ตามใจรัก สาวนักแฮก - ตอนที่ 646 อย่าปล่อยมือผม / ตอนที่ 647 คุณรู้ความจริง
ตอนที่ 646 อย่าปล่อยมือผม
ซิงเหอออกความเห็นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ดูเหมือนตระกูลหลินจะมั่นใจว่าการเกี่ยวดองในครั้งนี้จะเป็นการกลับมาอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา”
ไม่เช่นนั้นผู้อาวุโสหลินคงไม่ห้าวหาญถึงขนาดตั้งใจมาพูดจาโอ้อวดต่อหน้าพวกเขาแบบนี้
มู่ไป๋หัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน “ก็สมควรที่จะมั่นใจ การแต่งงานของคุณถงมีค่าเท่ากับการชักจูงตระกูลเฉิน ตระกูลถงและฝ่ายท่านผู้หญิงมาเป็นพวกของตัวเอง ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วทำไมจะไม่มั่นใจล่ะ”
“แต่ด้วยวิธีชั้นต่ำแบบนี้ ไม่มีใครที่อยากจะยืนอยู่ฝั่งนั้นอย่างเต็มใจจริงๆ หรอก”
“อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็จะเลิกราวีตระกูลหลิน”
“นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ดีจริงๆ”
ซิงเหอกวาดสายตาไปทั่วห้องและเห็นว่าหลายคนกำลังทำตัวประจบสอพลอตระกูลหลิน ด้วยงานหมั้นในครั้งนี้ตระกูลหลินได้ผูกมิตรกับครอบครัวที่มีอิทธิพลหลายครอบครัวซึ่งช่วยยกระดับฐานะของพวกเขาให้สูงขึ้นอีกมาก จึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่หลายคนอดทนรอที่จะเข้าไปประจบประแจงตระกูลหลินแทบไม่ไหวและทำให้อัตตาของตระกูลหลินพองโตขึ้นอย่างมาก
แต่พวกเขาคิดจริงๆ หรือว่าหลังจากที่ถงเยียนและหลินเซวียนแต่งงานกันแล้วทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความราบรื่น ตราบใดที่ตระกูลสียังมีชีวิตอยู่แล้วละก็ ไม่มีทาง!
ซิงเหอพิจารณาไปทั่วห้อง เธอเล็งเห็นความซับซ้อนบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่
“คุณสังเกตหรือเปล่าว่าตระกูลหลินไม่ได้สามัคคีกันอย่างที่เราคิด ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นคนตระกูลหลินใช่ไหม แต่เขาดูไม่ค่อยมีความสุขกับเรื่องนี้เท่าไหร่”
มู่ไป๋มองไปตามสายตาของหญิงสาวและเห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังนั่งดื่มอยู่เพียงลำพังด้วยสีหน้าอมทุกข์ “นั่นคุณชายคนที่สามของตระกูลหลิน พ่อของหลินอวิ๋น”
“หลินฉิน? ลูกชายที่ไม่สำคัญที่สุดในบรรดาลูกชายทั้งสามคนของผู้อาวุโสหลิน? ฉันได้ยินมาว่าเขาไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลยสักอย่าง เป็นแค่เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งเล็กๆ และแทบจะไม่มีตัวตนในโครงสร้างอำนาจของตระกูลหลิน”
“ใช่แล้ว คุณทำการบ้านมาดีนี่” มู่ไป๋กล่าวชมเชย เธอทำเช่นนี้เพราะเป็นสาเหตุที่ซิงเหอยืนกรานว่าพวกเขาจะต้องมาร่วมงานในคืนนี้ ถ้ามีรอยร้าวใดๆ ภายในตระกูลหลิน พวกเขาจะต้องได้ใช้ประโยชน์จากมันอย่างแน่นอน
“ถ้าหลินฉินรู้ว่าหลินเซวียนเป็นคนฆ่าลูกสาวของเขา ฉันสงสัยว่าเขาจะจัดการพวกคนที่เหลือไหม” ซิงเหอคาดเดาราวพลางอมยิ้ม
มู่ไป๋ปฏิเสธ “แต่เราไม่มีหลักฐาน”
ถ้ามีหลักฐาน พวกตระกูลหลินจะอยู่รอดมาได้จนถึงตอนนี้อย่างนั้นหรือ
“อันที่จริง ฉันอยากรู้ว่าทำไมหลินเซวียนถึงพกระเบิดไว้กับตัว ตอนนั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลินอวิ๋นกำลังจะถูกจับ” ซิงเหอวิเคราะห์ “ดังนั้นหลินเซวียนต้องมีอะไรบางอย่างมากกว่าที่เห็น”
“ผมพนันว่าตระกูลหลินยังมีเรื่องที่ซ่อนไว้อีกเยอะ อยู่ใกล้ผมไว้แล้วอย่าเดินไปไหนตามลำพังละ” มู่ไป๋เตือนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง พวกเขาทั้งคู่กำลังอยู่ในอาณาเขตของตระกูลหลิน
ซิงเหอพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วงค่ะ อาลิอยู่กับฉันด้วย ฉันไม่เป็นไรหรอก”
อาลิเดินทางมากับพวกเขาในฐานะเลขาของซิงเหอ เธอคอยติดตามซิงเหออยู่ข้างหลังอย่างใกล้ชิดราวกับเป็นผู้ช่วยส่วนตัวจริงๆ แต่แท้จริงแล้วเธอมาที่นี่เพื่อเป็นบอดี้การ์ดของซิงเหอ
ซิงเหอหันไปมองอาลิและอีกฝ่ายก็ขยิบตากลับอย่างขี้เล่น ยิ่งไปกว่านั้นซิงเหอเคยเรียนคาราเต้มาบ้าง ดังนั้นตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้ใช้ปืน เธอจะยังปลอดภัย
แต่มู่ไป๋ไม่อาจหยุดความเป็นกังวลในตัวซิงเหอได้ เขากุมมือของเธอเอาไว้และปกป้องเธอราวกับหญิงสาวเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกใบนี้
“ถึงยังไงก็อยู่ใกล้ๆ ผมไว้แล้วอย่าปล่อยมือจากผมเด็ดขาด” เขาเอ่ยเตือนเธออย่างอ่อนโยน
“โอเค” ซิงเหออยากจะหัวเราะและพูดว่า คุณต่างหากที่เป็นคนไม่อยากปล่อยมือ!
อาลิที่เดินตามอยู่ด้านหลัง กลอกตาเป็นวงกลมใส่ท่าทีกระหนุงกระหนิงเบื้องหน้า
ตอนที่ 647 คุณรู้ความจริง
“ผู้ชายคนนั้นกำลังจะไปแล้ว” อยู่ๆ อาลิพูดขึ้น ซิงเหอและมู่ไป๋หันไปมองและเห็นว่าหลินฉินกำลังมุ่งหน้าออกไปยังสวนด้านหลัง ตระกูลหลินจัดงานหมั้นในครั้งนี้ที่บ้านของพวกเขาเอง ซึ่งมีขนาดใหญ่โตและมีสวนหลังบ้าน
ซิงเหอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ย “เข้าไปแนะนำตัวกันเถอะ”
“ได้สิ” มู่ไป๋ตัดสินใจเล่นไปตามน้ำ ในเมื่อพวกเขามาที่นี่เพื่อล้วงข้อมูลของศัตรู แล้วทำไมถึงไม่เริ่มที่หลินฉินล่ะ
พวกเขาสามคนปลีกตัวออกไปยังสวนด้านหลังอย่างเงียบๆ
หลินฉินต้องการปลีกตัวออกจากการเฉลิมฉลองเพราะมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เขาไม่ต้องการเห็นความสุขของคนอื่นๆ เพราะมันมีแต่จะยิ่งทำให้ความสุขของเขาทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เขาจึงเลือกที่จะแอบหลบมาอยู่ที่สวนด้านหลังเพื่ออยู่ตามลำพัง เขาไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนเดินตามเขาออกมา
“คุณหลินฉินใช่ไหมคะ” เสียงอันชัดเจนของซิงเหอดังขึ้นจากด้านหลังของหลินฉิน
หลินฉินหันกลับมาด้วยความสงสัยและหน้าเสียเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคือพวกซิงเหอ “พวกคุณ!”
เขารู้จักหน้าตาของซิงเหอและมู่ไป๋ แต่นอกเหนือจากใบหน้าที่ขมวดย่นแล้ว หลินฉินไม่ได้แสดงท่าทีมุ่งร้ายต่ออีกฝ่ายมากนัก ซิงเหอสังเกตเห็นสิ่งนี้ตั้งแต่แรก ในระหว่างงานเลี้ยง หลินฉินสังเกตเห็นพวกเขาแล้วแต่เขาเลือกที่จะเมินเฉยและไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจหรือโกรธแค้นพวกซิงเหอแต่อย่างใด
ซึ่งตรงกันข้ามกับครั้งแรกที่เธอพบกับหลินเชี่ยน ผู้หญิงคนนั้นต้องการจะฆ่าซิงเหออย่างจริงจังเพราะคิดว่าหลินอวิ๋นถูกฆ่าโดยซิงเหอและมู่ไป๋
ถ้าหลินเชี่ยนเกลียดพวกเขามากขนาดนั้น ตามหลักแล้วพ่อของเธอก็ควรจะปฏิบัติกับซิงเหอและพวกเฉกเช่นศัตรู แต่ซิงเหอกลับไม่เห็นความพยาบาทอยู่ภายในดวงตาของอีกฝ่ายเลย ความสงสัยของเธอได้รับการยืนยันในทันที…
หลินฉินออกปากถามอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง “พวกคุณตามผมมาทำไม พวกคุณวางแผนจะทำอะไร”
ซิงเหอยิ้มอย่างเป็นมิตร “พวกเราแค่อยากจะบอกอะไรบางอย่างกับคุณ ไม่ต้องกังวล”
“อะไร รีบบอกแล้วปล่อยผมไว้คนเดียวได้แล้ว!” หลินฉินคำรามอย่างหมดความอดทน
ซิงเหอจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาคมกริบและพูดขึ้นอย่างฉับพลัน “พวกเราไม่ได้เป็นคนฆ่าหลินอวิ๋น”
หลินฉินสะดุ้ง แต่กระนั้นเขาไม่ได้แสดงสัญญาณความโกรธแค้นหรือท่าทีอยากซักถามอะไร ดวงตาของเขาล่อกแล่กไปมาพร้อมกับอารมณ์ที่ยากจะอธิบายได้
“ถ้างั้นคุณก็รู้ความจริงมาโดยตลอดสินะ” ซิงเหอกระซิบและพิจารณาทุกการเคลื่อนไหวทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของอีกฝ่าย “คุณหลิน คุณรู้อยู่แล้วว่าหลินเซวียนเป็นคนฆ่าหลินอวิ๋นใช่ไหม”
“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร!” หลินฉินโต้แย้งด้วยความร้อนรน “พวกคุณสองคนเป็นคนฆ่าลูกสาวผม แล้วยังกล้ามาโกหกต่อหน้าผมอีก! ในเมื่อวันนี้เป็นวันมงคลของตระกูลหลิน ผมจะไม่เอาเรื่องอะไรพวกคุณ ดังนั้นช่วยปล่อยผมไว้คนเดียวเถอะ”
หลินฉินพูดคำพูดที่ดูราวกับท่องจำและเดินจากไปด้วยความเร่งรีบ ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะจับโกหกของเขาได้
มู่ไป๋และซิงเหอหันมามองหน้ากันและเริ่มสื่อสารกันโดยไม่ใช้คำพูด หลินฉินรู้ความจริง
เขารู้ว่าหลินเซวียนเป็นคนลงมือฆ่าลูกสาวของเขาแต่เขาเลือกที่จะไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่อธิบายเรื่องนี้ได้ การตายของหลินอวิ๋นเป็นคำสั่งของผู้อาวุโสหลิน!
หรือไม่ผู้อาวุโสหลินก็เป็นคนอนุญาตการตัดสินใจของหลินเซวียนที่จะฆ่าหลินอวิ๋น!
ในเมื่อผู้อาวุโสหลินประทับตราอนุญาตแล้ว หลินฉินจะทำอะไรได้ อันที่จริงแม้แต่หลินคังก็อาจเห็นด้วยในการกำจัดหลินอวิ๋น
ความคับแค้นใจของหลินฉินถูกเก็บกดเอาไว้เพราะเขาไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรในครอบครัว
ตระกูลหลินไม่เพียงแค่อำมหิตกับคนภายนอก…
แต่ยังโหดเ**้ยมกับคนในครอบครัวตัวเองอีกด้วย