แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 737 ไม่กลัวถูกตบอีกก็เชิญรอต่อไป
พอคิดได้ว่าตัวเองเถียงสู้เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ หม่าลุ่ยจึงเบนสายตาไปที่พี่ใหญ่ หวังว่าพี่ใหญ่จะสั่งให้บอดี้การ์ดถอยไป
“พ่อแม่ผมชอบหลิวเหมยจริงๆ คนแก่สองคนเดินทางมาไกลก็เพื่อมาดูหลิวเหมย ผมอยากให้คุณให้โอกาสผมได้คุยกับหลิวเหมยอีกครั้ง ผมกลัวพ่อแม่ผมจะรับไม่ไหว”
เอาคนแก่มาอ้างอีกแล้ว มุกนี้ขนาดหลอกหลิวเหมยยังยาก ยังคิดจะเอามาใช้กับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างพี่ใหญ่
พี่ใหญ่พยักหน้า แล้วพูดกับหม่าลุ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เดินทางมาไกลไม่ง่ายเลยจริงๆ เลิกกันทั้งทีก็เกรงใจถ้าจะให้กลับไปตัวเปล่า เสี่ยวเชี่ยนเธอว่าเอาไงดี”
“งั้นเอาแบบนี้ เพื่อเป็นการชดเชยให้พวกคุณที่มากันตั้งไกล วันนี้พวกคุณถูกใจห้องไหนพี่ใหญ่ลดให้เลย5%”
พี่ใหญ่แอบขำในใจ เชี่ยนเอ๋อนี่แสบจริง ถ้าครอบครัวหม่ามีเงินซื้อคงไม่ต้องหวังกับหลิวเหมยหรอก
นี่มันเท่ากับเอาเนื้อไปล่อหมา หลังจากนั้นก็เอาโยนลงพื้นแล้วเอาเท้าขยี้ โยนทิ้งดีกว่าให้ เอาให้ลงแดงตายไปเลย
สำหรับไอเดียนี้ของเสี่ยวเชี่ยน พี่ใหญ่อยากตะโกนออกไปว่า ทำได้เยี่ยม
บางครั้งประธานเชี่ยนก็รู้สึกนับถือในความหน้าหนาของคนบางคน อย่างเช่นหม่าลุ่ย
หลิวเหมยพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว ถ้าเขาทำตัวหยิ่งในศักดิ์ศรีแบบที่แล้วๆมาก็ควรจะหันหลังเดินออกไป
แต่เขากลับไม่ไป บอดี้การ์ดของพี่ใหญ่ขวางเขาไว้ไม่ให้ไปหาหลิวเหมยกับฟู่กุ้ย เขาไม่กล้าหือกับพี่ใหญ่
พี่ใหญ่ไม่อยากเสียเวลากับคนแบบนี้นาน เขาได้ข่าวเม้าท์ที่จะเอาไปรายงานเมียเพียงพอแล้ว จึงหันไปพูดกับเสี่ยวเชี่ยนโดยไม่สนใจหม่าลุ่ย
“ทางนี้เธอจัดการไปแล้วกัน พี่ไปเจอหัวหน้าสำนักวางแผนก่อน”
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า พี่ใหญ่สั่งให้บอดี้การ์ดอยู่ช่วยแล้วเดินออกไป เสี่ยวเชี่ยนหันไปพูดกับหม่าลุ่ยพลางมองด้วยสายตาดูถูก
“หลิวเหมยของเราเป็นคนขี้ใจอ่อน ในมุมของศาสตร์การทำนายโชคชะตา ผู้หญิงที่ขี้ใจอ่อนจะเป็นที่ถูกใจของผู้ชาย ดูจากตอนนี้ก็ท่าจะจริง ผู้หญิงดีๆมีแต่คนอยากได้ คุณไม่รู้จักรักษาไว้เดี๋ยวก็มีคนมาแย่งไปแน่นอน”
“คุณนายสี่ครับ ให้ผมเตะออกไปไหมครับ” บอดี้การ์ดถามเสี่ยวเชี่ยนอย่างเคารพ
เขาอยู่กับบอสใหญ่มาหลายปี รู้ว่าผู้หญิงที่ร้ายกาจคนนี้เป็นสะใภ้คนที่สี่ของตระกูลอวี๋ บอสให้เกียรติเธอเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงเกรงใจเสี่ยวเชี่ยนสุดๆ
ความเกรงใจแบบนี้กลับมีความหมายอื่นในสายตาของหม่าลุ่ย
คุณนายสี่เหรอ…ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียน้อยลำดับที่สี่
“ไม่ต้องเตะหรอก เขาเป็นแขก พวกเราทำธุรกิจ ถ้าเขาอยากอยู่ก็ปล่อยเขา แต่อย่าให้เขากับครอบครัวมารบกวนพวกเราเป็นพอ” เสี่ยวเชี่ยนหันไปพูดกับหม่าลุ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทางดุจนางพญา
“ฉันจะให้คุณเห็นกับตาว่าคุณได้สูญเสียอะไรไปบ้าง”
คนบางคนพลาดแล้วก็พลาดเลยตลอดชีวิต ประธานเชี่ยนต้องการทรมานหม่าลุ่ย อยากให้เขาต้องเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำไปตลอดชีวิต จะไม่มีใครสามารถเล่นกับความรู้สึกของคนรอบตัวประธานเชี่ยนได้ตราบใดที่ประธานเชี่ยนยังอยู่ ไม่มีวัน
เสี่ยวเชี่ยนเดินจากไปสวยๆ เดี๋ยวจะจับรางวัลแล้ว เธอต้องไปรับรางวัลใหญ่
บอดี้การ์ดเตือนหม่าลุ่ยด้วยความหวังดี “ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะรีบพาครอบครัวออกจากที่นี่ อย่าหาเรื่องคุณนายสี่เลยดีกว่า”
“ผมไม่ไป” หม่าลุ่ยยังไม่ยอม เขาไม่เชื่อหรอกว่ากับอีแค่ ‘คุณนายสี่’ จะพรากความรักสองปีของเขาได้ เขาจะอยู่ต่อเพื่อพยายามเป็นครั้งสุดท้าย เขาต้องรั้งเงินของหลิวเหมยเอาไว้ได้แน่
ไม่ถูกสิ รั้งหัวใจของหลิวเหมยเอาไว้ได้แน่
ความหวังดีช่วยคนที่ต้องการรนหาที่ตายไม่ได้…บอดี้การ์ดมองหม่าลุ่ยด้วยสายตาสงสาร ไอ้หมอนี่ยังไม่รู้ว่าเล่นอยู่กับใครใช่ไหม
ช่างเถอะ คุณนายสี่บอกให้เขาเฝ้าไว้อย่าปล่อยให้คนๆนี้ไปก่อความวุ่นวายงั้นเขาก็จะทำหน้าที่ให้ดี คนโง่ที่ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือแบบนี้อยากอยู่ต่อก็ตามใจ
ฟู่กุ้ยกับหลิวเหมยนั่งอยู่ตรงที่นั่งVIPแถวหน้าเพื่อรอจับรางวัล หลังจากที่เพิ่งบอกเลิกหม่าลุ่ย ตอนนี้หลิวเหมยดูเหม่อลอย
เธอกำลังสับสน เธอเลิกกับแฟน พี่ฟู่กุ้ยก็มีเรื่องกับหม่าลุ่ย เธออยากออกไปจากตรงนี้เพื่อเคลียร์ให้ชัดเจน แต่พี่ฟู่กุ้ยกลับไม่ให้เธอไปไหน เขาบอกว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมต้องออกไปก่อนด้วย คนที่ต้องไปคือครอบครัวนั้น
ความดื้อดึงของคนมีการศึกษาสูงได้แสดงออกมาให้เห็นในตอนนี้ วันนี้ฟู่กุ้ยได้พลิกโฉมภาพลักษณ์ผู้ชายอ่อนโยนในสายตาของหลิวเหมยจนหมดสิ้น เขาลงไม้ลงมือกับคนอื่น แถมยังด่าถึงบุพการี แต่เขาจูงมือเธอออกมาด้วยนะ…
พอนึกถึงตอนที่ฟู่กุ้ยจูงมือเธอ หลิวเหมยก็ยิ่งสับสน แอบกังวลนิดหน่อย มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
เสี่ยวเชี่ยนจัดการเรื่องหม่าลุ่ยเสร็จก็กลับเข้ามา
“เชี่ยนเอ๋อ มาเร็วจะเริ่มแล้ว” ฟู่กุ้ยเรียกเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า เธอเข้าไปนั่งด้านซ้ายของหลิวเหมย ตอนนี้ด้านขวาของหลิวเหมยเป็นฟู่กุ้ย ด้านซ้ายเป็นเสี่ยวเชี่ยน พอนั่งข้างฟู่กุ้ยแบบนี้เธอรู้สึกแตกต่างจากตอนปกติ สับสนจัง
“หลิวเหมย” หม่าลุ่ยพอเข้ามาข้างในแล้วก็ตะโกนเรียกชื่อหลิวเหมย คนอื่นๆต่างหันไปมอง
สถานที่ในเวลานี้เป็นห้องโถงที่อยู่ชั้นสองของสำนักงานขาย ในนั้นมีแต่คนที่เซ็นสัญญาจองห้องในวันนี้ พอได้ยินเสียงก็พากันหันไปดู รวมถึงหลิวเหมยด้วย
หม่าลุ่ยรีบส่งสายตาที่เต็มไปด้วยรักให้หลิวเหมย ท่าทางดูกระตือรือร้นเต็มที่
แต่ปรากฏว่าหลิวเหมยเห็นแล้วก็หันหน้ากลับ พลังรักของหม่าลุ่ยสูญเปล่า แต่เสี่ยวเชี่ยนกับเลี่ยวฟู่กุ้ยยังมองอยู่ เขารู้สึกอึ้งกับความหน้าหนาของหม่าลุ่ย
หม่าลุ่ยคิดจะเข้าไปหาหลิวเหมย แต่ถูกบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเดินตามเขาอยู่
“นี่คุณ เข้าไปไม่ได้นะ ถ้าคุณเข้าไปผมจะเรียกพรรคพวกมาลากคุณออกไป ในนี้มีแต่คนที่ซื้อบ้านในวันนี้ถึงจะเข้าไปได้ คุณมีสัญญาซื้อบ้านไหมล่ะ”
“…” เขาจะไปมีได้ยังไงเล่า ผู้หญิงที่ซื้อบ้านได้คนนั้นถูกคนอื่นลากตัวไปแล้ว
หม่าลุ่ยทำได้แค่ถอยออกมา แล้วก็เห็นครอบครัวตัวเองเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
“แกไปไหนมาเนี่ย เมื่อกี้ตามหาตัวไม่เจอ นี่จะเริ่มจับรางวัลแล้ว จับรางวัลเสร็จมีเลี้ยงอาหารอีกไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเขาไม่ให้พวกเราเข้า หลิวเหมยไปไหนแล้ว” เมื่อกี้แม่หม่าเห็นหลิวเหมยเข้าไปแล้วเธอเองก็อยากเข้าไปด้วย แต่กลับถูกขวางไว้ ตอนนี้จึงโมโหมาก
หม่าลุ่ยโมโหยิ่งกว่า แต่จะบอกว่าตัวเองถูกหลิวเหมยทิ้งแล้วก็ไม่ได้
“แม่กลับไปก่อน ผมมีเรื่องนิดหน่อย”
“ไหนว่าจะกินข้าวไง” หม่าชิงไม่ยอม เธอสวมกระโปรงราคา250ที่ซื้อเมื่อวานมาด้วย กำลังรอกินบุฟเฟ่ต์สุดหรูที่เห็นว่ามีทั้งกุ้งมังกร ทั้งเป๋าฮื้อ
“กินอะไรอีกเล่า รีบกลับไปได้แล้ว” หม่าลุ่ยตะคอก
“แม่ ดูพี่สิ” หม่าชิงยังงงอยู่ว่านี่มันเรื่องอะไร
“เสี่ยวลุ่ย ซื้อบ้านแล้วหรือยัง” แม่หม่าเองก็ไม่เข้าใจ แล้วฝันที่จะได้อยู่บ้านในเมืองล่ะ
“กลับไปให้หมดนั่นแหละ” หม่าลุ่ยโมโห ครอบครัวที่น่าอับอายแบบนี้ทำให้เขาพลาดโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง น่าเบื่อที่สุด
จึ๊ๆ บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างๆเบ้ปาก สันดานเสียจริงๆ เพื่อเงินแล้วไม่เพียงแต่จะสู้กับคนนอก ยังกล้าตะคอกคนในบ้านด้วย ผู้ชายคนนี้เมื่อกี้ยังเห็นทำตัวเป็นลูกกตัญญูต่อหน้าคุณนายสี่อยู่เลย ดูแล้วก็ไม่เห็นจะกตัญญูตรงไหน…
พอไล่ครอบครัวตัวเองที่ไม่รู้สถานการณ์กลับไปแล้ว หม่าลุ่ยก็ยังดึงดันเฝ้าอยู่หน้าประตู เขามองไม่เห็นเหตุการณ์ภายในห้อง แต่ได้ยินเสียงแตรดังออกมา ตอนนี้ข้างในกำลังมีการแสดง
เขาต้องรอเจอหลิวเหมยให้ได้
บอดี้การ์ดเข้าไปกระซิบรายงานเสี่ยวเชี่ยน ประธานเชี่ยนยิ้มมุมปาก อยากรอก็รอไปสิ ไม่กลัวถูกตบอีกก็เอาเลย