ตามใจรัก สาวนักแฮก - ตอนที่ 780 ทำให้มือของฉันแปดเปื้อน / ตอนที่ 781 เรื่องของฉัน
ตอนที่ 780 ทำให้มือของฉันแปดเปื้อน
ซิงเหอตกตะลึงเพราะเธอก็รู้สึกไม่สบายจริงๆ …
เธอไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมา แต่เธอหายใจไม่ออกเพราะความสะอิดสะเอียนและความรู้สึกอันตรายในหัวใจ ซิงเหอรับแก้วไวน์มาและดื่มมันจนหมดภายในอึกเดียว
มู่ไป๋จ้องมองเธอแล้วถาม “อีกแก้วไหม”
“ขอบคุณค่ะ แต่แค่นี้ก็พอแล้ว” ซิงเหอส่ายหน้า เธอกลัวว่าดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก ยิ่งกว่านั้นแค่แก้วนั้นแก้วเดียวก็ช่วยได้มากแล้ว
มู่ไป๋รับแก้วคืนมาจากมือของเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “คุณวางแผนจะทำอะไรต่อ”
ซิงเหอไม่ตอบแต่กลับออกความเห็นเบาๆ “คุณเห็นตาของเด็กๆ พวกนั้นไหม มันไร้ความรู้สึกและว่างเปล่า พวกเขายังเด็กอยู่เลยแต่วิญญาณของพวกเขาถูกดูดออกไปแล้ว”
“ผมสังเกตเห็นเหมือนกัน” มู่ไป๋พยักหน้า เขาได้เห็นทุกอย่างผ่านกล้องที่ซ่อนอยู่ นั่นคือเหตุผลที่เขาเข้าใจว่าทำไมความรู้สึกของซิงเหอถึงได้รับการกระทบกระเทือน ภายนอกเธออาจดูเข้าถึงยากและโดดเดี่ยว แต่ลึกๆ แล้วเธอเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวและซึมเศร้า เธอไม่ปรานีกับศัตรูของเธอแต่แสดงความเมตตาของต่อผู้ที่อ่อนแอ เธอแยกแยะสิ่งที่เธอรักและเกลียดได้อย่างชัดเจน มู่ไป๋เข้าใจเธอดี
“แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่โหดร้ายที่สุดที่พวกเขาทำ สิ่งที่โหดร้ายที่สุดก็คือมันไม่มีขอบเขตสำหรับความผิดพลาด เมื่อคิดว่าพวกเด็กๆ ไม่มีค่าพอก็มีแต่จะต้องตายเท่านั้น” ซิงเหอพูดอย่างเย็นชา “สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าควรจะบ้านสำหรับเด็กกำพร้าไม่ใช่เหรอ แต่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลแห่งนี้เป็นแค่นรกที่คร่าชีวิตของผู้บริสุทธิ์มากมายเท่านั้น!”
“เราสามารถฆ่าพวกเขาทุกคนถ้าคุณต้องการ” มู่ไป๋พูดตรงๆ “ขอแค่คุณพูดมา แล้วจะมีการนองเลือดเกิดขึ้น”
“ไม่ ฉันอยากจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง” ซิงเหอส่ายหน้าด้วยความมุ่งมั่น ครั้งนี้เธอจะทำให้มือของตัวเองแปดเปื้อน เธอไม่ต้องการที่จะหลบอยู่ข้างหลังมู่ไป๋และกลายเป็นผู้หญิงที่พึ่งพาผู้ชายของตัวเองอย่างเดียว
ราวกับอ่านใจเธอออก มู่ไป๋จับมือเธอแล้วพูดพร้อมกับแสยะยิ้ม “พวกเรารวมกำลังกันดีไหม”
ซิงเหอมองเขาแล้วในที่สุดก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ”
มู่ไป๋ลิงโลดใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องไปเสี่ยงภัยในกลุ่มดำ ตราบใดที่เขาอยู่กับเธอ เขาก็มีความสุข
…
สถานการณ์ภายในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้กลุ่มของซิงเหอตกใจ กลุ่มของอาลิอยากจะรีบกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อสังหารหมู่สัตว์พวกนั้นหลังจากที่พวกเขาได้เห็นวิดีโอจากกล้อง
“พวกเขาใช่มนุษย์หรือเปล่า พวกเขาทำเหมือนกับเด็กพวกนี้เป็นสุนัขได้ยังไง” อาลิเรียกร้องด้วยความเจ็บปวดและโมโหพร้อมกับชี้ไปที่ภาพบนหน้าจอที่เด็กๆ กำลังอยู่ระหว่างการฝึกซ้อม ฉากนี้กระตุ้นความโกรธของคนอื่นๆ ในห้องเช่นกัน
ในวิดีโอ เด็กๆ เรียงแถวกันเป็นเส้นตรงและกำลังเผชิญกับสิ่งที่สามารถอธิบายด้วยคำว่าการฝึกสุนัขเท่านั้น ครูฝึกที่กวัดแกว่งแส้ตะโกนออกคำสั่ง เช่น เอียงตัว คุกเข่า และกระโดด พวกเด็กๆ ก็จะทำตามคำสั่งเหมือนสุนัข ทันใดนั้นครูฝึกก็มีแววตาบ้าคลั่ง เขาสั่งให้เด็กๆ ตบหน้าตัวเองสิบครั้ง แล้วเด็กๆ ก็ทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง…
พวกเด็กๆ เหมือนกับหุ่นยนต์ไม้และทำตามคำสั่งที่ครูฝึกป้อนเข้ามาในสมองของพวกเขา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำสั่งไร้ความหมายอย่างการตบหน้าตัวเองก็ตาม พวกเขาทำตามคำสั่งอย่างเที่ยงตรง ดวงตาของเด็กพวกนี้ว่างเปล่าและไม่มีชีวิตชีวา สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของพวกเขาก็คือการรับคำสั่ง ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้น
กลุ่มของซิงเหอได้ยินวิธีการล้างสมองของคนพวกนี้มามากมายแต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็น ‘การฝึก’ แบบนี้ด้วยตาตัวเอง เด็กพวกนี้ควรจะดูน่ารักและไร้เดียงสา สมควรได้รับความรักและใส่ใจ
ดังนั้นมันจึงทำให้พวกเขาแทบจะระเบิดเมื่อมองดูสิ่งที่ ‘สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า’ ทำกับพวกเด็กๆ อย่างไรก็ตามนี่เป็นแค่ปัญหาผิวเผินเท่านั้น ขณะที่วิดีโอเล่นต่อไปเรื่อยๆ ระดับความโกรธของคนในห้องก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ตอนที่ 781 เรื่องของฉัน
เด็กๆ เหล่านั้นไม่ต่างอะไรกับสุนัขเลยจริงๆ …
พวกเดรัจฉานในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นไม่ได้ปฏิบัติกับพวกเขาเช่นมนุษย์ แต่ทำเหมือนพวกเขาเป็นลูกสุนัข!
แซมและอาลิรู้สึกหายใจแทบไม่ออก พวกเขาไม่เคยรู้สึกแย่และโศกเศร้าขนาดนี้มาก่อน ราวกับมีลูกไฟขนาดมโหฬารก่อตัวขึ้นในทรวงอกของพวกเขา และถ้าพวกเขาไม่ปล่อยมันออก มันจะแผดเผาพวกเขาทั้งเป็น
เรื่องนี้ส่งผลถึงอื่นๆ ด้วยเช่นกัน แม้แต่ซิงเหอและเฮ่อปินที่ได้เห็นทุกอย่างกับตายังทำใจได้ยากที่จะต้องเห็นเด็กๆ เหล่านั้นอีกครั้ง เลือดในกายของพวกเธอเดือดพล่านไม่น้อยไปกว่ากลุ่มของแซมเลย ดังนั้นกลุ่มของแซมจึงไม่อาจทนดูภาพจากวิดีโอที่บันทึกเอาไว้ได้จนจบ
“ซิงเหอ ไปฆ่าพวกมันกันเถอะ!” อาลิแผดเสียงขึ้นพร้อมกับดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความโกรธแค้นและเจ็บปวด
สีหน้าของแซมและหนุ่มๆ คนอื่นต่างซูบซีด แซมส่งเสียงขู่ฟ่อในลำคออย่างไม่พอใจ “เรายอมทำเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องดึงใครมาเกี่ยวข้องด้วยซ้ำ! ฉันทนนั่งอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ ไปฆ่าพวกชาติชั่วนั่นกันเดี๋ยวนี้เลยแล้วช่วยเด็กๆ พวกนั้นออกมา!”
“ใช่ เราจะทำเรื่องพวกนี้เองและพวกคุณไม่ต้องมีส่วนยุ่งเกี่ยวด้วย” แคร์นกล่าวอย่างหนักแน่น วูลฟ์ควักปืนสั้นของตัวเองขึ้นมาและเริ่มตรวจดูลูกกระสุน…
เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนในกลุ่มแซมวูลฟ์เริ่มทำแบบเดียวกัน พวกเขาทั้งสี่คนเคยเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาประเทศที่มีสงครามกลางเมือง ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจความโชคร้ายของเด็กเหล่านี้มากที่สุด เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้พบกับเด็กกำพร้าผู้โชคร้าย หัวใจของพวกเขาจะถูกบีบเคล้นด้วยความเจ็บปวด คนเป็นพ่อแม่ทอดทิ้งลูกที่ไร้เดียงสาของตัวเองได้ลงคอแบบนี้ได้อย่างไรกัน
บางทีพ่อแม่ของเด็กๆ เหล่านี้อาจมีความจำเป็นที่ไม่อาจพูดออกมาได้อยู่ก็ได้ แต่นี่มันแย่ยิ่งกว่า สถานเลี้ยงกำพร้านี่รับเด็กๆ มาเลี้ยงและทำกับพวกเขาอย่างโหดร้ายทารุณ เด็กๆ พวกนี้ทำผิดอะไรกัน ไม่เลยสักนิด!
ถ้าพระเจ้าจะนิ่งเฉยกับสิ่งที่โหดร้ายและชั่วช้าเช่นนี้ งั้นพวกเขาก็จะเข้าไปช่วยตัดสินให้เอง แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของพวกเขา กลุ่มแซมวูลฟ์จะไม่ยอมยืนเงียบและปล่อยให้เรื่องโหดร้ายเช่นนี้ดำเนินอยู่ต่อไป พวกเขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง!
ไม่มีใครห้ามพวกเขาได้ พวกเขาเตรียมทุกอย่างพร้อมภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ความหุนหันพลันแล่นทำลายความใจเย็นและเหตุผลทุกอย่างจนขาดสะบั้น พวกเขาไม่ทันให้รู้สึกตัวว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นบุ่มบ่ามแค่ไหน
“ทุกคน ใจเย็นๆ สิ่งที่พวกคุณทำด้วยความเร่งรีบไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้น” ซิงเหอกล่าวเตือนสติพวกเขาอย่างนุ่มนวล
แซมพูดด้วยน้ำเสียงเสียดแทง “พวกเราใจเย็นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว! ไม่ต้องห่วง พวกเราจะไม่หลับหูหลับตาฆ่าใครมั่วๆ และพวกเรารับรองได้ว่าจะไม่ทำให้แผนของคุณยุ่งเหยิง”
“ซิงเหอ นี่เป็นเรื่องของพวกเรา เป็นความรับผิดชอบของพวกเรา ดังนั้นปล่อยให้เราทำเถอะ” อาลิให้คำแนะนำ “ฉันรู้ว่าเรากำลังทำตัวบุ่มบ่ามไปหน่อย แต่นี่คือวิธีที่พวกเราทำงาน เราไม่อาจปล่อยให้เรื่องโหดร้ายแบบนี้เกิดขึ้นต่อไปได้อีก พวกเรายอมรับเรื่องแบบนี้อยู่เงียบๆ ไม่ได้ ดังนั้นต่อให้เรื่องนี้ต้องแลกด้วยชีวิต พวกเราก็ไม่เสียใจ พวกเราทั้งสี่คนก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นเหตุผลที่ทำไมกลุ่มแซมวูลฟ์ถึงรอดอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ฉันขอบคุณเธอมากนะที่เป็นห่วงพวกเรา แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามเปลี่ยนใจพวกเรา”
“ใช่ นี่เป็นเรื่องของพวกเรา!” วูลฟ์กล่าวสรุป
ทันใดนั้นซิงเหอเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ “คุณหมายความว่ายังไงที่ว่านี่เป็นเรื่องของพวกคุณ”
กลุ่มของอาลิอึ้งนิ่งเพราะพวกเขาไม่คิดว่าซิงเหอจะโกรธถึงขนาดนี้ ซิงเหอลุกขึ้นยืนและจ้องมองพวกเขาอย่างรุนแรง “นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ มันเป็นเรื่องของฉัน นี่เป็นเพราะฉันที่ทำให้พวกเรามาอยู่ที่นี่ นี่เป็นการแก้แค้นของฉัน เป็นการตามหาแม่ของฉัน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับฉันทั้งสิ้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องของฉันอย่างแน่นอน แล้วฉันจะปล่อยให้พวกคุณแบกรับความเสี่ยงที่ไม่มีความจำเป็นนี้เพื่อฉันได้ยังไง ฉันไม่ได้บอกว่าเราจะปล่อยพวกมันไว้แบบนั้น นั่งลงแล้วฟังสิ่งที่ฉันกำลังจะพูด แล้วพวกคุณค่อยตัดสินใจว่าจะยังอยากจะรีบทำตัวสะเพร่าอยู่อีกไหม”
กลุ่มของอาลิเผยรอยยิ้ม “เธอมีแผนแล้วงั้นเหรอ”