ตามใจรัก สาวนักแฮก - ตอนที่ 802 ดอกไม้เพลิงในอวกาศ / ตอนที่ 803 จุดจบของโลก
ตอนที่ 802 ดอกไม้เพลิงในอวกาศ
“ดังนั้นพวกคุณควรเตรียมตัวให้ดีเพราะผมกำลังจะเปิดเผยสิ่งที่ผมได้ทำกับโลกนี้ตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา”
บนหน้าจอ เฮ่อหลานหยวนปรบมือของเขาด้วยท่าทีสง่างาม หน้าจอขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านหลังของเขาฉายภาพดาวเทียมมากมายในอวกาศ ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือดาวเทียมจำนวนสิบดวงที่เรียกตัวกันเป็นเส้นตรง
“พวกคุณเห็นนั่นไหมครับ ดาวเทียมพวกนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งประดิษฐ์ของผมเอง ผมกำลังใช้ดาวเทียมเหล่านี้ในการสนทนากับพวกคุณทุกคน แต่ในอีกสิบนาที ดาวเทียมพวกนี้ทั้งหมดจะระเบิด ถือเสียว่าเป็นของขวัญชิ้นแรกของผมที่ให้กับพวกคุณทุกคนแล้วกันนะครับ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ผมทำ ผลงานสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือการกระจายดาวเทียมประมาณห้าร้อยดวงไปทั่วชั้นโอโซนของโลก ใช่ครับ คุณไม่ได้ฟังผิด มันมีอยู่ประมาณห้าร้อยดวง
“ดาวเทียมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สามารถส่งสัญญาณได้เท่านั้น พวกมันยังบรรจุพลังระเบิดมหาศาลเอาไว้ด้วย ดาวเทียมแต่ละดวงสามารถปล่อยพลังงานเทียบเท่าระเบิดปรมาณูหนึ่งลูก พวกคุณตกใจที่ได้ยินไหมล่ะครับ พวกคุณกำลังคิดว่า ‘ผู้ชายคนนี้กำลังวางแผนทำลายโลกนี้อยู่งั้นเหรอ’ ใช่ไหมครับ”
เฮ่อหลานหยวนยิ้มและพูดต่ออย่างง่ายดายราวกับเขากำลังพูดเรื่องลมฟ้าอากาศทั่วไป “ถ้าพวกคุณคิดแบบนั้น ยินดีด้วยครับเพราะพวกคุณคิดถูก เมื่อไหร่ก็ตามที่ดาวเทียมพวกนี้ลอยตัวลงต่ำมายังพื้นโลกและระเบิด โลกนี้ก็น่าจะถึงจุดจบ แต่กระนั้นไม่ต้องกลัวนะครับเพราะถ้าพวกคุณยินดีที่จะให้คำมั่นว่าจะภักดีกับผมและรับใช้ผมแล้วละก็ โลกนี้ก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิม”
“เข้าใจด้วยว่าผมเป็นคนมีเมตตานะครับ ผมจะให้เวลาพวกคุณทุกคนหนึ่งเดือนเพื่อคิดเรื่องนี้ หลังจากหนึ่งเดือนผมจะกลับมาฟังการตัดสินใจของพวกคุณ จำไว้ด้วยว่าพวกคุณทุกคนมีเวลาเพียงหนึ่งเดือนในการตัดสินใจ การต่อต้านนั่นถือว่าไร้ประโยชน์เพราะผมจะเตือนพวกคุณว่าผมสามารถเห็นทุกอย่างได้จากอวกาศ เอาละครับ วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อน ต่อไปให้เชิญทุกคนดื่มด่ำไปกับดอกไม้เพลิงในอวกาศที่ผมได้เตรียมไว้ให้พวกคุณทุกคนนะครับ”
หน้าจอเปลี่ยนไปโฟกัสที่ดาวเทียมสิบดวงที่เรียกตัวกันเป็นเส้นตรง หนึ่งในนั้นเริ่มพุ่งตรงมายังโลกอย่างฉับพลัน!
มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมากราวกับดาวหางที่ลอยผ่านอวกาศ ทุกคนมองดูดาวเทียมดวงนั้นด้วยความหวาดกลัวและตกตะลึงเมื่อมันระเบิดขึ้นในอวกาศ—
ประกายจากการระเบิดนั้นสว่างจ้าและรุนแรง เศษชิ้นส่วนของดาวเทียมร่วงลงมาราวกับดาวตกที่ลากเปลวเพลิงของมันข้ามขอบฟ้า เป็นความงดงามที่น่าหวาดกลัว
โชคดีที่เปลวเพลิงเล่าหนั้นมอดดับลงก่อนที่จะทะลุผ่านชั้นโอโซนของโลก แต่ในเวลานั้น ทุกคนบนโลกที่เฝ้าดูทุกอย่างต่างรู้สึกตกใจจนแทบลืมหายใจ พวกเขาทึกทักเอาเองว่าการระเบิดของดาวเทียมนี้เทียบเท่ากับระเบิดปรมาณู โชคยังดีที่มันไม่เกิดเรื่อง…
แต่กระนั้นความเครียดของทั้งโลกเกิดขึ้นอีกครั้งในวินาทีต่อมาเพราะดาวเทียมดวงที่สองเริ่มร่วงลงมา แตกต่างจากดวงแรก เพราะดาวเทียมดวงนี้ระเบิดเร็วกว่าและการระเบิดนั้นรุนแรงกว่าดวงแรก
โชคยังดีที่มันอยู่ห่างจากโลก ทำให้ความเสียหายไม่มากนัก แต่กระนั้นการระเบิดทั้งสองครั้งได้บอกสิ่งหนี่งกับทุกคนว่าเฮ่อหลานหยวนนั่นสามารถควบคุมเวลาการระเบิดได้ และความรุนแรงในการระเบิดของดาวเทียมแต่ละดวงนั้นแตกต่างกัน
ไม่นับว่าเป็นเรื่องเกินจริงหากจะเชื่อว่าหนึ่งในดาวเทียมเหล่านั้นจะสามารถสร้างพลังทำลายล้างแข่งกับระเบิดปรมาณูได้ เพราะการระเบิดของดาวเทียมดวงถัดไปได้ยืนยันเรื่องนี้
ตอนที่ 803 จุดจบของโลก
การระเบิดของดาวเทียมดวงถัดมานั้นมีความรุนแรงแตกต่างกันทั้งหมด แต่ทั้งหมดต่างแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงและความน่ากลัวของเฮ่อหลานหยวน!
ทุกครั้งที่ดาวเทียมระเบิด หัวใจของคนที่แทบจะหยุดเต้น อย่างไรก็ตามยังมีความคิดที่ช่วยให้ทุกคนสบายใจขึ้นอยู่ หลายคนเชื่อว่าบรรดาดาวเทียมไม่มีทางเข้าใกล้โลกได้โดยไม่รอยขีดข่วน เพราะโลกถูกปกป้องด้วยชั้นโอโซน ดาวเทียมจะเกิดการเสียดสีในอวกาศและเมื่อมันเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นจะเป็นสาเหตุทำให้ดาวเทียมนั้นเกิดการระเบิด เมื่อมันมาถึงท้องฟ้าของโลก เปลวเพลิงก็จะมอดดับลง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ดาวเทียมจะระเบิดหลังจากที่มันเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก!
แต่กระนั้นเมื่อดาวเทียมดวงสุดท้ายพุ่งตรงมายังโลกและไม่เกิดการเผาไหม้ในระหว่างที่มันทะลุผ่านชั้นโอโซนตามที่หลายคนสรุป โลกทั้งโลกก็ตกอยู่ในความเงียบ!
ไม่มีใครกล้าคิดอีกแล้วว่าเฮ่อหลานหยวนล้อเล่น เขาสามารถทำให้ดาวเทียมระเบิดหลังจากที่มันเข้ามาสู่ชั้นบรรยากาศของโลกได้จริงๆ วัสดุที่เขาใช้ในการสร้างดาวเทียมสามารถทนต่อความร้อนที่เกิดจากการกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกขณะที่ดาวเทียมร่วงทะลุผ่านชั้นโอโซนได้!
ขณะที่ดอกไม้เพลิงจากอวกาศกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งโลกได้ตกอยู่ในความวุ่นวาย ไม่สิ ความโกลาหล!
ผู้คนกรีดร้องอย่างโจ่งแจ้งด้วยความหวาดกลัวจุดจบของโลก บ้างก็ส่งเสียงเชียร์เพราะนี่เป็นโอกาสให้พวกเขาได้ปลดปล่อยด้านมืดที่อยู่ภายในตัวออกมา ไม่มีอะไรฉุดรั้งพวกเขาไว้ได้อีกต่อไป
หลายคนหยิบอาวุธขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับเฮ่อหลานหยวนจนถึงที่สุดเพื่อประเทศและบ้านเกิดของตัวเอง!
บางคนถึงขนาดฆ่าตัวตายแทนที่จะรอให้จุดจบของโลกมาถึง…
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ถูกขับเคลื่อนไปด้วยความปรารถนาของตัวเอง ความปรารถนาที่ถูกเก็บกลั้นไว้ด้วยเหตุผลที่เรียกว่าชีวิต คนที่ยังคงสงบนิ่งอยู่ได้นั่นมีอยู่เพียงน้อยนิดและกลุ่มของซิงเหอเป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อพวกเธออึ้งเมื่อได้มองเห็นดอกไม้เพลิงจากอวกาศที่เฮ่อหลานหยวนเตรียมการไว้ พวกเธอไม่รู้ว่าภัยคุกความจะใหญ่หลวงถึงเพียงนี้ การกระทำของเฮ่อหลานหยวนและภัยคุกคามนั้นใหญ่เกินกว่าที่พวกเธอคาดการณ์ไว้มาก คนที่บ้าคลั่งขนาดนี้มีอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไรกัน
“ซิงเหอ ตอนนี้เราจะทำอะไรต่อ” กลุ่มแซมวูลฟ์ผู้ไม่เกรงกลัวก็เริ่มที่จะมีความหวาดกลัวแฝงอยู่ในน้ำเสียงของพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาหันไปหาความช่วยเหลือจากซิงเหอโดยอัตโนมัติ ซิงเหอเองก็พูดไม่ออกและเธอหันไปทางมู่ไป๋เพื่อขอแนวทาง มู่ไป๋เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ “ไปที่บ้านประธานาธิบดีกันก่อนเถอะแล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฮ่อหลานหยวน”
“คุณพูดถูก ไปกันเลย!” ในที่สุดซิงเหอก็ได้สติกลับคืนจากความตกใจ ในเวลานี้พวกเธอต้องหาข้อมูลทุกอย่างเท่าที่จะหาได้เกี่ยวกับเฮ่อหลานหยวน บางทีพวกเขาอาจจะเข้าใจเหตุผลที่เขาเกลียดชังมนุษย์จากประวัติของเขาก็ได้
เป็นความบังเอิญที่ชุยเชี่ยนเองก็ต้องการพบพวกเขาเช่นกัน เฮ่อปินเองก็เดินทางออกจากคฤหาสน์ตระกูลเฮ่อหลานตั้งแต่สัญญาณแรกและรีบตรงไปยังบ้านประธานาธิบดี เขาไม่ได้โง่ เขาเตรียมตัวที่จะหนีนับตั้งแต่พบว่าสถานีข่าวต่างๆ ถูกควบคุม หากเขาช้ากว่านี้อีกวินาทีเดียว เขาคงไม่อาจออกจากคฤหาสน์ได้เพราะหลังจากที่เขาออกมาได้ไม่นาน ผู้คนจำนวนมากแห่กันไปที่คฤหาสน์ตระกูลเฮ่อหลานเพื่อเรียกร้องคำอธิบาย
เห็นได้ชัดว่าเฮ่อหลานหยวนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อหลาน ดังนั้นสิ่งแรกที่กลุ่มคนโกรธแค้นต้องการให้เกิดขึ้นคือการรุมล้อมคฤหาสน์ตระกูลเฮ่อหลานเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่กระนั้นเมื่อกลุ่มพรวดพราดมาถึงยังคฤหาสน์ตระกูลเฮ่อหลาน สิ่งเดียวที่พบคือเฮ่อหลานชางที่นอนช่วยตัวเองไม่ได้อยู่บนเตียงของเขา
ไม่มีใครคิดว่าเฮ่อหลานฉีจะเดินทางไปยังบ้านของประธานาธิบดีแล้ว…