ตามใจรัก สาวนักแฮก - ตอนที่ 844 สู้เพื่อที่นั่งสุดท้าย / ตอนที่ 845 ผจญภัยในอวกาศ (จบช่วงวิกฤตการณ์โลก)
- Home
- ตามใจรัก สาวนักแฮก
- ตอนที่ 844 สู้เพื่อที่นั่งสุดท้าย / ตอนที่ 845 ผจญภัยในอวกาศ (จบช่วงวิกฤตการณ์โลก)
ตอนที่ 844 สู้เพื่อที่นั่งสุดท้าย
จอร์จก้าวออกมาจากฝูงชนและพูดอย่างหนักแน่น เมื่อได้ยินแบบนั้นหลายคนก็เสนอตัวเช่นกัน
“คุณเซี่ย ให้ผมไปกับคุณเถอะ ผมรู้วิธีควบคุมยานอวกาศ ผมไม่กลัวอันตราย ผมจะไปกับคุณ!”
“ผมด้วย ผมเป็นหมอ ผมสามารถไปกับคุณได้”
“ผมก็จะไป! ผมมีทักษะคอมพิวเตอร์ที่ดี ผมสามารถช่วยคุณได้ในเรื่องของคอมพิวเตอร์เมื่อคุณต้องการผม อันที่จริงคุณสามารถอยู่ในยานอวกาศอย่างปลอดภัยโดยการสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์กับผม ผมสามารถเป็นตัวแทนของคุณได้”
“ไม่ ฉันจะไป…”
“ไม่ ฉันต่างหาก…”
ซิงเหอประหลาดใจกับมิตรภาพของพวกเขา ก่อนหน้านี้ยังมีคนตั้งมากมายต้องการให้เธอตายระหว่างช่วงเกมเล็กๆ ของเฮ่อหลานหยวน เธอไม่ได้แสดงมันออกมาทางสีหน้าแต่เธอรู้สึกหนาวเหน็บที่ทั้งโลกทอดทิ้งเธอ ตอนนี้เธอรู้สึกตื้นตันใจเมื่อตระหนักว่ามีคนมากมายที่พร้อมจะไปเสี่ยงชีวิตแทนเธอ ตอนนั้นเองเธอถึงได้รู้ว่าโลกนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด แค่ได้รับความรักและความเชื่อใจจากพวกเขา มันก็ทำให้การเสี่ยงอันตรายครั้งนี้คุ้มค่าสำหรับเธอแล้ว
“ไปกันได้มากที่สุดสามคนเท่านั้น ดังนั้นพวกคุณทุกคนเลิกแย่งกันได้แล้ว มีที่นั่งเหลือแค่ที่เดียว” ซิงเหอพูดเบาๆ ทุกคนตกตะลึง เธอพูดถูก ฐานทัพของตระกูลเฮ่อหลานมียานอวกาศแค่ลำเดียว และมันสามารถบรรทุกคนได้แค่สามคนเท่านั้น
ใครบางคนอดไม่ได้ที่จะถามออกมา “แล้วที่นั่งที่สองล่ะครับ”
ก่อนที่ซิงเหอจะทันได้ตอบ มู่ไป๋ก็พูดขึ้นอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ “ที่นั่งนั้นเป็นของผม”
ไม่มีใครมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจะต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อที่นั่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ ทุกคนเริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง
ซิงเหอประหลาดใจจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นผู้คนโต้เถียงกันเพื่อที่จะไปเสี่ยงอันตราย อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาอยากจะไปกันทุกคน เธอเลยไม่รู้ว่าจะเลือกใครเป็นผู้ร่วมขบวนคนสุดท้ายดี
“เลิกเถียงกันได้แล้ว!” ทันใดนั้นแซมก็ตะโกนออกมา เขากอดอกพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มพอใจในตัวเอง “เถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะว่าที่นั่งสุดท้ายเป็นของฉัน! ที่นั่งทั้งหมดเต็มแล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกคุณกลับไปทำงานต่อได้แล้ว”
“ทำไมมันถึงเป็นของนาย” อาลิบ่นด้วยความไม่พอใจ
“นั่นสิ ทำไมมันถึงเป็นของนาย” แคร์นกับวูล์ฟก็บ่นเช่นกัน พวกเขาเองก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัย
อีเฉินยิ้มแล้วพูด “ที่นั่งสุดท้ายควรเป็นของผม ไม่มีใครในที่นี้เหมาะสมมากไปกว่าผมอีกแล้ว”
เขาต้องไปหาพ่อของเขา และเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์อีกด้วย
แซมยิ้มทะเล้นกลับไป “นายพูดผิดแล้วเพราะว่าฉันต่างหากที่เหมาะสมที่สุด ซิงเหอรู้เรื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้วและเธอก็รู้จักวิธีควบคุมยานอวกาศ เธอไม่ต้องการผู้ชำนาญเฉพาะทาง หมอก็ตัดออกไปได้เลยเพราะถ้ามีอันตรายอะไรเกิดขึ้น มันก็คงหนักเกินกว่าที่หมอจะจัดการได้อยู่ดี แต่ฉันต่างออกไป ฉันเก่งในการใช้อาวุธทุกประเภท ฉันสามารถปกป้องเธอได้ ดังนั้นฉันจึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุด”
“ฉันก็ใช้อาวุธได้หลายประเภทเหมือนกัน ฉันสามารถปกป้องเธอได้” อาลิพูดด้วยความไม่พอใจ “ซิงเหอ ให้ฉันตามเธอไปด้วยเถอะ พวกเราเป็นผู้หญิงทั้งคู่ เราสามารถดูแลกันและกันได้”
“สถานการณ์นี้ต้องการผู้ชาย ดังนั้นฉันควรไป” แคร์นพูด
แซมหัวเราะ “พวกนายมีใครเอาชนะฉันได้ด้วยเหรอ ถ้านายทำไม่ได้ ที่นั่งก็ต้องเป็นของฉัน”
วูล์ฟก้าวออกมาข้างหน้าและพูดยั่วโมโห “ถ้าอย่างนั้นก็มาแข่งกันดูหน่อยไหมล่ะว่าใครเก่งกว่า”
“ได้เลย ฉันรับคำท้า! การแข่งขันนี้เปิดให้ทุกคนเข้าร่วม” แซมพูดอย่างสง่าผ่าเผย หลายคนเข้ามาร่วมต่อสู้กับเขาด้วย แม้แต่จอร์จก็เข้ามาร่วมวง
ซิงเหอแอบเดินออกไปเพื่อจัดกระเป๋าเดินทางกับมู่ไป๋ พวกเขาเตรียมตัวที่จะออกเดินทางวันมะรืนนี้
ตอนที่ 845 ผจญภัยในอวกาศ (จบช่วงวิกฤตการณ์โลก)
ทุกคนรู้สึกว่าการตัดสินใจของเธอกะทันหันเกินไป แต่ซิงเหอไม่มีทางเลือก เป็นอีกครั้งที่เธอต้องแข่งกับเวลา ผู้นำขององค์การสหประชาชาติและฟิลลิปพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้เธอไป แต่มันก็ไม่มีประโยชน์
นี่ไม่ใช่เพราะว่าซิงเหอดื้อรั้น แต่มันไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ พวกเขาไม่สามารถส่งคนไปกับเธอมากขึ้นด้วยซ้ำ พวกเขาต้องยอมให้ซิงเหอไปเสี่ยงอันตรายครั้งนี้
องค์การสหประชาชาติมอบเกียรติคุณสูงสุดให้ซิงเหอสำหรับความเสียสละและความร่วมมือของเธอ พวกเขาสัญญาว่าครั้งแรกที่ได้รับสัญญาณว่าเธอตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อช่วยเธอ พวกเขาจะส่งกองทหารไปที่ดวงจันทร์เพื่อสนับสนุนเธอทีหลัง
โลกจะคอยหนุนหลังเธอเสมอ พวกเขาจะไม่ทิ้งให้เธอจัดการกับเรื่องนี้คนเดียว ซิงเหอรู้สึกขอบคุณและยอมรับความช่วยเหลือของพวกเขา แลกเปลี่ยนกับการขอให้พวกเขาเก็บการเดินทางครั้งนี้ของเธอไว้เป็นความลับ เธอไม่ต้องการที่จะตกเป็นเป้าสายตาของสาธารณชนอีกแล้ว ถึงแม้ว่ามันอาจทำให้เธอได้รับการสรรเสริญและความรักมากกว่านี้ก็ตาม
องค์การสหประชาชาติยอมรับเงื่อนไขของเธอ ข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจของเธอจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ นอกจากบุคคลระดับสูงก็ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับงานต่อไปของพวกเธอ เพื่อภารกิจนี้พวกเขาเตรียมตัวเป็นเวลานานไปจนถึงดึกดื่น
อย่างไรก็ตามยังคงมีคำถามข้อหนึ่งอยู่ในใจของทุกคน ผลึกพลังงานสีดำจะสามารถใช้เป็นพลังงานของยานอวกาศจริงๆ เหรอ
“คงไม่มีปัญหาหรอก ตระกูลเฮ่อหลานใช้พวกมันเป็นเชื้อเพลิง อีกอย่างสือเจี่ยนก็ยืนยันว่ามันเป็นต้นกำเนิดเชื้อเพลิงที่ดีที่สุด” ซิงเหอพูดอย่างมั่นใจ
“พวกเราทุกคนไม่รู้เลยว่ามีแร่ที่พิเศษแบบนี้อยู่บนดวงจันทร์ หากว่าพวกเขาไม่ได้โกหกเรา ถ้าพวกเราค้นคว้าเกี่ยวกับแร่ชนิดนี้ในอนาคต มันจะต้องนำความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่มาสู่โลกเป็นแน่” ชุยเชี่ยนพูดอย่างมีความหวัง
ซิงเหอเห็นด้วยกับเขา แร่ชนิดนี้จะมีประโยชน์ต่อมนุษยชาติอย่างมหาศาล ถ้าพวกเขาลงทุนกับมันอย่างเหมาะสม โลกจะต้องกลายเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ขึ้นและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น
ด้วยเหตุนี้ภารกิจเดินทางไปยังดวงจันทร์ของซิงเหอจึงมีความสำคัญมาก เธอไม่เพียงแค่จะต้องไปช่วยคนพวกนั้น แต่ยังต้องหาเหมืองแร่อีกด้วย แน่นอนว่าเรื่องพวกนั้นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย
ชุยเชี่ยนแนะนำให้ซิงเหอให้ความสำคัญกับตัวเองก่อน และดูแลความปลอดภัยของตัวเอง
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พวกเราจะระวังตัว ใกล้ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องไปแล้ว” ซิงเหอพูดเพื่ออำลา เธอไม่ต้องการยืดช่วงเวลาเศร้าโศกให้นานกว่านี้
“ซิงเหอ เธอต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ” อาลิบอกเธอด้วยน้ำตา
ซิงเหอพยักหน้าแล้วแซมก็ตบลงบนหน้าอกตัวเอง “ไม่ต้องห่วง ฉันจะปกป้องคุณด้วยชีวิต!”
มู่ไป๋เหล่ตามองเขา ทำไมจะต้องมีใครสักคนมาแย่งหน้าที่ของฉันอยู่เรื่อยเลย
“แซม นายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ” แคร์นเตือนเขา
“ฉันจะระวัง รอการกลับมาอย่างกล้าหาญของพวกเราได้เลย เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราต้องไปแล้ว!” แซมพูดอย่างตื่นเต้น เขาเบิกบานที่มีโอกาสไปผจญภัยในอวกาศ อาลิสงสัยว่าเขาเสนอตัวแค่เพราะว่าเขาอยากจะขึ้นไปบนอวกาศ
แต่ก็นะ นี่เป็นการผจญภัยในอวกาศ ใครจะไม่อยากไปล่ะ
อนิจจาความสามารถของพวกเขาไม่ได้ดีเท่าซิงเหอ กระเป๋าสตางค์พวกเขาของพวกเขาไม่ได้หนักเท่ามู่ไป๋ และพละกำลังของพวกเขาไม่ได้มากเท่าแซม…
ด้วยเหตุนี้พวกเขาเลยทำได้แค่มองทั้งสามคนจากไปด้วยความไม่เต็มใจในดวงตา อย่างไรก็ตามการที่พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลานี้ก็ดีพอแล้ว