ตามใจรัก สาวนักแฮก - ตอนที่ 812 วิธีสื่อสารแบบพิเศษ / ตอนที่ 813 หุ่นยนต์จำลอง
ตอนที่ 812 วิธีสื่อสารแบบพิเศษ
วิธีนี้ถูกปฏิเสธเช่นกัน มู่ไป๋พูดด้วยเสียงนุ่ม “เฮ่อหลานหยวนเป็นพวกระวังตัวเกินกว่าที่จะหลงกลอะไรแบบนี้ เขาจะไม่มีทางกลับมาที่โลกถ้าไม่มั่นใจเต็มร้อย ถ้าเขามั่นใจ คนของเขาจะต้องทำการค้นคว้าเกี่ยวกับเซลล์ทรงจำจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ด้วยเซลล์ทรงจำนั่นเขาจะสามารถชุบชีวิตตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง”
“นี่มันบ้าชัดๆ! แล้วเราจะฆ่ามันได้ยังไง” แซมพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
อีเฉินยิ้มมุมปาก “จากที่ผมเห็น วิธีที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในการต่อกรกับเขาคือการเข้าควบคุมดาวเทียมพวกนั้น ถ้าไม่มีพวกมัน พวกเราก็จะมีเวลามากขึ้นในการคิดหาทางจัดการเขา”
ซิงเหอพยักหน้า “นั่นเป็นความคิดที่ดีที่สุด แต่การเข้าควบคุมดาวเทียมพวกนั้นน่ะพูดมันก็ฟังดูง่าย ทำจริงยาก”
“ซิงเหอ แล้วเธอล่ะ มีไอเดียอะไรบ้างไหม” อาลิถาม
ซิงเหอส่ายหน้า “ไม่มี พวกเราคิดหลายวิธีแล้วแต่มันเสี่ยงเกินไป วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการปลดล๊อคซูเปอร์คอมพิวเตอร์พวกนี้เพื่อดูว่าเราจะสามารถรวบรวมข้อมูลมาจัดการกับเฮ่อหลานหยวนได้บ้าง”
“แล้วถ้ามันไม่มีอะไรในซูเปอร์คอมพิวเตอร์นั่นที่จะใช้ช่วยพวกเราจัดการกับมันล่ะ”
ซิงเหอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง “งั้นเราก็ควรเตรียมใจถูกเขาทำลาย”
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ
ก่อนหน้านี้กลุ่มแซมวูลฟ์คิดว่าโลกไม่ยุติธรรมกับพวกเขา อันที่จริงบางครั้งพวกเขาคิดอยากให้โลกนี้ถึงจุดจบเช่นกัน แต่กระนั้น ณ เวลานี้ พวกเขารู้สึกว่าโลกนั้นช่างเป็นสถานที่ที่สวยงาม อย่างน้อยก็มีความสุขมากมายเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ สรุปได้ว่าต่อให้มีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราวแต่โลกย่อมดีกว่าด้วยการใช้ชีวิตอยู่กับความพอใจและความสุขที่เรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ขอให้โลกนี้ถึงจุดจบอีก พวกเขาไม่หวังอยากได้ผู้นำที่เป็นทรราชเช่นเฮ่อหลานหยวน
จากวิธีที่เฮ่อหลานหยวนใช้คุกคามโลก พวกเขารู้ได้ว่าเฮ่อหลานหยวนไม่ใช่ผู้นำที่มีความยุติธรรมหรือมีมนุษยธรรม เขาจะไม่มีเมตตาหรือความยุติธรรมมใดๆ ต่อมวลมนุษย์ โลกที่อยู่ในกำมือของเขาจะกลายเป็นนรก ใบหน้าของพวกเขาซีดลงเมื่อคิดถึงอนาคตที่ดำมืด
ซิงเหอวางจานของเธอลงเพื่อปลอบโยนอีกฝ่าย “แต่ไม่จำเป็นต้องหมดกำลังใจขนาดนั้นหรอก เราจะต้องไม่ยอมแพ้จนกว่าจะถึงนาทีสุดท้าย”
“แต่มันยังมีวิธีอื่นอีกงั้นเหรอ มันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้ามีใครสักคนในอวกาศที่สามารถช่วยเราฆ่าเฮ่อหลานหยวนนั่นได้!” อาลิถอนหายใจอย่างฉุนเฉียว
แซมปรบมือขึ้นอย่างกะทันหันก่อนชี้ไปทางซิงเหอและอีเฉิน “พ่อแม่ของพวกคุณอาจจะอยู่ในอวกาศ ใช่ไหม พวกคุณไม่ติดต่อพวกเขาให้ฆ่าเฮ่อหลานหยวนเสียล่ะ”
อีเฉินหัวเราะ “คุณคิดว่าถ้าผมติดต่อพวกเขาได้ผมจะรอจนถึงตอนนี้ไหมล่ะ”
“ซิงเหอ คุณต้องมีสักทางที่จะติดต่อแม่ของคุณใช่ไหม พวกคุณสองคนรู้วิธีใช้คอมพิวเตอร์นี่ งั้นบางทีเธออาจจะทิ้งช่องทางสื่อสารพิเศษเอาไว้ให้ก็ได้นี่”
อยู่ๆ แคร์นก็พูดขึ้น “บางเธอเธออาจจะทิ้งวิธีพิเศษเฉพาะไว้ให้คุณใช้ติดต่อเธอก็ได้”
“ใช่ๆ ซิงเหอ ทำไมเธอไม่ลองคิดดูล่ะ บางทีอาจจะมีอะไรอยู่ก็ได้นะ” อาลิเริ่มรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
บางอย่างทำให้ซิงเหอฉุกคิดขึ้นมาได้ เธอหัวเราะขึ้นออกมาอย่างกะทันหัน “บางทีคนนอกอาจจะมองเห็นปัญหาข้างในได้ชัดกว่านะ พวกคุณทุกคิดไอเดียที่ยอดเยี่ยมมากๆ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่พวกคุณเตือนให้ฉันคิดถึงบางอย่างที่สำคัญขึ้นมาได้ ขอบคุณนะ ฉันจะรีบติดตามผลเดี๋ยวนี้เลย!”
“ไปกันเถอะ” ซิงเหอที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นดึงมู่ไป๋ออกจากห้องไปโดยมีกลุ่มของแซมรีบไล่ตามไปติดๆ
“ซิงเหอ คุณกับแม่คุณมีวิธีสื่อสารกันแบบพิเศษจริงๆ งั้นเหรอ”
“ซิงเหอ รอเดี๋ยว พวกเราไปเตือนอะไรเธองั้นเหรอ”
ตอนที่ 813 หุ่นยนต์จำลอง
ซิงเหอนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้จริงๆ ตอนที่แม่ของซิงเหอจากไปเมื่อหลายปีก่อน แม่ของเธอได้ทิ้งพิมพ์เขียวสำหรับสร้างหุ่นยนต์จำลองตัวหนึ่งเอาไว้ แม่บอกกับซิงเหอหลายต่อหลายครั้งให้เธอศึกษาทักษะทางคอมพิวเตอร์ต่างๆ ของแม่เพื่อที่วันหนึ่งพวกเธอจะได้พบกันอีกครั้ง
ซิงเหอเคยศึกษาพิมพ์เขียวเหล่านั้นทุกกระเบียดนิ้วแล้วแต่พวกเธอก็ยังไม่เคยได้พบกัน และซิงเหอไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมแม่ของเธอถึงได้ให้พิมพ์เขียวสำหรับสร้างหุ่นยนต์กับเธอ คุณแม่ในความทรงจำของซิงเหอนั้นไม่ใช่คนที่คลั่งไคล้วิทยาศาสตร์หรือแม้แต่หุ่นยนต์ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม บัดนี้ซิงเหอดูเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ของเธอถึงได้ออกแบบของแบบนั้นขึ้นมาและทิ้งมันไว้ให้เธอ ซิงเหอได้แต่อธิษฐานขอให้สัญชาตญาณของตัวเองถูกต้อง
ซิงเหอเปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองและดึงข้อมูลพิมพ์เขียวเหล่านั้นออกมาจากคลาวด์เซอร์เวอร์ของเธอเอง มู่ไป๋คิ้วขมวดด้วยความงุนงงเมื่อเขาเห็นพิมพ์เขียวเหล่านั้น “นี่มันอะไร หุ่นยนต์งั้นเหรอ”
“ใช่ มันเป็นหุ่นยนต์มนุษย์จำลองแบบหนึ่ง ฉันเคยใช้พิมพ์เขียวพวกนี้ในการคิดแบบอวัยวะเทียม” ซิงเหอพยักหน้าเล็กน้อย
“มันดูสมจริงมาก ผมพนันได้เลยว่าถ้าสร้างเสร็จแล้วมันจะต้องดูแทบไม่ต่างอะไรกับมนุษย์จริงๆ” แซมที่กำลังอึ้งพูดพึมพำออกมา
อีเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยอีกฝ่ายอย่างประหลาดเป็นทำนองว่าตัวเองอยู่เหนือกว่า “ผมเคยเห็นพิมพ์เขียวแบบนี้มาก่อนแล้วละ”
“ซิงเหอ คุณปล่อยให้หมอนี่เห็นของสำคัญขนาดนี้ยังไงกัน” แซมบ่นด้วยความหงุดหงิด มู่ไป๋เองก็รู้สึกไม่พอใจอย่างประหลาด เขาเองก็เพิ่งได้เห็นสิ่งนี้เป็นครั้งเช่นกัน แล้วทำไมอีเฉินถึงเคยเห็นมันมาก่อน
ซิงเหอพูดตามความเป็นจริง “เขาก็ไม่เข้าใจมันอยู่นั่นแหละ”
ดังนั้นมันจึงไม่เกี่ยวว่าเธอจะเคยให้อีเฉินศึกษาพิมพ์เขียวนี้มาก่อนหรือไม่ อีเฉินรู้สึกเหมือนโดยต่อยเข้าที่ท้องในขณะที่มู่ไป๋และคนที่เหลืออยู่ต่างรู้สึกดีขึ้นมาก แต่…
มู่ไป๋เอ่ยความสับสนใจอยู่ในใจของเขาออกมา “มันเกี่ยวกับอะไรที่คุณกำลังคิดอยู่งั้นเหรอ”
อาลิพูดขึ้นอย่างฉับพลัน “ฉันรู้แล้ว! ซิงเหอ เธอวางแผนจะออกแบบหุ่นยนต์นี้แล้วใช้มันบินขึ้นไปฆ่าเฮ่อหลานหยวนใช่ไหม”
“หน่อมแน้มไปหน่อยนะ!” วูลฟ์หัวเราะในลำคอใส่หน้าอาลิและกล่าวอย่างมั่นใจ “ซิงเหอกำลังจะสร้างกองทัพหุ่นยนต์เพื่อเปิดสงครามอย่างเป็นทางการกับเฮ่อหลานหยวนต่างหาก!”
ดวงตาของอีเฉินแทบจะเหลือกกลับไปด้านหลังเมื่อต้องมาคุยกับคนที่มีแต่กล้ามเนื้อแต่ไร้สมอง เขาพูดอย่างอดไม่ได้ “พวกคุณคิดว่าแผนมันจะง่ายอย่างงั้นหรือไง ฟังสิ่งที่ซิงเหอจะพูดดีกว่า”
“ซิงเหอ คุณกำลังคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ บอกพวกเราที” แซมรบเร้า
ซิงเหอส่ายหน้า “ฉันยังไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น แต่ฉันมีความคิดบางอย่างแล้ว หลังจากที่ฉันตัดสินใจได้แล้วฉันจะบอกพวกคุณทุกคน”
“ถ้างั้นพูดง่ายๆ คือเธอยังไม่มีแผนอะไรงั้นเหรอ” อยู่ๆ กลุ่มของอาลิก็รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก พวกเขาคาดหวังกับเธอไว้มากทีเดียว
“ถูกต้องเพราะฉะนั้นปล่อยฉันไว้แล้วพวกคุณไปทำธุระของตัวเองเถอะ ปล่อยให้ได้ฉันคิดเรื่องนี้อย่างเงียบสงบหน่อย”
“งั้นก็ได้ พวกเราจะไม่รบกวนเธอแล้ว อย่าหักโหมนักละ” อาลิและทุกคนเดินออกจากห้องจนเหลือเพียงมู่ไป๋คนเดียว
เขาไม่คิดว่าซิงเหอจะไม่รู้เบาะแสอะไร เขากระซิบถามเธออย่างแผ่วเบา “แล้วจริงๆ คุณคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ”
ซิงเหอไม่ปิดบังและเอ่ยด้วยท่าทีโลเล “มันยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่ค่ะ แต่ฉันนึกขึ้นมาได้ว่าทฤษฎีที่ใช้ในการออกแบบของหุ่นยนต์นี้อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบพวกนั้นก็ได้”
มู่ไป๋ชะงัก “เกี่ยวข้องกันงั้นเหรอ ยังไงกัน”
“ฉันแค่รู้สึกแบบนั้น ส่วนจะเกี่ยวข้องยังไงนั้นต้องให้เวลาฉันคิดก่อน” จากนั้นซิงเหอได้เข้าสู่สภาวะจดจ่อ มู่ไป๋จ้องมองวิธีที่หญิงสาวดำดิ่งลงไปในความคิดของตัวเองและแววตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนและสนใจใคร่รู้
เมื่อใดก็ตามที่ซิงเหอจดจ่ออย่างเต็มที่อยู่กับสิ่งที่เธอทำ เธอจะดูน่าดึงดูดเป็นอย่างมากและทุกครั้งมู่ไป๋จะพบว่าตัวเองเผลอจ้องมองเธอโดยไม่รู้ตัว
ในโลกนี้มีเพียงซิงเหอเท่านั้นที่สามารถดึงดูดเขาได้