ตามใจรัก สาวนักแฮก - ตอนที่ 814 ความลำบากของเขา / ตอนที่ 815 ศูนย์กลางการป้องกัน
ตอนที่ 814 ความลำบากของเขา
แม้ว่าสถานการณ์จะอันตรายและน่ากังวล แต่ความสนใจที่เขามีต่อเธอนั้นไม่ได้ลดลงเลย มันกลับยิ่งรุนแรงและฝังรากลึกยิ่งกว่าเดิม ถ้าเป็นไปได้เขาปรารถนาที่จะใช้เวลาจ้องมองเธอแบบนี้ไปทั้งชีวิต
ส่วนซิงเหอนั้นไม่รู้ตัวเลยว่ามู่ไป๋กำลังจ้องมองมาที่เธออย่างไม่ละสายตา เธอไม่รู้เรื่องนี้เลยตลอดช่วงเวลาที่เธอจดจ่ออยู่กับการแก้ปัญหาตรงหน้า มู่ไป๋ได้แต่จ้องมองเธออยู่อย่างเงียบเชียบ
หลังจากเวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรู้ ซิงเหอที่ตกอยู่ในภวังค์ลึกอยู่ๆ ก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “ฉันเข้าใจแล้ว!”
เธอหันไปมองมู่ไป๋และจับแขนของเขาอย่างตื่นเต้น “ฉันค้นพบความเชื่อมโยงของมันแล้ว! มู่ไป๋ ฉันเข้าใจแล้ว!”
ดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มส่องประกาย ริมฝีปากของเขาโค้งกลายเป็นรอยยิ้มบางและพูดกับหญิงสาวตรงหน้า “จริงเหรอ ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องทำได้”
“ใช่ ฉันพบความสัมพันธ์นั่นแล้ว คุณรู้ไหมว่ามันคืออะไร ฉันมั่นใจว่าคุณต้องประหลาดใจแน่ๆ ขนาดตัวฉันเองยังนึกไม่ถึงเลยว่ามันจะมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ มัน…”
ซิงเหอตาโตด้วยความตกใจเพราะใบหน้าของชายหนุ่มนั้นอยู่ๆ ก็มาอยู่ประชิดใบหน้าของเธอ เธอไม่คาดคิดว่าจะถูกจูบอย่างกะทันหันเช่นนี้ ขณะเดียวกันมู่ไป๋เองก็ไม่คิดว่าตัวเขาเองจะทำแบบนั้นเช่นกัน แต่ในเวลานั้นเขาไม่อาจควบคุมความเร่าร้อนที่อยู่ภายในตัวเองได้อีกต่อไป เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และถูกครอบงำด้วยความปรารถนา เขาโน้มตัวเข้าไปจุมพิตซิงเหอ
มู่ไป๋จูบหญิงสาวอย่างดูดดื่มด้วยความรักและความหลงใหลที่ถูกเก็บไว้ภายใน การได้สูดดมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอทำให้ความหื่นกระหายที่อยู่ภายในใจของเขาเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าครั้งไหนๆ แต่กระนั้นเขาเข้าใจดีว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะเขาต้องพ่ายให้กับกิเลสตัณหา
หลังจากจูบอีกฝ่ายอย่างดูดดื่ม มู่ไป๋ก็ละออกจากริมฝีปากของหญิงสาวอย่างไม่เต็มใจ การจูบอย่างฉับพลันทำให้ซิงเหอรู้สึกราวกับโลกหมุนติ้ว พวกเขาโน้มตัวเข้าหากันโดยที่หน้าผากของทั้งคู่สัมผัสกันอยู่ ทั้งสองคนมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายและไม่มีใครปรารถนาที่จะทำลายช่วงเวลานี้
มู่ไป๋ใช้นิ้วมือของเขาลูบไล้ไปตามแนวคางของหญิงสาวและกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “หลังจากที่เรื่องทุกอย่างนี้จบลง คุณจะแต่งงานกับผมไหม”
ซิงเหอพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ค่ะ”
เธอไม่มีปัญหาใดกับการแต่งงานใหม่อีกแล้ว มู่ไป๋ตอบกลับด้วยรอยยิ้มและเริ่มจูบหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้ซิงเหอเป็นฝ่ายจูบชายหนุ่มกลับ ทำให้มู่ไป๋รวบแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวและดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ยุติการจูบ ซิงเหอได้แต่กะพริบตาถี่ด้วยความสับสนขณะที่เธอกำลังหายใจหอบอยู่ที่แผ่นอกกว้างของอีกฝ่าย
เสียงที่ฟังดูหมดหนทางของชายหนุ่มดังออกมาจากเหนือหัวของเธอ “หยุดไว้เท่านี้ก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นผมกลัวว่าผมจะไม่สามารถทนต่อไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว”
แต่กระนั้น ลมหายใจหนักหน่วงของเขาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและอ้อมกอดแกร่งของชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนแรงลงเลย ไม่ต้องบอกซิงเหอก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่ชายหนุ่มต้องพยายามอดทนเก็บต้องการเอาไว้ ซิงเหออดหัวเราะไม่ได้ เธอจึงถามคำถามที่เบี่ยงเบนความสนใจของเขา “คุณไม่อยากรู้คำตอบของคำถามที่ฉันเพิ่งถามคุณไปก่อนหน้านี้งั้นเหรอ”
“มันคืออะไรล่ะ” มู่ไป๋เอ่ยถาม
ซิงเหอขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาและพูดอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าไม่ผิดพลาด ระบบป้องกันในเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์พวกนั้นเป็นฝีมือการออกแบบของคุณแม่ของฉัน”
ได้ผลและมันทำให้มู่ไป๋ถึงกับอึ้ง “คุณได้ข้อสรุปนี้มาได้ยังไง”
“เพราะทฤษฎีที่ใช้ในการออกแบบมันเหมือนกับที่อยู่พิมพ์เขียวของคุณแม่” ซิงเหออธิบายบทวิเคราะห์ของเธออย่างต่อเนื่อง “ดูจากระบบการป้องกันพวกนั้นสิ มันถูกผูกรวมไว้ด้วยกันใช่ไหม”
มู่ไป๋พยักหน้า “ใช้ มันดูเป็นแบบนั้น”
มันเป็นเพราะระบบของซูเปอร์คอมพิวเตอร์พวกนั้นถูกเชื่อมโยงกันจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้จนความผิดพลาดเพียงจุดเดียวสามารถทำให้ระบบทั้งหมดเสียหายได้และกลายเป็นปัญหาที่ยากเกินกว่าที่จะแก้ไขได้ แต่มันมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับทฤษฎีที่ใช้ในการออกแบบหุ่นยนต์มนุษย์จำลองนี่ล่ะ
ตอนที่ 815 ศูนย์กลางการป้องกัน
มู่ไป๋ถูกขบวนความคิดของซิงเหอนำพาไปและดูเหมือนว่าจะได้เข้าใจกับอะไรบางอย่าง สิ่งที่ซิงเหอกำลังจะพูดต่อไปได้พิสูจน์ข้อสงสัยของเขา
เธออธิบายว่า “หุ่นยนต์ก็เหมือนกัน ชิ้นส่วนทั้งหมดถูกเชื่อมต่อกัน มันเลียนแบบร่างกายของมนุษย์ หากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายได้รับบาดเจ็บ ร่างกายทั้งหมดก็จะรู้สึกเจ็บไปด้วย ดังนั้นหากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ทั้งร่างกายก็จะได้รับผลกระทบในทางไม่ดีหรืออาจจะถึงตายได้ คุณไม่คิดว่าตามทฤษฎีแล้วมันเหมือนกันหรอกเหรอ”
ดวงตาของมู่ไป๋เคร่งขรึมขึ้น “คุณพูดถูก หลักการในการออกแบบของมันเหมือนกันมาก แต่นี่จะช่วยเราได้ยังไง”
“การหาจุดศูนย์กลาง!” ซิงเหอพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “มันต้องมีจุดศูนย์กลางของระบบประสาท ถ้าเราแฮ็กเข้าไปที่จุดศูนย์กลางการป้องกันได้ ระบบป้องกันส่วนอื่นก็จะเป็นอัมพาตไปด้วย”
“จุดศูนย์กลางของหุ่นยนต์ตัวนี้อยู่ที่ไหน”
“แน่นอนว่าต้องเป็นหัวใจ” ซิงเหอชี้ไปที่หัวใจบนพิมพ์เขียว “ถ้าคุณทำลายหัวใจได้ ตามเทคนิคแล้วหุ่นยนต์นี่ก็จะตาย เช่นเดียวกัน ถ้าคุณทำให้หัวใจเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบที่เหลือทั้งหมดก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน นั่นเป็นเพราะหัวใจเป็นส่วนที่ทำให้หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนไหวได้ตั้งแต่แรก ดังนั้นเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์พวกนั้นก็ต้องเป็นแบบเดียวกัน ถ้าพวกเราสามารถทำลายศูนย์กลางการป้องกันของมันได้ ระบบป้องกันทั้งหมดก็จะถูกทำลายตามไปด้วย”
ดวงตาของมู่ไป๋ส่องประกายขึ้นเล็กน้อย “ถ้าพวกมันใช้หลักการเดียวกันและถูกออกแบบโดยฝีมือแม่ของคุณแล้วละก็ จุดศูนย์กลางการป้องกันจะต้องเป็นจุดเดียวกันทั้งคู่”
ซิงเหอพยักหน้า “ใช่ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือการหาหัวใจของเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์พวกนั้น”
“แล้วมันจะอยู่ที่ไหนล่ะ”
ซิงเหอมองตรงไปที่เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในห้องควบคุมและฟันเฟืองภายในหัวของเธอเริ่มขับเคลื่อน หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เธอขอกระดาษและปากกาแล้วเริ่มวาดภาพ มู่ไป๋แอบชำเลืองมองภาพวาดของเธอและเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวกำลังทำอยู่ เขาไม่รบกวนอีกฝ่ายทั้งที่เขาจะรู้สึกอึ้งกับความคิดอันเหนือชั้นของซิงเหอ
ซิงเหอวาดระบบป้องกันของเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์โดยใช้หุ่นยนต์มนุษย์จำลองเป็นแบบ จากนั้นเธอชี้ไปที่วงกลมขนาดใหญ่ที่สุดบนกระดาษและกล่าวขึ้น “ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด นี่คือศูนย์กลาง”
มู่ไป๋พูดความเป็นกังวลของเขาออกมา “แต่การหาศูนย์กลางนี้ต้องใช้การลองผิดลองถูกและมีความคลาดเคลื่อน โอกาสที่จะผิดพลาดมีสูงมากแล้วมันจะไม่เป็นการเสี่ยงเกินไปอย่างงั้นเหรอ”
“เราไม่จำเป็นต้องทดลองกับทุกเครื่อง ถ้าเราสามารถแฮ็กเข้าไปได้เครื่องหนึ่ง เราจะสามารถใช้ทฤษฎีนี้ในการแทรกผ่านไปยังจุดศูนย์กลางการป้องกันได้”
มู่ไป๋หัวเราะ “ไม่ใช่ว่าคุณแฮ็กไปแล้วเครื่องหนึ่งหรอกเหรอ”
ซิงเหอยิ้มกลับเช่นกัน “ถูกต้องและตอนนี้เราจะต้องพึ่งมัน!”
“ไปกันเถอะ”
“ตกลง” ซิงเหอพร้อมที่จะเคลื่อนไหวในขณะที่อาลิและทุกคนกรูกันเข้ามาภายในห้องพอดี
“ซิงเหอ เกิดเรื่องแล้ว คนจากสหประชาชาติมาที่นี่!” จังหวะที่พวกเขาพูดจบประโยค ชายร่างใหญ่คนหนึ่งได้นำคนในชุดเครื่องแบบของกองทัพกลุ่มหนึ่งเดินตรงมาทางพวกเขา
จากการแต่งตัวของอีกฝ่าย ซิงเหอและมู่ไป๋สามารถระบุตัวตนของคนพวกนั้นได้แทบจะในทันที สหประชาชาติได้สร้างกองกำลังพิเศษขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับเฮ่อหลานหยวน กองกำลังนี้เป็นหน่วยหนึ่งของกองทัพ กองทัพเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในเมื่อสงครามกำลังจะเกิดขึ้น กองกำลังนี้แต่งตัวเหมือนกันและไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศใดๆ พวกเขาตอบสนองต่อสหประชาชาติเพียงเท่านั้น พูดอีกแง่คือกองกำลังนี้เป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ซิงเหอไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะมาที่ฐานแห่งนี้อย่างกะทันหันเช่นนี้ สหประชาชาติได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์จำนวนมากมาจัดการกับระบบที่นี่แต่แทบทั้งหมดกลับไปโดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ