เสี่ยวเชี่ยนเบ้ปาก คงเก็บเธอมาจากถังขยะสินะ
เจี่ยซิ่วฟางคุยกับต้าอีเรื่องวิธีอุ่นเก๋าลัด จากนั้นก็คืนโทรศัพท์ให้เสี่ยวเชี่ยน ต้าอีอึกอักมีเรื่องจะพูด
“ประธานเชี่ยน ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ…”
“วันนี้มันวันอะไรกันมีแต่คนอึกๆอักๆพูดยากพูดเย็นเหลือเกิน?”
“ฉันอยากถามว่าเมื่อไรเธอจะกลับมา?”
“ฉันเหรอ พรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรฉันก็กลับแล้ว ทำไม คิดถึงฉันเหรอ?”
พ่านพ่านเปิดเทอมแล้ว ภาวะตั้งครรภ์ของต้าอีก็อยู่ตัวแล้ว จึงได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านที่เมืองหลิน เดิมต้าอีควรไปเริ่มเข้าเรียนคลาสปริญญาโทได้แล้ว แต่พี่รองกลัวร่างกายเธอรับไม่ไหวจึงไปทำเรื่องพักการเรียนให้ เธอจะได้จิตใจจดจ่ออยู่กับลูก เรื่องเรียนเลื่อนออกไปหนึ่งปี
“คือว่า ช่วงนี้หมิงหลางยุ่งอยู่กับอะไรเหรอ?” ต้าอีพูดอึกอักอย่างชัดเจน เสี่ยวเชี่ยนฟังดูก็รู้ว่าต่างจากตอนปกติ
ต้าอีที่ปกติมีอะไรก็พูดตรงๆทำไมอยู่ๆถึงได้กลายเป็นคนพูดติดอ่างไปได้?
“เมื่อวานซืนฉันถามเขา เขาบอกว่าช่วงนี้ฝึกหนักเลยไม่ได้กลับบ้าน นอนค้างที่ค่ายเลย ทำไมอยู่ๆก็ถามถึงเขาล่ะ?”
“เปล่า งั้นเธอรีบกลับมานะ…สามีภรรยาอยู่ห่างกันนานๆไม่ดี”